Mr. and Mrs. Smith , เรื่องราวชีวิตคู่ที่สวมเสื้อคลุมหนังแอคชั่น


….บางคนเลือกที่จะดูเรื่องนี้เพราะ Brad Pitt บางคนเป็นแฟนของ Angelina Jolie และบางคนก็คงเป็นผู้ที่ชื่นชอบในตัว Doug Liman ที่สร้างผลงานสุดเปรี้ยวอย่าง Go และแอคชั่นมีระดับอย่างThe Bourne Identity ผมเองเลือกเข้าไปในโรงสกาล่ารอบ16.40น.วันศุกร์ที่ผ่านมาเพราะเป็นคนในกลุ่มหลังสุด

......ในสายตาของคนดู ผู้กลายเป็นบุคคลที่ 3 เฝ้ามองเรื่องราวผัวเมียคู่หนึ่ง ที่มีปัญหาหมักหมมรอวันสะสาง เราจะได้เฝ้ามองตั้งแต่แรกว่า นายและนางสมิธ ต่างก็มาพบกัน , รักกัน และกลายเป็นคู่ผัวเมียสมิธ ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มเหินห่าง ทะเลาะกัน ก่อนที่จะหันกลับมาเข้าใจกันอีกครั้งและรักกันในท้ายที่สุด

เพียงย่อหน้านี้ก็พอสรุปได้ว่านี่น่าจะเป็นหนังดราม่าชีวิตคู่เรื่องหนึ่ง แต่ Mr. & Mrs. Smith ไม่วางตัวเองในตำแหน่งนั้น ทั้งคู่ฉีกตัวเองออกจากโลกแห่งความจริงเพื่อที่จะเล่นสนุกกันได้เต็มที่ ด้วยการวางตัวเองเป็นหนังแอคชั่น และ ให้ตัวละครเป็นสายลับ (เป็นเรื่องฉลาดที่ให้ตัวเอกมามีอาชีพนี้ เนื่องจากอาชีพสายลับนักฆ่า สามารถเปรียบได้เป็น สัญลักษณ์ของความรุนแรงและการปกปิด อันเป็นต้นตอของปัญหาคู่สมรส ที่พบบ่อยในสังคมปัจจุบัน)

.....ในสายตาของผม Mr. & Mrs. Smith มีธีมที่ให้ความรู้สึกของหนังปัญหาชีวิตสมรสอย่าง The story of us / The War of the Roses มากกว่าจะเป็นหนังแอคชั่นเต็มตัวปกปิดฐานะสายลับอย่าง True Lies เพราะในเนื้อหาแท้ๆของมันเป็นเรื่องของ คู่สามีภรรยาที่มีปัญหาชีวิตคู่ (Marital problem)

ปัญหาที่รอคอยการสะสางอันเกิดจากเส้นแบ่งระยะห่างของความรักมันถ่างออกไกลขึ้นทุกทีๆ ต่างฝ่ายต่างใช้ชีวิตอยู่ในโลกของตัวเองโลกที่ไม่มีอีกคนอยู่ด้วย จนนำไปสู่การนิ่งเงียบแต่สะสมความรุนแรง ความไม่พอใจคุกรุ่นไว้อยู่ภายใน เป็นปัญหาสังคมที่พบได้มากในหลายๆคู่หรือในหลายๆครอบครัว

......สมิธชาย รับบทโดย Brad Pitt ทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของเขากับการเป็นดาราที่ดูดีมีเสน่ห์มีพลังดาราและมีฝีมือ ผมรู้สึกว่าฝีมือการแสดงที่มีของเขานั้นมันคงที่มาตลอดในช่วงปีหลังๆ ไม่ว่าจะกี่เรื่องต่อกี่เรื่องผมก็ยังเห็น Brad Pitt ที่เล่นหนังได้ดีเท่าเดิมมาโดยตลอด ตรงข้ามกับ

