เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย

ติดตามข้อมูลเว็บทาง Google+ กด
FaceBook สาว ๆ เซ็กซี่

ผัดเผ็ดปลาดุกทอด กะเพรากรอบ เมนูนี้น่าลิ้มลอง


ผัดเผ็ดปลาดุกทอด กะเพรากรอบ



เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณแม่ปันปราย

          ปลา
ดุกตัวอวบอ้วนลอยหน้าลอยตาอยู่ในกะละมังใบใหญ่ตรงแผงขายปลาในตลาดสดอาจทำให้
ใครหลายคนที่เดินผ่านคิดถึงรสชาติเนื้อปลาดุกแสนอร่อยนี้จนต้องแวะซื้อกลับ
มาบ้าน แต่เอ! ซื้อมาแล้วจะทำอะไรกินดีล่ะ จะแกงหรือก็เบื่อ
จะทำเป็นยำปลาดุกฟูหรือก็ยุ่งยาก


         
ใครที่กำลังประสบปัญหาอยากกินเมนูปลาดุกอร่อย ๆ
แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะเอาไปทำอะไรที่มันไม่ค่อยยุ่งยากวันนี้เราเลยขอเสนอทาง
เลือกหยิบเมนูน่าอร่อยที่ใช้ปลาดุกเป็นส่วนประกอบหลักจากบล็อกของ คุณแม่ปันปราย มาให้ทุกคนลองทำกันดู เมนูนั้นก็คือ ผัดเผ็ดปลาดุกทอด กะเพรากรอบ นั่นเอง ทีนี้มาดูส่วนประกอบของเมนูนี้กันเลยดีกว่า




ผัดเผ็ดปลาดุกทอด กะเพรากรอบ




           สิ่งที่ต้องเตรียมก็มีดังนี้

  ปลาดุกหั่นเป็นชิ้น 1/2 กก. (แม่ปันปรายซื้อแบบที่เค้าหั่นเป็นชิ้นเรียบร้อยแล้ว)

  กระชายซอย 3 ขีด

  พริกชี้ฟ้า แดง เขียว ประมาณ 4 - 5 ลูก (หั่นแฉลบ)

  ใบมะกรูด  7 - 8 ใบ

  พริกไทยอ่อน 3 - 4 ชิ้น

  พริกแกงเผ็ด 1 ขีด

  น้ำตาลปิ๊ป 2 - 3 ช้้อนโต๊ะ

  ใบกะเพรา 3 กำ

  น้ำมันพืช 1 ทัพพี

  น้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย



ผัดเผ็ดปลาดุกทอด กะเพรากรอบ




ผัดเผ็ดปลาดุกทอด กะเพรากรอบ


           เริ่มทำกันเลยค่ะ

           - ทอดปลาดุกให้กรอบฟู แล้วพักไว้ก่อน (เวลาทอดให้ทอดด้วยไฟแรง แล้วค่อยปรับเป็นไฟกลางนะคะ)
เด็ด
ใบกะเพรา ล้างแล้วทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำซักพัก นำไปทอดด้วยไฟปานกลาง
จนกระทั่ง ใบกะเพรากรอบ (แบ่งบางส่วนไว้สำหรับผัดพร้อมกับปลาดุกด้วยนะคะ)



ผัดเผ็ดปลาดุกทอด กะเพรากรอบ


           - ผัดพริกแกงกับน้ำมันพืชใช้ไฟปานกลางค่ะ
รอให้น้ำมันมีสีแดงสวยงาม ลดไฟเป็นไฟอ่อน แล้วเติมน้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ น้ำตาลปี๊ป 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน ชิมรสดู
ให้รสชาติออก เค็มหวาน
เมื่อปรุงรสได้ที่แล้ว ใส่ กระชาย พริกชี้ฟ้า พริกไทยอ่อน แล้วผัดให้เข้ากัน



