เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

เนื้อปูผัดผงกะหรี่ สูตรอร่อยจากแม่สลิ่ม




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจากคุณ แม่สลิ่ม

แวะไปนั่งทานอาหารในร้านอาหารริมทะเลทีไร กลิ่มหอม ๆ ของผงกะหรี่ที่เป็นส่วนผสมในเมนูจานเด็ดอย่าง "เนื้อปูผัดผงกะหรี่" ก็จะลอยเตะจมูกมาแต่ไกล แถมมองไปโต๊ะไหน ก็ล้วนแต่สั่ง "เนื้อปูผัดผงกะหรี่" แทบทั้งนั้น แหม...พูดแล้วก็เปรี้ยวปากอยากทานขึ้นมาซะงั้น

อิอิ..แต่ไม่ต้องไปหาทานไกลถึงริมทะเลหรอกนะจ๊ะ เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมมีสูตรเด็ด "เนื้อปูผัดผงกะหรี่" จากคุณ แม่สลิ่ม ที่จะสอนทำ "เนื้อปูผัดผงกะหรี่" แบบที่ไม่ใส่ไข่ ไม่ใส่นม เพื่อไม่ให้เลี่ยน มาฝากเพื่อน ๆ กันด้วย ถ้าหิวแล้วล่ะก็...รีบจดสูตรให้ไวเลยจ้า...


ส่วนผสมเนื้อปูผัดผงกะหรี่

เนื้อปูผัดผงกะหรี่

เนื้อปู 180 กรัม

กระเทียมกลีบกลาง 7-8 กลีบ

หัวหอมใหญ่ ½ หัว

ต้นหอม 2-3 ต้น

ขึ้นช่าย 2-3 ต้น

พริกชี้ฟ้าสีแดง หรือพริกขี้หนูเม็ดใหญ่สีแดง มากน้อยตามชอบ

ผงกะหรี่ ½-1 ช้อนโต๊ะ

พริกไทยป่น ¼ ช้อนชา

ซีอิ๊วขาว 1 ½ ช้อนโต๊ะ

ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำเปล่า 5-6 ช้อนโต๊ะ

น้ำมันพืช 2-3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. ปอกเปลือกกระเทียม ล้างน้ำ ทุบ แล้วสับหยาบ ๆ

2. หัวหอมใหญ่ ปอกเปลือกออก ล้างน้ำ หั่นตามชอบ


เนื้อปูผัดผงกะหรี่


3. พริกชี้ฟ้าหรือพริกขี้หนูเม็ดใหญ่ ล้างน้ำ เด็ดขั้วทิ้ง หั่นแฉลบ

4. ต้นหอม แยกกาบนอกออกถ้าเหลือง ตัดโคนตัดปลายทิ้ง ล้างน้ำ หั่นท่อนสั้น 1 นิ้ว โคนต้นหอมส่วนสีขาวแยกไปรวมไว้กับหัวหอมใหญ่

5.ขึ้นช่าย ลอกกาบนอกที่เหลืองออก ตัดโคน ล้างน้ำ หั่นท่อนสั้น 1 นิ้ว

6.ผสมเครื่องปรุง ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย น้ำตาลทราย พริกไทยป่น น้ำเปล่า ใส่ถ้วยคนรวมกันไว้

7. ตั้งกระทะบนเตา เปิดไฟไว้ รอให้กระทะอุ่นแล้วใส่น้ำมันพืช พอน้ำมันพืชอุ่นแล้วก็ใส่กระเทียมลงไปเจียวพอหอม ใช้ไฟอ่อน ไม่ต้องแรงค่ะ

เนื้อปูผัดผงกะหรี่


8.เจียวกระเทียมหอมแล้วทีนี้ก็ใส่ผงกะหรี่ลงไปผัดด้วยไฟอ่อน ผัดสักพักเพื่อให้กลิ่นผงกะหรี่ออกมากที่สุด แต่อย่าใช้ไฟแรงนะคะ เพราะเดี๋ยวผงกะหรี่ไหม้

