
...หากชายหนุ่มตกหลุมรักใครจริงสักคน รักที่หมายถึงรักไม่ใช่รักหวังรวบรัด สาวๆอาจไม่รู้ว่าภาพที่เธอเห็นหนุ่มคนนั้นนัดไปเที่ยวกับเธอครั้งแรก ดอกไม้ที่ยื่นให้เธอช่อแรก โทรศัพท์ครั้งแรกที่โทรไปพูดคุย ภายใต้ภาพที่เธอๆได้เห็นนั้นมีทั้งความกล้าๆกลัวๆ ลังเล รอลุ้น ประหม่า ผสมปนเปกันไปหมด สุดแต่ใครจะแสดงออกมากหรือน้อยต่างกันไป บางคนก็นิ่งประดุจหินผา(แต่ใจนั้นเต้นระส่ำไปหมด
เธอจะรับสายมั้ย จะอยากไปกับเราหรือเปล่าหว่า จะชอบดอกไม้ของเราหรือเปล่า ฯลฯ) บางคนก็เก้ๆกังๆตะกุกตะกัก พูดผิดพูดถูก หนังเรื่องนี้เชื่อได้เลยว่าชายหนุ่มที่เคยจีบสาวมาก่อนไม่ต่ำกว่าครึ่ง(รวมทั้งผมด้วย)ดูแล้วก็อดไม่ได้ที่จะคิดภาพตามไปด้วยว่า
เฮ้ย เหมือนเราตอนนั้นเลยแฮะ ที่ปรึกษาที่ชายหนุ่มทั้งหลายพึงมีนอกจากตัวเองแล้วก็อาจเป็นพี่หรือน้องหรือเพื่อน แต่ในหนังเรื่องนี้ในโรงลิโดรอบ18.30น.มีที่ปรึกษาเฉพาะทางอย่าง Hitch
Hitch ในฐานะ Date Doctor ผู้ทำหน้าที่กามเทพคอยเชื่อมรักของชายหนุ่มผู้ขาดความมั่นใจในการจีบสาว ได้รับการว่าจ้างจากชายหนุ่มที่รูปร่างหน้าตาไม่ทรมานใจสาว เซ่อซ่า ไร้ความมั่นใจ อย่าง Albertให้ช่วยในการสานความสัมพันธ์กับดอกฟ้าอย่างAllegra Cole ในเวลาเดียวกันนั้นอีกหนึ่งพล็อตของเรื่องคือตัวเขาเองได้มาพบกับ Sara ผู้หญิงที่ทำให้เขาต้องกลายมาเป็นเหมือนผู้ชายทั่วไปที่เขาเคยช่วยเหลือ
... ..Hitch อาจดูเก๋าเกมส์กว่า ดูนิ่ง ดูมั่นใจกว่า แต่ในเรื่องความรักสำหรับเขาเป็นเพียงอาชีพ เขาทำงานแต่ไม่ได้ศรัทธาตั้งแต่แรกเริ่ม เขายังเชื่อมั่นในความสัมพันธ์ระยะสั้น ในขณะที่Albertที่ดูอ่อนชั้นเชิงกว่า ขาดความมั่นใจ กลับเป็นคนที่เชื่อมั่นและศรัทธาในความรักมากกว่า เขาอาจไม่กล้าที่จะจีบด้วยตัวเองแต่เขากล้าที่จะถามหา Date Doctorเพื่อมาสานความรักที่เกิดขึ้นในใจ
..Hitch ดูเหมือนอาจจะกล้าที่จะเข้าหาหรือจีบใครสักคน แต่เขากลับกลัวสิ่งที่เรียกว่าความรักเพราะหากเกิดความผิดหวังเขาเองแนะนำคนอื่นให้พร้อมที่จะตัดใจจากความรู้สึกนั้นเสีย ตรงข้ามกับAlbertคือผู้ชายที่กล้าจะรัก กล้าที่จะเจ็บปวดและยอมรับความเจ็บปวดนั้นไว้
......Hitch แนะนำหลายอย่างให้Albert ไม่ว่าจะเป็นการเต้นที่ไม่ควรเต้น วิธีการจูบที่ไม่ควรทำ ฯลฯ โดยลืมไปว่าตั้งแต่ต้นเขาได้บอกไว้แล้วว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเข้าหาคนที่เราตกหลุมรักคือการอย่าลืม ความเป็นตัวของตัวเอง ทุกสิ่งที่ทำให้Albertมัดใจคนรักของตัวเองได้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสร้างขึ้นมา แต่มันเป็นสิ่งที่เขาเป็นตัวของตัวเองอย่างแท้จริง