....สมิธหญิงโดย Angelina Jolie ที่ยิ่งเล่นหนังยิ่งเปล่งประกายพลังดาราออกมาเรื่อยๆในช่วงหลังตั้งแต่ Sky Captain and the World of Tomorrow มาจนถึง Alexander พร้อมกับแสดงทักษะทางการแสดงว่ามีอะไรมากกว่าการเป็นแค่ลาร่าคลอฟต์ถือปืนตะลุยล่าสมบัติ ฉากที่เธอรู้สึกว่าทำพลาดไปในการสังหารสามีจนนึกว่าสูญเสียเขาไปแล้วเป็นดราม่าเล็กๆที่อยู่ในแอคชั่นชิ้นโต แต่ในเศษเสี้ยวเล็กๆนั้นเธอถ่ายทอดออกมาได้ให้คนดูรู้สึกถึงว่าเธอเองก็ห่วงหาอนาทรสามีของเธออยู่ทุกลมหายใจ

การเข้าคู่ของทั้งสองคนดูเหมือนว่าจะยาก เพราะต่างฝ่ายต่างมีความแรงในตัว เหมือนกับจับขั้วบวกหรือขั้วลบเหมือนๆกันมาเข้าคู่ แรกๆดูแล้วก็ยังไม่รู้สึกถึงความเข้ากันจนหนังเดินหน้าไปเรื่อยๆ เคมีที่ต่างฝ่ายต่าง(เสน่ห์)แรงก็เริ่มปรับเข้าหากันจนจูนกันติดดี และ ฉากเลิฟซีนที่ร่ำลือก่อนหนังฉายว่าร้อนแรงเหลือเกิน จนเป็นสาเหตุของปัญหาสมรสจริงของตัวสมิธชายกลับกลายเป็นความธรรมดาๆที่ไม่มีอะไรน่าจดจำ

...นอกจากนี้ผู้ที่มีบทบาทในการบำบัดให้คู่ผัวเมียสมิธมารักกัน ตบตีกันอย่าง Doug Liman ก็ยังคงมาตรฐานความเนี้ยบในงานแอคชั่นของตัวเองได้เป็นอย่างดี ฉากแอคชั่นและไล่ล่าทำได้อย่างมีระดับ เป็นการผสมผสานความเปรี้ยวจัดจ้านจาก Go และความหนักแน่นในจังหวะภาพยนตร์อย่าง The Bourne Identity มาผสมกัน ทำให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นหนังแอคชั่นที่โชว์ลีลา ชั้นเชิง ชนิดตั้งใจจงใจขายสินค้าคือความเท่ห์และสไตล์กันเต็มที่ (แค่ฉากสมิธหญิงโดดลงจากตึกชั้นบนท่ามกลางชุดหนังและเสื้อโค้ตสุดฮิป ก็กินขาดแล้ว) น่าเสียดายที่ผู้บำบัดชีวิตคู่สมิธอย่าง Doug Liman ไม่ได้มีบทที่มีรายละเอียดแง่มุมอื่นที่มากไปกว่าคู่นี้แถมยังให้ความสำคัญกับการขายทั้งคู่มากเสียจนองค์ประกอบอื่นๆกลายเป็นตัวประกอบที่ใช้ประโยชน์ได้อย่างไม่คุ้มค่า เมื่อไม่มีตัวผู้ร้าย ไม่มีภารกิจใหญ่ๆให้ต้องฝ่าฟันวางแผน

...หนังชีวิตคู่ที่เดินเรื่องด้วยฉากแอคชั่นก็เริ่มเฝืออยู่เรื่อยๆเพราะตัวเนื้อหนังเองมันแทบจะไม่มีแก่นเนื้ออะไรให้เล่นเพียงพอกับความยาวหนัง ยังดีที่สิ่งที่หนังต้องการขายนั้นหนังทำได้ถึงในระดับคุณภาพไม่ว่าจะเป็นการแสดง ตัวดารา สไตล์ของหนังและฉากแอคชั่นทั้งหลายแหล่ จึงทำให้คนดูที่คาดหวังว่าเป็นจะเป็นหนังแอคชั่นสุดมันส์ สามารถประคับประคองและยกระดับหนังให้เพลิดเพลินดูสนุกได้จนจบ

....ในโลกปัจจุบันที่เวลาแต่ละวันต้องจัดสรรปันส่วนไปกับสภาพสังคมที่ยุ่งเหยิงสับสน และเวลาในแต่ละวันล้วนหมุนเร็ว เวลาของชีวิตต้องแบ่งไปกับภาวะรถติด ภาวะหงุดหงิดจากที่ทำงาน การต้อนรับเจ้านายรุ่นพี่รุ่นน้อง การสังสรรค์กับเพื่อนพ้องหลังเลิกงาน การจัดการงานประจำวัน ฯลฯ

