ถั่วศรราม ผักพื้นบ้านแสนอร่อย มาพร้อมเมนูตำและผัดพริกขิง เกริ่นนำโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก รายการกินอยู่คือ โพสต์โดย LadyBimbettes สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม           เมื่อเอ่ยถึงถั่วฝักยาว หลายคนมักนึกถึงการนำถั่วฝักยาวไปรับประทานคู่กับส้มตำ หรือนำไปทำแกงส้ม เพราะถั่วฝักยาวบางพันธุ์ จะค่อนข้างแข็ง และเหนียว จึงไม่นิยมนำมาผัดรับประทานกันสักเท่าไร แต่รายการกินอยู่คือ (12 สิงหาคม) จะพาไปรู้จักกับถั่วฝักยาวสายพันธุ์พื้นบ้าน ที่รับรองว่า รสชาติหวาน กรอบ แถมยังปลอดสารพิษ ถูกใจนักชิมทั้งหลายอย่างแน่นอน ซึ่งถั่วฝักยาวพันธุ์ที่ว่านี้ ได้แก่ ถั่วศรราม หรือ ถั่วฝักยาวพันธุ์ศรราม ซึ่ง คุณทองสา ละครไชย เกษตรกรจังหวัดมหาสารคาม ได้เล่าว่า แต่เดิมที ถั่วฝักยาวพันธุ์นี้ยังไม่มีชื่อเรียก ส่วนใหญ่ชาวมักเรียกกันว่า ถั่วพื้นบ้าน หรือ ถั่วฝักยาวพันธุ์พื้นบ้านเฉย ๆ แต่ช่วงนั้น ศรราม เทพพิทักษ์ ที่เป็นนักแสดงกำลังโด่งดัง ประกอบกับมีการขายถั่วยี่ห้อศรแดงในท้องตลาด คุณทองสา จึงตั้งเรียกชื่อถั่วที่ตัวเองปลูกว่า ถั่วศรราม นับตั้งนั้นเป็นต้นมา            สิ่งที่ทำให้ ถั่วศรราม แตกต่างจาก ถั่วฝักยาวที่ขายตามท้องตลาดทั่วไป คือ ถั่วศรราม จะมีเปลือกบางสีอ่อน และมีปลายเรียวเล็ก นอกจากนี้ ถั่วศรรามยังมีรสชาติหวาน กรอบ มากกว่าถั่วทั่ว ๆ ไป ซึ่งในอดีต ถั่วศรราม จะมีมาในจังหวัดมหาสารคาม แต่ต่อมาได้มีการแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์ไปยังภาคต่าง ๆ ทำให้ในปัจจุบันสามารถหาถั่วศรรามมารับประทานได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะแถบภาคอีสานที่มีการปลูกกันเป็นจำนวนมาก            และเมื่อทางรายการ ไปถึงแหล่งเพาะปลูกกันทั้งที คุณทองสา จึงแสดงฝีมือปรุงเมนูถั่วศรรามมาให้ได้ชมกัน โดยเมนูนี้ ได้แก่ ตำถั่วศรราม นั่นเอง ซึ่งคุณทองสา แนะนำว่า ในการเลือกถั่วศรรามมาปรุงอาหารนั้น ควรเลือกฝักที่ไม่อ่อน ไม่แก่ จนเกินไป เพราะถ้าฝักอ่อนมาก ถั่วจะไม่มีเนื้อ แต่ถ้าฝักแก่ เปลือกก็จะเหนียว  ทำให้รับประทานยาก เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้วมาดูส่วนผสมกันเลยค่ะ เมนูที่ 1 ตำถั่วศรราม ส่วนผสม กระเทียม ถั่วศรราม น้ำมะนาว เกลือ น้ำปลาร้า มะเขือเทศสีดา พริกสด วิธีทำ                  1. ใส่กระเทียม และพริก ลงในครก จากนั้นตำให้ละเอียด                   2. หั่นถั่วศรรามลงไป โดยกะขนาดให้พอดีคำ แล้วตำถั่วให้พอแหลก                  3. ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำมะนาว แล้วเพิ่มกลิ่นด้วยน้ำปลาร้า                  4. ใส่มะเขือเทศสีดาตามลงไป จากนั้นตำ และคลุกส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน           เมื่อส่วนผสมทั้งหมดคลุกเคล้าจนได้ที่แล้ว ก็นำไปจัดใส่จานให้สวยงาม เพียงแค่นี้ เราก็ได้เมนูตำถั่วศรรามพร้อมรับประทานแล้วจ้า เมนูนี้ทำง่ายมาก ๆ และเหมาะสำหรับผู้ชื่นชอบเมนูตำเป็นพิเศษ แต่คราวนี้จะได้รสชาติอร่อยกรุบกรอบของถั่วศรรามมาช่วยเพิ่มรสสัมผัสให้อร่อยยิ่งขึ้น รับรองเคี้ยวเพลินกันเลยทีเดียว สำหรับเมนูตำถั่วศรรามนี้ หากใครชอบรสแซบ ก็สามารถปรุงรสโดยเพิ่มรสเผ็ด รสเปรี้ยวได้ตามใจชอบเลยนะคะ รับรองว่าแซบถึงใจแน่นอนจ้า มาต่อกับเมนูที่ 2 กันบ้างดีกว่า คราวนี้ ผศ.พงษ์ศักดิ์ ทรงพระนาม อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จะประยุกต์เมนูอาหารไทยโบราณ ให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำถั่วศรรามมาผัดพริกขิงนั่นเอง ซึ่ง ผศ.พงษ์ศักดิ์ ได้แนะนำเคล็ดลับในการเลือกซื้อถั่วฝักยาว หรือพืชผักพันธุ์พื้นบ้านว่า อย่าเลือกซื้อผักเหล่านี้จากความสวยงามเป็นอันดับแรก เพราะถ้าผักสวยมาก แสดงว่าอาจมีการปรุงแต่งเมล็ดพันธุ์ ซึ่งอาจทำให้วัตถุดิบเสียรสชาติได้ และก่อนลงมือทำเมนูผัดพริกขิงใส่ถั่วศรรามก็ต้องเตรียมส่วนผสมดังนี้ เมนูที่ 2 ผัดพริกขิงใส่ถั่วศรราม ส่วนผสม กุ้งแห้งป่น กากหมู พริกแห้ง เกลือ ข่า ตะไคร้ ผิวมะกรูด รากผักชี พริกไทยเม็ด หอมแดง กระเทียม เนื้อหมู วิธีทำ                  1. ทำให้ถั่วศรรามมีสีสวยน่ารับประทาน ด้วยการต้มน้ำให้เดือด จากนั้นใส่น้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย ตามด้วยเกลือประมาท 1 หยิบมือ แล้วนำถั่วลงไปลวก โดยกดถั่วให้จมลงในน้ำ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที ให้ถั่วสุกเสมอกัน ซึ่งในขั้นตอนนี้ น้ำมันพืช กับเกลือ จะดึงเม็ดสีของถั่วให้ชัดเจนมากขึ้น จึงทำให้ถั่วมีสีเขียวสด จากนั้นนำถั่วศรรามไปแช่น้ำเย็นเพื่อให้สีของถั่วคงสภาพไว้                  2. เตรียมทำพริกแกง ด้วยการตำพริกแห้ง จากนั้นใส่เกลือลงไป 1 ข้อนขา โขลกพริก กับเกลือให้ละเอียด                  3. ใส่ข่าลงไป 1 ช้อนชา ตามด้วยตะไคร้ซอยละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ ผิวมะกรูด 1 ช้อนชา รากผักชีซอยละเอียด 2 ราก                  4. จากนั้นเติมพริกไทยเม็ด ½ ช้อนชา ตามด้วยหอมแดงซอย 2 หัว กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ กากหมูสับ ¼ ถ้วย กระปิ 1 ช้อนชา และตบท้ายด้วยกุ้งแห้ง ¼ ถ้วย                  5. นำเนื้อหมูประมาณเนื้อหมู 300 กรัม มาหั่นเป็นชิ้น จากนั้นให้หั่นเป็นเส้นตามรอยขวางของเนื้อ                   6. หั่นถั่วฝักยาวเป็นชิ้น