9.เทเนื้อปู หัวหอมใหญ่และต้นหอมส่วนสีขาวลงไป เร่งเป็นไฟกลาง ผัดเพื่อให้ผงกะหรี่ทั่วกัน ใช้จมูกสัมผัสถ้ากลิ่นผงกะหรี่อ่อนไปให้เติมได้ค่ะ

10.เทซอสที่เตรียมไว้ใส่ลงไป เร่งไฟแรง ผัดให้เข้ากันแล้วลองชิม ถ้ารสชาติอ่อนก็ปรุงเพิ่มตามชอบ แต่ถ้าผัดแล้วน้ำซอสแห้งเกินไป ก็ใส่น้ำเปล่าเพิ่มได้ในกระทะได้ค่ะ ทีนี้ก็เทต้นหอม ขึ้นฉ่าย และพริกที่หั่นไว้ ตักขึ้นจากกระทะ ยกเสิร์ฟ ก็เป็นอันเรียบร้อยแล้ว


เนื้อปูผัดผงกะหรี่




Cooking Tips

เนื้อปูที่ใช้เป็นเนื้อส่วนกรรเชียง ราคาอาจจะสูงหน่อยแต่เวลากินจะได้เนื้อปูเต็ม ๆ ต้องเลือกซื้อที่สดใหม่ ไม่มีเมือก

หากเบื่อเนื้อปูแล้ว จะเปลี่ยนเป็นหมึก กุ้ง หรือรวมมิตรทะเลได้ตามชอบค่ะ

เมื่อใส่เนื้อปูลงไปแล้ว เวลาผัดพยายามอย่าใช้ตะหลิวยีให้เนื้อปูแตกมาก เพื่อที่เนื้อปูจะได้เป็นก้อนสวยงาม

ขั้นตอนการใส่ผัก ผัดพอทั่ว ไม่ต้องรอให้ผักเหี่ยวมากคากระทะ จะทำให้อาหารดูไม่น่ากินเวลาตักใส่จานค่ะ





 

Create Date : 30 สิงหาคม 2554   
Last Update : 30 สิงหาคม 2554 22:06:24 น.   
Counter : 2880 Pageviews.  

5 อาหารดับเครียด

หลายคนคงเคยตกอยู่ในภาวะขุ่นมัวในอารมณ์ ทั้งเครียด วิตก ซึมเศร้า เหงา หงุดหงิด หากเกิดง่ายแล้วจางหายเร็วมักไม่เป็นปัญหา แต่ใครที่มักจูนให้กลับสู่โหมดสมดุลได้ช้า ลองเลือกหาอาหาร 5 อย่างนี้มารับประทาน เพราะมีผลวิจัยของผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการในต่างประเทศชี้ว่า ช่วยปรับอารมณ์ให้แจ่มใสขึ้นได้


“กล้วย” มีทริปโตเฟน ซึ่งร่างกายจะเปลี่ยนเป็นเซโรโทนิน ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดีขึ้น นอกจากนี้ วิตามินบี6 ยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดมีผลไปถึงภาวะทางอารมณ์ด้วยเช่นกัน




“วอลนัต” นอกจากเป็นแหล่งที่ดีของโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมทั้งต้านมะเร็งแล้ว ผลวิจัยยังพบว่า มีผลต่ออารมณ์ และอัตราการลดลงของภาวะซึมเศร้า




“เมล็ดทานตะวัน” อุดมไปด้วยโฟเลต และแมกนีเซียม ที่มีบทบาทในการควบคุม และส่งเสริมระดับอารมณ์ คลายความวิตกกังวล หงุดหงิด ซึมเศร้า ทั้งนี้ การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ชี้ว่า แมกนีเซียม เป็นประโยชน์ในการรักษาโรคซึมเศร้า แนวโน้มความวิตกกังวล หงุดหงิด รวมถึงอาการนอนไม่หลับ