... มันนำไปสู่ปัญหาชีวิตคู่ที่ทวีปัญหามากขึ้นได้อย่างไม่ยากเย็น ชีวิตคู่จริงๆไม่ใช่นิยาย ไม่ใช่ภาพยนตร์ ที่จะมาพบว่าคนรักของเราเป็นสายลับแล้วจำเป็นต้องปิดบังเราอยู่ ไม่ใช่ว่าจะมาตบตียิงกันระบายในหนังแล้วจะรอดตายกลับมาจูบปากกอดคอได้ หลายคู่ที่ต้องลงเองที่เลิกรา จบลงที่ทำร้ายร่างกาย และไม่ได้มีโอกาสมา happy ending

...ชีวิตคู่เป็นอะไรที่ทั้งง่ายและยาก เส้นแบ่งของคนสองคนจะห่างออกไปเรื่อยๆ เมื่อต่างฝ่ายต่างอยู่ในโลกของตัวเอง และเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่เปิดใจพูดคุย หลายครั้งเมื่อรู้ตัวหรือมาคุยกันก็เมื่อเส้นของทั้งคู่นั้นออกห่าง จนกลายเป็นเส้นขนานไปแล้ว

ไม่ต่างจากความเหินห่างของอารมณ์ที่เกิดขึ้นในครอบครัวสมิธ อาหารที่กินตามเวลา นัดหมายที่ไปเพราะข้อตกลง คำพูดซ้ำๆชีวิตซ้ำๆ แม้แต่ความไม่พอใจ(ตอนที่สมิธชายไม่ชอบม่านของสมิธหญิง)หรือความชื่นชม(ตอนที่สมิธชายชมเสื้อสมิธหญิง)ยังไม่สามารถแสดงออกมาตรงๆแต่กลับสื่อผ่านออกมากับความเฉยชายิ่งทำให้ระยะห่างของทั้งคู่กว้างมากขึ้นทุกที ด้วยการใส่เสื้อคลุมของหนังแอคชั่นทำให้การคลี่คลายความขัดแย้งในชีวิตคู่ในจอแสดงออกมาในเชิงล้อเลียนสุดโต่ง

การเปิดเผยความจริงว่าตัวเองเป็นสายลับและบอกสิ่งที่ปิดบัง ก็เปรียบได้กับ การเปิดตัวเองเข้าหากัน การเปิดเผยตัวตน

การยิงกัน ขับรถชนกัน เข่นฆ่าชกต่อยกัน ก็เปรียบได้กับ การระบายความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจของแต่ละฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา

การออกจากองค์กรและมาปฏิบัติภารกิจสายลับร่วมกัน ก็เปรียบได้กับ การก้าวออกจากโลกส่วนตัวของแต่ละคนเข้ามาอยู่ในโลกใบเดียวกัน

การร่วมมือกันต่อต้านองค์กร ก็เปรียบได้กับ การประสานรอยร้าวและร่วมมือจัดการกับปัญหานอกครอบครัว

...ในชีวิตคู่จริงๆทั้งของเราและคนรอบตัวนอกจอภาพยนตร์ ขอเพียงแต่แต่ละฝ่ายตระหนักถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นและพร้อมที่จะยอมรับมันว่ามีปัญหาเกิดขึ้นแล้วก้าวออกมาช่วยกันประคับประคองซ่อมแซม ชีวิตคู่ที่มีปัญหาคงไม่ยากต่อการย่นระยะห่างของความรักของกันและกัน และไม่ยากต่อการคลี่คลายแบบสุดโต่งถึงขั้นต้องฆ่าฟันเหมือนกับครอบครัวสมิธ

สิ่งที่ชอบ

1.ฉากแอคชั่น.....ไม่พร่องลงเลยนับตั้งแต่The Bourne Identityกับการกำกับจังหวะฉากแอคชั่นที่หนังแอคชั่นขายสไตล์หลายเรื่องพยายามลอกเลียนลีลาMatrixไม่ว่าจะเป็นจังหวะสโลโมชั่นหรือมุมกล้องแปลกๆยากๆ แต่The Bourne Identityและเรื่องนี้ยังคงอาศัยลีลาแบบเก่าๆชกกันจะๆ ยิงกันดื้อๆ แต่สะใจและลุ้นแบบไม่ต้องโชว์อะไรให้มากมาย

