......อาทิตย์นี้มีหนังใหม่เข้าหลายเรื่องแต่เรื่องนี้ผมอยากดูมากสุด เพราะแหล่งข่าวของผมได้ให้ข้อมูลว่าเป็นหนังที่น่าดูและไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ด้วยนึกว่าจะเป็นหนังรัก ซึ่งถ้าใครคิดเหมือนผมและหวังว่าจะได้ดูหนังรักโรแมนติกขอให้เปลี่ยนใจไปดูเรื่องอื่นได้เลยเพราะนี่เป็นหนังรักแปลกๆเรื่องหนึ่งที่ให้อารมณ์แปลกๆสำหรับผม จากโรงลิโด้รอบ20.45น.
.........นิยามคำว่าหนังรักแปลกๆสำหรับผมมีหลายเรื่อง ขอยกตัวอย่าง2เรื่องที่ผมได้ดูจากโรงเดียวกันนี้ เช่น หนังสัญชาติเดียวกันที่แสดงโดยนางเอกAmelie--He Loves Me... He Loves Me Not หรือ ล่าสุดอย่าง Eternal sunshine of spotless mind
..........เรื่องของเด็ก2คนที่สนิทกันตั้งแต่เด็ก ฝ่ายหญิงSophie เป็นเด็กที่มักถูกเพื่อนแกล้ง+ฝ่ายชายJulienอยู่กับพ่อและแม่ป่วยใกล้ตาย ทั้ง2มาคบกันและเริ่มเล่น"เกมส์" โดยใช้กล่องสังกะสีเป็นตัวกลาง ใครถืออยู่อีกฝ่ายก็จะท้าว่ากล้าทำ....หรือไม่(เช่นกล้าตบหน้าครูหรือไม่/กล้าถอดกางเกงหรือไม่) แล้วกล่องก็จะสับไปมาระหว่าง2ฝ่าย
..............หนังสนุกกับ "เกมส์" ของทั้ว2คนจนกลายเป็นเนื้อเรื่องหลักของหนังที่ทำให้หนังเดินเรื่องไปข้างหน้า และเนื้อเรื่องรองกลับกลายเป็นความรักของทั้ง2คน และโลกที่ทั้งสองสร้างขึ้น จนดูเหมือนว่าโลกแห่งความเป็นจริงอาจไม่ใช่ที่ที่เหมาะสมต่อทั้งสองคน โดยผ่านภาพที่สวยมาก(หลายฉากเหมือนดูหนังโฆษณาชั้นดี) และจินตนาการที่บรรเจิดและลูกเล่นมากมายของผู้กำกับ
สิ่งที่ชอบ 1.ภาพ
.....ภาพสวยมากครับ และปกติลิโด้จะเป็นโรงที่ภาพก็ไม่ได้ชัดมากเท่าไหร่นัก แต่สีสันความสวยงามความคมชัดของหนังเรื่องนี้ยังโดดเด่นออกมาเหลือเกิน (สวยกว่าamelieด้วยในความเห็นผม)
2.La vie en rose.....เพลงนี้วนเวียนอยู่แทบตลอดเวลา จนติดหูผมตอนเดินออกจากโรง เหมือนตอนที่ดูสายล่อฟ้า ก็จะมีเพลง"ฉันอยู่ตรงนี้"ที่ฮัมตามออกมาด้วย
3.ไอเดียและความกล้า.....ลูกเล่นต่างๆที่ใส่มาเพื่อหลอกล่อคนดูเช่นฉากในห้องสมุด หรือ ตอนที่ทั้ง2คนใส่ชุดขาวเดินด้วยกันแต่พอถัดมากลายเป็นว่าไม่ใช่2คนนี้ที่เราคิด (เหมือนอยากจะบอกว่าสิ่งที่คุณเห็นไม่ใช่สิ่งที่คุณคิด ซะด้วยซ้ำ) กับ จินตนาการต่างๆที่สรรสร้างเข้ามาเช่น ตอนที่เด็กทั้ง2กลายเป็นอดัมกับอีฟ รวมทั้งความกล้าที่จะเล่นแรงๆ ในหลายตอนของเกมส์ทั้งคู่รวมไปถึงตอนจบของเรื่อง ทำให้เราได้ดูหนังอีกเรื่องหนึ่งที่คงจะไม่ค่อยได้พบกับแนวนี้มากนัก เป็นประสบการณ์ใหม่ๆของคนดู
