เห็ดผัดน้ำมันหอย เครื่องปรุง 1.เห็ดหอมสด 8 ดอก 2.เห็ดแชมปิยอง 10 ดอก 3.เห็ดฟางดอกเล็ก 8 ดอก 4.เห็ดเข็มทอง 1 แพ็ค 5.แครอทหั่นเป็นดอก 1/2 ถ้วย 6.แปะก๊วย 5-7 เม็ด 7.หน่อไม้ฝรั่งหั่นเป็นท่อนๆ 1/2 ถ้วย 8.ลิ้นจี่กระป๋องตรามาลี (เอาแต่เนื้อ) 1 กระป๋อง 9.น้ำมันหอย 10.ซีอิ๊วขาว 11.น้ำซุป 12.ขิงสับ 13.น้ำมันพืช 14.แป้งมันละลายน้ำ 15เกลือ / พริกไทย วิธีทำ 1. นำกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันลงไป พอร้อนใส่ขิงสับลงไปผัดให้หอม ใส่แครอท และหน่อไม้ฝรั่งผัดให้เข้ากัน 2. ใส่เห็ดหอม เห็ดแชมปิยอง เห็ดฟาง เห็ดเข็มทอง แปะก๊วย และลิ้นจี่กระป๋อง ลงไปผัดให้เข้ากัน 3. ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว เกลือ พริกไทย และน้ำซุปผัดให้เข้ากัน 4. ก่อนยกลงเทแป้งมันที่ละลายน้ำแล้วลงไปในกระทะผัดให้แป้งสุก และน้ำข้นขึ้นตักเสิร์ฟร้อนๆ กับข้าวสวย //www.jaowka.com/   Create Date : 07 สิงหาคม 2555     1 comment Last Update : 7 สิงหาคม 2555 20:58:48 น.     Counter : 2522 Pageviews.   Share Tweet

ชวนชิม 2 เมนูเด็ดจากนกกระทา ลาบปะทะไข่ครก ลาบนกกระทาทอด ไข่ครกนกกระทา เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ LadyBimbettes สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม            เมื่อพูดถึงเมนูที่เกี่ยวกับนกกระทา หลายคนมักจะนึกถึงไข่นกกระทาร้อน ๆ เหยาะซอส โรยพริกไทย ที่อิ่มอร่อยกันง่าย ๆ และหาซื้อได้ทั่วไป ทว่าจริง ๆ แล้วตัวนกกระทาเองนั้น ก็สามารถนำมาประกอบอาหาร เป็นเมนูรสเลิศได้เช่นกัน ดังนั้น รายการภัตตาคารบ้านทุ่ง (5 สิงหาคม) จะพาไปรู้จักกับ คุณภาคภูมิ ดีพร้อม ทายาทเจ้าของฟาร์มนกกะทา ที่ตำบลจำปาหล่อ อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง ที่สืบทอดกิจการเลี้ยงนกกระทาต่อจากคุณพ่อคุณแม่ โดยฟาร์มนกกะทาแห่งนี้ ได้ดำเนินกิจการมามานานกว่า 30 ปีแล้ว           สำหรับการเพาะเลี้ยงนกกระทานั้น คุณภาคภูมิ เล่าว่า ทางฟาร์มจะต้องมีโรงเรือนอนุบาล ซึ่งเป็นโรงปิดที่มีความอบอุ่นสูง เพื่อเลี้ยงดูลูกนกกระทาที่เพิ่งฟัก ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ระหว่างนี้ก็จะให้ลูกนกได้กินวิตามินรวม เพื่อให้มีความแข็งแรง เมื่อลูกนกมีอายุครบกำหนดแล้ว จึงจะทำการคัดแยก นกกระทาตัวผู้ ตัวเมีย และนกกระทากะเทย เพื่อนำไปเลี้ยงแยกกัน ซึ่งนกกระทาตัวผู้จะเลี้ยงเพื่อขายเนื้อ ส่วนนกกระทาตัวเมีย จะเลี้ยงเพื่อเก็บไข่ โดยนกกระทาตัวเมีย 1 ตัว