....หากเราเกิดมาเพื่อคนๆหนึ่ง เกิดมาเพื่อรักใครหรือเพื่อได้รับรักจากใครก็ตาม ยิ่งเราปรุงแต่งตัวตนเรามากเท่าไหร่ สิ่งที่อีกฝ่ายรับรู้คือส่วนปรุงแต่งหากเขาจะรักเขาก็รักที่ส่วนปรุงแต่งหาใช่ตัวตน เราจะเป็นตัวปลอมนั้นไปได้นานสักเท่าไหร่ หากวันใดที่เหนื่อยจะเสริมหรือปรุงแต่งเราพร้อมที่จะยอมรับความรู้สึกที่แท้จริงของอีกฝ่ายได้หรือไม่หากเขาพบตัวตนที่แท้จริงของเราแล้วเขาไม่ได้รักเรา ในเรื่องทั้งHitchและAlbertต่างก็พบรักของตัวเองหาใช่เพราะทั้งคู่เสแสร้งหรือดัดแปลงแต่เป็นเพราะเขาเปิดเผยตัวตน จริงใจให้กับคนที่ตัวเองรัก แม้ว่ามันจะไม่นิ่ง ไม่สวยหรู ไม่สมบูรณ์แบบ แต่นั่นคือตัวตนที่อีกฝ่ายรักด้วยใจจริง

....ตัวหนังเองมีองค์ประกอบของหนังที่คู่ควรกับการประสบความสำเร็จอยู่ในตัวทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่องที่เข้าได้ถึงทุกเพศทุกวัย(โดยเฉพาะผู้ชายที่ส่วนใหญ่ชีวิตนี้ต้องเคยจีบสาว) เสน่ห์ของดารานำ เสน่ห์ของบทหนังที่มีรายละเอียดเล็กน้อยๆหยอดเรียกร้อยยิ้มตลอดเรื่อง แก๊กที่แม้ว่าจะคนดูจะเห็นแล้วจากหนังตัวอย่างเมื่อมาอยู่หนังการอยู่ถูกที่ถูกเวลาก็ทำให้มันยังใช้ได้ผลอยู่(เป็นตัวอย่างที่ดีและฉลาดกับเอามุขเด็ดมาฉายแต่เมื่อไปดูในโรงยังได้ผลเพราะการเอามาฉายเป็นหนังตัวอย่างมันมาแค่มุขไม่ได้มีการปูพรม พอมาอยู่ในหนังจริงมันมีอะไรมากไปกว่านั้นจึงยังสนุกอยู่) เพลงประกอบที่ฟังเพลิน การถ่ายภาพที่สวยงาม ที่สำคัญที่สุดคือหนังสร้างรอยยิ้มและความรู้สึกดีๆให้กับคนดูเมื่อดูจบ มากไปกว่านั้นยังอาจสร้างความรู้สึกมั่นใจในตัวเอง เชื่อมั่นในตัวตนที่เป็นอยู่ของใครก็ตามที่ได้ดู จนกล้าที่จะออกไปมอบดอกไม้ให้คนที่รักหรือบอกรักกับคนที่เราไม่กล้าบอกมาก่อน
สิ่งที่ชอบ
1.ตัวละครที่น่าตกหลุมรัก


....ไม่ว่าจะเป็นWill Smith , Eva Mendes , Kevin James (Albert), Amber Valletta (Allegra Cole) ทุกคนมาแบบสบายๆแต่โปรยเสน่ห์อย่างจริงใจให้กับหนังตลอดเวลา ไม่มีใครเด่นจนกลบใคร หนังไม่จำเป็นต้องพึ่งพลังดาราอันล้นเหลือของWill Smithเพียงคนเดียวเมื่อตอนที่เขาไม่อยู่ในจอ คนดูก็ยิ้มอย่างมีความสุขให้กับตัวละครอื่นๆโดยเฉพาะ Albertกับความซุ่มซ่ามแต่จริงใจและศรัทธาในความรักของตัวเอง ยิ่งฉากเต้นทั้ง2ฉากทั้งกลางเรื่องและตอนท้ายได้ใจๆ