สิ่งที่ไม่ชอบ 1.ความรู้สึกขณะดู..........ผมรู้สึกสนุกกับแค่บางช่วง แต่ส่วนใหญ่ผมรู้สึกกระสับกระส่ายและเบื่อ และ รู้สึกแย่กับการตัดสินใจหลายอย่างที่เกิดขึ้นในหนัง เช่น ในงานแต่งงาน/ฉากจบ เพราะเป็นการทำร้ายจิตใจคนรอบข้างที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เกินไป และอาจเป็นด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผมไม่เกิดความรู้สึกเป็นฝ่ายเดียวกับตัวละครเอกทั้ง2ตัวนี้ และไม่เกิดความซาบซึ้งในความรักของทั้งคู่
2.เล่นมากไป ไอเดียมากไป.........ผมรู้สึกว่ามันเด่นเกินความเป็นหนังทั้งลูกเล่นที่พยายามใส่เช่นฉากทั้งคู่เปลี่ยนสลับไปมา ฯลฯ และความมากเกินของมันกลบอารมณ์ของหนังที่ควรจะให้คนดูได้รู้สึกตาม หนังหลายเรื่องที่เล่นแต่การเล่นของหนังก็ยังคุมอยู่เช่น Trainspotting เป็นต้น (ขอยกตัวอย่าง เหมือนภาพวาดโมนาลิซ่าแล้วคนเขียนดันเพิ่มใส่กิ๊ฟเคโระ แทนที่คนดูจะได้ดูภาพทั้งหมดมันทำให้คนดูไปเสียสมาธิดูที่กิ๊ฟติดผมแทน)
3.ความมีเหตุผลแต่ขัดความรู้สึก .......ยอมรับว่ามันมีความมีเหตุผลอยู่ที่ทั้ง2คนทำตามเกมส์ (เพราะเกมส์คือสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจของทั้ง2คนมาตั้งแต่เด็ก เป็นเหมือนความรู้สึกความผูกพัน จนเรียกได้ว่าอาจเหมือนกับการติดยา คือถ้าหยุดก็จะมีอาการโหยหา เมื่อได้มาก็รู้สึกว่ามันมีความสุขเหนือสิ่งอื่นได้/เหมือนที่Julienบรรยาย ตอนขับรถท้ายเรื่อง) แต่มันก็อดคิดไม่ได้แทบตลอดเวลาว่า แล้วจะทำไปทำไมว้า รักกันดีๆทำไมไม่คุยกันดีๆ (คือมันเกิดความรู้สึกขัดแย้ง แต่ก็เข้าใจในตรรกะที่หนังพยายามเสนอ) และนั่นก็ทำให้รู้สึกขัดแย้งกับตัวละครและไม่อินไปกับทั้งคู่เหมือนที่ได้บอกไว้ในข้อ1 จนตอนท้ายแม้แต่ตอนที่พระเอกจะไม่ตื่น ก็ยังคิดเลยว่าแค่โดนชกหน้านี่นะเป็นไปได้ไง จนรวมไปถึงตอนจบผมยังรู้สึกว่าจบแบบนี้ได้ไงเนื่ยมันช่าง...เหลือเกิน แต่อีกไม่กี่นาทีต่อมาผมก็คิดว่าแต่มันก็เหมาะสมดีแล้วละสำหรับสองคนนี้
สรุป..........เป็นหนังที่ดูแล้วไม่เสียดายตังค์ ถามว่าดีหรือไม่อันนี้คงแล้วแต่คน แต่ถ้าถามความสนุกสำหรับผม ความรู้สึกขณะดูมันไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่ แต่กระนั้นก็ดี มันก็ยังพูดได้ไม่เต็มปากเต็มคำว่าชอบหรือไม่ เพราะมันก้ำกึ้งในความรู้สึกเหลือเกิน ก็ถือว่าเป็นอีกประสบการณ์หนึ่งกับหนังอีกมุมหนึ่งครับ (หวังว่าโปรแกรมหน้าWimbledon ผมคงมีความสุขมากกว่านี้)
18/11/2004