เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

“Mango Summer Set” ดื่มชื่นใจ ดับกระหายคลายร้อน

       อากาศบ้านเมืองเราก็ช่างร้อนเสียเหลือเกิน เดินออกไปไหนนิดหน่อยก็ร้อนเหงื่อซึมทุกที อากาศแบบนี้ก็ยิ่งทำให้กระหายน้ำมากยิ่งขึ้น แต่พอกินน้ำเปล่าก็ยังไม่รู้สึกชื่นใจเท่าไหร่ คงต้องหาเครื่องดื่มหวานๆ เย็นๆ มาดับกระหายเสียหน่อย “กุ๊กเล็ก” จึงขออาสาแนะนำสูตรเด็ดความอร่อยจากโรงแรมใบหยก สกาย กับเมนูดับร้อนที่ชื่อว่า “Mango Summer Set”

ส่วนผสม
Light Rum 1 ออนซ์
Malibu ½ ออนซ์
น้ำเชื่อม 1 ออนซ์
น้ำมะม่วง 2 ออนซ์
มะม่วงสุก 1 ชิ้น

       วิธีทำเริ่มจากนำเนื้อมะม่วงสุกมาปั่นกับน้ำเชื่อมให้เข้ากัน พักไว้ก่อน จากนั้นใส่น้ำแข็งลงในเชคเกอร์ประมาณ ¾ ของเชคเกอร์ แล้วนำมะม่วงสุกกับน้ำเชื่อมที่ปั่นไว้ใส่ลงไป และใส่ส่วนผสมที่เหลือตามลงไป เขย่าแรงๆ ให้ส่วนผสมเข้ากันจนได้ที่ แล้วรินใส่แก้วค็อกเทล ตกแต่งให้สวยงามตามชอบใจ ก็จะได้ลิ้มรสชาติหวานเย็นให้ชื่นใจคลายร้อน


//www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000042927




 

Create Date : 05 เมษายน 2556   
Last Update : 5 เมษายน 2556 8:49:29 น.   
Counter : 1852 Pageviews.  

รื่นรสคลายร้อน เสน่ห์ข้าวแช่ชาววัง ที่ “ฝั่งน้ำ คอฟฟี่เฮ้าส์”

บรรยากาศภายในห้อง “ฝั่งน้ำ คอฟฟี่เฮ้าส์”
       ก้าวเข้าสู่เดือนเมษายน อากาศบ้านเราก็เข้าสู่หน้าร้อนแบบเต็มรูปแบบ และก็ดูเหมือนว่าความร้อนของอากาศจะทวีความร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเมื่อหน้าร้อนมาถึงแบบนี้ การสรรหาของกินเย็นๆ ช่วยดับร้อนอย่าง “ข้าวแช่” ซึ่งเป็นหนึ่งในเมนูของกินคู่หน้าร้อน ที่นิยมกินกันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังเป็นของกินที่ยังคงได้รับความนิยมกันอยู่

       ถ้าหากว่ามิตรรักนักกินทั้งหลาย อยากจะอร่อยคลายร้อนด้วยข้าวแช่ ก็ขอให้ตาม “ตระเวนกิน” มาได้เลย เพราะเราจะพาไปกินข้าวแช่หอมเย็นอร่อยชื่นใจกันที่ “ฝั่งน้ำ คอฟฟี่เฮ้าส์” โรงแรมรอยัลริเวอร์ เป็นห้องอาหารที่ตกแต่งแบบโมเดิร์น มีบรรยากาศสบายๆ ชวนนั่ง เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

เต็มอิ่มกับข้าวแช่และเครื่องเคียงสารพัดอย่าง
“ฝั่งน้ำ คอฟฟี่เฮ้าส์” ได้จัด “เทศกาลข้าวแช่ชาววัง” ขึ้น ตั้งแต่วันนี้ ถึง 12 พ.ค. นี้ โดยมีซุ้มข้าวแช่ชาววังเป็นหนึ่งในบุฟเฟต์นานาชาติมื้อกลางวัน ราคา 400 บาท++/คน สำหรับข้าวแช่ชาววังของที่นี่เป็นข้าวแช่สูตรต้นตำรับของโรงแรมรอยัลริเวอร์ ซึ่งเป็นสูตรมาจากชาววังขนานแท้ และได้นำเสนอความอร่อยสดชื่นของข้าวแช่มาให้นักกินทั้งหลายได้ลิ้มลองความอร่อยมายาวนานกว่า 25 ปีแล้ว

