....ผมประเดิมหนังเรื่องแรกของปีนี้ที่โรงสกาล่ารอบ17.30น. ด้วยหนังของผู้กำกับชื่อJon Turteltaub ที่หลายคนอาจจำชื่อเค้าไม่ได้แต่ถ้าบอกว่าหนังที่เค้ากำกับคือ Cool Runnings /PhenomoenonและThe Kid คงพอจะนึกกันออกว่าเค้าเป็นผู้กำกับที่ความสามารถในการทำหนังในลักษณะดรามานุ่มนวลได้ดีเพียงใด และเป็นที่น่าสนใจว่าถ้าให้เค้ามากำกับหนังactionภายใต้ปีกของJerry Bruckheimer(ผู้สร้างหนังที่หนังไม่ว่าจะเปลี่ยนผู้กำกับมากี่คนก็ดูเหมือนจะสลัดกลิ่นอายของเค้าไม่พ้นอยู่ดีนับตั้งแต่The rockเป็นต้นมา มีเพียงแค่โจรสลัดแห่งคาริบเบียน ที่ดูเหมือนจะทำออกมาได้สนุกเป็นตัวของตัวเอง) หนังจะออกมาเป็นอย่างไร
....หนังทำออกมาในแนวของDavinci's code หรือปริศนาสมบัติพระศุลีอื่นๆที่มีปมปริศนาให้พระเอกแก้นำไปสู่ขุมสมบัติก้อนโตที่แอบซ่อนไว้ จะว่าไปแล้วหนังได้มีอะไรที่แปลกหรือแตกต่างโดดเด่นไปจากหนังแนวเดียวกันนี้ที่ผ่านๆมาเลย(ดูไปก็คล้ายๆกับIndianaJonesภาค3ซะอีกแต่เป็นว่าเรื่องเกิดในเมืองใหญ่และทันสมัยขึ้น) อีกทั้งถ้าใครได้อ่านDavinci's codeมาแล้วก็จะพบว่ามีความคล้ายคลึงกันอยู่หลายจุดทีเดียวทั้งในแง่ของ ทฤษฎีสมคบคิด(Conspiracy theory) / สมาคมลับ / ปริศนาที่ซ่อนไว้ การแก้ การอ่านลายแทง
.....แต่สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้โดดเด่นออกมาและประสบความสำเร็จน่าจะเป็นจากการที่หนังมีส่วนประกอบสำเร็จรูปที่คุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นงานสร้างที่มาจากทีมงานคุณภาพของJerry Bruckheimer+ดนตรีประกอบ(ที่ฟังแล้วก็เดาได้ไม่ยากว่าเป็นหนังของใครตั้งแต่TheRockมาผมฟังแล้วก็คล้ายๆกันทุกที)+ทีมดาราคุณภาพคับคั่ง(น่าแปลกใจที่ได้พบกับHarvey Keitel) และที่สำคัญที่สุดของหนังพึงมีคือ หนังทำได้สนุกในระดับหนึ่งทีเดียว
สิ่งที่ชอบ 1.เพลิดเพลิน....หลังจาก10นาทีที่น่าเบื่อผ่านไป คือหลังจากพระเอกเริ่มเข้าไปขโมย หนังก็เดินเรื่องไปได้อย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน อาจไม่ถึงกับทำให้ละสายตาหน้าจอไม่ได้แต่ก็อยู่ในระดับเพลินไปโดยไม่รู้ตัว เช่น ฉากแย่งตัวนางเอกจากรถอีกคัน ก็เป็นฉากซ้ำเดิมแต่ดูแล้วก็เพลินๆดี
2.Diane Kruger
....เรื่องนี้เธอดูงามอย่างมีคุณค่าจริงๆ คือสวยแบบดูฉลาด และเริ่มดูมีสีหน้าต่างจาก2เรื่องที่ผ่านมาคือTroyและWickerParkเพราะทั้ง2เรื่องนี้เรื่องแรกเธอดูสวยแบบมีหน้าอยู่แบบเดียวตลอดทั้งเรื่อง และน่าสนใจว่ากับเรื่องถัดไปเธอจะติดกับตัวเองเหมือนดาราหลายคนหรือไม่ที่เล่นหนังกี่เรื่องๆก็ไม่สามารถเป็นตัวละครนั้นได้แต่เป็นตัวเองอยู่ตลอดเวลา(เช่น tom cruiseกับหนังหลายเรื่องของเค้า หรือ ดาราบ้านเราก็ติ๊ก เจษฎาภรณ์เป็นต้น)
3.ถอดรหัส....ก็สนุกดีกับการคอยแก้รหัสไปเรื่อยๆเหมือนเล่นเกมส์
4.Nicolas Cage...ผมว่าเรื่องนี้เค้าเล่นได้ดีพอสมควรนะ ไม่overactingมากเหมือนหนังแอคชั่นหลายเรื่องที่เค้าเคยเล่น จริงๆเป็นดาราคุณภาพคนนึงแต่ผมมักจะรู้สึกว่าแกoveractingมากเกินไปหน่อย แต่ในช่วงหลายปีหลังกับการแสดงของเค้าผมประทับใจสุดๆแค่จากMatchstick Men
สิ่งที่ไม่ชอบ 1.มุขตลก....มันน่าจะดีกว่านี้นะอุตส่าห์พิถึพิถันในหลายส่วนได้เป็นอย่างดี ในส่วนของมุขตลกเล็กๆน้อยๆที่ใส่เข้ามา มันดูไม่เฉียบคมและฝืดๆอยู่เยอะเหมือนกัน
2.10นาทีแรก....ค่อนข้างน่าเบื่อและไม่น่าติดตามเท่าไหร่
สรุป......เป็นหนังที่ให้ความสนุกในระดับหนึ่ง จะเรียกว่าสนุกแบบฺBruckheimerก็น่าจะได้ แต่ก็ต้องอาศัยการคิดร่วมด้วย หลายคนที่ไม่ชอบการเล่นถอดรหัสอาจไม่เพลินกับหนังเรื่องนี้มากนักเพราะหนังไม่ได้มีฉากแอคชั่นที่มากมายแต่ส่วนใหญ่เป็นการแก้ปริศนามากกว่า เป็นอีกหนึ่งเรื่องน่าที่ผมรู้สึกว่าหนังน่าจะทำได้สนุกกว่านี้อีกทั้งๆที่มีสูตรสำเร็จและองค์ประกอบชั้นดีต่างๆที่มีในมือ (ตัวอย่างหนังแนวนี้ที่ผมรู้สึกว่าทำได้ถึงกับคำว่าสนุกมาก สนุกจริงๆ ทั้งที่เป็นสูตรสำเร็จในปีที่ผ่านมาคือ Pirates of the caribbian )
ปล...เดือนมกราคมเป็นเดือนนี้เป็นเดือนของหนังดีจริงๆ Closer เป็นเรื่องที่ผมอยากดูมากที่สุด และสัปดาห์นี้ทั้งBirth (ตอนแรกว่าไม่น่าดูแต่ตัวอย่างอันสุดท้ายทำออกมาได้น่าดูจริงๆ) และ Forgotten ก็เป็นเรื่องที่ผมคงไม่พลาด "ไปเกิด" หรือ "ไปลืม" ก่อนดีกว่ากันครับ
ปล2..อยากบอกว่าผมอยากดูThe Manchurian Candidate ในโรงจัง จะมีโอกาสมั้ยครับเนี่ยกับเรื่องนี้รอจนเห็นแผ่นแคสเปอร์ออกมาหลายทีแล้ว
4/1/2005