เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

พุดดิ้งวานิลลาเบอรี่



พุดดิ้งวานิลลาเบอรี่


ส่วนผสมขนม พุดดิ้งวานิลลาเบอรี่
เจลาติน 4 แผ่น
ดับเบิลครีมหรือเฮฟวี่ครีม 600 มิลลิลิตร
นมพร่องมันเนย 200 มิลลิลิตร
น้ำตาลทราย 200 กรัม
สตรอเบอรี่และราสเบอรี่แช่อิ่มตามชอบ
กลิ่นวานิลลาเล็กน้อย

วิธีทำขนม พุดดิ้งวานิลลาเบอรี่
1. แช่เจลาตินในน้ำเย็น 4 – 5 นาที
2. ต้มครีม นม น้ำตาล และกลิ่นวานิลลาในหม้อก้นหนา จนเข้ากันยกลงจากเตา นำเจลาตินบีบน้ำออกทีและแผ่นใส่พร้อมคนให้เข้ากับครีมจนเจลาตินละลาย
3. นำพิมพ์พุดดิ้ง เทส่วนผสมแพนนาคอตตาลงไป แช่ในตุ้เย็นช่องธรรมดา 2-3 ชั่วโมงจนอยู่ตัว
4. เสิร์ฟโดย จุ่มก้นพิมพ์ในน้ำร้อน 10 วินาทีแล้วคว่ำใส่จาน ราดด้วยสตรอเบอรี่และราสเบอรี่แช่อิ่มตกแต่งให้สวยงาม


ขอบคุณข้อมูลจาก lonleam




 

Create Date : 15 กันยายน 2554   
Last Update : 15 กันยายน 2554 20:25:36 น.   
Counter : 1830 Pageviews.  

บานอฟฟี่พาย (Banoffy Pie)



บานอฟฟี่พาย (Banoffy Pie)



ส่วนผสมบานอฟฟี่พาย

โอรีโอบดละเอียด 1 แถว
เนยจืดละลายเล็กน้อย
นมข้นหวาน 3 ช้อนโต๊ะ
กล้วยหอม 2 ผล
มะนาวเล็กน้อย
วิปปิ้งครีม 2 ถ้วยตวง
เกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำบานอฟฟี่พาย
1. ผสมเนยและโอรีโอบดให้เข้ากัน
2. ตักใส่ถาดฟอยหรือถ้วยแล้วนำแช่ตู้เย็น(ช่องแข็ง)ประมาณ 2ชั่วโมง
3. หั่นกล้วยหอมขนาดพอดีคำใส่ถ้วยราดน้ำมะนาวเล็กน้อยและผสมกับนมข้นหวาน
4. นำส่วนผสมข้อ 3ราดบนโอรีโอ(ข้อ2)แล้วแช่ตู้เย็น(ช่องแข็ง)ประมาณ 2ชั่วโมง
5. ราดวิปปิ้งครีมบนกล้วยให้มีความหนาตามต้องการ (ประมาณ 1 นิ้ว)แล้วแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ 1 คืน



ขอบคุณข้อมูลจาก lonleam




 

Create Date : 14 กันยายน 2554   
Last Update : 14 กันยายน 2554 19:49:52 น.   
Counter : 2370 Pageviews.  

ปลาเก๋าซอสพริกราดหน้าพาสต้าหมึกดำ

อาหาร ทำอาหาร

ส่วนผสมซอสพริก

น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ หอมแดงซอย 20 กรัม กระเทียมซอส 8.3 กรัม ขิงหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 3.3 กรัม พริกขี้หนูซอส 1 กรัม พริกแกงแดง 3.3 กรัม น้ำมันหอย 3.3 กรัม เต้าเจียว 3.3 มิลลิกรัม น้ำปลา 2.2 มิลลิกรัม พริกไทยดำ 1 กรัม น้ำซุป 19.5 มิลลิกรัม เกลือป่นและพริกไทยป่นนิดหน่อย(สำหรับปรุงรส)

วิธีทำ

ตั้งกะทะให้ร้อน ใส่น้ำมันมะกอก หอมแดง และกระเทียมลงผัดจนเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมด(ยกเว้นน้ำซุป ตะไคร้ และพริกชี้ฟ้า) ผัดจนหอมถึงค่อยๆ เติมน้ำซุป พริกชี้ฟ้าแดง และตะไคร้ จากนั้นจึงปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย พักทิ้งไว้ 2 ชั่วโมง

ส่วนผสมหลัก

ปลาเก๋า 200 กรัม น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ พาสต้าหมึกดำ 150 กรัม ใบโหรพาหั่นฝอย 5.5 กรัม ตะไคร้ซอย 11.1 กรัม พริกชี้ฟ้าแดงหั่นบาง 1.5 กรัม

