Charlotte's Web , มิตรภาพไม่ได้มีราคา


...ผมรู้สึกเชยสะบัด เมื่อรุ่นน้องรอบตัวผมล้วนเคยอ่าน แมงมุมเพื่อนรัก เป็นหนังสือนอกเวลาสมัยเรียนตอนเด็กๆ เพราะผมไม่คุ้นเลยว่าเคยผ่านตาหนังสือเล่มนี้ นึกย้อนไปที่จำได้ดีสุด ดูอินโนเซนท์สุด ก็มีแค่ นิกกับพิม อีกเล่มที่จำฝังใจ คือ ตอนม.3 ที่อาจารย์ดันเลือก หนังสือประเภทเลือดท่วมพื้น อย่าง คดีฆาตกรรมโรเจอร์แอคครอยด์ ให้เป็นหนังสือนอกเวลาภาคบังคับให้เด็กนักเรียนต้องงุนงง (โชคดีที่สมัยก่อน ผมเป็นแฟนของอกาธา คริสตี้มาก่อนแล้ว)

นึกอิจฉา ที่ใครๆก็เคยเสียน้ำตา กับ แมงมุมเพื่อนรัก ดังนั้นเมื่อรู้ว่าหนังเข้าฉาย ผมจึงไม่รอช้า ตัดสินใจไปคว้าหนังสือต้นฉบับมาอ่านควบคู่กับการดูหนัง หวังจะซึมซับความซาบซึ้งและคุณค่าของวรรณกรรม ที่แม้แต่นิตยสาร Time ในปี 1999 ยังยกย่องให้เป็นหนังสือเด็กที่ดีที่สุดในศตวรรษ

เมื่อได้หนังสือมา ผมตัดสินใจอ่านไปครึ่งเล่มแล้วพักไว้ก่อน ด้วยกลัวว่ารู้ หากตอนจบอาจจะเสียอรรถรส พอดูหนังจบจึงกลับมาอ่านครึ่งเล่มหลัง แล้ว ก็ไม่แปลกใจที่ใครต่อใครยกย่องหนังสือเล่มนี้ ไม่แปลกใจ ที่ใครหลายคน ต้องเสียน้ำตาให้กับเรื่องราวของ วิลเบอร์ และ ชาร์ลอตต์



...วิลเบอร์ ช่างโชคดี ที่ได้รู้จัก เฟิร์น เด็กหญิงตัวน้อยที่ช่วยให้มันรอดพ้นการถูกเชือดไปทำอาหารอย่างหวุดหวิด และ เปิดโอกาสให้มันได้พบเพื่อนใหม่ๆอีกหลายตัวในโรงนา

...วิลเบอร์ ช่างโชคร้าย ที่ถึงจะรอดในตอนแรก แต่ชะตากรรมของ หมู(pig) ส่วนใหญ่ ในท้ายที่สุด คือ การแปรสภาพไปเป็นอาหาร(pork)ให้กับคนเลี้ยง

วิลเบอร์ เหมือน พลพรรคหมูทั่วโลก ที่หมดสิทธิอ้อนวอนร้องขอโชคชะตา เพราะ มนุษย์จะรับรู้แค่ว่า มันร้อง อู๊ดๆ อยู่อย่างเดียว

มนุษย์ใช้ชีวิตตามปกติธรรมดาอย่างเราๆ คงไม่ค่อยได้นึกถึงว่า เพื่อนร่วมโลกอย่าง วิลเบอร์ เองนั้น ก็อยากที่จะมีชีวิตยืนยาว ไม่ทันได้นึกถึงว่า วิลเบอร์ เองก็อยากมีโอกาสได้เห็น หิมะในฤดูหนาว เหมือน คน(และสัตว์ตัว)อื่นๆ

...ชะตากรรมของหมูมักตกอยู่ในเงื้อมมือผู้เลี้ยง แต่ วิลเบอร์ มีชีวิตอยู่ในวรรณกรรมของ อี.บี.ไวท์ ชะตากรรมของมันจึงต่างจากหมูทั่วๆไป

มันได้เรียนรู้และเติบโตมากไปกว่า ใช้ชีวิตกินและนอนรอเป็นเบคอนให้กับคนเลี้ยง และ ชะตากรรมที่อยู่รอดของมัน ส่วนหนึ่งก็เพราะ อี.บี.ไวท์ เขียนให้มันได้รู้จัก เฟิร์น และ ชาร์ล็อตต์