“ดาร์คช็อกโกแลต” ช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน นอกจากนี้ ยังมีทริปโตเฟนซึ่งเป็นกรดอะมิโนสำคัญทำหน้าที่ควบคุมเซโรโทนินสารสื่อประสาทที่ควบคุมอารมณ์ เมื่อร่างกายขับเซโรโทนินออกมา จะช่วยให้ผ่อนคลายความวิตกกังวล


“ไข่” พบว่า สารอาหารหลายชนิดมีบทบาทสำคัญในการผลิตพลังงาน ช่วยเสริมสร้างความจำ และบรรเทาอาการของภาวะซึมเศร้าได้ด้วย

จะเห็นว่าอาหารใกล้ตัวทั้ง 5 อย่าง เป็นอีกตัวช่วยปรับอารมณ์แบบง่าย ๆ เหมาะสำหรับใครที่เครียด อารมณ์เสีย แล้วชอบทานเป็นที่สุด


webboard.yenta4




 

Create Date : 29 สิงหาคม 2554   
Last Update : 29 สิงหาคม 2554 23:03:57 น.   
Counter : 1583 Pageviews.  

หมูตั้งสด



หมูตั้งสด




(หมูตั้งสด)

•
เนื้อหมูหั่นสี่เหลี่ยม ขนาด 1 x 1 นิ้ว
300
กรัม
•มันหมูแข็งหั่นสี่เหลี่ยม ขนาด 1 x 1 นิ้ว300กรัม

•ผงพะโล้
1
ช้อนโต๊ะ

•ซิอิ๊วขาว
2
ช้อนโต๊ะ

•น้ำตาลทราย
2
ช้อนโต๊ะ

•พริกไทยป่น
2
ช้อนชา

•เนื้อหมูหั่นสี่เหลี่ยม ขนาด 1 x 1 นิ้ว½
ลูก

•ผักชีเด็ดเป็นใบๆ
1
ต้้น

•ไม้จิ้มออร์เดิร์ฟ, พริกเหลืองหั่นเป็นแว่นๆ





•
นำเนื้อหมู มันหมู ผสมกับผงพะโล้ ซิอิ๊วขาว น้ำตาลทราย พริกไทยป่น หมักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง


•จากนั้นนำเนื้อหมูและมันหมูย่างพอสุก ยกลง วางมันหมู เนื้อหมู สับปะรด ผักชี พริกเหลือง


•เสียบด้วยไม้จิ้มออร์เดิร์ฟ นำไปจัดใส่จาน รับประทานกับผักดอง










(ผักดอง)

•
แตงกวาแกะสลักเป็นรูปต่างๆ เช่น ใบไม้
3
ลูก
•ดอกกะหล่ำตัดเป็นช่อเล็กๆ ลวกพอสุก
1
ดอกเล็ก
•แครอทหั่นตามขวางลวกพอสุก
1
ผล

•กะหล่ำปลีตัดเป็นชิ้นๆ ลวกพอสุก
1
ดอกเล็ก

•น้ำส้มสายชู
2
ถ้วยตวง

•น้ำตาลทราย
2
ถ้วยตวง

•เกลือป่น
1
ช้อนโต๊ะ



•
นำน้ำส้มสายชูผสมน้ำตาลทราย เกลือป่น ตั้งไฟให้น้ำตาลทรายละลาย นำไปกรองแล้วตั้งไฟเคี่ยวพอข้น ยกลง ทิ้งไว้ให้เย็น



•จัดผักใส่อ่างสเตนเลสจนหมด ราดด้วยน้ำส้มสายชูที่เคี่ยวแล้วจนหมด นำเข้าตู้เย็นทิ้งไว้ 1 คืน นำออกมารับประทานกับหมูตั้งสด



Remarks : ผักที่ใช้ดองจะเปลี่ยนเป็นผักอื่นก็ได้ตามความเหมาะสม

w w w . m a e b a n . c o . t h




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2554   
Last Update : 28 สิงหาคม 2554 20:21:48 น.   
Counter : 1361 Pageviews.  