ผัดเผ็ดปลาดุกทอด กะเพรากรอบ


           - จากนั้นใส่ ปลาดุกทอดและใบกะเพราที่แบ่งไว้ลงไป ผัดให้เข้ากัน

           - เรียบร้อยแล้วค่ะ ตักเสิร์ฟใส่จานได้เลย



ผัดเผ็ดปลาดุกทอด กะเพรากรอบ


           - อย่าลืม โรยกะเพรากรอบก่อนเสิร์ฟนะคะ จะได้น่ากินค่ะ





ผัดเผ็ดปลาดุกทอด กะเพรากรอบ



           และแล้วเจ้าปลา
ดุกตัวอ้วนก็กลายสภาพเป็นผัดเผ็ดปลาดุกทอด กะเพรากรอบ
อุดมไปด้วยเครื่องสมุนไพรไทยหลายอย่าง แหมขนาดแค่เห็นภาพยังน่ากินขนาดนี้
ใครบ้างล่ะจะไม่อยากกิน อ้าว แล้วจะรีรออะไรล่ะ
รีบไปตลาดสดซื้อหามาทำกินกันได้แล้ว
สะดวกมื้อไหนรีบทำโดยไวจะได้รู้ว่ารสชาติอร่อยอย่างที่บอกหรือเปล่าไงล่ะ


//women.kapook.com/view36092.html




 

Create Date : 18 มกราคม 2555   
Last Update : 18 มกราคม 2555 23:08:01 น.   
Counter : 2556 Pageviews.  

เผยโฉม “เหล้าแพงที่สุดในโลก” ราคาขวดละ 1.3 พันล้าน









“สจ๊วร์ต ฮิวจ์ส” ดีไซเนอร์เมืองผู้ดีเรียกเสียงฮือฮาอีกครั้งหลัง
หลังจับมือโรงกลั่นสุราชื่อดังในประเทศอิตาลี
ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทลิเคอร์  “แพงที่สุดในโลก”
 โดยมีราคาจำหน่ายสูงถึงขวดละกว่า 1.3 พันล้านบาท


ดีไซเนอร์ชื่อดังแห่งเมืองลิเวอร์พูล “สจ๊วร์ต ฮิวจ์ส”
สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้วยการจับมือกับ
“แอนติกา ดิสทิลเลอเรีย รุซโซ” ผู้ผลิตสุรากลั่นในประเทศอิตาลี   ทำการผลิต
“ลิมอนแชลโล่” ภายใต้ชื่อแบรนด์ “ดามัลฟี่ ลิมอนแชลโล่ สุพรีมเม่ 
(D’Amalfi Limoncello Supreme)” โดยตั้งราคาจำหน่ายสูงถึงขวดละ 27
ล้านปอนด์ หรือกว่า 1.3 พันล้านบาท


“ลิมอนแชลโล่ (Limoncello)” เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภท “ลิเคอร์”
ของอิตาลีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง
โดยปกติแล้วจะผลิตจากเปลือกมะนาวแช่แอลกอฮอล์ และมีต้นกำเนิดในแถบชายฝั่ง
“อามัลฟี่” ของประเทศอิตาลี


สำหรับ “ลิมอนแชลโล่” เวอร์ชั่นพิเศษที่มีชื่อว่า “ดามัลฟี่ ลิมอนแชลโล่
สุพรีมเม่” นี้  บรรจุอยู่ในขวดแก้วสุดหรู ตกแต่งด้วยเพชรน้ำงามไร้มลทิน 3
เม็ด น้ำหนักรวม 13 กะรัตบริเวณคอขวด นอกจากนี้
บริเวณกลางขวดยังตกแต่งด้วย “หนึ่งในเพชรล้ำค่าหายากที่สุดในโลก”
ขนาดมากถึง 18.5 กะรัตอีกด้วย


“ดามัลฟี่ ลิมอนแชลโล่ สุพรีมเม่”  ขวดนี้
จะผลิตขึ้นเป็นพิเศษตามสั่งเพียง 2 ขวดเท่านั้น
และหนึ่งในนั้นก็ถูกสตรีนิรนามชาวอิตาลีสั่งผลิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว


ที่มา ADVERTISEMENT






 

Create Date : 17 มกราคม 2555   
Last Update : 17 มกราคม 2555 22:03:35 น.   
Counter : 2108 Pageviews.  