อร่อยคลายร้อนกับข้าวแช่ตำรับชาววัง
       สำหรับข้าวแช่ชาววังที่ชวนลิ้มรสของที่นี่ ขอบอกว่าจัดมาแบบครบเครื่องเลยทีเดียว เริ่มจากข้าวแช่ที่ต้องคัดเลือกข้าวเก่านำมาหุงให้พอสุก แล้วก็นำข้าวมาขัดให้เป็นเม็ดสวยแล้วหุงต่อให้สุกอีกที จากนั้นจึงนำมาอบกับใบเตย และควันเทียนอบนานข้ามคืนเพื่อให้ได้กลิ่นที่หอมหวล เวลากินก็นำข้าวใส่น้ำที่อบควันเทียนไว้แล้ว และใส่น้ำแข็งป่นลงไป กินแล้วจะสัมผัสได้ถึงความหอมของกลิ่นอบควันเทียนและใบเตยอ่อนๆ ข้าวเป็นเม็ดเคี้ยวนุ่มไม่แข็งมาก ซดน้ำข้าวแช่หอมเย็นชื่นใจ

พริกหยวกสอดไส้และหัวไชโป๊ว
       แล้วก็มีเครื่องเคียงสารพัดอย่างที่บรรจงปรุงแต่งขึ้นมาเพื่อกินคู่กับข้าวแช่ มีพริกหยวกสอดไส้ เป็นพริกหยวกที่สอดไส้ด้วยหมูสับที่ปรุงรสแล้ว นึ่งพอสุกแล้วห่อด้วยหรุ่มฝีมือไทยโบราณหน้าตาสวยงาม รสชาติกลมกล่อมอร่อยดี มีหัวไชโป๊ว ที่เลือกใช้หัวไชโป๊วอย่างดีนำมาล้างให้สะอาด เคี่ยวให้เปื่อยแล้วผัดให้แห้งปรุงรส กินแล้วหัวไชโป๊นุ่มหวานกำลังดี

หัวหอมทอดและลูกกะปิ
       มีหัวหอมทอด ที่ใช้หอมแดงสอดไส้ซึ่งทำจากกะปิอย่างดีและหมูหยอง และชุบแป้งทอดให้เหลืองกรอบ กินแล้วกรอบนอกนุ่มในไส้รสชาติเข้มข้นดี และมีลูกกะปิที่ต้องเลือกกะปิอย่างดีนำมาผสมให้เข้ากันกับข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด ปลาย่าง มะพร้าวคั่ว กระชาย และนำมาบดกวนให้เหนียว ปั้นเป็นลูกเล็กๆ ชุบไข่ทอด ได้ลูกกะปิเนื้อนุ่มรสชาติกลมกล่อม

ปลาไส้ตันทอดและหมูหวานฝอย
       ยังไม่หมดยังมีปลาไส้ตันทอด เป็นปลาไส้ตัวทั้งตัวนำมาทอดกรอบแล้วนำไปคลุกกับน้ำตาลปี๊บ เคี้ยวกรุบกรอบออกรสเค็มๆ หวานๆ มีหมูหวานฝอย ที่สมัยโบราณจะใช้เนื้อ แต่ปัจจุบันนิยมมาใช้หมูแทน เป็นหมูทุบนำมาฉีกทอดให้กรอบแล้วปรุงรส หมูฝอยกรอบกรุบรสชาติดี และก็มีผักสดต่างๆ แกะสลักอย่างให้กินแนมกันด้วย อาทิ มะม่วงเขียวเสวย (ไม่เปรี้ยวมาก) กระชาย ต้นหอม