น้ำพริกมะม่วง



เมืองสุพรรณบุรีเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ อาหารคู่ครัวหนีไม่พ้นน้ำพริก

วันนี้พาไปชิมน้ำพริกมะม่วง เปรี้ยวอร่อยสะใจไม่แพ้มะนาว

พูดแล้วน้ำลายสอ ดังนั้นอย่าให้เสียเวลา-จัดไป!

เสถียร ท้วมจันทร์ ข่าวสดสุพรรณบุรี รับหน้าที่ล้วงสูตรเด็ดน้ำพริกพื้นบ้านเมืองขุนแผน

เริ่มจากหามะม่วงเปรี้ยวๆ อย่างมะม่วงสามฤดู มะม่วงมันเดือนเก้า

บางคนชอบมะม่วงโชคอนันต์ก็ไม่ผิดระเบียบ แต่ข้อเสียคือเนื้อแข็ง ต้องปอกเปลือกลึกๆ เนื้อมะม่วงจะอ่อนลง

สรุปแล้ว เลือกมะม่วงอ่อน แต่ก็อย่าให้อ่อนหรือแก่ไป ดูเนื้อที่เขียวสดใส รสชาติจะดี

ปอกเปลือกมะม่วง ล้างน้ำให้สะอาด สับเป็นชิ้นเล็กๆ ตามยาวของผล พักไว้

ปอกเปลือกกระเทียมไทย ใส่ครกโขลกให้แหลก จะใช้ครกหินหรือครกดินเผาก็แล้วแต่ถนัดมือ

ใส่กะปิแท้เล็กน้อย พริกขี้หนูหอมตามชอบ มะม่วงสับตามใจ ชอบเปรี้ยวมากก็ใส่มาก น้ำตาลปี๊บเล็กน้อย น้ำปลาแท้เหยาะลงไป

ใครชอบแมงดาก็ฉีกแมงดาตัวผู้ใส่ลงครก โขลกต่อเบาๆ คลุกเคล้าให้เข้ากัน

ชิมรสชาติต้องกลมกล่อม เปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวาน ทุกอย่างต้องกลมกลืน

ได้ที่แล้วตักใส่ถ้วย โรยด้วยพริกขี้หนูหอมทั้งเม็ด

น้ำพริกมะม่วงกับข้าวสวยร้อนๆ ถ้วยนี้ กินได้ทั้งผักต้มและผักสด หรือมาคู่ไข่เจียว-ไข่ต้ม ก็ไม่ว่า

กินกับอะไรก็เจริญอาหารทั้งนั้น

แม้เป็นเมนูพื้นๆ ทำง่ายกินง่าย แต่ต่อให้กินนานหลายมื้อก็ไม่เบื่อ

ขนาดน้ำพริกก้นครก เอาข้าวสวยร้อนๆ ทัพพีเล็กๆ ลงไปคลุก ยังอร่อยเหาะ

เอาสเต๊กมาแลกก็ไม่ยอม





 

Create Date : 27 สิงหาคม 2554   
Last Update : 27 สิงหาคม 2554 23:19:12 น.   
Counter : 1472 Pageviews.  

10 อันดับขนมหวานที่มีชื่อก้องโลก

10 อันดับขนมหวานที่มีชื่อก้องโลก

มาดูกันซิว่า ! มีขนมหวานอะไรบ้าง ? ที่มีชื่อเสียงจนใครๆหลายคนทั่วโลกรู้จักกันเป็นอย่างดี..
1.ทีรามิสุ ( Tiramisu )