...ชาร์ล็อตต์ สัตว์รูปร่างหน้าตาน่ากลัว ใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยว ใครต่อใครล้วนแขยงแหนงหนีไม่ยอมคบไม่กล้าเข้าใกล้ ขนาด เทมเปิลตัน หนูจอมเห็นแก่ตัว ยังมีสัตว์ตัวอื่นยอมเสวนากล้าคุยใกล้ๆ

วิลเบอร์ไม่เข้าใจว่า ทำไม ชาร์ล็อตต์ แมงมุม ในโรงนาถึงให้ความสำคัญและมุ่งมั่นช่วยเหลือ ทั้งที่ ตัวมันเองไม่เคยให้อะไรเธอเลย

วิลเบอร์ไม่รู้หรอกว่า มันได้ ‘ให้’ อะไรบางอย่าง กับ ชาร์ล็อตต์ตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว

เธอ ได้รับ บางอย่าง จากวิลเบอร์ ดั่งที่ เธอตอบไว้ในหนังสือว่า

“ ก็เธอเป็นเพื่อนฉันไง นั่นเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ฉันชักใยให้เธอก็เพราะฉันชอบเธอ ยิ่งไปกว่านั้น ชีวิตคืออะไร เราต่างเกิดมามีชีวิตอยู่ในระยะเวลาอันสั้น ไม่ช้าก็ตายไป ... การที่ฉันได้ช่วยเธอ ทำให้ชีวิตของฉันมีค่ายิ่งขึ้น”


...สำหรับ วิลเบอร์ แม้ โชคชะตาจะหนักหนาสาหัสจนเกินจะรับมือ การมีใครสักคน ยื่นมือมามอบ “มิตรภาพ” ให้ ก็ทำให้ โลกที่เหมือนจะสิ้นหวังตีบตันไร้ทางออก ก็พลันเหมือนมีแสงสว่างส่องอยู่ตรงปลายทาง

...สำหรับ ชาร์ล็อตต์ แม้ ชีวิตจะอยู่อย่างเดียวดายเหมือนไร้คุณค่า แต่ เมื่อมีใคร หยิบยื่น "มิตรภาพ" ให้มา ก็ทำให้สัมผัสถึงคุณค่าและการมีตัวตนในโลกใบนี้

มิตรภาพ ไม่ได้มีราคาค่างวด ไม่ต้องจ่ายเงินทองเพื่อให้ได้มา มีเพียงสิ่งเดียวที่ควรค่ากับการแลกมิตรภาพ คือ การมอบ มิตรภาพ ตอบแทน


...ชาร์ล็อตต์ สัญญาว่า เธอจะช่วยให้วิลเบอร์ไม่ถูกแปรสภาพเป็นอาหารมนุษย์ เธอสัญญาว่า วิลเบอร์ จะมีโอกาสได้เห็น หิมะในฤดูหนาว เธอบอกไว้ว่า คำบางคำ สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้

แม้สุดท้าย วิลเบอร์ จะรอดพ้นการถูกเชือดด้วย “คำ”ต่างๆเหล่านั้น แต่ใน ความเป็นจริงแล้ว เราต่างก็รู้ว่า คำ ไม่ใช่ ปัจจัยสำคัญที่ช่วย วิลเบอร์

หากชาล็อตต์ไม่หยิบยื่นความช่วยเหลือ ใช้ชีวิตไปวันๆเหมือนสัตว์ตัวอื่นๆ หากเธอไม่ทุ่มชีวิตชักใยจนอ่อนล้า หรือ หากเทมเปิลตันเห็นแก่ตัวไม่เลิกราไม่คิดกลับใจ หากเพื่อนร่วมโรงนาไม่ช่วยกันคิดวิธีช่วยเหลือหา คำเหล่านั้น
ต่อให้มี คำ ที่เด็ดดวงเพียงใด วิลเบอร์ ย่อมกลายเป็น หมูหัน วันยังค่ำ

แล้ว คนดูก็จะได้รับรู้ไปพร้อมๆกับ วิลเบอร์ ว่า

คำบางคำอาจเปลี่ยนแปลงโลกได้แค่ชั่วคราว แต่ มิตรภาพและความจริงใจ สามารถเปลี่ยนโลกทั้งใบของเราไปได้ตลอดกาล




...เชื่อว่า Charlotte's Web ทำให้คนดูผู้ใหญ่หลายๆคน ได้สัมผัสถึงบางอย่างที่หายไป เป็นอาการเดียวกับที่หมอโดเรียน บอกกับ แม่ของเฟิร์นในหนัง ตอนที่แม่ไม่เชื่อว่าลูกสื่อสารกับสัตว์ในโรงนาได้