จะออกไข่ 1 ฟองต่อวัน และจะมีอายุการออกไข่ตัวละ 10 เดือน หลังจากนั้นก็จะนำไปขายเนื้อเช่นกัน ส่วนนกกระทากะเทย คือ นกกระทาที่มีลักษณะเหมือนนกกระทาตัวเมีย แต่ไม่ออกไข่ จึงขายได้แต่เนื้อ           คุณภาคภูมิ บอกว่า ที่ฟาร์มแห่งนี้เลี้ยงนกกระทาเป็นจำนวนถึง 1 แสนกว่าตัว โดยจะมีการให้อาหาร 2 รอบ เช้า เย็น และมีการเก็บไข่วันละครั้ง วันหนึ่งจะได้ไข่ประมาณ 7 หมื่นฟอง ซึ่งในมุมหนึ่งมองว่า การเลี้ยงนกกระทาอาจดีกว่าการเลี้ยงไก่ เพราะใช้เวลาระยะเวลาเพียง 45 วัน ก็ได้ไข่มาแล้ว ในขณะที่การเลี้ยงไก่ต้องใช้เวลาเลี้ยงถึง 3 เดือน หรือ 90 วัน กว่าที่ไก่จะออกไข่ในครั้งแรก อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเอาใจคนรักอาหารรสแซบ ดังนั้น นอกจากจะให้ความรู้ถึงเรื่องราวของนกกระทาแล้ว ทางรายการ ยังได้เตรียมเมนูเด็ดจากนกกระทา และไข่นกกระทา มานำเสนอให้ได้ลิ้มลองกัน นั่นคือ เมนูลาบนกกระทาทอด และเมนูไข่ครกนกกระทา แต่ก่อนอื่น เราคงต้องเข้าครัว เพื่อเตรียมส่วนประกอบที่จะนำมาทำเมนูแรกกันก่อนนะคะ  เมนูที่ 1 ลาบนกกระทาทอด ส่วนผสม  นกกระทา  ต้นหอม  ผักชี  มะนาว  สะระแหน่  หอมแดง  กระเทียม  ข่า ตะไคร่ คั่ว  มะแขว่น  พริกไทยดำ  พริกป่น  ข้าวคั่ว  น้ำปลา หรือซีอิ๊วขาว  น้ำมันหอย  เกลือป่น วิธีทำเมนูลาบนกกระทาทอด           1. นำนกกระทามาตัดหัว ตัดเท้า และผ่ากลางลำตัว เพื่อนำเครื่องในออกให้หมด แล้วจึงล้างนกกระทาให้สะอาด           2. นำตัวนกกระทา มาหั่นเป็นส่วน ๆ แล้วนำไปพักไว้ในกาละมัง           3. บี้มะแขว่นใส่ครก ตำพอให้แหลก ปอกกระเทียมใส่ลง แล้วตำไปเรื่อยๆ จนกระเทียมกับมะแขว่น ผสมกันกลายเป็นเครื่องเทศ           4. นำเครื่องเทศมาคลุกเคล้ากับเนื้อนกกระทา แล้วปรุงรสด้วยพริกไทยดำ เกลือ ซีอิ๊ว และซอสหอยนางรม คลุกเคล้าทั้งหมดเข้าด้วยกัน เพื่อให้รสชาติเครื่องปรุง และเครื่องเทศ ซึมเข้าไปในเนื้อนกกระทา แล้วหมักไว้สักครู่           5. เตรียมเครื่องปรุงเพื่อทำลาบ นำหอมแดง มาตัดหัวท้าย ล้างน้ำ แล้วซอยเป็นเสี้ยว ๆ  จากนั้นหั่นต้นหอม ซอยผักชี และเด็ดใบสะระแหน่            6. คลึงลูกมะนาวเพื่อให้น้ำในผิวมะนาวออกมาหมด แล้วคั้นน้ำมะนาวออกมา           7. ตั้งกะทะ รอให้น้ำมันเดือด จากนั้นนำชิ้นนกกระทาที่หมักไว้ลงไปทอด เมื่อเหลืองกรอบได้ที่ ก็นำขึ้นสะเด็ดน้ำมัน แล้วนำไปสับหยาบ ๆ และถึงแม้ว่าจะมีกระดูกติดอยู่ แต่กระดูกของนกกระทานั้น ก็กรอบอร่อย และสามารถรับประทานได้           8. การทำน้ำลาบ เริ่มจากใส่น้ำมะนาว