ๆ ให้พอดีคำ โดยความยาวประมาณ 1 นิ้ว และถ้าอยากให้สวยงาม ให้ม้วนถั่วถักเป็นรูปเลข 8 ก็จะน่ารับประทานมากขึ้น                  7. ตั้งกะทะให้ร้อน นำเนื้อหมูมารวนก่อน เพราะเมื่อนำมาผัด จะทำให้เนื้อหมูสุกพอดีทั้งข้างนอกข้างใน และไม่ทำให้เนื้อหมูแห้งจนเกินไป พอเนื้อหมูเริ่มสุก แค่ผิวตึง ๆ  ก็นำใส่จานพักไว้                  8. ใส่น้ำมันลงในกะทะปะรมาณ  2-3 ช้อนโต๊ะ ใส่พริกแกงทั้งหมดที่เตรียมไว้ ผัดพริกแกงให้สุก                  9. เตรียมใบมะกรูดหั่นฝอย ซึ่งในการเตรียมใบมะกรูด ต้องลอกก้านออก ยกเว้นใบสุดท้ายที่ต้องเก็บก้านไว้ เพื่อจะได้นำมาห่อใบมะกรูดทั้งหมด เพื่อให้สามารถซอยใบมะกรูดได้ง่ายขึ้น                  10. เมื่อพริกแกงสุก ให้ใส่เนื้อหมูลงไปผัด แล้วปรุงรสด้วยน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 1 ช้อน จากนั้นโรยใบมะกรูดที่ซอยไว้ลงไปทั่ว ๆ แล้วผัดให้สุก                  11. จากนั้นใส่ถั่วรูปเลข 8 ลงไป ตามด้วยถั่วที่หั่นเป็นชิ้น ผัดไปเรื่อย ๆ ให้เครื่องแกงซึมเข้าเนื้อถั่ว จากนั้นจึงตักใส่จาน เท่านี้ก็เรียบร้อย สำหรับเมนูผัดพริกขิงใส่ถั่วศรราม แค่เห็นก็อาจน้ำลายสอแล้วใช่ไหมล่ะคะ ยิ่งถ้าได้รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ แล้วละก็ รสเลิศอย่าบอกใครเลย และสำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าวันนี้จะทำเมนูไหนรับประทานดี อย่าลืมแวะซื้อเครื่องปรุง แล้วลองนำทั้ง 2 เมนูนี้ ไปทำกันดูนะคะ รับรองว่าเมนูจากผักพื้นบ้านอย่างถั่วศรรามไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนจ้า   Create Date : 17 สิงหาคม 2555     0 comment Last Update : 17 สิงหาคม 2555 21:54:28 น.     Counter : 2889 Pageviews.   Share Tweet

อาหารจานอร่อย ปรับแต่งนิดหน่อย อร่อยน่าทานอย่าบอกใคร   Create Date : 16 สิงหาคม 2555     0 comment Last Update : 16 สิงหาคม 2555 20:44:09 น.     Counter : 2464 Pageviews.   Share Tweet

ซีฟู้ดย่างซอสครีมวาซาบิ โดย FoodTravelTVChannel   Create Date : 15 สิงหาคม 2555     0 comment Last Update : 15 สิงหาคม 2555 20:44:41 น.     Counter : 2385 Pageviews.   Share Tweet

วิธีทำแพนเค้กแสนอร่อย   อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม 1. แป้งแพนเค้ก จะยี่ห้อไหนก็ได้ 2. ไข่ไก่ ถ้าท่านจะทานคนเดียวก็ควรใส่ไข่ 2 ฟอง 3. นมสด 1 กระป๋อง 4. เนยยี่ห้อไหนก็ได้ 5. แม่พิมพ์วงกลม เพื่อให้เป็นรูปวงกลมสวยงาม ( จะไม่ใช้ก็ได้แต่เพื่อความสวยงาม) วิธีทำแพนเค้ก 1. ใส่ผงแพนเค้กไปตามใจชอบ แต่อย่ามากเกิน 2. ใส่ไข่ 2 ฟอง ( ถ้าจะให้อร่อยควรใส่ไข่ขาวอย่างเดียว) 