เค้ก ชื่อดังของอิตาลีทำขึ้นจากเล ดี้ฟิงเกอร์ราดเอสเปรสโซ่ สอดไส้ด้วยมาสคาร์โปนชีสและซาบากลิออเน ลือกันว่าทีรามิสุมีจุดกำเนิดมาจากการที่แม่บ้านของทหารในสงครามโลกครั้งที่ สองทำเค้กให้สามีรับประทาน โดยเชื่อว่าส่วนผสมของคาเฟอีนกับน้ำตาลจะช่วยให้พวกเขามีพลังและแคล้วคลาด จากอันตราย ช่างโรแมนติคเสียนี่กะไร เหมาะจะเป็นของหวานรับวันวาเลนไทน์โดยแท้

2.บาคลาวา ( Baklava)

ประวัติ ที่แท้จริงของบาคลาวายากที่จะระบุ ให้แน่ชัด เพราะว่ากันว่ามันมีต้นกำเนิดจาก จักรวรรดิอ็อตโตมัน ดินแดนเมโสโปเตเมียและอาหรับ โดยขนมหวานชนิดนี้ทำขึ้นจากการนำแป้งฟิลโลมาสอดไส้ไว้ด้วยถั่ว น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อม หากต้องการลิ้มลองรสชาติ
แบบต้นตำรับก็ต้องไปรับประทานถึง ถิ่นที่อ้างว่าเป็น จุดกำเนิด ทั้งกรุงอิสตันบูล กรุงเอเธนส์ และกรุงเบรุตแม้แต่ละที่อาจจะมีรสแตกต่างกันไปบ้าง แต่ก็ยังการันตีได้ถึงความเอร็ดอร่อย


3.ไดฟุกุ ( Daifuku )
ขนม เจลลาตินทรงกลมจากแดนอาทิตย์อุทัยมักสอดไส้ไว้ด้วยถั่วแดงหวาน (และบางครั้งก็อาจเป็นแยมสตอเบอร์รี่โรยด้วยแป้งบางๆ โดยสามารถหาซื้อมารับประทานได้ทั้งจากกรุงโตเกียว โอซาก้า เกียวโต นากาโนะ และทุกแห่งในญี่ปุ่น

4.กุหลับ จามาน ( Gulab Jamun)

ก้อน ขนมปังหวานที่คงไม่ถูกปากฝรั่งตาน้ำ ข้าว แต่คอนเฟิร์มว่าอยู่ในรายชื่อขนมอันดับต้นๆ ของชาวอินเดีย และเมื่อมีคนกว่าพันล้านคนชื่นชอบ ก็ยากจะปฏิเสธได้ว่ามันไม่อร่อย ปกติแล้วมักทำขึ้นโดยใช้ครีมสองชั้นและราด้วยน้ำเชื่อมเข้มข้น เป็นที่นิยมในอินเดีย ปากีสถาน เนปาลและประเทศในแถบเอเชียใต้



5.ฮาโล ฮาโล ( Halo Halo)

จาน เด็ดของชาวฟิลิปปินส์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไม่แพ้ไข่บาลุท แต่รับประกันได้ว่าไม่น่าสะอิดสะเอียน ทั้งนี้ ฮาโล ฮาโล ไม่มีสูตรการทำที่แน่นอน แต่ดูๆ ไปก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำแข็งใสของบ้านเรา โดยนำน้ำแข็งบดมาเติมด้วยเครื่องเคียง เช่น ถั่วเขียว ลูกตาล ขนุน มะพร้าวอ่อน ไอศกรีม วุ้นมะพร้าว สับปะรด และอื่นๆ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการราดนมข้นหวานและน้ำเชื่อมโดยสามารถหารับประทานได้ทุก ที่ในกรุงมะนิลา


6.แบล็คฟอเรสท์เค้ก ( BlackForestCake )