หนังช่วยให้เราสัมผัส ความเป็นเด็ก ที่เคยมีและทำมันสูญหายไป

เรากำลังหลงลืม ความเป็นเด็ก (childhood phase) ที่เคยมีในตัวเอง ความเป็นเด็กที่เมื่อโตขึ้นมันก็หายไปตามช่วงวัย และทำให้ จากเคยมองโลกอย่างบริสุทธิ์งดงาม หรือ จินตนาการทั้งหลาย ถูกลิดรอนเนื้อที่ ด้วย ความรู้หรือข้อมูลข้อเท็จจริง

ผู้ใหญ่มักมองโลกผ่านเลนส์ที่แตกต่างออกไป เลนส์ที่ถูกจำกัดกรอบความคิด ทำให้ เรามองเห็นทุกอย่างจริงจัง เราไม่เห็นสิ่งที่เด็กเห็น และ หลายครั้งก็ทำให้เราพลาดความงดงามจากจินตนาการที่เคยมีไปอย่างน่าเสียดาย

ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์พันธุ์แท้ ยังเคยกล่าวไว้ว่า “จินตนาการนั้นไซร้ สำคัญ สำหรับมนุษย์มากกว่า ความรู้” เพราะ เมื่อเราใช้ชีวิตอย่างไร้จินตนาการ เราจะพบว่า มันช่างจำเจ แห้งแล้งและไร้ชีวิตชีวา และ ชีวิตที่สูญเสียความเป็นเด็กไปโดยสิ้นเชิงนั้น ก็ทำให้ เราต้องรู้สึกเคร่งเครียดกับชีวิต และ แก่ไว้กว่าที่คิด

...ตัวหนังดัดแปลงจากหนังสือได้ในระดับที่เรียกว่าดีมาก แม้อารมณ์ซาบซึ้งจะไม่เท่ากับตัวหนังสือ นั่นก็คงเป็นเพราะมาจากสื่อ คนละชนิด

...Charlotte's Web เป็น หนังที่ผมจัดอยู่ในกลุ่ม พ่อแม่ ‘น่าจะ’ หรือ ‘ควรจะ’ จูงมือเด็กๆเข้าไปดูด้วยกันเพราะ ไม่ใช่แค่ว่า หนังไม่มีพิษมีภัย ไม่ใช่แค่เป็น หนังที่เด็กๆดูแล้วสนุกเพลิดเพลิน Charlotte's Web ยังเป็น หนังที่มีคติสอนใจหลายอย่าง เป็นหนังที่สามารถช่วยสอนและช่วยกล่อมเกลาจิตใจของเด็กให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่อ่อนโยนและมีเมตตา

แล้วเราจะพบว่า หนังบางเรื่อง ทำหน้าที่ ได้มากกว่า ให้ความบันเทิง มิหนำซ้ำอาจจะได้เปรียบ สื่ออื่นๆอย่าง หนังสือก็ตรงที่ว่า เราสามารถเริ่มต้นและจบเนื้อหาไปพร้อมๆกับเด็กภายในเวลาอันสั้น อีกทั้ง พ่อแม่หรือผู้ปกครอง ยั่งสามารถนั่งดูไปพร้อมกับคุยข้อคิดที่ได้กับเด็กๆ(ที่บ้าน) หรือ เดินออกจากโรงหนังแล้วกลับมาคุยกันถึงสิ่งดีๆที่หนังมีให้

ไม่ว่าจะเป็น

เรื่องของ มิตรภาพ และ ความมีน้ำใจ ที่เราสามารถหยิบยื่นให้หรือได้มา โดยเงินตราไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้อง เพื่อจะได้ไม่ต้องเติบโตมาเป็นวัยรุ่นหลายคนในยุคสมัยที่ใช้เงินซื้อเพื่อนให้มาคบด้วยการเลี้ยงเหล้ายาปลาปิ้ง

เรื่องของการคบคนที่ภายใน มิใช่ ด่วนตัดสินแค่รูปร่างหน้าตาภายนอก อย่างเช่น สัตว์ในโรงนาด่วนสรุปตัดสินชาร์ล็อตต์ แต่ผลสุดท้ายคนที่ตัดสินใจวางแผนช่วยวิลเบอร์ เป็น คนแรก ก็คือ เธอ

