จานแรกเป็นจานเด็ด เพราะมีคนขอให้ทำซ้ำตลอด
เดือนละหลายครั้ง
จานที่สองแถม เป็นอาหารจานเด็ดที่ต้องไปกินที่บ้านคุณยาย
ด้วยคุณแม่ไม่เคยทำให้พวกเรากินเลย ตั้งแต่จำความได้
เพราะคุณแม่ แพ้สับปะรด ได้กลิ่นเมื่อไหร่ ต้องเรอเอิ้กแล้วเป็นลม
ยิ่งถ้าถูกบังคับให้กิน เป็นต้องไม่สบายเมื่อนั้น
พวกเราลูกๆ จึงอดกินอาหารจานนี้โดยฝีมือแม่มาตลอด
แต่คุณยายเป็นคนทำอาหารอร่อยมาก
เราก็ได้ชิมอาหารจานเด็ดนี้จากคุณยาย
กินแล้วก็อยากกินอีก
น้ำพริกกุ้งเสียบมะอึก
+
สับปะรดต้มกระดูกซี่โครงหมูอ่อน
ส่วนผสม
น้ำพริกกุ้งเสียบมะอึก
กุ้งเสียบ
มะอึก
พริกขี้หนู
มะนาว
หอมแดง
กระเทียมโทน
กะปิ
น้ำตาลมะพร้าว
น้ำปลา
ส่วนผสมสำหรับที่บ้าน จะมีปริมาณเท่าที่เห็นค่ะ
เพราะชอบรสเผ็ด
วิธีทำ
1. ทอดกุ้งเสียบให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
2. มะอึกเลือกลูกสุกเหลือง ใช้มีดขูดขนออกให้หมดล้างน้ำ ผ่ากลาง หั่นเป็นชิ้นบางๆ(ที่หั่นแล้วถ่ายรูปไม่ทันค่ะ) / ปอกเปลือกกระเทียม หอม /เด็ดก้านพริกออก / มะนาวผ่า 3 ซีกคั้นน้ำเตรียมไว้
3. ตำกระเทียม หอมแดงในครกพอแหลกไม่ต้องละเอียดยิบ
ตามด้วยกะปิ พริกขี้หนู รีบใส่น้ำมะนาวลงไปก่อน กันพริกเป็นสีดำ ปรุงรสด้วยน้ำตาลมะพร้าว น้ำปลาเติมทีละน้อย ระวังจะเค็ม
เพราะกะปิจะออกรสเค็มอยู่แล้ว ได้รสตามที่ต้องการแล้ว จึงใส่มะอึกที่หั่นไว้ ไม่ต้องตำใช้สากคลึงๆในครกเอา ใส่กุ้งเสียบทอดเป็นอย่างสุดท้าย คลุกเคล้าให้ทั่วกันในครก ไม่ต้องตำกุ้งเสียบนะคะ
ได้น้ำพริกกุ้งเสียบมะอึกเต็มถ้วยใหญ่
แนมด้วยชะอมไข่ทอด
เมนูที่ 2 ต้มสับปะรดกระดูกซี่โครงอ่อนหมู
ส่วนประกอบ
สับปะรดลูกเล็ก 2 ลูก(ไม่ต้องสุกมาก)
กระดูกซี่โครงอ่อนหมู ครึ่งกก.
กุ้งแห้ง
พริกไทย
ผักชี
กระเทียม
น้ำปลา
น้ำตาล
เกลือ
น้ำเปล่า
วิธีทำ
1. โขลกกระเทียมพริกไทยรากผักชีให้ละเอียด เอาลงผัดในกะทะพร้อมกระดูกอ่อน ผัดจนหอมและกระดูกตึงตัว หมดคราบเลือด
2. ตั้งน้ำจนเดือด ใส่กระดูกหมูที่ผัดไว้ แล้วตุ๋นไปเรื่อยๆ
จนกระดูกอ่อนเปื่อยได้ที่ ใส่กุ้งแห้งที่ล้างน้ำไว้แล้ว ใส่สับปะรดที่หั่นชิ้นหนาๆลงไปตุ๋นต่อ จนสับปะรดสุกดีมีน้ำเปรี้ยวหวานออกมาผสมในน้ำต้มกระดูก
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล เกลือ(ช่วยดึงความหวานและเปรี้ยวในสับปะรดออกมา) ถ้าสับปะรดหวานอยู่แล้วอาจไม่ต้องใส่น้ำตาลก็ได้ สุกได้ที่แล้ว เด็ดผักชีใส่
***เคล็ดลับ ***
ต้มสับปะรดกระดูกซี่โครงอ่อนหมู จะอร่อยมากขึ้นเมื่อทิ้งไว้1คืน เพราะสับปะรดจะอมน้ำซุปและคายความเปรี้ยวหวานออกมา ทำให้น้ำซุปมีรสเปรี้ยวหวานกลมกล่อม
ซดตอนร้อนๆ กินคู่น้ำพริก อร่อยยิ่งนัก
เมนูเดิมที่มีคนขอให้ทำซ้ำ ในอีก2วัน
เพราะยังไม่จุใจ
มีเพิ่มต้มสายบัวปลาทูนึ่งตามคำขออีก
นี่เป็น อาหารจานเด็ด ของแม่ตะลีค่ะ
ทุกคนในบ้านร่วมแรงร่วมใจมานั่งโต๊ะอาหารครบ 2 มื้อ
คือมื้อกลางวันและเย็น
หมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ
แค่นี้ แม่ครัวชุ่ม ก็ยิ้มเบิกบานสำราญใจค่ะ
สวัสดี
และชอบสุดๆเลยที่ใส่มะอึก
น้ำพริกนี้แค่คลุกข้าว ก็อร่อยแล้วค่ะ
ไหนจะมีชะอมชุบไข่อีก กินอร่อยหนัก กินข้าวได้หลายจานเลยทีนี้
แกล้มด้วยต้มสับปะรดซี่โครง ซดคล่องคอ พูดแล้วหิวข้าวค่ะ