อาหารฝรั่งสูตรไหหลำแท้ๆที่ ร้าน"ฟูมุ่ยกี่"

ใครชื่นชอบทานอาหารฝรั่งที่มีกลิ่นอายของอาหาร
จีนนิด ๆ เชิญทางนี้ วันนี้ We Recommend
จะพาไปทานร้านอาหารเก่าคลาสสิกที่เปิดมากว่า 80 ปีแล้ว ที่ร้าน "ฟูมุ่ยกี่"
สาขาดั้งเดิมซอยประชุมบนถนนสุรวงศ์







    
เริ่มต้นด้วยเมนูขึ้นชื่อที่บรรดานักทานต้องไม่ลืมสั่งเมื่อมาที่ร้าน คือ
สตูว์ลิ้นวัว (เล็ก 130 / ใหญ่ 260 บาท) อาหารฝรั่งสูตรไหหลำแท้ ๆ
ที่ใครมาทานก็ต้องติดใจความ
หอมนุ่มของลิ้นชิ้นใหญ่ได้รสชาติของน้ำสตูว์ที่ค่อย ๆ ตุ๋นจนหวานเข้าเนื้อ
ต่อกันที่ สลัดเนื้อสัน (เล็ก 140 / ใหญ่ 280 บาท)
เนื้อสันมันน้อยที่กริลล์ให้เกรียมนอกนุ่มใน
ทานคู่กับสลัดผักที่มีเอกลักษณ์ตรงน้ำสลัดหวานอมเปรี้ยวกลมกล่อมพอดี





    
และอย่ามัวทานเพลินจนลืมนางเอกอีกจานของร้าน นั่นคือ แกงกะหรี่ไก่
น้ำแกงหอมกลิ่นเครื่องเทศเเสิร์ฟคู่อาจาดหวานเปรี้ยวตัดรสมันของกะทิได้เป็น
อย่างดี ปิดท้าย ด้วย ซี่โครงหมูอบใส่ถั่วลันเตาราดน้ำเกรวี่ (เล็ก 95 /
ใหญ่ 190 บาท)
เนื้อซี่โครงหมูชิ้นใหญ่อบให้กรอบนอกนุ่มในราดน้ำเกรวี่เข้มข้น
อร่อยอย่าบอกใครเลยค่ะ

     เริ่มต้นปีใหม่ปีนี้ ด้วยการพาครอบครัวไปทานอาหารอร่อย ๆ ก็ดีไม่น้อยเลยนะคะ

ที่ตั้ง 10-12 ซอยประชุม ถนนสุรวงศ์ แขวงสุริยวงศ์ บางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
โทร02-234-6648, 02-233-0762




 

Create Date : 16 มกราคม 2555   
Last Update : 16 มกราคม 2555 22:15:21 น.   
Counter : 2262 Pageviews.  

Lovely Strawberry Cake เค้กชิฟฟ่อนเนื้อนุ่มฟู












ร้าน H & C ขอนำเมนูของหวาน
แสนอร่อยต้อนรับศักราชใหม่
อย่าง Lovely Strawberry Cake เค้กชิฟฟ่อนเนื้อนุ่มฟู
ผสานกับวิปปิ้งครีมรสหวานมัน ตัดเลี่ยนด้วยรสเปรี้ยว
ของสตรอว์เบอร์รี่สดลูกโต หาซื้อเป็นของฝาก ในช่วงเทศกาลปีใหม่ได้ทุกสาขา
หรือจะโชว์ฝีมือทำตามสูตร ที่นำมาฝากกันก็ได้นะคะ