ความหมายของ สัญญา ที่มีค่าไม่ใช่แค่วาจาพล่อยๆ เราจะได้เห็น ความมุ่งมั่นที่จะรักษา สัญญา ของ ชาร์ล็อตต์ที่มีต่อวิลเบอร์ หรือ การให้คุณค่ากับ คำขอบคุณ เพราะแม้แต่ เทมเปิลตัน ที่ดูจะเห็นแก่ตัว แต่มันก็เป็นเหมือนคนทั่วๆไป ที่รอคอยโอกาสทำดี ในใจส่วนลึกมันก็พร้อมจะเป็นคน(สัตว์)ดี มันเองก็ต้องการ การยอมรับ จากคนอื่นๆเหมือนกันและ มันก็อยากได้คำ ขอบคุณ มาเติมเต็มหัวใจที่แห้งผากของตัวเอง

...ไม่ใช่แค่นั้น

ผมเองยังเคยอ่านเจอว่า ที่เมืองนอกเมืองนา บางแห่ง เลือก Charlotte's Web เป็น หนังสือนอกเวลาใช้สอนเรื่อง ความตาย(death and dying) ให้กับเด็กได้รู้จักและเข้าใจ เมื่ออ่านหนังสือและดูหนังจบ ผมก็ยอมรับว่า ความตาย ในหนังเรื่องนี้เหมาะเป็นบทเรียนให้กับเด็กจริงๆ

เด็กๆ จะไม่ใช่แค่เรียนรู้ว่า ทุกสิ่งมีชีวิตเกิดมาต้องตาย แต่ พวกเขาจะได้เห็นว่า ความตายนั้นไม่ได้หมายถึงการจบสิ้นทุกสิ่ง ถึงร่างกายจะจากไป เรายังสามารถหลงเหลือความดีงามให้คนพูดถึงได้ตลอดหลายชั่วอายุคน

สิ่งดีๆที่เราทำในช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่ จะไม่ทำให้ตัวตนของเราต้องสูญสลายไปตามกาลเวลา และ ยังสามารถเป็นตำนานเล่าสืบต่อเหมือนเรื่อง ของ ชาร์ล็อตต์ ที่จะถ่ายทอดให้ลูกหลานได้กล่าวขานต่อไปจากรุ่นต่อรุ่นไม่มีวันจบ และ นั่นจะทำให้ ชาร์ล็อตต์ ไม่มีวันตายไปจากใจ ของ วิลเบอร์ และ คนที่รับรู้เรื่องราวของเธอ

... หนังถ่ายทอดเนื้อหาจากหนังสือออกมาหลายฉากชนิดคัดลอกมาเกือบจะเป๊ะๆ เช่นตอนเริ่มเรื่องที่ เฟิร์นไปขอวิลเบอร์มา ก็ถอดไดอะล็อกมาจากหนังสือแทบจะทุกถ้อยคำ แต่ความเหมือนนี้ไม่ได้ทำให้ คุณค่าของหนังสือลดลง หรือ ทำให้น่าเบื่อแต่อย่างใด เพราะ คุณค่า ของ แมงมุมเพื่อนรัก ไม่ได้อยู่ที่พล็อตหักเหลี่ยมเฉือนคมประเภท แมงมุมวางแผนซ้อนแผนย่างหมู หรือ มี ฉากตระการตางานสร้างประเภทแฟนซีคอกนา

คุณค่าของหนังสือ คือ เนื้อหาและอารมณ์ในตัวอักษร ที่ทำให้ผู้อ่านไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ซึมซับ และ เข้าถึง ความสัมพันธ์ของสิงสาราสัตว์และมนุษย์ในเรื่อง ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความลึกซึ้งกินใจ ซึ่งสิ่งนี้ ตัวหนัง สามารถถ่ายทอดออกมาได้แทบจะครบกระบวนความ เท่าที่หนังเรื่องหนึ่งพึงจะดัดแปลงจากนิยายได้

หนังดัดแปลงย่นย่อและเสริมรายละเอียดเล็กๆน้อยๆเข้าไปได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ ทำให้ หนังเรื่องนี้มีความเป็นหนังในตัวเองด้วย ไม่ใช่ สักแต่ลอกทุกสิ่งทุกอย่างในหนังสือออกมาอย่างเดียว