ซุ้มข้าวแช่ชาววัง
       ในการกินข้าวแช่ก็มีเคล็ดลับอยู่นิดหน่อย คือ ไม่ควรนำเครื่องเคียงใส่ลงไปในข้าวแช่ แต่ควรที่จะตักเครื่องเคียงเคี้ยวอยู่ในปาก แล้วจึงค่อยตักข้าวแช่ส่งเข้าปากตามไป จะสัมผัสได้ถึงความเย็นชื่นใจและหอมน้ำกลิ่นอบควันเทียนที่ปลายจมูก แล้วได้ความกลมกล่อมลงตัวของข้าวแช่เย็นๆ ที่เคี้ยวกร้วมรวมกับเครื่องเคียงแต่ละอย่างออกรสชาติกลมกลืนเข้ากันเป็นอย่างดี

ยังมีอาหารนานาชาติอื่นๆ ให้ได้ลิ้มลองด้วย
       และนอกจากข้าวแช่ชาววังแล้ว ทางห้องอาหารฯ ก็ยังมีอาหารไทยรสดั้งเดิมหลากหลายชนิด อาทิ ขนมจีนซาวน้ำ ขนมจีนน้ำพริก-น้ำยา ข้าวตังหน้าตั้ง ยำต่าง ๆ ซุ้มก๋วยเตี๋ยว อาหารญี่ปุ่น และอาหารนานาชาติ พร้อมของหวานนานาชนิด ให้ได้เลือกกินกันอย่างเต็มที่ เพียงแค่พากันมาที่ “ฝั่งน้ำ คอฟฟี่เฮ้าส์” โรงแรมรอยัลริเวอร์ ก็จะได้อร่อยคลายร้อนกับข้าวแช่หอมเย็นชื่นใจ และสารพัดอาหารที่ชวนกินแบบอิ่มเอม

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“ฝั่งน้ำ คอฟฟี่เฮ้าส์” ตั้งอยู่ที่ ชั้น G โรงแรมรอยัลริเวอร์ 219 ซ. จรัญสนิทวงศ์ 66/1 ถ.จรัญสนิทวงศ์ บางพลัด กทม. การเดินทางถ้ามาจากฝั่งพระนคร ให้ข้ามสะพานกรุงธน (ซั้งฮี้) วิ่งตรงไปกลับรถใต้สะพานข้ามแยกบางพลัด วิ่งตรงมาแล้วชิดซ้ายเลี้ยวเข้าจรัญสนิทวงศ์ 66/1 ตรงมาเข้ามาก็จะเห็นโรงแรมรอยัลริเวอร์อยู่ทางขวามือ เดินมาที่ชั้น G จะเจอฝั่งน้ำ คอฟฟี่เฮ้าส์ เปิดทุกวัน เวลา 11.30-14.00 น. ถ้ามากินเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ควรโทร.มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-2422-9222 ต่อ 1310

//www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000039797




 

Create Date : 04 เมษายน 2556   
Last Update : 4 เมษายน 2556 8:46:03 น.   
Counter : 2505 Pageviews.  

สลัดยำสาหร่าย


ส่วนผสม

- มะเขือเทศเชอร์รี่ ผ่าครึ่งลูก  8  ผล 
- แตงกวา  4  ลูก 
- สาหร่ายทะเล  2  ถ้วย 
- ผักกาดแก้ว หรือ ผักสลัด  2  ถ้วย


ส่วนผสมน้ำสลัด


- ซอสเหยาะจิ้มตราแม็กกี้  2  ช้อนโต๊ะ 
- น้ำร้อน  2  ช้อนโต๊ะ 
- งาขาวคั่ว  2  ช้อนชา 
- น้ำมะนาว  3  ช้อนโต๊ะ  
- น้ำตาลทราย  1  ช้อนชา 


วิธีทำ


1.ผสมซอสเหยาะจิ้มตราแม็กกี้ กับน้ำร้อน และน้ำตาลทรายละลายให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำมะนาว งาคั่ว และพริกชี้ฟ้าคนให้เข้ากัน

2.ล้างผักให้สะอาด เตรียมผักต่างๆ ด้วยการแกะเป็นกาบๆ หรือหั่นเอาไว้ แล้วนำไปแช่ในตู้เย็น นำสาหร่ายทะเล มาคลุกเคล้าให้เข้ากัน น้ำสลัด แล้วนำไปแช่เย็นประมาณ 5-10 นาที พร้อมจัดรับประทานกับผักสดตามชอบ











ที่มา : goodfoodgoodlife.in.th




 

Create Date : 03 เมษายน 2556   
Last Update : 3 เมษายน 2556 20:18:52 น.   
Counter : 2019 Pageviews.  