2.ฉากยิงซีนสุดท้ายในห้าง...หนังทั้งเรื่องว่าขายสไตล์และเท่มากแล้ว มาเจอฉากนี้เข้าไปยิ่งเท่บาดจิตเข้าไปอีก เมื่อดนตรีขึ้นแล้วพาดไหล่กันยิง เป็นฉากที่โรแมนติก อาร์ตกิน ขอย้ำว่าเท่หลายๆ(หวนคิดถึงตัวอย่างจากเรื่องเดอะเมียที่ได้ดู คล้ายๆกันแต่ผมชอบเรื่องนี้มากกว่ากับการที่มันมีที่มาที่ไปก่อนจะมาถึงฉากนี้และจังหวะการเคลื่อนไหว+ความสามารถของดารา ทำให้ฉากนี้เป็นมากกว่าความเท่ แต่มันสะท้อนถึงการประสานความสัมพันธ์และเต้นรำต่อสู้ปัญหาร่วมกันของคู่รักในจังหวะชีวิตเดียวกัน)

3.การขายสไตล์และเสน่ห์....ทั้งจากดารา ไดอะล็อก ฉากแอคชั่น ฉากโชว์ลีลาทั้งหลายแหล่(หนีข้ามตึก/โดดลงจากตึกแล้วขึ้นแท็กซี่ฯลฯ) ทำให้ผมต้องคิดถึงหนังขายสไตล์อย่างOcean’s11/12 ที่จงใจขายเต็มที่ เรื่องนี้ก็เช่นกันกับการจงใจขายสิ่งต่างๆเหล่านี้เต็มที่และก็ทำออกมาได้ถึงดีมีคุณภาพโดนใจคนดู

4.การใส่เสื้อคลุมหนังแอคชั่นบนตัวตนของเรื่องชีวิตคู่....เป็นไอเดียที่เข้าท่าในการนำเสนอ เป็นอีกรูปแบบของหนังแอคชั่นและเป็นอีกรูปแบบของหนังชีวิตคู่ ทำให้ผมนึกถึงหนังของเอม ไนท์ ชมาลาน ที่ชอบเหลือเกินกับการนำเสื้อคลุมหนังสยองขวัญมาใส่บนตัวตนของเรื่องราวปรัชญาและชีวิต

5. Angelina Jolie….จริงๆแล้วก็อยู่ในข้อ3 แต่ส่วนตัวแล้วเริ่มชอบเธอมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เดิมที่คิดว่าเธอคงมีดีแค่ความเป็นSex appealจากรูปร่างหน้าตา(จริงๆแล้วก็ฉายแววความสามารถตั้งแต่Giaแล้วก็เงียบไปในเรื่องฝีมือ) เดี๋ยวนี้ยิ่งได้ดูหนังที่เธอเล่นและเห็นพัฒนาการทั้งจากบทนำหรือบทประกอบยิ่งทำให้อยากดูหนังเรื่องถัดไปของเธอ จนเป็นดาราอีกคนที่ผมเริ่มอยากจะดูหนังเรื่องหนึ่งเพราะชื่อนักแสดง