3. ใส่นมลงไป 1 กระป๋อง และคนให้เข้ากันจนไม่มีก้อนแป้งติดอยู่ 4. ตั้งกระทะให้ร้อนเลยใส่เนยลงไป ( เพื่อความหอม ) 5. พอกระทะร้อนได้ที่แล้ว เราก็นำแม่พิมพ์วงกลมวางไว้บนเตา แล้วนำแป้งที่เราเตรียมไว้ราดลงไป( อย่าให้มาก ) 6. พอได้ที่ก็เอาแม่พิมพ์ออกแล้วพลิกให้เป็นสีเหลืองนวลทอง แล้วราดด้วยเนยพร้อมเสริฟได้เลย ที่มาสูตร และรูปภาพ //pornpawee2545.myreadyweb.com/article/topic-4966.html   Create Date : 14 สิงหาคม 2555     0 comment Last Update : 14 สิงหาคม 2555 21:19:56 น.     Counter : 8840 Pageviews.   Share Tweet

เมนูดี ๆ มีแต่รอยยิ้ม เมนูดี ๆ มีแต่รอยยิ้ม menu make you smile (Slim up) เรื่อง : Be Strong เคยรู้สึกกันไหมว่า หากเช้าไหนที่มีเรื่องขุ่นข้องหมองใจ เรื่องร้ายเรื่องเครียดทั้งหลายแหล่ก็แห่พาเหรดมากันเพียบ แต่หากมีวันไหนยิ้มได้ ก็อุ่นใจได้ว่าจะมีเรื่องดี ๆ เข้ามาอย่างแน่นอน เมื่อลงมือคิดงานทำงานอะไรก็ดูจะลื่นไหลไปเสียหมด นี่คืออิทธิพลของภาวะอารมณ์ดี การมีสุขภาพจิตและมุมมองดี ๆ หากเช้านี้ยังบิ้วอารมณ์ไม่ขึ้น ฟังเพลงก็แล้ว ยิ้มให้ตัวเองก็แล้ว ลองเลือกหาอาหารดี ๆ มาทาน สารอาหารดี ๆ ก็สามารถทำให้คุณมีรอยยิ้มได้ นมอุ่น ๆ ช่วยได้ หาใช่แค่ความเชื่อ           คงเคยได้ยินกันบ่อย ๆ ที่ว่า เวลาที่อยากให้สมองโล่ง หลับง่าย ให้ลองทานนมอุ่น ๆ ก่อนนอน โดยในข้อเท็จจริงแล้ว ไม่เพียงแค่นมอุ่น ๆ เท่านั้นที่เป็นสิ่งดี ๆ แต่นมสดหลาย ๆ ชนิด มีสารอาหารหลาย ๆ อย่างที่ดีต่อการปรับระดับอารมณ์ ช่วยให้สมองสงบ อาทิ สารเซโรโทนิน รวมถึงวิตามินที่ต้านความเครียดอย่างวิตามินบี 12 และวิตามินดี นี่ล่ะเหตุผลที่ว่ารักใครให้ดื่มนม อยากให้ยิ้ม อยากให้หายเครียด ให้ดื่มนมสักแก้ว แล้วเขาจะยิ้มหวานให้คุณ ถั่วไหมจ๊ะ อีนี่นายจ๋า           ความอัศจรรย์ของถั่วเป็นที่รู้กันมาแต่โบราณว่า สามารถทานทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้ นอกจากนี้ยังเป็นอาหารที่ให้พลังงานได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญสำหรับคนที่เคร่งเครียดกับเรื่องต่าง ๆ ถั่วคือยาวิเศษที่คุณกำลังมองหา เพราะสารอาหารต่าง ๆ ล้วนเอื้อกับการต้านความเครียดได้อย่างดี ไม่ว่าโอเมก้า 3 และวิตามิน E ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งคุณประโยชน์เหล่านี้ช่วยปรับสภาพอารมณ์ ช่วยให้สมองทำงานอย่างสมดุล รวมถึงช่วยให้มีการไหลเวียนเลือดในสมองดีขึ้น ดังนั้นไม่ว่าถั่วลิสง ถั่วเหลือง ถั่วแดง รวมถึงธัญพืช สามารถเป็นผู้ช่วยให้คุณยิ้มได้ เครียดน้อยก็หนึ่งเม็ด เครียดมากก็อีกหนึ่งเม็ด ช็อกโกแลต ไม้เด็ดตลอดกาล           คงรู้กันดีว่า รสหวาน รสขมของช็อกโกแลตที่เสน่ห์แรง ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดรอฟิน หรือสารแห่งความสุขได้ และยังอุดมไปด้วยอนันดาไมน์ (anadamine) ที่ออกฤทธิ์ทำให้รู้สึกสบายเบาโล่ง และยังช่วยยืดระยะเวลาผ่อนคลายให้นานขึ้นอีกด้วย ที่รักจ๋า...