และด้วยเทคโนโลยีที่รุดหน้าในปัจจุบัน จึงทำให้ หลายๆฉากในหนังดูตื่นตาน่าติดตาม เพราะ ถ้าทำหนังเรื่องนี้เมื่อสิบปีก่อน เราคงรู้สึกถึงความไม่สมจริง ทั้งสัตว์พูดได้ หรือ แมงมุมชักใย แต่ ในหนังเรื่องนี้เราจะต้องเพลิดเพลินยิ้มไปขำไป เวลาสัตว์พูดคุย หรือ ตื่นตาเวลาชาร์ล็อตต์ชักใยเหมือนในหนังสือ





... หนูน้อย ดาโก้ต้า แฟนนิ่งรับบทได้เหมาะสมกับวัยเธอเสียที หลังจากไปทำตัวสาวกว่าวัยร้องกรี๊ดกร๊าดจนชวนรำคาญใน War of the world เธอเป็นคนดังคนเดียวที่ปรากฎตัวในเรื่อง และ การที่ไม่มีนักแสดงชื่อดังมาชุมนุมเป็นข้อดี เพราะ ทีมนักแสดงในหนังล้วนให้ความรู้สึกร่วมเหมือนชาวบ้านทั่วไปในชุมชน จนเราแทบจะเชื่อว่าพวกเขาเป็นคนแถบนั้นจริงๆ

จุดขายหรือจุดสำคัญอีกหนึ่งจุดที่เป็นข้อดีที่น่าชื่นชมของหนัง คือ การเลือกคนมาพากษ์เสียงชาร์ล็อตต์ เพราะเสียงพากษ์อันอ่อนโยนและจริงใจเปี่ยมด้วยความเมตตาของจูเลีย โรเบิร์ตช่วยให้ ชาล็อตต์ เป็นแมงมุมที่จิตใจงดงามได้อย่างที่หนังหรือหนังสือต้องการจะให้เป็นจริงๆ

ผู้ใหญ่จะดูสนุกหรือไม่ ? ไม่ต้องกังวล เพราะ หนังไม่ได้ทำออกมาแบบ เอาใจเด็กจนผู้ใหญ่หาวหวอด หนังเต็มไปด้วยความน่ารักแกมขบขันที่จะทำให้เราได้ยิ้มไปกับ สองอีกาคู่หู , เพื่อนๆในโรงนา ฯลฯ และ ลุ้นไปกับโชคชะตาของวิลเบอร์

นี่คือ หนังอีกหนึ่งเรื่องที่จะปลุกความเป็นเด็กในตัวของคุณ ให้กลับมายิ้มอย่างมีความสุขอีกครั้ง

ไม่มีใครที่ไม่มีวัยเด็กซุกซ่อนหลงเหลืออยู่หรอก เพียงแต่ ด้วยความเป็นผู้ใหญ่ ด้วยความมุ่งมั่นกับการงานหรือมองหาความสำเร็จ จนทำให้ เราอาจหลงลืมมันไปเท่านั้นเอง


สิ่งที่ชอบ

1.การดัดแปลงจากหนังสือมาเป็นหนัง ... ยอดเยี่ยม เป็นอีกหนึ่งเรื่อง ที่มีการดัดแปลงออกมาได้ดี

2.เสียงพากษ์ชาร์ล็อตต์ ... อ่อนโยน จริงใจ มีเมตตา จน(คนดู)น้ำตาซึม

3.CG ... สมจริงดูแล้วเพลินดีแท้ เพลินกว่าตอนดู Babe เสียอีก และ ฉากชักใยก็ตื่นตาตื่นใจดีเหลือเกิน

สรุป ... ถ้าคุณเคยจูงมือเด็กๆไปดูสุริโยไท เคยจูงมือเด็กๆเข้าไปช็อคคาโรงหนังตอน ผีคนเป็น เคยจูงมือเด็กๆไปร้องไห้กวนเพื่อนร่วมโรงคนอื่นๆในหนังเลือดท่วมจออย่าง Saw เรื่องนี้คุณห้ามพลาดยิ่งกว่า ที่จะชวนเด็กๆเข้าไปดูด้วยกัน เพราะเด็กจะได้อะไรมากไปกว่า ความกลัวของเสียงดังหรือไส้ที่มันไหลออกจากพุง

เด็กจะได้เรียนรู้คุณค่าของมิตรภาพ ความหมายของคำสัญญา และ การเลือกเป็นคนมีน้ำใจหรือเห็นแก่ตัว นอกจากนี้ ความตายในหนังเรื่องนี้ ยังเป็น บทเรียนที่เมืองนอกเมืองนา เขายังใช้เป็นหนังสือนอกเวลาไว้สอนเด็กๆให้รู้จักเรื่อง Death and dying อีกด้วย ไม่ใช่ ให้เด็กมาเรียนจาก Saw หรือ ผีคนเป็น