สิ่งที่ไม่ชอบ

1.ความรู้สึกเฝือ....เป็นทั้งจุดเด่นและจุดด้อยในตัวกับการควบสองบทบาททั้งหนังแอคชั่นและการเน้นเรื่องราวของชีวิตคู่ เพราะการเน้นในส่วนหลังทำให้หนังไม่มีภารกิจชัดๆ ไม่มีตัวผู้ร้ายใหญ่ๆให้สมศักดิ์ศรี ก็เลยลดหย่อนความสนุกของความเป็นหนังแอคชั่นที่ดีลงไป ในขณะเดียวกันการจับเรื่องราวที่น่าจะไปอยู่ในหนังดราม่ามาใส่หนังแอคชั่นก็จำต้องลดหย่อนเนื้อความของความเป็นดราม่าลงโดยอัตโนมัติ(ความหนักแน่น ความน่าเชื่อถือ ปมขัดแย้งในจิตใจ)เพื่อให้พื้นที่กับความเป็นแอคชั่น ผลรวมออกมาทำให้เนื้อเรื่องในครึ่งแรกหนังทำได้ดีสนุกแสบๆคันๆมันส์ๆไปได้เรื่อยๆแล้วพอพักหนึ่งหลังจากตามไล่ต้อนกันมันก็เริ่มเฝือเพราะเนื้อความในครึ่งแรกมีแค่การตามต้อนกันและกัน พอเข้าสู่ครึ่งหลังการที่ไม่มีตัวผู้ร้ายหลักมีแต่ลูกสมุนกระจอกๆมาให้ฆ่า แรกๆก็รู้สึกเข้าท่ากับการเห็นรูปแบบการบำบัดชีวิตคู่ด้วยการเปิดเผยตัวตนท่ามกลางกระสุนปืนพอดูๆไปซักพักกลับรู้สึกเฝือๆเหมือนครึ่งแรกคือหนังไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน เนื้อความของครึ่งหลังมีแค่การต่อสู้เพื่ออยู่รอด ดีที่รายละเอียดอื่นๆของหนังมันเด่นและทำได้ดีทำให้เพลิดเพลินไปได้จนจบ

2.การใส่ใจตัวละครอื่นน้อยเกินไป....เข้าใจว่าทั้งสองดารานำเป็นจุดขายที่ใครๆก็อยากดู แต่อย่าลืมว่าการที่ตัวละครประกอบอื่นๆถูกกลบไปสิ่งที่เด่นจริงคือตัวเอกแต่กับตัวหนังแล้วมันจะไม่เป็นผลดีเพราะความเด่นของตัวละครเอกจะโดดออกมาจากเอกภาพของหนังทั้งเรื่อง หากแต่ถ้าตัวละครรองๆนั้นเด่นในความเป็นพระรองไม่เพียงแต่จะเสริมตัวละครเอกมันยังจะเป็นการเสิรมเรื่องราวและภาพรวมของหนังได้มากขึ้น ในเรื่องนี้บทที่ตัวละครอื่นๆรับมันดูกระจอก ไร้บทบาท เป็นการนำดาราคนอื่นมาประกบโดยไร้ค่าแบนราบขาดมิติโดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นตัวสมุนต่างๆนานาที่มาให้ถูกฆ่า ตัวละครเพื่อนนางเอก เพื่อนพระเอก แถมยังทิ้งตัวละครอื่นๆไปซะง่ายๆเช่นตัว Vince Vaughn ที่เล่นขโมยซีนได้ดีแต่การมีบทบาทของเขาทำหน้าที่แค่พูดๆและพูด แรกๆก็ขำหลังๆเริ่มน่าเบื่อ และคงเป็นเพราะสาเหตุนี้ที่ผู้สร้างไม่รู้ว่าจะเอาตัวละครตัวนี้มาทำอะไรต่อด้วยที่แรกเริ่มไม่ได้สร้างภาพที่ชัดเจนของตัวละครจึงตัดทิ้งไปดื้อๆ

สรุป.....ไม่เสียดายตังค์ โดยส่วนตัวแล้วออกจะชอบและเพลิดเพลินอยู่ไม่น้อย เป็นหนังชีวิตคู่แท้ๆแต่ใส่เครื่องเคราหนังแอคชั่น แถมเป็นแอคชั่นโชว์สไตล์อีกต่างหาก มีผิดหวังอยู่บ้างตรงที่คาดไว้ว่าจะเป็นหนังแอคชั่นพันธุ์แท้มีภารกิจต้องคลี่คลายเลยไม่สนุกถึงใจในอารมณ์นั้น แต่เมื่อออกมารูปแบบนี้ก็เข้าท่าอยู่(คงตรงข้ามกับหลายคนในโรงที่ดูรอบเดียวกันเห็นทำหน้าเซ็งๆตอนออกจากโรง กับอีกคนที่หันไปบอกคนที่ดูด้วยกันว่าอะไรเนี่ย จบแล้วเหรอ)



ติดตามบทความใหม่ๆ หรือ บทความน่าสนใจ หรือ เริ่มต้นอ่านBlogนี้มีข้อสงสัย คลิกไปเริ่มต้นที่ --> หน้าแรก


รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง




ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป


Create Date : 12 มิถุนายน 2548
Last Update : 10 เมษายน 2549 0:47:18 น.
Counter : 6427 Pageviews.