หวานสด รสอร่อย กับ “บุฟเฟต์ปู” ปูสดก้ามโตจากทะเลทั่วโลก

“ปูทะเล” ตัวใหญ่ๆ ก้ามโตๆ ที่ถ้าใครพิสมัยการกินปูแล้วล่ะก็ ถ้าได้เห็นคงเป็นต้องขอวิ่งเข้าใส่ เพราะด้วยรสชาติของเนื้อปูทะเลที่เนื้อแน่น นุ่มหวานสด รสอร่อยเป็นใครจะอดใจไหว ซึ่งหากใครกำลังน้ำลายสอปากอยากจะกินปูทะเลสดๆ ขึ้นมา ขอบอกว่าให้พากันมาได้ที่ ห้องอาหาร เดอะ กลาส เฮ้าส์ โรงแรม อีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ

       ซึ่งที่นี่ได้จัดเทศกาลบุฟเฟต์ปู จัดหนักกับโปรโมชั่น “บุฟเฟต์ปู Crab is back!!” ที่รวบรวมปูสดจากทะเลทั่วโลกมาให้เลือกกินแบบไม่จำกัด ทั้งแบบเสิร์ฟบนน้ำแข็ง แบบนึ่งร้อนๆ พร้อมน้ำจิ้มสูตรเด็ด และแบบปรุงรสเป็นสารพันเมนู

       สำหรับปูทะเลที่ได้คัดสรรนำมาเสิร์ฟนั้นมีนานาชนิด อาทิ ปูทะเลยักษ์ทั้งจากอเมริกาและยุโรป ปูสีน้ำตาลแอตแลนติก ปูทะเล ปูม้า ปูดังจีเนส ปูจั๊กจั่น ปูนิ่ม เป็นต้น รวมทั้งอีกหลายเมนูปูปรุงรสแบบนานาชาติ อาทิ เทมปุระปู, ปูจ๋า, ปูผัดพริกไทยดำ, ปูอบวุ้นเส้น, ปูนิ่มทอดกรอบ, ปูผัดผงกะหรี่, ต้มซุปปู, และเมนูเด็ดที่ทุกคนถามถึง ปูผัดพริกสไตล์สิงคโปร์ เป็นต้น

       และนอกจากเมนูปูนานาชนิดแล้ว ยังจะได้อิ่มอร่อยไปกับอาหารทะเลรายการอื่น อาทิ กุ้ง กั้ง หอยนางรม หอยแมลงภู่ ปลาหมึก รวมทั้งอาหารนานาชาติอื่นๆ เช่น สลัดสไตล์โฮมเมด พาสต้า ซูซิ ซาซิมิ เทมปุระ ปลาแซลมอนจากนอร์เวย์ โคลด์คัทนำเข้าชั้นดี ไอศกรีม ของหวาน ผลไม้นานาชนิด และเมนูอื่นๆรวมกว่า 100 รายการราคา 1,599 บาท++/คน เด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี ลด 50% แฟนเพจของโรงแรมรับส่วนลด 30% พบกับเทศกาลบุฟเฟต์ปู Crab is back ได้ทุกวันศุกร์ และ วันเสาร์ เวลา 18.00 - 22.00 น. ตั้งแต่วันนี้ - 31 ส.ค. นี้ โทร. 0-2210- 8100

//www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000037710




 

Create Date : 02 เมษายน 2556   
Last Update : 2 เมษายน 2556 8:35:37 น.   
Counter : 2272 Pageviews.  