ผู้ใหญ่ก็ดูได้เพลิดเพลิน ไม่น่าเบื่อ หนังน่ารักและอ่อนโยน เป็นเหมือนการเข้าไปล้างจิตใจสีดำของผู้ใหญ่ให้ออกมามีความบริสุทธิ์สดใสของเด็กอีกครั้ง ยิ่งถ้าใครเคยอ่านตัวหนังสือมาก่อนแล้ว ห้ามพลาด หลายฉากถอดแบบมาแทบจะเป๊ะๆ และ หนังทำได้ดีทีเดียว (ดูจบยังได้ยินเสียง วี๊ๆๆๆ ติดหูมาอยู่เลย แต่เสียงของอะไร คนอ่านหนังสือคงต้องไปพิสูจน์ในโรงหนัง)


ขอฝาก"หนังสือรัก"ไว้กับผู้อ่านด้วยเน้อ กับ พ็อกเก็ตบุ้คเล่มแรก ที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม



(วางขายตามร้านหนังสือทั่วไป หาไม่เจอถามจากพนักงานขายได้เลยจ้า)






ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง





ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป



Create Date : 15 มีนาคม 2550
Last Update : 15 มีนาคม 2550 0:15:04 น.
Counter : 9964 Pageviews.

22 comments
BUDDY คู่หู คู่ฮา multiple
(3 ม.ค. 2567 04:49:04 น.)
๏ ... รามคำแหง แรงคำหาม ... ๏ นกโก๊ก
(2 ม.ค. 2567 14:22:51 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
ไม่ลอดช่องโหว่ ปัญญา Dh
(2 ม.ค. 2567 13:44:30 น.)
  
ชอบเรื่องนี้ "มาก" ครับ
โดย: nanoguy IP: 203.113.34.9 วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:0:41:22 น.
  
อ่านแล้วอยากไปดูเลยครับ
โดย: ฟ้าดิน วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:0:43:28 น.
  
เรื่องนี้ดูพากษ์ไทยหรือซับไทยดีครับ
โดย: tonekid IP: 124.120.179.120 วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:2:55:53 น.
  
แวะมาอ่านแล้วก็ทำให้อยากอ่านหนังสืออีกรอบจังเลยค่ะ .. อ่านมานานมากแล้วเรื่องนี้
โดย: JewNid วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:4:06:41 น.
  
เป็นหนังที่ดูเเล้วให้ความรู้สึกดีๆมากมาย
นึกถึงวัยเยาว์ตอนเด็กๆ จินตนาการ ความฝัน
สุดท้ายมิตรภาพของวิลเบอร์ เเละชาล็อต ก็ทำให้ผมน้ำตาซึม ไม่ว่าจะเป็นในหนังสือหรือหนัง

ขอบคุณสำหรับงานวิจารณ์ดีๆครับ
โดย: bigwores วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:8:41:19 น.
  
ตอนเด็กๆชอบอ่านเรื่องนี้มาก อ่านก่อนที่จะโดนบังตับให้อ่านซะอีก

รู้สึกว่าจะเคยทำเป็นการ์ตูนแล้วครั้งนึง ตอนนี้ เป็นภาพยนต์คงสนุกมากขึ้นนะคร้าบ


แต่ยังไม่ได้ดูเลยอ่า..
โดย: smartman หล่อสุดๆ วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:12:56:16 น.
  
หนังสือนอกเวลาที่เก่าที่สุดเท่าที่จำได้คือเรื่องอะไรน้า .. นึกก่อน

โห .. คุณพ่อขายาวมั้งคะ
เรื่องนี้ก็เอาพล็อต มาทำกันทั้งหนัง ทั้งละครไทยเยอะแยะเลย


เดี๋ยวไปหาแมงมุมเพื่อนรักมาอ่านดีกว่า
โดย: เช้านี้ยังมีเธอ วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:13:14:06 น.
  
แฮะๆ ยังไม่ได้ดูอ่ะครับเรื่องนี้ ... ท่าทางจะดูไม่ทัน เพราะสัปดาห์นี้ก็มีหนังที่น่าสนใจเข้าอีกเต็มไปหมด ... เด๋วไว้ค่อยตามเก็บทีหลังอีกทีแล้วกันเนอะ
โดย: บลูยอชท์ IP: 202.69.140.130 วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:13:14:22 น.
  