33 comments
สลัดโรลไส้กรอก - ปูอัด (10.1.2568) ฟ้าใสวันใหม่
(10 ม.ค. 2568 09:16:18 น.)
Volkswagen Beetle GSR Zamak (Majorette) kid^_^
(2 ม.ค. 2568 14:47:32 น.)
รวมธรรม14 นาฬิกาสีชมพู
(12 ม.ค. 2568 07:41:17 น.)
#สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ newyorknurse
(12 ม.ค. 2568 00:10:07 น.)
  
อยากดูอ่ะ
โดย: แม่สาย วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:1:01:41 น.
  
ดูแล้วครับ... ผมกลับไม่ค่อยชอบเรื่องนี้เอาซะเลยอะพี่...

ไม่รู้สินะ ผมรู้สึกว่าบางจุดบางตอนมันขาดๆ เกินๆ ไปซะเยอะ... อย่างพวกหุ่นยนต์ที่มันไฮเทคเกิน แล้วมาแบบ ฉากเดียวจบ...

แล้วแบรด พิตต์ ดูไม่ค่อยเหมาะกับบทนี้ด้วย ไม่รู้ว่าเพราะอะไร... เหมือนกับอยากให้บทนี้เป็นของคนอื่นมากกว่าแบรด พิตต์... อาจจะเป็นอคติส่วนตัว เพราะไม่ค่อยชอบหน้าแบรด พิตต์เท่าไหร่...

สรุปคือ ผมว่าผมผิดหวังกับเรื่องนี้นะ...
โดย: nanoguy IP: 203.151.140.117 วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:1:09:39 น.
  
ผมล่ะอยากดูมากเลยครับ เท่าที่ฟังมาดูท่าจะเข้าทางไม่น้อย แต่ไม่รู้จะมีเวลาไปดูเหมื่อไหร่อ้ะดิคับ
โดย: หมื่นทิพ TRAVOLTA (เทพบุตรตบะแตก!! ) วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:3:46:05 น.
  
ชอบอ่ะ หนุกดี
โดย: estrella วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:4:27:27 น.
  
อยากดูนะ..
โดย: zaesun วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:5:00:32 น.
  


ดูมาแล้ว และ ชอบมาก โดยเฉพาะมุขตลกร้ายๆ





ถึงแม้จะมีจุดที่ไม่ชอบอยู่บ้าง

แต่รวมๆ แล้วสนุกสะใจดี

// รู้สึกว่า แบรด พิทท์ ไม่ค่อยเหมาะกับบทนี้เท่าไหร่
โดย: มัชฌิมา วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:14:45:57 น.
  
ยังไม่มีโอกาสไปดูเลยง่ะ ช่วงนี้การเงินไม่ค่อยคล่องง่ะ
โดย: BedRoom วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:20:01:58 น.
  
อยากดูอ่ะค่ะเรื่องนี้
โดย: prncess วันที่: 12 มิถุนายน 2548 เวลา:22:09:24 น.
  
ตามมาอ่านค่ะ

คาดว่า..เรื่องนี้อาจรอเป็นแผ่นน่ะค่ะ
(เดือนนี้งบเอนเตอร์เทนโอเวอร์ไปเยอะมากแล้วง่ะ เลยดูในโรงไม่ได้ค่ะ)
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 13 มิถุนายน 2548 เวลา:13:58:39 น.
  
