Kung Fu Hustle , ตลกน้อย สนุกมาก และลงตัว

....ผมเริ่มรู้จักโจวซิงฉือ ใน คนตัดเซียน ที่ทำล้อเลียนคนตัดคน จำได้ว่าในตอนนั้นผมฮาและสนุกมากๆกับหนังเรื่องนั้น จากนั้นมาผมก็ติดตามหนังของเค้ามาเรื่อยๆ ช่วงกลางๆผมรู้สึกว่าความตลกยังมีแต่มันดูเละๆเทะๆ(รวมทั้งหนังฮ่องกงเรื่องอื่นๆ) ผมก็ดูบ้างไม่ดูบ้าง จนมาถึง Shaolin Soccerที่ผมดูแล้วรู้สึกว่าเป็นหนังที่คืนฟอร์มของเค้าเมื่อรู้ว่าหนังเรื่องใหม่เข้าก็ไม่รอช้าที่วันนี้จะเสียเงิน80บาทกับโรงสยามรอบ10.00น.

....หนังเล่าเรื่องของอาซิง ที่เป็นอันธพาลข้างทางในบทพระเอกที่มีความanti-heroอยู่บ้าง กับการทำดีในวัยเด็กที่ลงเอยด้วยการถูกแกล้ง จนโตมากับความไม่เชื่อในเรื่องของการทำดี และต้องมาอยู่ตรงกลางระหว่างการต่อสู้ของชุมชนคนยากกับแก๊งค์อิทธิพล

....ผมสนุกมากๆกับหนังเรื่องนี้และผมคิดว่าคนที่จะสนุกเป็นพิเศษน่าจะเป็นคนที่ชอบหนังกำลังภายใน และ คนที่ชอบหนังของโจวซิงฉือ

หนังกำลังภายใน

...ในยุคหลังจะเห็นได้ว่าหนังกำลังภายในจะค่อยๆกลืนหายไปอย่างกู่ไม่กลับ ในความรู้สึกผมคือผมรู้สึกว่ามันเป็นช่วงเดียวกับที่หนังจีนออกมามากและมันเละๆเทะๆเลอะๆ ร่วมกับกระแสที่จะออกมาเป็นพักๆตามความฮิตยุคนั้นเช่น(แบบผู้หญิงข้า ก็จะมีแห่ตามออกมาเป็นชุด) จนมาถึง ฟงหวิ๋นก่อนเป็นCrouching tiger hidden dragon ที่เรียกได้ว่าน่าจะเป็นการคืนฟอร์มของหนังแนวนี้ได้ สำคัญน่าจะอยู่ที่ผู้สร้างเริ่มใส่ใจและไม่ทำแบบลวกๆ มีบทที่ดี มีงานสร้างที่ดี และก็ทำให้ตามออกมาทั้งHero และ Flying dagger แต่ทั้งหมดนี้ผมก็ยังรู้สึกว่าเป็นหนังกำลังภายในที่ยังกั๊กๆความเป็นกำลังภายในอยู่(ไม่เต็มๆแบบเดชคำภีร์เทวดา)

.....จนมาถึงในเรื่องนี้ที่ผมสนุกมากกับทั้งวิชาคางคกของคุนลุ้น/ท่าราชสีห์คำราม/ฝ่ามือยูไล/ฉากดีดพิณฯลฯ จนดูไปคิดไปว่า เออต้องได้อย่างนี้ซิหนังกำลังภายในของจริง ยิ่งมาได้เทคนิคสมัยใหม่ที่ผมคิดว่ามันไม่ดูเวอร์ไปแบบฟงหวิ๋นยิ่งทำให้สนุกกับมันมากยิ่งขึ้น

หนังของโจวซิงฉือ

....ถ้าเทียบกับงานเก่าๆแล้วผมรู้สึกว่าเรื่องนี้ตลกน้อยสุด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดูเสียงต้นฉบับหรือเปล่า(แต่ก็คิดว่ามันก็จะตรงกับสิ่งที่ผู้สร้างสื่อมากสุดแล้วค่อยไปฮาตอนเช่าแผ่นพากษ์ไทย) มีฉากที่ฮามากๆแค่ไม่กี่ฉาก(สำหรับผมก็คือฉากพระเอกวิ่งหนีเจ๊กับงูกัด) ผมเองก็ผิดหวังอยู่บ้างเล็กน้อย

....แต่ความสนุกของเรื่องนี้กลบความฮาที่น้อยไปได้เพราะผมสนุกมากกว่างานช่วงหลังๆของเค้าและShaolin Soccer คือในแง่ของความเป็นหนังเรื่องหนึ่งมันเป็นหนังที่สนุกมาก นั่นหมายถึงทำให้เราไม่ต้องรอว่าฉากนี้จะผ่านไปเมื่อไหร่หรือเมื่อไหร่จะจบ และ ความสนุกมากจะพิสูจน์ได้จากเราจะสามารถมองข้ามความอ่อนด้อยในส่วนต่างๆหรือความไม่สมจริงของหนังและสนุกกับหนังไปจนจบ(หนังล่าสุดที่ผมรู้สึกว่าสนุกมากจนกลบจุดอ่อนอันมากมายคือCellular)