น้ำปลา และพริกป่น ลงในภานะ จากนั้นผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน           9. ใส่ข้าวคั่วลงในน้ำลาบ ตามด้วยนกกระทาทอด คลุกอีกรอบ ก่อนใส่ต้นหอม ผักชี และนำข่า ตะไคร้ ที่คั่วเตรียมไว้แล้วนำมาผสมลงไปด้วย จากนั้นปิดท้ายด้วยการโรยใบสะระแหน่ลงไป เพื่อเพิ่มความสวยงาม และเพิ่มความหอมของลาบให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น  เมนูที่ 2 ไข่ครกนกกระทา ส่วนผสม  ไข่นกกระทา  กุ้งสด  ต้นหอม  ผักชี  หอมหัวใหญ่  พริกชี้ฟ้าแดง  ซีอิ๊วขาว  ซอสปรุงรส  พริกไทยป่น  น้ำมันพืช  เกลือป่น วิธีทำเมนูไข่ครกนกกระทา           1. ตอกไข่นกกระทาใส่ถ้วย แกะเปลือกกุ้งก่อนนำไปล้าง แล้วหั่นกุ้งเป็นชิ้นพอหยาบ ๆ จากนั้นซอยต้นหอม หั่นพริกชี้ฟ้า เป็นเส้น ๆ           2. ปอกเปลือกหอมใหญ่ แล้วซอยเป็นแว่น ๆ ก่อนสับให้ชิ้นเล็กลง           3. ตีไข่นกกระทาให้ไข่แดงกับไข่ขาวผสมกัน จากนั้นใส่เนื้อกุ้งสับลงไป แล้วตีไข่อีกรอบ เมื่อได้ที่ก็ให้ใส่พริกไทยป่น เกลือ ซีอิ๊ว และใส่หอมหัวใหญ่ลงไป จากนั้นตีไข่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมดผสานเข้าด้วยกัน           4. นำกะทะขนมครกตั้งไฟให้ร้อน ใช้ผ้าชุบน้ำมันพืชเช็ดกะทะให้สะอาด แล้วหยอดน้ำมันพอชุ่ม จากนั้นเมื่อน้ำมันร้อนแล้วนำไข่ที่ตีไว้ใส่ลงไปในหลุมแต่ละช่อง           5. แต่งหน้าไข่ให้สวยงาม ด้วยต้นหอม และพริกชี้ฟ้าแดง           6. เมื่อไข่สุกดีแล้ว ก็โรยพริกไทยป่น จากนั้นจึงแคะไข่นกกระทา แล้วจัดใส่จานให้สวยงาม เป็นอันเสร็จเรียบร้อย           ในที่สุดเมนูลาบนกกระทาทอด และเมนูไข่ครกนกกระทาของเรา ก็เป็นเสร็จพร้อมเสิร์ฟแล้วนะคะ หากใครเบื่อเมนูลาบแบบเดิม ๆ และอยากจะลิ้มลองรสชาติใหม่ ๆ รับรองว่าเมนูนี้แซบถึงใจแน่นอน ส่วนเมนูไข่ครกนกกระทานั้น สำหรับใครที่รับประทานไข่นกกระทาเป็นประจำ แต่อยากจะลิ้มลองรสสัมผัสใหม่ ที่เป็นไข่เจียว ผสมไข่ตุ๋น กรอบนอกนุ่มใน แถมมีรสชาติเข้มข้น ต้องไม่พลาดเมนูนี้เด็ดขาด ยังไงก็อย่าลืมลองนำ ทั้ง 2 สูตรนี้ไปลองทำกันดูนะจ๊ะ   Create Date : 06 สิงหาคม 2555     1 comment Last Update : 6 สิงหาคม 2555 21:11:09 น.     Counter : 5569 Pageviews.   Share Tweet