ไปดูมาแล้วเมื่อเสาร์ที่ 11 การดูหนังที่ผ่านๆมาเป็นคนกลุ่มน้อยที่ดูแล้วตอบได้แต่เพียงว่าสนุกหรือไม่สนุก แต่เมื่อได้แวะมาบล็อกนี้บ่อยๆ ทำให้เอาหัวข้อต่างๆในบล็อกนี้ไปนั่งคิดเวลาดูหนัง รู้สึกว่าดูได้คุ้มค่ากว่าทุกครั้งที่ไปดูเพราะได้มากกว่าคำว่าสนุกหรือไม่สนุก แต่ก็แอบถามเพื่อนที่ไปด้วยกันอยู่ดีว่าพระเอกหล่ออะชื่อไรหรอ :(
เป็นหนังเรื่องแรกที่รู้ชื่อพระเอกนางเอก ;)
ขอบคุณเจ้าของบล็อกที่ทำให้เงินค่าตั๋วมีค่ามากขึ้นค่ะ
ชอบประโยคที่ Smith ชายพูด "เมื่อมาถึงจุดจบ มักนึกถึงจุดเริ่มต้น"
โดย: ต๋องตึง วันที่: 13 มิถุนายน 2548 เวลา:15:47:43 น.
  
ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ แต่ก็เดาเรื่องไว้ประมาณที่เล่าค่ะ
โดย: MDA วันที่: 14 มิถุนายน 2548 เวลา:19:39:06 น.
  
ต๋องตึง ....ด้วยความยินดีเลยครับที่มีส่วนในการเพิ่มคุณค่าเงินในการเสียงเงินดูหนังไป

ท่านอื่นๆ..ส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยได้ดูกันเนาะ มีหลายกระแสเสียงทั้งชอบและไม่ชอบปนๆกันครับเรื่องนี้ เรียกได้ว่าถ้าคาดหวังแอคชั่นพันธุ์แท้โอกาสผิดหวังนี่สูงทีเดียว
โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 16 มิถุนายน 2548 เวลา:23:18:30 น.
  
แวะมาอ่านครับ
โดย: joblovenuk IP: 203.121.150.7 วันที่: 17 มิถุนายน 2548 เวลา:13:31:57 น.
  
ดูมาแล้ว ก้อสนุกดีนะคะ เหมือนไปดูผัวเมียทะเลาะกัน 555 แต่เรื่องนี้ ดูเอาเพลินๆ ดูนางเอกอย่างเดียวก้อคุ้มแระ เซ๊ะซี่ดีจิงๆ
โดย: ~~~ IP: 203.155.94.129 วันที่: 18 มิถุนายน 2548 เวลา:15:41:14 น.
  
ดูพอขำ ขำก็ โอนะ
Jolie ดูดีมากเลยในเรื่องนี้สวยมากกว่าทุกๆที
แย่งซีน Brad Pitt ไปหมดเลย


ดุเอามันส์ได้อะ
แต่น่าจะมีอารมณ์ Drama มากกว่านี้
โดย: tong IP: 202.28.181.8 วันที่: 19 มิถุนายน 2548 เวลา:11:16:53 น.
  
ตอนสุดท้ายนี้ เค้าสู้อยู่กับใครอ่ะครับ แล้วสู้ทำไมอ่ะ

ผมดูไม่ค่อยรู้เรื่อง
โดย: วิน IP: 61.91.225.30 วันที่: 19 มิถุนายน 2548 เวลา:17:32:33 น.
  
วิน....ทั้งคู่ต่างถูกองค์กรตัวเองตามมาเก็บเพราะทั้งคู่อยู่คนละองค์กรกัน หนังไม่ได้ชี้ชัดว่าฝ่ายที่มาเก็บเป็นใครแม้แต่หน้าตาหรือตัวหัวหน้าเราก็ไม่เห็น แต่ในเชิงนามธรรมก็คือการจับมือร่วมมือกันของคู่สามีภรรยาในการรับมือกับปัญหาจากนอกครอบครัว
โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 22 มิถุนายน 2548 เวลา:12:44:32 น.
  
เข้ามาลงชื่อ...
สุดท้าย ความรักชนะ อิอิ

=)
โดย: ฮัน (hunjang ) วันที่: 27 มิถุนายน 2548 เวลา:8:10:00 น.
  
ดูตั้งแต่เข้าวันแรกเลย
สนุกมาก ขำดีตอนที่ไปเจอ ท้ายๆ
แต่ยอมรับว่าฉากแอ๊คชั่นเท่ มากๆๆ
ถ้าเปลี่ยน จาก jolie เป็น kidman ไม่รู้จะเป้นยังไง
โดย: นางสาว ภูมิใจ วันที่: 16 กรกฎาคม 2548 เวลา:5:35:03 น.
  
