เงินหยวนป่วนวงการ! "วิตเซล" เมิน "ยูเว่" มุ่งหาความท้าทายลีกจีน เงินหยวนป่วนวงการ! "วิตเซล" เมิน "ยูเว่" มุ่งหาความท้าทายลีกจีน ยังคงทำวงการลูกหนังสะเทือนอย่างต่อเนื่อง สำหรับ ไชนีส ซูเปอร์ ลีก ของจีน เมื่อล่าสุดจ่อดูด "อักเซล วิตเซล" กองกลางทีมชาติเบลเยียม ที่เตรียมหักอก ยุเวนตุส ยักษ์ใหญ่อิตาลี จอมทัพหัวฟูกำลังจะหมดสัญญากับ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ทีมดังของรัสเซีย ช่วงกลางปีหน้า แต่ทาง ยูเวนตุส พร้อมจ่ายให้เซนิต 5 ล้านยูโร (ราว 190 ล้านบาท) เพื่อรับตัวนักเตะมาเล่นในช่วงตลาดหน้าหนาวเดือนมกราคมนี้เลย ตามรายงาน วิตเซล ตกลงเงื่อนไขส่วนตัวกับทางม้าลายเรียบร้อย ที่สัญญา 5 ปี พร้อมตัวเลขค่าเหนื่อย 4.5 ล้านยูโร (ราว 170 ล้านบาท) ต่อฤดูกาลจนถึงปี 2022 แต่ล่าสุด "กัลโช่ แมร์คาโต้" สื่อดังอิตาลีเผยว่า แข้งวัย 27 ปี อาจไม่ลงจอดที่ตูรินซะแล้ว เนื่องจากมีสโมสรของจีนพร้อมทุ่มค่าเหนื่อยสูงถึง 18 ล้านยูโรต่อปี (ราว 680 ล้านบาท) ให้เจ้าตัวพิจารณา โดยทีมจากแดนมังกรที่ว่าคือ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ที่เพิ่งได้ตัว ออสการ์ มิดฟิลด์บราซิเลียนจากเชลซี และ เทียนจิน ทีอีดีเอ ทีมอันดับ 10 ของลีกเมื่อซีซั่นที่แล้ว ซึ่ง เซนิต รับข้อเสนอจากทั้งสองทีมเรียบร้อย พร้อมปล่อยให้นักเตะคุยรายละเอียดส่วนตัวได้เลยทันที   Create Date : 01 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 1 มกราคม 2560 21:26:32 น.     Counter : 2204 Pageviews.   Share Tweet

ไม่พลาดตามคาด! "เดอะ นิว เซนต์ส" ทำสถิติชนะติดต่อกันมากสุดในโลก ไม่พลาดตามคาด! "เดอะ นิว เซนต์ส" ทำสถิติชนะติดต่อกันมากสุดในโลก ตามความคาดหมาย สำหรับ "เดอะ นิว เซนต์ส" ยอดทีมแห่งลีกเวลส์ เมื่อทำสถิติชนะคู่แข่งติดต่อกันจนบันทึกสถิติโลกครั้งใหม่เรียบร้อย เดอะ นิว เซนต์ส หรือ "ทีเอ็นเอส" คือเจ้าของแชมป์ เวลช์ พรีเมียร์ลีก 5 สมัยซ้อน ซึ่งฤดูกาลนี้พวกเขาก็นำโด่งจากการชนะรวดทุกนัด และล่าสุดเมื่อช่วงคืนวันศุกร์ที่ 30 ธ.ค. 2559 ที่ผ่านมา ทีเอ็นเอส ก็บุกชนะ เชฟน์ ดรูอิดส์ รองบ๊วยของลีกได้อีก 2-0 ทำให้แข่ง 21 นัด ชนะรวด ยิงได้ 74 เสีย 11 มีคะแนนทิ้งห่างอันดับ 2 ถึง 21 แต้ม โอกาสได้แชมป์สมัยที่ 6 ติดต่อกันมีสูงมาก นอกจากนี้ ทีเอ็นเอส ยังชนะ 4 นัดในรายการฟุตบอลถ้วยในประเทศ 2 รายการคือ เวลช์ คัพ กับ ลีก คัพ รวมอีก 2 นัดในศึก สกอตติช แชลเลนจ์ คัพ ที่ทีมได้รับเชิญไปแข่งขัน ทำให้ ทีเอ็นเอส ชนะคู่แข่ง 27 นัดรวด ทำลายสถิติเดิมของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ยักษ์ใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ ที่ทำไว้ 26 นัด เมื่อปี 1972 ลงเรียบร้อย   Create Date : 01 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 1 มกราคม 2560 21:25:49 น.     Counter : 541 Pageviews.   Share Tweet

วิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก "ลิเวอร์พูล - แมนฯ ซิตี้" วิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก "ลิเวอร์พูล - แมนฯ ซิตี้" สนับสนุนเนื้อหา วิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำวันเสาร์ที่ 31 ธ.ค. 2559 ลิเวอร์พูล - แมนฯ ซิตี้ สนาม : แอนฟิลด์ เวลา : 00.30 น. (เช้าวันอาทิตย์ที่ 1 ม.ค. 2560) ผู้ตัดสิน : เคร็ก พาวสัน ถ่ายทอดสด : beIN Sports 1 (676) ผลงานที่เคยพบกัน 2 นัดหลังสุด 29/02/16 ลิเวอร์พูล 1-1 แมนฯ ซิตี้ 03/03/16 ลิเวอร์พูล 3-0 แมนฯ ซิตี้ ผลงาน 3 นัดหลังสุด ลิเวอร์พูล 15/12/16 ชนะ มิดเดิลสโบรห์ 3-0 (ย) 20/12/16 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 (ย) 28/12/16 ชนะ สโต๊ค    4-1 (ห) แมนฯ ซิตี้ 15/12/16 ชนะ วัตฟอร์ด 2-0 (ห)     18/12/16 ชนะ อาร์เซนอล 2-1 (ห) 27/12/16 ชนะ ฮัลล์ 3-0 (ย) สภาพทีม ลิเวอร์พูล เจอร์เก้น คล็อปป์ ยืนยันแล้วว่า ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งยังไม่หายเจ็บข้อเท้าเช่นเดียวกับ โจเอล มาทิป กำลังสำคัญในแนวรับที่เจ็บอาการเดียวกัน แดนนี่ อิงส์ ก็บาดเจ็บยาว คาเมร่อน บรานนาแกน (ข้อเท้า) พัก 2 สัปดาห์ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ หวังแย่งตัวจริงหน้าเป้าจาก ดิว็อค โอริกี แมนฯ ซิตี้ เซร์คิโอ อเกวโร่ กองหน้าตัวเก่งชดใช้โทษแบนครบ 4 เกมแล้วพร้อมคัมแบ็กตัวจริงทันที ทว่าในรายของ จอห์น สโตนส์ ที่เจ็บเข่าในเกมก่อนไม่พร้อมลงสนามเช่นเดียวกับ แว็งซ็องต์ กอมปานี กองหลังกัปตันทีมที่เจ็บเข่าพักถึงปลายเดือนมกราคม และ อิลคาย กุนโดกาน ห้องเครื่องเยอรมันที่ผ่าเอ็นไขว้พักยาว ผู้เล่นตามคาด ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ลอริส คาริอุส, นาธาเนี่ยล ไคลน์, รักนาร์ คลาวาน, โจเอล มาทิป, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อดัม ลัลลาน่า, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่, ดิว็อค โอริกี ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์ แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1) : เคลาดิโอ บราโว่, พาโบล ซาบาเลต้า, นิโคล่า โอตาเมนดี้, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, กาเอล กลิชี่, แฟร์นานดินโญ่, ยาย่า ตูเร่, เควิน เดอ บรอยน์, ดาบิด ซิลบา, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, เซร์คิโอ อเกวโร่ ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า วิเคราะห์รูปเกม แม้ แมนฯ ซิตี้ จะกลับมาชนะติดๆ กัน แถมเกมนี้ยังได้ เซร์คิโอ อเกวโร่ พ้นแบนกลับมา ทว่าภาพรวมก็ยังดูเป็นรองนิดๆ เพราะ ลิเวอร์พูล ได้เปรียบที่เล่นในบ้าน ทีมเวิร์กก็ดีกว่า ยิ่งทีมเยือนเกมรับมักผิดพลาดง่าย ดูแล้วต้านเจ้าบ้านไม่อยู่ ฮอตสกอร์ : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1 เกร็ดก่อนเกม - ลิเวอร์พูล ชนะรวดใน 3 เกมหลังสุดในเกมลีกที่เจอกัน และ แมนฯ ซิตี้ ชนะที่ แอนฟิลด์ ได้เพียงครั้งเดียวในพรีเมียร์ลีก (เสมอ 5 แพ้ 13) - เซร์คิโอ อเกวโร่ ยิงได้ถึง 4 ครั้งในการเจอกับ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก ทว่าไม่เคยยิงได้เวลาเล่นที่ แอนฟิลด์   Create Date : 01 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 1 มกราคม 2560 21:25:19 น.     Counter : 510 Pageviews.   Share Tweet

วิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก "แมนฯ ยูไนเต็ด - มิดเดิลสโบรห์" วิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก "แมนฯ ยูไนเต็ด - มิดเดิลสโบรห์" สนับสนุนเนื้อหา วิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำวันเสาร์ที่ 31 ธ.ค. 2559 แมนฯ ยูไนเต็ด - มิดเดิลสโบรห์ สนาม : โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เวลา : 22.00 น. ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน ถ่ายทอดสด : beIN Sports 1 (676) ผลงานที่เคยพบกัน 2 นัดหลังสุด 02/05/09 มิดเดิลสโบรห์ 0-2 แมนฯ ยูไนเต็ด 29/10/15 แมนฯ ยูไนเต็ด 0-0 มิดเดิลสโบรห์ ผลงาน 3 นัดหลังสุด แมนฯ ยูไนเต็ด 15/12/16 ชนะ พาเลซ 2-1 (ย) 18/12/16 ชนะ เวสต์ บรอมวิช 2-0 (ย) 26/12/16 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 3-1 (ห) มิดเดิลสโบรห์ 15/12/16 แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3 (ห) 17/12/16 ชนะ สวอนซี 3-0 (ห) 26/12/16 แพ้ เบิร์นลี่ย์ 0-1 (ย) สภาพทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เวย์น รูนี่ย์ เจ็บต้นขาจนพลาดเกมกับ ซันเดอร์แลนด์ ยังต้องรอเช็กว่าจะหายทันหรือไม่ เอริค ไบยี่ (เข่า) และ ลุค ชอว์ (ขาหนีบ) 2 กองหลังก็ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนไม่น่าจะได้มีส่วนกับเกมนี้ ไมเคิ่ล คาร์ริค กองกลางตัวเก๋าอาจจะได้พัก เพื่อระษาความสดไว้เล่นในเกมถัดไปกับ เวสต์แฮม มิดเดิลสโบรห์ วิคเตอร์ ฟิสเชอร์ ตัวรุกริมเส้นเจ็บเข่ายังต้องพักอีกสัก 2 สัปดาห์ ทว่าไม่มีปัญหาอะไรเพราะ กาสตอน รามิเรซ กับ อดาม่า ตราโอเร่ เป็นตัวจริงอยู่แล้ว อันโตนิโอ บาร์รากัน แนวรับชาวสแปนิช ติดแบน 1 นัดหลังสะสมใบเหลืองครบโควต้า ทำให้ เอมิลิโอ เอ็นซู น่าจะได้สตาร์ตเป็นตัวจริงแทนไปก่อน ผู้เล่นตามคาด แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เกอา, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ฟิล โจนส์, มาร์กอส โรโฮ, มัตเตโอ ดาร์เมียน, อันเดร์ เอร์เรร่า, ปอล ป็อกบา, เฮนริค มคิตาร์ยาน, ฆวน มาต้า, อองโตนี่ มาร์ซิยัล, ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ผู้จัดการทีม : โจเซ่ มูรินโญ่ มิดเดิลสโบรห์ (4-5-1) : บิคตอร์ บัลเดส, เอมิลิโอ เอ็นซู, คาลั่ม แชมเบอร์ส, เบน กิ๊บสัน, จอร์จ เฟรนด์, อดาม่า ตราโอเร่, มาร์เท่น เดอ รูน, อดัม เคลย์ตัน, อดัม ฟอร์ชอว์, กาสตอน รามิเรซ, อัลบาโร่ เนเกรโด้ ผู้จัดการทีม : ไอตอร์ การันก้า วิเคราะห์รูปเกม แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังเข้าฝัก พวกเขาชนะมาหลายเกมติดต่อกัน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กลับมายิงได้อย่างต่อเนื่อง เกมนี้เล่นในบ้านดูแล้วได้เปรียบแทบทุกประตู มิดเดิลสโบรห์ ผลงานช่วงหลังก็ไม่ค่อยดี เกมนี้มาอุดยังไงดูแล้วก็ไม่น่าต้านไหว ฮอตสกอร์ : แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 2-0 เกร็ดก่อนเกม - แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่แพ้ใน 7 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีก ที่เจอกับ มิดเดิลสโบรห์ (ชนะ 4 เสมอ 3) - เวย์น รูนี่ย์ ทำ 2 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ ใน 4 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีก ที่เจอกับ มิดเดิลสโบรห์   Create Date : 01 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 1 มกราคม 2560 21:24:04 น.     Counter : 489 Pageviews.   Share Tweet

วิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก "เชลซี - สโต๊ค" วิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก "เชลซี - สโต๊ค" สนับสนุนเนื้อหา วิเคราะห์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำวันเสาร์ที่ 31 ธ.ค. 2559 เชลซี - สโต๊ค สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์ เวลา : 22.00 น. ผู้ตัดสิน : โรเบิร์ต แม็ดลี่ย์ ถ่ายทอดสด : beIN Sports 2 (677) ผลงานที่เคยพบกัน 2 นัดหลังสุด 08/11/15 สโต๊ค 1-0 เชลซี 05/03/16 เชลซี 1-1 สโต๊ค ผลงาน 3 นัดหลังสุด เชลซี 15/12/16 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 (ย) 17/12/16 ชนะ พาเลซ 1-0 (ย) 26/12/16 ชนะ บอร์นมัธ 3-0 (ห) สโต๊ค 15/12/16 เสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 0-0 (ห) 17/12/16 เสมอ เลสเตอร์ 2-2 (ห) 28/12/16 แพ้ ลิเวอร์พูล 1-4 (ย) สภาพทีม เชลซี เปโดร ที่เพิ่งเหมา 2 ประตูในเกมล่าสุดจะติดแบน 1 นัดหลังสะสมใบเหลืองครบโควต้า ทว่า ดิเอโก้ คอสต้า กับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ 2 ตัวหลักจะพ้นโทษกักกลับมาแทน จอห์น เทอร์รี่ กองหลังกัปตันทีมยังเจ็บสะโพกไม่พร้อมลงสนาม ออสการ์ (ป่วย) และ จอห์น โอบี มิเกล (กล้ามเนื้อ) พวกนี้เตรียมย้ายทีมเดือนมกราคม สโต๊ค มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช ตัวรุกจะติดโทษแบนเป็นนัดสุดท้าย มาร์ค มูเนียซ่า (เข่า), เจฟฟ์ คาเมร่อน (เข่า) ยังไม่พร้อมคืนทีมเช่นเดียวกับ แจ็ค บัตแลนด์ (ข้อเท้า) และ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ (ขา) ด้าน ฟิล บาร์ดสลี่ย์ หายเจ็บเข่ากลับมาซ้อมแล้วแต่ยังไม่น่าฟิตพอ โบยาน กับ เซอร์ดาน ชากิรี่ หวังคืนตัวจริง ผู้เล่นตามคาด เชลซี (3-4-3) : ธิโบต์ กูร์กตัวส์, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ดาวิด ลุยซ์, แกรี่ เคฮิลล์, วิคเตอร์ โมเซส, เนมาน่า มาติช, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, มาร์กอส อลอนโซ่, วิลเลียน, ดิเอโก้ คอสต้า, เอด็อง อาซาร์ ผู้จัดการทีม : อันโตนิโอ คอนเต้ สโต๊ค (3-4-2-1) : ลี แกรนท์, เกล็น จอห์นสัน, ไรอัน ชอว์ครอสส์, บรูโน่ มาร์ติน อินดี้, มาเม่ ดิยุฟ, เกล็น วีแลน, จานเนลลี่ อิมบูล่า, เอริค ปีเตอร์ส, เซอร์ดราน ชากิรี่, โจ อัลเลน, โจนาธาน วอลเตอร์ส ผู้จัดการทีม : มาร์ค ฮิวจ์ส วิเคราะห์รูปเกม สโต๊ค ไปเยือน ลิเวอร์พูล ก็โดนยิงมาเละ เกมนี้ต้องมาเจอศึกหนักอีกครั้งเพราะมาตรฐานของ เชลซี ก็อยู่ระดับท็อปของลีก ยิ่งเกมนี้ทางเจ้าบ้านได้ คอสต้า กลับมาเป็นตัวเป้า ดูแล้วยิ่งน่ากลัว แต่ดีเกินกว่าที่ สโต๊ค จะต้านไหว ฮอตสกอร์ : เชลซี ชนะ 2-0 เกร็ดก่อนเกม - สโต๊ค ไม่ชนะมา 11 เกมลีกติดต่อกันที่บุกมาเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ครั้งสุดท้ายที่ชนะเกิดขึ้นในปี 1974 - เชลซี ไม่แพ้ในนัดสุดท้ายของปีมาตั้งแต่ปี 2011 ขณะที่ สโต๊ค จบ 2 ปีสุดท้ายด้วยการเก็บชนะรวด (เอฟเวอร์ตัน กับ เวสต์ บรอมวิช)   Create Date : 01 มกราคม 2560     0 comment Last Update : 1 มกราคม 2560 21:23:27 น.     Counter : 511 Pageviews.   Share Tweet