Lovely Strawberry Cake


ส่วนผสม (สำหรับ 12 ชิ้น)


เตรียม 20 นาที ปรุง 20 นาที


- แป้งเค้กตราพัดโบก 1 ถ้วย
- แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงฟู ½ ช้อนชา
- ไข่ไก่ (เฉพาะไข่แดง) 4 ฟอง
- น้ำมันพืช 50 กรัม
- กลิ่นสตรอว์เบอรรี่ ½ ช้อนชา
- น้ำ 70 กรัม
- น้ำตาลไอซิ่ง (1) 72 กรัม
- ไข่ไก่ (เฉพาะไข่ขาว) 4 ฟอง
- น้ำตาลไอซิ่ง (2) 44 กรัม
- ครีมออฟทาร์ทาร์ 1 กรัม
- เกลือเล็กน้อย
- สตรอว์เบอรรี่หั่นเป็นชิ้นบางตามชอบ
- เนยขาวสำหรับทาพิมพ์เล็กน้อย
พิมพ์ขนาด 9 × 12 × 12 นิ้ว
พิมพ์กดขนมขนาด 2 × 3 นิ้ว


ส่วนผสมครีม
นมสด 170 กรัม
น้ำเปล่า 170 กรัม
วิปปิ้งครีม 3 ถ้วย










วิธีทำ


1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ทาเนยขาวและปูกระดาษไขรองก้นพิมพ์เตรียมไว้


2. ร่อนแป้งเค้ก แป้งข้าวโพด ผงฟู เกลือ และน้ำตาลไอซิ่ง (1) เข้าด้วยกัน พักไว้ 


3. ผสมไข่แดง น้ำมันพืช กลิ่นสตรอว์เบอรรี่และน้ำให้เข้ากัน แล้วค่อยๆ ตักส่วนผสมข้อ 2 ลงผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันด้วยตะกร้อมือ


4. ตีไข่ขาว น้ำตาลไอซิ่ง (2) และครีมออฟ-ทาร์ทาร์ด้วยความเร็วสูงจนส่วน
ผสมขึ้นฟูตั้งยอด ปิดเครื่อง นำไปผสมกับส่วนผสมข้อ 3 แล้วใช้ตะกร้อมือคน
เบาๆ ให้เข้ากัน 


5. เทส่วนผสมลงในพิมพ์ นำเข้าเตาอบประมาณ 10 นาทีจนเค้กสุก นำออกจากเตาแกะออกจากพิมพ์ พักให้เย็น 


6. ทำครีมโดยตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน จนตั้งยอดแข็ง 


7. ประกอบเค้กโดยใช้พิมพ์กดขนมออกมาแล้วสไลซ์เค้กตามแนวนอนออกเป็นสอง
ส่วนปาดครีมให้ทั่วหน้าเค้กชิ้นแรกและวางสตรอว์เบอรรี่ลงบนครีมให้ทั่ว วาง
เนื้อเค้กอีกชิ้น ตามด้วยสตรอว์เบอรรี่ บีบครีมให้ทั่วและตกแต่งด้วยสตรอว์
เบอรรี่ด้านบน พร้อมเสิร์ฟ 