ช็อกโกแลตไหมจ๊ะ บร็อกโคลี บล็อกอารมณ์ขุ่นมัว           อาหารตระกูลผักย่อมมีจุดเด่นที่เส้นใยอาหารที่ช่วยระบบขับถ่าย รวมถึงวิตามินต่าง ๆ ที่เสริมสร้างด้านต่าง ๆ ของร่างกาย แต่สำหรับบร็อกโคลีมีทีเด็ดที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยต้านโรคร้าย ต้านความชราได้ และสารสำคัญอย่างสารซัลโฟราเฟนยังมีบทบาทสำคัญในการต้านอารมณ์ขุ่นมัวได้ ไม่อยากให้อารมณ์เครียด ๆ เข้ามาได้ บร็อกโคลีช่วยคุณได้ แซลมอน เมค ยู สไมล์           แซลมอนปลาผู้ดีที่อาจมีราคาสูงเสียหน่อย แต่คุณค่าที่มีอยู่ในตัวนั้นมีมากมายที่หลายคนทราบกันดี ไม่ว่าจะเป็นคุณค่าของสารอาหารที่บำรุงสมอง ไขมันชนิดดีที่ช่วยจัดการกับไขมันส่วนเกิน ลดความดันโลหิต รวมถึง DHA ที่บำรุงทั้งสมองและบำรุงสายตา และประโยชน์ที่ดีต่อการสร้างอารมณ์ดี ขจัดความเครียด ก็คือ เจ้ากรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีฤทธิ์ต้านภาวะซึมเศร้า ซึ่งมีงานวิจัยหลายชิ้นเคยพูดถึงคนที่รับประทานปลาเป็นประจำกับคนไม่รับประทานปลาว่า คนที่ชื่นชอบทานปลาจะมีอายุยืนกว่า และยังมีความเสี่ยงในการเป็นโรคเครียดน้อยกว่าคนที่ไม่ชอบกินปลาด้วย น้ำมันมะกอก เรื่องดี ๆ ที่อยากบอก           หากจะหาน้ำมันสักชนิดมาปรุงอาหารแล้วดีต่อสุขภาพ น้ำมะกอกคือคำตอบง่าย ๆ เพราะมีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวที่รับประทานแล้วไม่อ้วน ดีต่อหัวใจ บำรุงสมองได้ ต้านความเครียด ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง หากคุณเลือกอาหารที่ปรุงด้วยน้ำมันมะกอก นอกจากช่วยควบคุมน้ำหนักแล้ว ยังช่วยให้คุณยิ้มได้ง่ายขึ้นอีกด้วย หอยนางรม รื่นรมย์ในใจ           อาหารตระกูลหอยนอกจากจะมีรสชาติโดดเด่น ปรุงอาหารได้หลากหลายแล้ว หอยรสเด็ดอย่างหอยนางรมยังพระเอกของอาหารตระกูลหอยได้ ด้วยคุณสมบัติช่วยเสริมซิงค์ ช่วยเสริมฮอร์โมนเพศ บำรุงเล็บและเส้นผม รวมถึงซีลีเนียม แมกนีเซียม และโปรตีนซึ่งล้วนมีส่วนส่งเสริมบำรุงสมอง ช่วยทำให้สมองทำงานได้มีประสิทธิภาพดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นอีกด้วย จากนี้ เวลาคุณซึม ๆ เศร้า ๆ ก็แค่เลือกเมนูอาหารสักนิด คุณก็อาจกลับมายิ้มได้แล้ว ขอขอบคุณข้อมูลจาก   Create Date : 13 สิงหาคม 2555     0 comment Last Update : 13 สิงหาคม 2555 21:59:37 น.     Counter : 2238 Pageviews.   Share Tweet