ด้วย ความมีชื่อเสียงในเรื่องชนิทเซล เบียร์ และเค้กรสชาติอร่อยมากมาย จึงไม่น่าแปลกใจที่เยอรมนีจะกลายเป็นสถานที่ดื่ม-กินยอดนิยมของเรา โดยเจ้าช็อกโกแลตเค้กที่ทับซ้อนหลายชั้นด้วยครีม เชอร์รี่ และบรั่นดีผลไม้นี้ถือกำเนิดขึ้นในช่วงต้นยุค 1900 ทางตอนใต้ของเยอรมนี(ภายหลังได้รับการปรุงแต่งให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วยฝีมือ ของช่างทำเค้กในกรุง เบอร์ลิน) และทุกวันนี้เป็นทื่ชื่นชอบของคนทั่วโลก ซึ่งแน่นอนว่า นี่ก็เป็นหนึ่งในของโปรดของเราเช่นกัน

7.ข้าวเหนียวมะม่วง

ขนม หวานแบบไทยๆ ที่นำมะม่วงสุกเหลืองอร่ามมาทานคู่กับข้าวเหนียวมูนราดด้วยน้ำกะทิ ฟังแล้วชวนน้ำลายสอเป็นอย่างยิ่งโดยได้รับความนิยมจากทั้งชาวสยามและชาวต่าง ชาติ ทั้งยังสามารถหาลิ้มลองได้ทั้งที่โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ภัตตาคาร และร้านอาหารตามท้องถนนทั่วไป

8.แอปเปิ้ล พาย ( Apple Pie )

เช่น เคย แม้จะฟังดูเป็นอเมริกันจ๋า แต่จริงๆ แล้วมีต้นกำเนิดจากเมืองผู้ดี โดยได้รับการคิดค้นขึ้นเมื่อปี 1381 และปกติจะอบด้วยแป้งสองชั้นในสมัยก่อน ตอนที่ชาวอังกฤษอพยพมาตั้งรกรากในอเมริกา พวกเขาได้นำเมล็ดแอปเปิลมาปลูกด้วย จึงทำให้มันมีความเกี่ยวพันกับวัฒนธรรมของชาวมะกัน แต่ไม่ว่าจะที่โรงแรมในลอนดอนหรือภัตตาคารในแอลเอ แอปเปิลพายก็เป็นที่ถูกอกถูกใจบรรดาลูกค้าเหมือนกัน

9.นาไนโม บาร์ ( Nanaimo Bars)

แคนาดา ขึ้นชื่อเรื่องขนมหวาน ? ได้ยินแล้วไม่ต่างกับการพูดว่ากรุงเทพขึ้นชื่อเรื่องทะเลยังไงยังงั้น แต่กระนั้น ขนมรสเลิศดังกล่าว มีที่มาจากเกาะแวนคูเวอร์ในเมืองนาไนโม รัฐบริติชโคลัมเบีย โดยได้รับการสร้างสรรค์ขึ้นจากฝีมือแม่บ้านท้องถิ่นซึ่งได้ส่งเจ้าขนมทรง จัตุรัสชิ้นนี้ไปประกวดในนิตยสารและคว้ารางวัลชนะเลิศมาได้ ปัจจุบัน เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในแถบอเมริกาเหนือ

10.แครมบรูเล่ ( Creme Brulee)

แม้ ชื่อจะฟังดูแล้วฝรั่งเศสสุดๆ แต่อย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าเป็นเช่นนั้น เนื่องจากวิทยาลัยทรินิตี้ในเคมบริดจ์ได้อ้างว่าพวกเขาคือต้นตำรับผู้คิดค้น ขนมสูตรเด็ดนี้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 1600 อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีจุดกำเนิดจากอังกฤษ แต่เชื่อแน่ว่าคงไม่มีสถานที่ใด
เหมาะแก่การทานคัสตาร์ดเย็นๆ โรยด้วยน้ำตาลไหม้ ได้เท่ากับใต้หอไอเฟลที่ประดับด้วยไฟสว่างไสวในยามค่ำคืนในกรุงปารีส

Source : webboard.yenta4.com / lovestoryclub.com (Image)




 

Create Date : 26 สิงหาคม 2554   
Last Update : 26 สิงหาคม 2554 23:27:00 น.   
Counter : 1485 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]