แวะมาชิมได้ที่ร้าน   


ร้านนายอินทร์ สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ชั้น 2 โซนเซ็นทรัล โทร. 0-2958-0725
ร้านนายอินทร์ สาขาเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ชั้น 3 แผนก Betrend โทร. 0-2550-1125   
ร้านนายอินทร์ สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ ชั้น 2 แผนก Betrend โทร. 0-2363-3404
ร้านนายอินทร์ สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ชั้น G โทร. 0-2884-6617
ร้านนายอินทร์ สาขาโฮมโปร ราชพฤกษ์ ชั้น 1 ประตูทางเข้า โทร. 0-2422-2526
ร้านนายอินทร์ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ใต้อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น G โทร.  0-2354-4732
สาขาโรงพยาบาลจักษุรัตนิน ชั้น 2 โทร. 0-2639-3399 ต่อ 297
สาขาโรงพยาบาลเวชธานี ชั้น 1 หน้าประตูทางเข้า โทร. 0-2734-0390 ต่อ 848   
สาขาเดอะมอลล์ บางแค ชั้น 1 โซนพลาซ่า (ข้างร้านนายอินทร์) โทร.  0-2454-7395    
สาขาอรุณอมรินทร์ ข้างร้านชีวจิตโฮมคลินิก ที่อยู่ 13/3 ถนนอรุณอมรินทร์ซอย  39 เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โทร. 0-2422-9111 ต่อ 2766   



























 

Create Date : 13 มกราคม 2555   
Last Update : 13 มกราคม 2555 20:46:02 น.   
Counter : 3844 Pageviews.  

เสน่ห์ของข้าวแกงไทย ในสไตล์ของแดเนียล หลงกรุง





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการ หลงกรุง ไทยพีบีเอส, youtube.com โพสต์โดย bierethai

         
อยู่ประเทศไทยไม่มีอดตายแน่นอนว่าไหม? เพราะไม่ว่าจะเช้า สาย บ่าย เย็น
ค่ำมืดดึกดื่นยันโต้รุ่ง มองไปทางไหนก็มีร้านขายอาหารอยู่เต็มท้องถนนไปหมด
โดย
เฉพาะอาหารพื้น ๆ อย่าง "ข้าวแกง" ที่นอกจากจะมีขายกันมากแล้ว
ยังเป็นอาหารยอดฮิตของคนไทยอีกต่างหาก
และนี่ก็เป็นเสน่ห์ของเมืองไทยอย่างหนึ่งที่ "แดเนียล" พิธีกรรายการ
หลงกรุง ทางช่องไทยพีบีเอส สัมผัสได้ และขอชวนเพื่อน ๆ
ตามไปอิ่มอร่อยกับข้าวแกงไทยด้วยกัน












          งานนี้ "แดเนียล" ถึงกับตกตะลึง
เมื่อเดินทางไปย่านคลองสามวา กรุงเทพมหานคร
แล้วพบกับป้ายร้านขายอาหารที่เขียนว่า "ข้าวแกงปักษ์ใต้ 100 หม้อ" ไหน ๆ
ก็ไหน ๆ แล้ว "แดเนียล" ก็เลยขอนับหม้อข้าวแกงดูหน่อยว่ามี 100
หม้อจริงอ๊ะเปล่า.... แหม่...แต่นับไปนับมา มีประมาณ 54 หม้อเท่านั้น
เจ้าตัวเลยเข้าไปกระซิบถามเจ้าของร้านว่า "ทำไมตั้งชื่อ 100 หม้อล่ะ
นับดูได้แค่ 54-56 หม้อเอง" ซึ่งเจ้าของร้านก็บอกว่า "มันเป็นกลยุทธ์การขาย
จะมาตั้งว่าข้าวแกง 54 หม้อ 56 หม้อ ฟังดูก็กระไรอยู่ ก็เอาทีเดียวเลย 100
หม้อเลย"

          ว่าแล้ว "แดเนียล"
ก็ขอลองชิมอาหารปักษ์ใต้ดูหน่อย แต่เห็นเพื่อน ๆ ขู่ว่า
อาหารปักษ์ใต้เผ็ดมาก กลัวจะทานไม่ไหว เจ้าของร้านเลยแนะนำให้ "แดเนียล"
ลองชิม "มัสมั่นไก่" แทนที่จะเป็น "แกงไตปลารสเด็ด" เดี๋ยวจะเผ็ดเกินไป
ซึ่ง "แดเนียล" ก็แอบขอไก่ชิ้นใหญ่ ๆ มันเยอะ ๆ ซะด้วย
ซึ่งพี่เจ้าของร้านก็ใจดีตักให้ทันที