ไปดูเอามันจริงๆเรื่องนี้ อยากดูความเซ็กซี่ของโจลี่ด้วยแหละ อิอิ
แต่ไม่ผิดหวังนะ เพราะไม่ได้หวังอะไรมาก

แต่ชอบที่คุณเขียนวิจารณ์จัง วิเคราะห์ได้ดีจังเลย

แต่ว่าไม่ชอบช่อง comment นี่เลยครับ ผมใช้ Firefox ตัวหนังสือมันเป็นสีดำอ่ะ...
โดย: dogdoy IP: 65.5.244.254 วันที่: 9 สิงหาคม 2548 เวลา:17:04:08 น.
  
อยากดูค่ะ
โดย: nam IP: 203.113.70.11 วันที่: 19 กันยายน 2548 เวลา:11:37:38 น.
  
ขอบคุณที่ช่วยมีคำวิจารณ์หนังดีๆให้อ่านนะคะ
โดย: nam IP: 203.113.70.11 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2548 เวลา:13:57:14 น.
  
^
^
ด้วยความยินดีครับ ขอบคุณผู้อ่านเช่นกันครับ
โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 13 พฤศจิกายน 2548 เวลา:1:55:24 น.
  
ตั้งใจไว้ว่า "น่าจะสนุกกว่านี้" น่ะ
โดย: ncm IP: 58.8.26.152 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2548 เวลา:2:39:40 น.
  
เซ็กซี่หาที่เปรียบมิได้ อูวววว์ โจลี่หลายเด้อ...
โดย: Phantom IP: 58.147.48.197 วันที่: 3 ธันวาคม 2548 เวลา:1:01:30 น.
  
ดูแล้ว ชอบ
โดย: ... IP: 221.128.114.37 วันที่: 3 ธันวาคม 2548 เวลา:17:35:08 น.
  
ชอบมาก โดยเฉพาะมุขตลกร้ายๆ
โดย: anna IP: 24.128.35.242 วันที่: 3 ธันวาคม 2548 เวลา:22:03:23 น.
  
สนุกสุดๆ เสียดายไม่ได้ดูในโรง โจลี่สวยสุดฤทธิ์
โดย: as IP: 203.149.61.130 วันที่: 7 ธันวาคม 2548 เวลา:13:51:33 น.
  
You are so cool ! นะ :)
โดย: praewjang IP: 202.139.198.105 วันที่: 13 เมษายน 2549 เวลา:10:08:24 น.
  
ดี
โดย: ดูมาแล้ว IP: 125.24.75.63 วันที่: 23 เมษายน 2549 เวลา:22:21:58 น.
  
ถ้าอ่าน Man from mars weman from Venus ก็จะเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้นอ่ะ
โดย: MaJin IP: 58.64.104.212 วันที่: 4 ตุลาคม 2549 เวลา:8:25:27 น.
  
ชอบแบรดน้อยลง เมื่อมีโจลีค่ะ ฮ่าฮ่า
โดย: katt1963 IP: 110.164.25.58 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:58:53 น.
  
โดยส่วนตัวแล้วชอบเรื่องนี้มากพอควรเลยค่ะ
เนื่องจากเป็นคอหนังแนวโรแมนติกและแอคชั่นอยู่แล้ว
เรื่องนี้ก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว ชอบฉากบู๊ ชอบฉากสวีท ที่ทำให้อารมณ์ไม่สะดุดเลยตอนที่ยิงกันที่บ้านจนเละไปหมด แต่สุดท้ายก็ตบด้วยสวีทกันหวานแหวว
ฉากบู๊ที่ชอบที่สุดก็คงจะเป็นฉากที่อยู่ในห้างนั่นแหละ สื่อให้เห็นว่าการต่อสู้ไปพร้อมกับคนรักเนี่ย มันเจ๋งกว่าต่อสู้ไปคนเดียว
สุดท้ายก็คงชอบมุกแอบทะเล้นของหมอจิตแพทย์ที่ถามเรื่องบนเตียง ..5555
โดย: นิว IP: 124.120.126.3 วันที่: 21 สิงหาคม 2553 เวลา:21:08:09 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aorta.BlogGang.com

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]

บทความทั้งหมด