....ในแง่การผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่เช่นเทคนิคหรือการกำกับภาพ และฉากแอคชั่นในสไตล์ the matrix เข้ากับหนังกำลังภายใน ผมคิดว่าหนังเรื่องทำได้อย่างลงตัว(ส่วนหนึ่งอาจเพราะได้ต้นตำรับอย่างหยวนวูปิงมาช่วยด้านนี้) ช่วงหลังเราจะเห็นว่าหลายเรื่องเอาเทคนิคแบบนี้มาใช้ดูแล้วคิดแต่ว่าเฮ้ย นี่มันเลียนแบบmatrixนี่หว่า และไม่ลงตัว แต่เรื่องนี้มันกำลังภายในแบบmatrixที่ผมคิดว่าลงตัวในจังหวะและการขับเคลื่อนของภาพ เป็นการใส่วิทยายุทธเข้าในเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้อย่างกลมกล่อม

....นอกจากนี้ความลงตัวที่ผมรู้สึกคือมัน เละและเลอะเทอะน้อยกว่าหนังยุคก่อนๆที่ผ่านมาของโจวซิงฉือ แต่มันค่อนข้างกระชับและลงตัวกับการใส่ความตลกหรือฉากแบบเวอร์ๆไม่เกินเลยจนมากไป

สิ่งที่ชอบ

1.สนุกมาก...อย่างที่บอกข้างต้น

2.ลงตัว.....อย่างที่บอกข้างต้น

3.ดราม่าและฉากดราม่า....ผมสังเกตจากตั้งแต่Shaolin Soccerมาถึงเรื่องนี้ดู โจวซิงฉือ เค้าใส่ใจเนื้อหาและปรัชญาเข้าไปในหนังมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความเป็นคนกลุ่มน้อย คนยุคเก่าหรือพวกขี้แพ้(underdog)ที่ต้องต่อกรกับกลุ่มอิทธิพล คนยุคใหม่ หรือ การใส่ฉากที่เรียกได้ว่ากินใจเช่นฉากพระ-นางจากทั้งสองเรื่องที่ผมชอบส่วนนี้จากทั้งสองเรื่อง โดยเฉพาะส่วนหลังนี้ที่มีเพียงน้อยนิดแต่ผมคิดว่าหนังทำได้ดีและถ้าเจาะเข้าไปอีกนิดอาจทำให้คนดูต้องน้ำตาซึมหรืออินไปกับมันได้พอๆกับหนังชีวิตดีๆ แต่ผู้สร้างอาจไม่กล้าเพิ่มสัดส่วนนี้ให้มากเกินไป(อันนี้ขอใช้วิชาเดาใจ)

4.นางเอก...สั้นๆเลย สวยครับ

5."พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง"/"นี่คือthe oneของเรา".....เข้าใจใส่ๆๆ

สิ่งที่ชอบน้อย

1.ตลกน้อยลง....อย่างที่บอกข้างต้น

2.ช่วงก่อนจบ....ผมรู้สึกว่าช่วงท้ายหนังจะรวบรัดไปนิดนึง คือหลังจากที่พระเอกเก่งแล้วก็เป็นการประชันวิทยายุทธ โดยที่พระเอกเปลี่ยนไปเป็นคนละคนทันที และบทพูดก็น้อยลงไป ทั้งที่ถ้าหนังใส่อะไรเข้าไปในตัวพระเอกเพิ่มอีกซักหน่อย ผมคิดว่าหนังจะลงตัวมากกว่านี้

สรุป....คุ้มค่าเงินสำหรับหนังเรื่องนี้ผมคิดว่าหลายคนที่ผิดหวังอาจเป็นเพราะตั้งใจจะดูหนังตลก แต่หลังจากที่ได้ดู ผมรู้สึกเหมือนกับว่า(อันนี้ไม่รู้หรอกแต่ขอใช้วิชาเดาใจอีกรอบ)โจวซิงฉือไม่ได้ตั้งใจที่จะทำหนังตลก แต่เค้าจะทำหนังเรื่องหนึ่งที่มีความตลกแบบของเค้าเข้าไปกับหนังaction-comedyที่มีสาระอยู่บ้าง

.....โดยผมเชื่อว่างานถัดจากนี้ก็คงไม่ต่างกันเพราะมันจะเป็นหนังที่มีลายเซ็นหรือเอกลักษณ์ของเค้าชัดขึ้นเรื่อยๆ เป็นหนังที่คนดูแล้วก็จะรู้ว่านี่เป็นหนังของโจวซิงฉือมากกว่าแค่มีชื่อ"คนเล็ก"บนชื่อหนัง เพียงแต่จะเปลี่ยนจากหนังกำลังภายในเป็นอะไรเท่านั้นเอง



Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2548
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2548 15:08:13 น.
Counter : 2491 Pageviews.