          แล้วรู้กันหรือเปล่าว่า "แกงมัสมั่นไก่" คืออาหารที่ได้รับรางวัลที่ 1 จากการโหวต 50 อันดับอาหารที่อร่อยที่สุดในโลก ของเว็บไซต์ CNNGO
โดยเอาชนะอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย เช่น เป็ดปักกิ่งจากเมืองจีน
ซูชิจากญี่ปุ่น รวมทั้งพิซซ่าจากอิตาลี ว้าว! ทำเอา "แดเนียล"
ถึงกับออกปากว่า
"ภูมิใจแทนคนไทยจริง ๆ ถ้าเพื่อนถามว่า แดเนียลกินอาหารเช้าอะไรวันนี้ แดเนียลจะบอกว่า ผมกินอาหารอร่อยที่สุดในโลกครับ"

         
ชิมข้าวแกงปักษ์ใต้ไปแล้ว "แดเนียล" ก็ขอขับรถไปสิงห์บุรี
โดยเจ้าตัวตั้งใจจะไปดูค่ายบางระจัน ซึ่งเคยด้ยินมาว่า
ชาวบ้านบางระจันคือวีรชนผู้ช่วยปกป้องแผ่นดินไทยในสมัยอดีต
แต่ยังขับรถไม่ถึงค่ายบางระจันเลย เจ้าตัวเกิดหิว หลังจากเห็นป้ายว่า
"แกงป่าถึงแล้ว" แต่ขับไปเรื่อย ๆ ก็ยังไม่ถึงซักที เห็นแต่ป้าย
"แกงป่าถึงแล้ว" เต็มข้างทางไปหมด ทำเอา "แดเนียล" แอบบ่น "โอ้
แกงป่าถึงแล้วอีก 500 เมตร จะถึงหรือยังครับคุณยาย ผมหิวแล้วนะ 555"
จนในที่สุด "แดเนียล" ก็มาถึง "แกงป่าถึงแล้ว" จนได้













          แต่เมื่อมาถึงร้าน พิธีกรหนุ่มก็ตกใจไม่น้อย
กับเมนูอาหารป่าแบบแปลก ๆ และไม่เคยกิน ไม่ว่าจะเป็นแกงป่านกกระจอกเทศ กวาง
จระเข้ แกะ ฯลฯ ซึ่งเจ้าตัวก็ขอลองชิมอาหารแปลก ๆ ทั้งหมดเลย
พร้อมกับสั่งไข่พะโล้มาช่วยดับเผ็ดหนึ่งชาม แต่ก็มิวายบ่นเผ็ดไปตลอดทาง
หุหุ

          หลังจากเข้า
ชม "ค่ายบางระจัน" ด้วยความรู้สึกที่ยกย่องวีรชนคนไทยแล้ว ขากลับ "แดเนียล"
ก็ได้แวะเข้าไปทาน "ข้าวแกงโบราณ" ในปั๊มน้ำมัน โดยเจ้าตัวบอกว่า
"เคยได้ยินคนพูดว่า "ข้าวแกงไทย" ก็เหมือนกับฟาสต์ฟู้ดของบ้านแดเนียล
เพราะกินง่าย ได้เร็ว แต่แดเนียลคิดว่า
ข้าวแกงเป็นมากกว่าอาหารฟาสต์ฟู้ด เพราะวิธีการทำมีหลายขั้นตอน
ทำไม่ได้ง่าย ๆ เหมือนแซนด์วิช แฮมเบอร์เกอร์เลย แถมยังมีคุณค่าทางอาหารสูง
และพิถีพิถันในการทำมาก ๆ
"