เคยอ่านหนังสือเร่องนี้ ตอน ม.1 ครับ รู้สึกว่าจะเป็น 10 ปีแล้ว ชอบมากๆ เลย แต่หนังยังไม่มีโอกาสได้ไปดูเลยครับ แต่ยังไงหนังสือเรื่อง แมงมุมเพื่อนรัก ก็เป็นหนังสือในดวงใจผมเสมอครับ
โดย: เข็มขัดสั้น วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:13:15:25 น.
  
น่าดูแฮะหนังเรื่องนี้
โดย: mingky วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:14:15:51 น.
  
ยังไม่ได้ดูหนังค่ะ แต่เป็นหนังสือที่รักมากๆเรื่องหนึ่งเลยล่ะ ตอนประถมนี่อ่านไปร้องไห้ไปไม่รู้กี่รอบ
โดย: azzurrini วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:14:36:27 น.
  
อ่านแล้วก็คิดถึงจังเลยค่ะ
จำได้ว่าตอนนั้น
อ่านไป ร้องไห้ไป
โดย: kumikase วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:19:28:11 น.
  
แมงมุมเพื่อนรัก
เป็นหนังสือ ที่ประทับใจ ที่สุดเรื่องนึง ในชีวิตค่ะอ่านหลายๆ รอบ อ่านทีไรร้องไห้ทุกที
แค่นึกถึงยังน้ำตาคลอค่ะ

พอรู้ว่าทำเป็นหนัง จึงพลาดไม่ได้เลยค่ะ
ตั้งตารอคอยเรื่องนี้อย่างใจจดจ่อมาตลอด

และ แล้ว ได้มีโอกาสไปดูกับเพื่อนรักที่สุดคนนึงในชีวิต

หนังทำได้ดีค่ะ
ถ่ายทอด มิตรภาพได้งดงาม

ถ่ายทอด ความใสซื่อของวิลเบอร์
ได้น่าเอ็นดู น่ารัก น่าสงสาร

ถ่ายทอด ความฉลาด สุขุม
และ เปี่ยมเมตตาของชาร์ลอต ได้อย่างอบอุ่น
รู้สึกได้ว่ารักและวางใจเธอได้หมดหัวใจ

ถ่ายทอดความเป็น เทมเปิลตัน
ได้ทั้งขำและน่าเอ็นดู "ดีแบบเทมเปิลตัน"

ถ่ายทอด ความรักเมตตา ความกล้าหาญที่จะกางปีกออกปกป้องวิลเบอร์ ของ เฟิร์น

และถ่ายทอด ความรักความห่วงใย ในครอบครัว ของพ่อ และ แม่ ได้น่ารักอบอุ่นใจ

หนังทำได้พอดีเหมือนคุณ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" บอกค่ะ ว่าเด็กดูดีผู้ใหญ่ก็ดูดี

มีฉากขำๆๆๆ หลายฉาก โดยเฉพาะกับเทมเปิลตัน

มีฉากซึ้งๆๆๆ(ขอบอกว่าซึ้งสุดๆๆๆ)หลายฉาก เช่น ฉากที่วิลเบอร์บอกสัตว์ทุกตัวว่า สำหรับตัวเอง "ชาร์ลอตสวย" (ขณะที่ทุกตัวร้องยี้) และ อีกหลายๆๆนับไม่ถ้วน แทบตลอดเรื่องเลยค่ะ

เป็นเรื่องที่ดูไปร้องไห้ไปได้เกือบทุกฉาก จนรุ่งขึ้นของอีกวันยังน้ำตาคลอๆๆๆเมื่อนึกถึง

ไม่ใช่เพราะเสียดายเงินนะคะ

แต่เป็นเพราะซึ้ง และประทับใจกับบทสนทนาในเรื่อง
ซึ่ง ลึกซึ้งกินใจ แทบทุกๆๆๆ บทสนทนา
และ เรื่องนี้บทสนทนาเด่นมากๆๆ
นอกจากจะ ลึก และ ซึ้ง แล้ว ยังขำๆๆๆ ด้วยค่ะ

ดูแล้วอบอุ่น และ ซึ้งในมิตรภาพอย่างมากมายยากจะบรรยายเป็นคำพูดได้หมด
สัมผัสได้ว่า "งดงามเหลือเกิน"
โดย: Mr.Bear's dream วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:21:24:51 น.
  