“กะเพราบุรี” เมืองนี้มีทีเด็ดที่กะเพรา

บรรยากาศชั้นล่างของร้าน
       เชื่อว่าอาหารตามสั่งแบบง่ายๆ ที่สั่งกันจนติดปากของใครหลายคนก็คงจะเป็นเมนูผัดกะเพรา ไม่ว่าจะเป็นกะเพราหมู กะเพราไก่ กะเพราปลาหมึก และอีกสารพัดผัดกะเพรา ด้วยรสชาติที่เข้มข้นจัดจ้าน หอมกรุ่นเป็นเอกลักษณ์ ทำให้อร่อยถูกปากถูกใจ ซึ่งถ้าจะเลือกเอากะเพรามาเป็นพระเอก แล้วสรรค์สร้างเมนูใหม่ๆ ขึ้นมาจะเลือกเป็นเมนูอะไร

       ถ้ายังคิดไม่ออก “ผ่านมาแวะกิน” แนะนำให้มาที่ร้าน “กะเพราบุรี” ที่นี่เขาเป็นเมืองแห่งกะเพราเลยทีเดียว เพราะเป็นร้านอาหารจานเดียวที่ขนเอากะเพรามาทำสารพัดเมนูให้เลือกชิมกัน โดยจะเลือกใช้เฉพาะกะเพราแดง เนื่องจากให้กลิ่นและรสชาติที่ฉุนจัดจ้านมากกว่ากะเพราขาว และคัดเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่ เพื่อให้รสชาติของกะเพราแต่ละจานนั้นหอมอร่อย

       ซึ่งการมาลิ้มลองความอร่อยที่นี่ ก็มีขั้นตอนดังต่อไปนี้ ขั้นแรกเลือกว่าจะกินกะเพราอะไร เช่น กะเพราไก่กรอบ กะเพราตับหมู กะเพราเบคอน กะเพราทะเล เป็นต้น จากนั้นก็เลือกว่าจะกินคู่กับข้าวสวย หรือเส้นอื่นๆ จะกินแบบราดหรือผัดคลุก และจะเลือกสูตรดั้งเดิมหรือสูตรเครื่องเทศ (ใส่ขมิ้น)

ปลาทูทอดราดกะเพราหมูสับ
       พอเลือกกันได้แล้ว ก็มาดูกันว่าหน้าตาเป็นอย่างไร อย่างจานแรก ปลาทูทอดราดกะเพราหมูสับ (78 บาท) ที่ถือว่าเป็นเมนูเฉพาะของที่นี่ จะใช้ปลาทูที่เลาะก้างออกแล้วมาทอดให้กรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยกะเพราหมูสับที่ปรุงแบบครบรส เสิร์ฟคู่กับข้าวหอมมะลิร้อนๆ ชิมแล้วผัดกะเพราเผ็ดร้อนเข้มข้น เข้ากับปลาทูที่นุ่มๆ กรอบๆ ถือเป็นอาหารที่กินคู่กันได้อย่างลงตัว

เส้นหมี่ผัดกะเพราเป็ดย่างสูตรเครื่องเทศ
       ลองเปลี่ยนมาเป็นเมนูเส้น เส้นหมี่ผัดกะเพราเป็ดย่างสูตรเครื่องเทศ (75 บาท) ที่ใช้เส้นหมี่ขาวมาผัดกับขมิ้น และคลุกเคล้าให้เข้ากับกะเพราเป็ดย่างที่เป็นเป็นชิ้นพอดีคำ ลองชิมเส้นหมี่เหนียวนุ่มได้ความหอมขมิ้นและกะเพรา รสชาติเป็ดย่างออกเค็มนิดๆ เนื้อนุ่มอร่อยดี