          เมื่อท้องหิวแล้ว "แดเนียล" ก็ไม่รอช้า
เดินเข้าไปสั่ง "ขอข้าวแกงโบราณถ้วยนึงครับ" ทำเอาคนขายงง และรีบบอกว่า
"ข้าวแกงโบราณ" ไม่ใช่ชื่อแกง แต่หมายข้าวแกงที่คนสมัยก่อนมักนิยมทำกัน
และทำยากมาก ซึ่งก็มีหลากหลายเมนูให้เลือกทั้ง "แกงขี้เหล็ก" ,
"แกงชักส้มมะละกอ" , "แกงสับนกมะระไทย" , "แกงบวน" , "แกงบอน" ฯลฯ
ซึ่งเจ้าตัวก็ขอสั่่งทั้งหมดแบบโบราณครบชุดให้รู้รสชาติกันไปเลย ขอบอกว่า แต่ละจาน "แดเนียล" ถึงกับยกนิ้วให้ว่า "อร่อยมาก ๆ"

         
แต่ถูกดูจะถูกใจ "แดเนียล" เป็นพิเศษก็คงจะเป็น "แกงบอน"
ซึ่งไม่เคยทานที่ไหน
เจ้าตัวเลยขอตามเจ้าของร้านขายข้าวแกงไปตัดต้นบอนที่หลังบ้าน
และขอตามไปดูวิธีการทำ "แกงบอน" ถึงในครัวเลยทีเดียว
ซึ่งพี่เจ้าของร้านบอกว่า แกงโบราณเดี๋ยวนี้หาทานได้ยากแล้ว เพราะทำยาก
แต่ละขั้นตอนค่อนข้างซับซ้อน ต้องพิถีพิถัน
ซึ่งผู้หญิงไทยโบราณใครทำกับข้าวอร่อย เขาจะเรียกว่า "เสน่ห์ปลายจวัก"











          งานนี้
นอกจาก "แดเนียล" จะได้เรียนรู้วิธีการทำอาหารไทยแล้ว
ยังได้เรียนรู้ภาษาไทยโบราณไปอีกหนึ่งคำ
แถมยังได้อิ่มท้องพร้อมกับอิ่มใจไปกับเสน่ห์ของข้าวแกงไทย
ที่มีสารพัดมากมายเปรียบเสมือนคนที่มาจากต่างถิ่นต่างฐาน หลากหลายภาค
หลากหลายศาสนา แต่มาอยู่ร่วมกันในสังคมเดียวกัน
ก็เป็นคนไทยเหมือนกันนั่นเอง


          "ภาพ
ของร้านข้าวแกง แม้จะมีมากมายหลากหลายหม้อให้ทุกคนเลือกกิน
แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนกินเหมือนกันก็คือ "ข้าว"
เราต่างก็กินข้าวหม้อเดียวกันหมดทุกคน
เพราะฉะนั้นการที่คนหลากหลายจำนวนมากมาอยู่รวมกัน
ก็ต้องรู้จักวิธีการอยู่ร่วมกัน เข้าใจกัน เปรียบเหมือนเป็นคนบ้านเดียวกัน
เป็นญาติกัน เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ก็เหมือนกับแกงที่ต่างกัน
แต่ถูกราดรวมลงบนจานข้าว จานเดียวกัน
" นี่ล่ะเสน่ห์ของข้าวแกงไทยในมุมมองของหนุ่มฝรั่งผู้น่ารักคนนี้ ชมรายการจบแล้วก็ชักหิวขึ้นมาเลยทีเดียว อิอิ





 

Create Date : 12 มกราคม 2555   
Last Update : 12 มกราคม 2555 20:34:25 น.   
Counter : 2900 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  86  87  88  89  90  91  92  93  94  95  96  97  98  99  100  101  102  103  104  105  106  107  108  109  

karnoi
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 57 คน [?]




เลขเด็ด เลขดัง กาน้อย






ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


[Add karnoi's blog to your web]