''คำบางคำอาจเปลี่ยนแปลงโลกได้แค่ชั่วคราว แต่ มิตรภาพและความจริงใจ สามารถเปลี่ยนโลกทั้งใบของเราไปได้ตลอดกาล''

น่าแปลกที่ทำไมคนในสังคมถึงนิยมการใส่หน้ากากกันเป็นประจำ ทั้งๆที่รู้ว่ามันไม่ใช่มิตรภาพที่แท้จริง

ผมล่ะเกลียดจริงๆไอ้สังคมประเภทเนี้ย ปลิ้นปล้อนกันทั้งชาติ
โดย: โปงลางคุง IP: 124.120.102.147 วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:12:32:57 น.
  
ไปดูกับหลานชายสุดเลิฟ (ช่วงปิดเทอมโรงหนังดูมีชีวิตชีวา เพราะเด็กๆ นี่เอง)
ดูแล้ว…น่ารักซาบซึ้งไม่แพ้โลกจินตนาการจากตัวหนังสือ
หนังให้ความสุขคนดูทุกเพศวัย…ปลุกหัวใจใสบริสุทธิ์ให้ตื่นขึ้นมา
…หัวใจที่ให้และรักอย่างจริงใจ ไม่มีเงื่อนไข…

“มิตรภาพ”ช่างเป็นภาษาที่งดงามที่สุดในการสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตด้วยกันบนโลกใบนี้

ได้ยิ้มอย่างมีความสุข ได้หัวเราะทั้งน้ำตา …ผ้าเช็ดหน้าชุ่มทั้งน้าหลาน…
หนังจบไปซื้อหนังสือให้หลาน “แมงมุมเพื่อนรัก” เล่มใหม่เอี่ยมปกสีชมพูน่าอ่าน
“ไม่เอาคับ เปลืองตังค์ เล่มเก่าก็อ่านได้” เกือบจะซึ้ง แต่…
“ขอรอ DVD ดีกว่านะคับ”
โดย: bua ja วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:15:29:18 น.
  
อ่านแล้วทำให้อยากไปดูนะครับ แต่ยังตัดใจไม่ได้เรื่องแมงมุมนี่ซิ ประมาณว่าอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้เลย
โดย: Ten Fifty-Nine IP: 66.214.171.133 วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:22:23:18 น.
  
อ่านแล้วจะร้องไห้ น้ำตาจะไหล
มันเป็นหนังสือเล่มแรกที่ทำให้เราอ่านแล้วร้องไห้เลยค่ะ (หนังสือที่แม่ซื้อมา)
เศร้า และดีมาก ๆ
โดย: อาริซึเมะมูน IP: 161.246.1.34 วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:15:10:01 น.
  
เป็นหนังสือนอกเวลาเล่มแรกที่อ่านภาษาไทยเสร็จ แล้วไปซื้อภาษาอังกฤษมาอ่านค่ะ

ชอบมากมายเลย ทั้งหนังสือ และตัวหนัง ดัดแปลงได้ดีมาก ไม่เสียความรู้สึกเลย

แอบเศร้าอ่ะ
โดย: หมวยแก้มป่อง IP: 61.19.222.33 วันที่: 19 มีนาคม 2550 เวลา:15:31:26 น.
  
เคยอ่านตอนเรียนมัธยม ชอบเหมือนกันซึ้ง....
โดย: ichi IP: 58.8.47.144 วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:23:55:49 น.
  
ตอนดู จำไม่ได้แล้วเรื่องราวเป็นอย่างไร
เพราะห่างเหินจากครั้งยังอ่านเป็นหนังสือนอกเวลานานโขอยู่

แต่หนังก็ทำได้ดี
ได้เพลิดเพลินไปกับหนังอย่างเต็มอิ่มจริง ๆ
โดย: Oakyman วันที่: 11 พฤษภาคม 2550 เวลา:0:47:49 น.
  
เป็นอีกเรื่องที่ชอบครับ ฉากตอนช่วงสุดท้ายเศร้ามากเลย น้ำตาคลอเลย ชอบข้อคิดที่ได้จากหนังมากๆ ทำให้คิดว่า ในโลกปัจจุบันนี้ยังมีคนที่มีจิตใจดีอย่าง Charlotte อยู่หรือเปล่า
โดย: Ton IP: 58.9.70.226 วันที่: 12 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:38:54 น.
  
VERY NICE MOVIE AND VERY GOOD REVIEW...tHANKS.
โดย: KUL IP: 110.32.67.208 วันที่: 21 มีนาคม 2555 เวลา:9:19:06 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aorta.BlogGang.com

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]

บทความทั้งหมด