วิธีทำ 1.ทาเนื้อปลาเก๋าด้วยน้ำมันมะกอก วางบนเตาอบที่ร้อนจัดสักครู่ แล้วนำออกมาราดด้วย ซอสพริกที่เตรียมไว้ จากนั้นจึงนำเข้าเตาอบอีกครั้ง 2.ต้มเส้นพาสต้าในน้ำเกลือจนนุ่ม ยกลงพักไว้สักครู่ 3.อุ่นตะไคร้ผัดเนยด้วยไฟอ่อนจนร้อน แล้วผัดรวมกันกับเส้นพาสต้าสักครู่ ตักใส่จาน จากนั้นนำปลาเก๋าวางไว้ข้างบน 4.โรยพริกชี้ฟ้าแดง ใบโหระพา และตะไคร้ซอยลงบนเนื้อปลาเก๋าที่ปรุงเสร็จ พร้อมเสิร์ฟ

ใครก็ทราบกันว่าเมนูปลานะดีต่อสุขภาพอย่างไร และยิ่งเป็นปลาเก๋าที่ถือได้ว่าเป็นปลาคุณภาพดี(แถมมีราคาสูง) อีกต่างหาก และวิธีการปรุงก็เรียบง่ายเพื่อเน้นให้รับรู้รสที่ความสด บวกกับสมุนไพรพื้นบ้านของเมืองร้อนที่ต่างช่วยเติมรสและดีต่อระบบย่อย ขนาดยังไม่ได้กินแต่กลิ่นทั้งหมดทั้งมวลยังช่วยให้หายใจโล่งปอดดีนักแล




 

Create Date : 12 กันยายน 2554   
Last Update : 12 กันยายน 2554 18:36:59 น.   
Counter : 1078 Pageviews.  

หัวใจแข็งแรงได้ด้วยปลา

ปลาแซลมอน


หัวใจแข็งแรงได้ด้วยปลา (Woman Plus)

สาว ๆ คนใดที่ชอบกินอาหารที่ปรุงจากปลาอบหรือปลาย่าง เตรียมดีใจได้ เนื่องจากผลการศึกษาวิจัยของนายแพทย์ Dariush Mozaffarian จากโรงพยาบาล Brigham and Women’s มหาวิทยาลัย Harvard Medical School ในเมืองบอสตัน สหรัฐอเมริกา ระบุว่า การกินปลาอบหรือปลาย่างจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดอุดตัน

จากการศึกษาในคน 4,815 คนที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป พบว่า คนที่กินปลาซึ่งปรุงด้วยการย่าง หรืออบบ่อย ๆ มีโอกาสที่จะเป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดน้อยกว่า และยังพบอีกว่าคนที่กิน 1-4 ครั้งต่อสัปดาห์ จะลดความเสี่ยงการเกิดโรคได้มากถึง 28% เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่กินน้อยกว่าเดือนละครั้ง

ทั้งนี้ การลดความเสี่ยงเกี่ยวกับความผิดปกติของหัวใจ หลอดเลือด และการเต้นผิดปกติของหัวใจจากการกินปลาอบหรือปลาย่างน่าจะเป็นผลมาจากกรดไขมัน Omega-3 ที่มีมากในปลา นอกจากนี้ Omega-3 ยังช่วยบำรุงให้สมองมีการพัฒนาและทำงานได้ดีอีกด้วย






ขอขอบคุณข้อมูลจาก




 

Create Date : 11 กันยายน 2554   
Last Update : 11 กันยายน 2554 20:15:44 น.   
Counter : 1437 Pageviews.  

หลากหลายคุณประโยชน์จากกะหล่ำปลีม่วง

กะหล่ำปลี


หลากหลายคุณประโยชน์จากกะหล่ำปลีม่วง (Woman Plus)

กะหล่ำปลีม่วงที่มีสีสันสดใสชวนกิน ซึ่งมักพบบ่อยในจานสลัด หรืออาจกลายมาเป็นของประดับในอาหารจานอื่น แต่ใครจะรู้บ้างว่ากะหล่ำปลีสีสวยนี้จะมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก

เนื่องจากกะหล่ำปลีม่วงเป็นพืชที่มีใยอาหารสูงและล้วนอุดมไปด้วยสารอาหารหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นโปรตีน คาร์โบไฮเดรต โซเดียม และวิตามินซี นอกจากนี้การกินกะหล่ำปลีม่วงอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และโรคมะเร็งในช่องท้องได้ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็กที่ช่วยเสริมสร้างฮีโมโกลบินซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มีเม็ดเลือดแดงไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย

อย่างไรก็ตามในแต่ละวันเราไม่ควรกินกะหล่ำปลีดิบมากเกิน 1-2 กิโลกรัม เพราะถ้ามีสาร Goitrogen จากกะหล่ำปลีสะสมในร่างกายมากเกินไป อาจส่งผลให้ต่อมไทรอยด์นำไอโอดีนในเลือดไปใช้ได้น้อยลง แต่สารนี้จะหายไปเมื่อกะหล่ำปลีนั้นสุกแล้ว





ขอขอบคุณข้อมูลจาก




 

Create Date : 10 กันยายน 2554   
Last Update : 10 กันยายน 2554 19:26:11 น.   
Counter : 1778 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]