สี่สหายในน้ำนมถั่วเหลืองน้ำผึ้งชาเขียว ส่วนผสม - เฉาก๊วยหั่นเต๋าเล็ก ½ ถ้วย - ลูกชิด ½ ถ้วย - เมล็ดข้าวโพดต้มสุก ½ ถ้วย - ถั่วแดงหลวงเชื่อม ½ ถ้วย - นมถั่วเหลืองรสจืด 2 ถ้วย - น้ำผึ้งออแกนิกส์ ½ ถ้วย - ผงชาเขียวอย่างดี 4 ช้อนโต๊ะ - ผงชาเขียวอย่างดีสำหรับโรยหน้าขนมตามชอบ วิธีทำ - ต้มนมถั่วเหลืองจนเดือด เติมผงชาเขียวและน้ำผึ้ง คนให้ละลาย มีกลิ่นหอม ปิดไฟ พักให้เย็น แล้วแบ่งส่วนผสมออกเป็นส่วองส่วน ส่วนหนึ่งนำไปแช่ช่องแข็ง ส่วนหนึ่งนำไปแช่ตู้เย็นช่องธรรมดาเตรียมไว้ - ตักเฉาก๊วย เมล็ดข้าวโพด ลูกชิด และถั่วแดงเชื่อม ใส่ถ้วยเตรียมไว้ - นำนมถั่วเหลืองน้ำผึ้งชาเขียวที่แช่แข็งออกมา ขูดด้วยส้อมจนเป็นฝอย หรือใช้ช้อนตักเป็นก้อน ๆ ใส่ลงไปในถ้วยเครื่องขนมที่เตรียมไว้ รินนมถั่วเหลืองแช่เย็นอีกส่วนลงไป โรยด้วยผงชาเขียวหอม ๆ พร้อมรับประทาน //www.jaowka.com/   Create Date : 05 สิงหาคม 2555     0 comment Last Update : 5 สิงหาคม 2555 21:10:38 น.     Counter : 2228 Pageviews.   Share Tweet

4 อาหารเช้าต้องห้ามที่คุณควรเลี่ยง 4 อาหารเช้าต้องห้าม (สุขกายสบายใจ) อาจจะจริงที่ใครหลายคนบอกว่า มื้อเช้ากินอะไรก็มีประโยชน์ทั้งนั้น เพราะสมองต้องเอาไปเลี้ยงร่างกาย แต่เราขอยกเว้นอาหาร 4 อย่างต่อไปนี้ไว้หน่อยแล้วกัน เพราะสถาบันโภชนาการของสหรัฐได้ขึ้นแบล็กลิสต์อาหารเหล่านี้เอาไว้ในฐานะที่เป็นอาหารไร้ประโยชน์ และยังทำการตลาดหลอกลวงผู้บริโภคอีกด้วย ขนมปังปิ้งทา Chocolate spread           Chocolate spread บางยี่ห้อที่สื่อต่างกระหน่ำโฆษณาว่าอร่อย เต็มไปด้วยรสชาติหวานมันของเฮเซลนัท และโกโก้ ความน่าตกใจอยู่ที่ปริมาณแคลอรีที่เราได้ เพียงแค่ทาช็อกโกแลตเสปรด 2 ช้อนโต๊ะบนขนมปังปิ้ง 1 แผ่น ก็ให้แคลอรีพุ่งถึง 200 แคลอรีแล้ว (นี่แค่เฉพาะมื้อเช้านะ) ซึ่งเทียบได้กับปริมาณแคลอรีของช็อกโกแลตขนาด 12 ออนซ์ 1 แท่งเชียวนะ ดังนั้น หากเรารู้สึกตื่นตัวมากขอให้รู้ไว้เถอะว่า หลัก ๆ แล้วมาจากน้ำตาลนั่นเอง ทางที่ดีควรสลับไปทาเนยถั่ว ทาเนย หรือทาแยมผลไม้บ้างจะดีกว่า ซีเรียลใส่นม           อาหารเช้าซีเรียลในทุกวันนี้ไม่ได้ "เรียล" อย่างที่ควรจะเป็นซะแล้ว เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้นักวิทยาศาสตร์แห่งสถาบันคอร์นิวโคเปีย หรือองค์กรเฝ้าระวังและตรวจตราการทำงานของบริษัทในสหรัฐ (Cornucopia Institute) ได้สุ่มวิจัยอาหารของบริษัทในเครือ Kashi Golean พบว่า เกือบ 100 % ของผลิตภัณฑ์อาหารเช้าซีเรียลถูกผลิตขึ้นด้วยกระบวนการดัดแปลงทางพันธุกรรมจากถั่วเหลือง (GMO material) ไม่ได้ผลิตมาจากโฮลเกรนแท้ 100% ตามที่เขียนไว้ในฉลากข้างกล่อง ดังนั้นประโยชน์ที่ร่างกายจะเอาไปใช้ได้จริงน่าจะมาจากนมอย่างเดียวมากกว่า Health bars (Energy bars)           Health