2.ผู้กำกับ Andy Tennant...ผมชอบเทียบผู้กำกับเหมือนพ่อครัวที่ต้องเลือกวัตถุดิบ เครื่องมือ และเครื่องปรุงมาทำอาหารให้คนดู บางคนได้ของดีแต่ปรุงไม่เป็นก็มีในขณะที่บางคนปรุงสูตรเดิมๆเมนูที่คุ้นเคยแต่ก็ถูกปากคนกินได้เสมอ เรื่องนี้ Andy Tennantเป็นพ่อครัวที่ปรุงHitchออกมาได้กลมกล่อมจากทุกองค์ประกอบที่ดีในตัวอยู่แล้ว เป็นอาหารที่น่าจะถูกปากคนทุกเพศวัย เป็นผู้กำกับคนเดียวที่เคยคว่ำมากับ Anna and the King และเคยขึ้นสูงไปกับหนังรักที่มีนางเอกเป็นศูนย์กลางมาแล้ว2เรื่องอย่าง Ever After , Sweet Home Alabama
3.ความรู้สึก .....ตอนแรกๆผมยังสงสัยอยู่นิดว่าหนังดูราบรื่นไปเสียหมด ไม่มีจุดที่เป็นความขัดแย้ง(conflict)ในบทหนังหรือตัวละครเลยแล้วมันจะเรียบเรื่อยเกินไปหรือเปล่า เมื่อมาถึงตอนท้ายความขัดแย้งระหว่างตัวละครนั้นก็ดูน้อยนิดแต่อารมณ์ที่หนังสร้างให้กับคนดูมาโดยตลอดแล้ว ทำให้ความน้อยนิดนี้มีผลต่อความรู้สึกคนดูได้ ไม่เพียงแต่ความสนุก ซาบซึ้ง รอยยิ้ม ขำขำ ความรู้สึกดีๆ แต่มันยังมีความรู้สึกที่เหมือนการมีใครสักคนมาถ่ายทอดความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเราออกมา บางฉากก็รู้สึกเหมือนกับได้ดูตัวเองหรือเพื่อนของเรา พร้อมกับทำให้เกิดเชื่อมั่นในตัวเองมากยิ่งขึ้น เชื่อมั่นในตัวตน ไม่รอช้ากล้าที่จะออกจากโลกของตัวเองเพื่อไปพบกับใครสักคนที่เรารักและชื่นชมเหมือนอย่างที่ AlbertทำในตอนแรกและHitchค้นพบในตอนหลัง
สรุป.....ผมชอบหนังเรื่องนี้ เป็นหนังที่ไม่มีช่วงเวลาที่น่าเบื่อ ไม่ฮาแบบหัวเราะกรามค้าง แต่เรียกรอยยิ้มได้ทั้งใบหน้าและในใจคนดู มีองค์ประกอบที่ดีทุกอย่างและมาอยู่ในมือผู้กำกับที่สามารถเคี่ยวออกมาได้กลมกล่อม อาจไม่ใช่หนังที่ดียอดเยี่ยมแต่เป็นหนังที่ดูแล้วเกิดความรู้สึกดีๆตลอดจนหนังจบและเดินออกมาจากโรง เป็นหนังที่ดูแล้วเกิดความรู้สึกอยากดูอีกหากมีโอกาส และเป็นหนังที่เหมาะเป็นอย่างยิ่งกับชายหนุ่มทุกคนที่กำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นจีบใครสักคนแล้วบังเกิดความรู้สึกไม่มั่นใจ กล้าๆกลัวๆ ฯลฯ หนังเรื่องนี้จะเป็นเหมือนเพื่อนที่บอกคุณว่า
เฮ้ นายไม่ได้เป็นแบบนี้คนเดียวในโลก พร้อมกับเป็นรุ่นพี่ที่คอยให้กำลังใจและคำแนะนำ
***เชิญชวนแวะไปอ่านไปคุย กับหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนในหมวดนี้ที่ไม่แสดงรายชื่ออีก50+เรื่องได้ที่ ---> ห้องเก็บหนัง