สปาเกตตี้ผัดเกาเหลาเนื้อ
       อีกเมนูเป็น สปาเกตตี้ผัดเกาเหลาเนื้อ (90 บาท) ทางร้านเลือกใช้เครื่องเกาเหลาแบบครบสูตร ทั้งลูกชิ้นเนื้อ เนื้อสดที่หมักจนได้ที่แล้วลวกพอสุก และเนื้อตุ๋นเครื่องยาจีนจนเปื่อยนุ่ม มาผัดเป็นผัดกะเพราและใส่เส้นสปาเกตตี้ที่ลวกแล้วลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ยกมาเสิร์ฟตอนร้อนๆ ชิมเส้นสปาเกตตี้ที่เคลือบด้วยรสชาติเข้มข้นของผัดกะเพรา ส่วนเครื่องเกาเหลาก็ได้รสชาติ หอมยาจีนอยู่แล้ว เป็นเมนูที่ถูกใจไม่น้อย

ยำมะม่วงกุ้งแห้งป่น
       แต่นอกจากเมนูกะเพราทั้งหลายแล้ว ก็ต้องมาลองเมนูกินเล่นของร้านนี้ที่น่าชิมไม่แพ้กัน อย่างเช่น ยำมะม่วงกุ้งแห้งป่น (65 บาท) เป็นสูตรแบบสงขลา ที่จะเลือกใช้มะม่วงเปรี้ยวมาซอย ปรุงเข้ากับน้ำยำ ใส่หอมแดง พริก ถั่วลิสง และกุ้งแห้งป่นละเอียด เป็นยำแบบแห้งๆ ได้รสความเปรี้ยวจากมะม่วง น้ำยำรสชาติกำลังดี และความเค็มเล็กๆ จากกุ้งแห้งป่นที่เคลือบอยู่บนมะม่วงทุกเส้น

ปีกไก่ทอดซีอิ้วหอม
       แถมอีกเมนู ปีกไก่ทอดซีอิ้วหอม (65 บาท) ใช้ปีกกลางไก่หมักกับซีอิ้วและเครื่องปรุงสูตรของทางร้าน จากนั้นนำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ จนกรอบ เวลาเสิร์ฟจะโรยหน้าด้วยใบกะเพราทอดกรอบ ชิมปีกไก่ทอดที่เนื้อนุ่มกรอบ หอมกลิ่นซีอิ้ว ได้รสชาติเค็มกำลังดี

ชามะนาว น้ำกระเจี๊ยบ และชานมเย็น
       อิ่มแล้วก็มาชิมเครื่องดื่มเย็นๆ สูตรเฉพาะของทางร้าน อาทิ ชามะนาว (35 บาท) น้ำกระเจี๊ยบ (25 บาท) ชานมเย็น (35 บาท) เป็นต้น และเมนูกะเพราอื่นๆ ที่อยากจะแนะนำ อย่างเช่น กะเพราเต้าหู้หมูสับ/ไก่สับ (68 บาท) สปาเกตตี้ผัดกะเพราเบคอน (90 บาท) กะเพราไก่กรอบ (65 บาท) หรือ กะเพราทูน่า (68 บาท)

       หลากหลายเมนูผัดกะเพราที่เลือกสรรได้ตามใจชอบ ต้องมาชิมกันที่ร้าน “กะเพราบุรี” ในซอยอารีย์ 2 เท่านั้น

       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน “กะเพราบุรี” ตั้งอยู่ที่ 1/5 ซ.อารีย์ 2 ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม. การเดินทางจากอนุเสาวรีย์ชัยฯ ให้ใช้ถนนพหลโยธินขาออก มุ่งหน้าสวนจตุจักร ตรงมาเรื่อยๆ จนถึงสถานี BTS อารีย์ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยพหลโยธิน 7 (ซอยอารีย์) ตรงมาเรื่อยๆ สังเกตทางซ้ายมือ จะเห็นซอยอารีย์ 2 ให้เลี้ยวเข้าซอย แล้วตรงไปอีกประมาณ 50 เมตร จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือ สามารถจอดรถได้บริเวณร้าน ทางร้านมีบริการเดลิเวอรี่ (เสียค่าส่งเอง) ร้านเปิดวันจันทร์-เสาร์ (หยุดวันอาทิตย์) เวลา 11.00-21.00 น. โทร. 08-8227-7080 www.facebook.com/kapraoburi

//www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000037885




 

Create Date : 31 มีนาคม 2556   
Last Update : 31 มีนาคม 2556 22:22:15 น.   
Counter : 3518 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]