bars ที่เราเห็นว่าอัดแน่นไปด้วยธัญพืช พร้อมคำโฆษณาที่ว่าทำมาจากธัญพืชแท้ ๆ กินแล้วให้พลังงานสูง ไขมันต่ำ แต่คุณรู้ไหมว่า อาหารจำพวกนี้ขึ้นชื่อในเรื่องของความหวาน (มากจริง ๆ) เพราะมีส่วนประกอบของน้ำตาลอย่างน้อย 3 ชนิดขึ้นไป อันได้แก่ น้ำตาลฟรุคโตส น้ำเชื่อมข้าวโพดแบบฟรุคโตสสูง (high-fructose corn syrup) น้ำตาลทรายแดง และน้ำอ้อย ดังนั้น หากเราเลือกหยิบเอเนอร์จีบาร์กินเป็นอาหารเช้า เท่ากับเราเอาน้ำตาลเข้าปากประมาณ 30 กรัม แม้รสชาติจะไม่เหมือนก็ตาม แฮม เบคอน ไส้กรอก           อาหารเช้ายอดนิยมที่เราควรกินให้น้อยลง เพราะล่าสุด บริษัทออสการ์ เมเยอร์ (Oscar Mayer) บริษัทผู้นำด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เจ้าของแบรนด์ Kraft รายใหญ่ของสหรัฐ ได้ออกผลิตภัณฑ์จำพวกเนื้อแปรรูปประเภท Selects ออกมาวางขายแล้ว (เช่น ไส้กรอก เบคอน และแฮม ปลอดสารกันบูด และสารเคมีเติมแต่ง) แต่ก็ยังประกาศว่ากระบวนการผลิตยังคงเป็นไปตาม "กระบวนการแปรรูป" ตามมาตรฐานเดิม           จากข้อมูลการตลาดที่ออกมานี้ ทำให้วิทยาลัยแพทย์ฮาร์วาร์ดรีบออกมาเผยผลการวิจัยว่า การงดปริมาณบริโภคผลิตภัณฑ์เนื้อแปรรูปทุก ๆ 100 กรัมต่อวัน สามารถช่วยลดความเสี่ยงเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้ถึงร้อยละ 20 นับว่าเป็นคำเตือนที่น่าคิดให้เราหันมาดูแลสุขภาพของตัวเอง...เดี๋ยวนี้เลย ขอขอบคุณข้อมูลจาก   Create Date : 04 สิงหาคม 2555     0 comment Last Update : 4 สิงหาคม 2555 21:10:42 น.     Counter : 3277 Pageviews.   Share Tweet

เมนูซุปปลาผักรวม เมนูซุปปลาผักรวม (Mother & Care) ภาพ : กณวรรธน์ ซุปปลาผักรวม ส่วนผสม เนื้อปลาหั่นเต๋า 2-3 ช้อนโต๊ะ น้ำซุป 2-3 ถ้วยตวง บร็อกโคลีหั่นชิ้นเล็ก ๆ ½ ถ้วยตวง มะเขือเทศ 1 ลูก แครอทหั่นเต๋า ½ ถ้วยตวง มันฝรั่ง ½ หัว หอมหัวใหญ่สับ 1/3 ลูก นมที่ลูกดื่ม ½ ถ้วยตวง เกลือเล็กน้อย วิธีทำ           1.ตั้งน้ำซุปให้เดือดจากนั้นจึงใส่ปลาและผักทุกอย่างที่เตรียมไว้ลงไปต้ม พอเริ่มเดือดให้หรี่ไฟเหลือปานกลาง คอยช้อนฟองออก ตั้งเคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนทุกอย่างสุกนิ่มค่อนไปทางเละ (หากแห้งมากเกินไปให้เติมน้ำซุปเพิ่ม)           2.เติมนมที่ลูกดื่มลงไป คนให้เข้ากันตั้งพอเดือด อีกครั้งจึงยกลงพักไว้ ขอขอบคุณข้อมูลจาก   Create Date : 03 สิงหาคม 2555     0 comment Last Update : 3 สิงหาคม 2555 21:41:39 น.     Counter : 2125 Pageviews.   Share Tweet