8 comments
you're halfway there พุดดิ้งรสกาแฟ
(11 ม.ค. 2568 13:23:07 น.)
ความสุขดุจทองคำ สมาชิกหมายเลข 7582876
(9 ม.ค. 2568 12:19:26 น.)
: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - ชัมบาลา : กะว่าก๋า
(11 ม.ค. 2568 05:42:07 น.)
Fukuoka Dream Destination : Day 14 รถไฟ รถบัส เฟอร์รี่ ดั้นด้นจนพบเธอ "ไอโนะชิมะ" mariabamboo
(14 ม.ค. 2568 14:33:16 น.)
  
ไปดูมาเมื่อวันพุธครับ คนดูเต็มโรงเลย สำหรับหนังเรื่องนี้ผมชอบในประมาณระดับ B+ ครับ ในส่วนของความเป็น 'หนังตลก' ดูเหมือนจะอยู่ในช่วงครึ่งแรกมากกว่า (ผมดูพากย์ไทยนะครับ) ส่วนครึ่งหลังเป็นหนังทริบิวต์หนังกำลังภายในอย่างเต็มตัว

ผมชื่นชอบฉากพะบู๊ในหนังเรื่องนี้เอามากๆ มันส์ได้ใจ และอลังการสุดๆ (เช่น ตอนดีดพิณ -มันส์สุดๆ) รวมถึงการตบท้ายด้วยแนวคิดทางพุทธศาสนาในตอนท้าย (ฉากบนท้องฟ้าสวยมาก)

สิ่งที่น่าประทับใจอีกอย่างก็คือ นางเอกของเรื่องที่น้องหมวบใบ้เธอโผล่มาแค่ 2-3 ฉากแต่ก้มีอิทธิพลต่อหนังมากมายเหลือคณา และฉากจบที่คุมจังหวะอารมณ์ได้ดีมากๆครับ
โดย: merveillesxx วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2548 เวลา:15:09:55 น.
  
เรื่องนี้ตั้งใจไปดูมากๆๆ แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆๆ ผมไปดูกับแฟน หัวเราะตลอดเรื่องจนแฟนต้องบอกเบาๆๆหน่อย ชอบจริงๆๆครับ แล้ก็ขอชมคนพากย์ไทย ยอดเยี่ยมมากๆๆครับ ดูจบออกมายิ้มแก้มปริเลย เด็กแนว อยากให้หนังไทยทำบ้างจัง ผมให้ 4 ดาวครับ
โดย: SE7EN IP: 210.203.187.137 วันที่: 27 สิงหาคม 2548 เวลา:1:34:19 น.
  
...
ดูแบบเสียงจีนครับ
เพราะรู้สึกโดยส่วนตัวว่า ทีมพากย์หนังเนี่ย ถ้าเป็นหนังจีนจะพยายามทำให้มันตลกโดยใช่เหตุอยู่บ่อยๆ ซึ่งก็มีทั้ง...โป๊ะ...และ...แป้ก...สลับกันไป

เห็นฉากแอ็คชั่นแล้วนึกถึง...ดราก้อนบอลล์...เลยครับ
ประเภทต่อยทีกระเด็นไปสามสี่บ้านเนี่ย

โดย: The Legendary Midfielder IP: 203.146.6.86 วันที่: 14 ธันวาคม 2548 เวลา:12:45:46 น.
  
พากย์ไทยมีแต่โป๊ะครับ ไม่มีแป้ก พันธมิตรพากย์ได้ดีจริงๆ ขำแบบสุดๆ และผมไม่คิดว่าเรื่องนี้ตลกน้อยที่สุด มันกับเป็นหนังตลกอย่างมีสาระ ที่ทำให้ผมฮาและสนุกได้ถึงแม้ไม่ได้ฟังพากยืไทยด้วยซ้ำ
โดย: scarry shutter IP: 221.128.86.220 วันที่: 27 มีนาคม 2549 เวลา:22:42:36 น.
  
ชอบนะ หนังไทยถ้ามีแบบนี้บ้างก็ดี เสียดายมีน้อย ดูหลายรอบแล้วล่ะ นี่คือโจวซิงฉือ ที่เป็นโจวซิงฉือ
โดย: MOU-NOI IP: 124.121.3.116 วันที่: 31 มีนาคม 2549 เวลา:15:29:43 น.
  
ชอบโจวซิงฉือค่ะ

ส่วนหนังก็ตลกดีจังมันดูเว่อร์ๆได้อารมณ์ดี
โดย: ชอง อึน IP: 124.121.192.226 วันที่: 22 เมษายน 2550 เวลา:13:26:08 น.
  
หนังตลก ต้องฟังภาษาไทยครับ ถึงจะฮา สุดๆ
โดย: nuno IP: 58.8.178.78 วันที่: 24 ธันวาคม 2551 เวลา:16:57:09 น.
  
เป็นหนังที่ตลกมาก ผมดูพากษ์ไทย คนพากษ์ใส่มุขเต้มที่
ปกติผมไม่ดูหนังจีนเลย น้องเขาแนะนำให้ดู
เป็นหนังดีมาก
ทำได้ดีทุกอย่าง
โดย: ธีรยุทธ IP: 118.174.19.99 วันที่: 1 ธันวาคม 2552 เวลา:14:11:28 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aorta.BlogGang.com

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]

บทความทั้งหมด