เฉิ่ม... , คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม"แต่ก็ดีเพียงพอ


สมบัติ ดีพร้อม ชายหนุ่มผู้เคลื่อนตัวไปไม่พร้อมกับโลกที่หมุนอยู่รอบตัว ท่ามกลางเพลงและดนตรีป๊อบหรือสตริง เขายังอยู่นิ่งกับดนตรีของสุนทราภรณ์ ท่ามกลางคลื่นวิทยุ FM หลายหลากสถานี เขายังฟังอยู่กับคลื่น AM และละครวิทยุ ท่ามกลางสถานท่องเที่ยวบันเทิงเริงรมย์ในโลกแห่งแสงสี ความสุขของเขาคือเข้าไปนั่งดูผู้คนเต้นลีลาศกันในร้านอาหาร

ผู้คนรอบตัวต่างสื่อสารและพูดคุยกันถึงโทรศัพท์มือถือ แต่เขาไม่มีเพียงเพราะไม่รู้ว่าจะโทรศัพท์ไปหาใคร เขาเลือกจะกินอาหารมื้อเดิมร้านเดิม เพราะเขาไม่มั่นใจว่า ถ้าเปลี่ยนแปลงสถานที่ ความสุขที่เคยมีหรือทุกสิ่งในชีวิตมันจะเปลี่ยนไปด้วยหรือไม่ ชีวิตที่เดินไปข้างหน้าแต่ไม่มีป้ายบอกที่หมายว่าจะไปยังที่ใด สิ่งยึดเหนี่ยวสิ่งเดียวที่เขามี ที่เขาระบายความรู้สึก และเป็นเหมือนเพื่อนในยามยากของเขา คือ ดีเจ ธำมรงค์ แต่ ดีเจ ธำมรงค์ก็ยังไม่ใช่คนที่ทำให้โลกสมบัติต้องเปลี่ยนไป จนเมื่อสมบัติมาเจอกับนวล

นวล ทำให้เขาเริ่มที่เคลื่อนตัวไปกับโลกใบนี้ (เขาตัดสินใจลงทุนทำธุรกิจ, เขากินแมคโดนัลด์ ฯลฯ)

นวล ทำให้เขามีเป้าหมายชีวิต มีปลายทางที่จะเดินไปให้ถึง

นวล คือ ใครบางคนที่ทำให้สมบัติรู้ว่าชีวิตในวันถัดไปเขาจะอยู่ไปเพื่ออะไร ทำให้เขารู้ว่าตัวเองอยากที่จะทำอะไร มากไปกว่าชีวิตที่หมุนรอบตัวเองอยู่ที่เดิมตลอดเวลา และผมเชื่อว่าถ้าสมบัติมีโทรศัพท์มือถือ ในตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าเขาจะโทรศัพท์ไปหาใคร

สมบัติ และ นวล ต่างก็เป็นคนเหงาในเมืองใหญ่ กรุงเทพดูไม่ใช่สถานที่ๆของเขาทั้งสองคน แต่ในซอกเล็กๆของเมืองนี้ การที่ทั้งคู่ได้เจอกัน มันก็แปรเปลี่ยนโลกของทั้งสองคน

โลกของทั้งคู่มีอาชีพที่มีเป้าหมายคล้ายคลึงกัน นั่นคือ การพาลูกค้าไปให้ถึงที่หมาย แต่ทั้งคู่ต่างมีชีวิตที่เหมือนๆกัน คือ ทั้งคู่กลับไม่รู้ว่าเป้าหมายตัวเอง อยู่ณ.จุดใดบนโลกใบนี้

จนเมื่อทั้งสองคน ค้นพบโลกที่มีทั้งเขาและเธอยืนอยู่ร่วมกัน ทั้งคู่ก็รู้ว่าเป้าหมายในแต่ละวัน คืออะไร ทั้งคู่รู้ว่าในแต่ละวันรอคอยอะไร การมีบางสิ่งให้รอคอย ถึงจะต้องผิดหวัง มันก็ยังดีเสียกว่า ชีวิตที่ไม่มีอะไรให้รอคอยในวันถัดไป

...(ญ.) พี่คอย น้องคอย ต่างคน ต่างคอย แต่บุญเราน้อยหนักหนา
(ช.) คอยเจ้า เจ้าไม่มา เจ้าหนีหน้า แก้วตาหนีพี่ไป
(ญ.) รักพี่สุดที่อาวรณ์ รักจรจำไกล
(ช.) อย่าเลย อย่าไป พี่หวง ดวงใจ ขอให้พี่ได้เคียงครอง
(ญ.) พี่ปอง น้องปอง ห้องหอ น้องจะไปรอคู่ครอง หอห้อง
(ช.) พี่ปอง น้องปอง ต่างคน ต่างปอง แล้วพี่จะครองคู่เอย ...


....คุณเคยเป็นบ้างไหม ใช้ชีวิตเช้าออกไปทำงาน เย็นกลับมากินข้าว ค่ำก็นอน แต่ไร้ซึ่งเป้าหมายในชีวิต (Purpose) คุณเคยเป็นบ้างไหม มีบางสิ่งที่เป็นโลกของคุณ(เช่น บางสิ่งในโลกของสมบัติ คือ สุนทราภรณ์ ,ลีลาศ ,โบตั๋น ,คลื่นAM ฯลฯ) แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่โลกของของคนรอบตัวคุณ คุณอาจชอบหรือหลงใหลบางสิ่ง บางสิ่งที่มันกลับกลายเป็นเรื่องตลกของคนรอบตัว สุนทราภรณ์เป็นตัวอย่างที่ดี เพราะรอบที่ผมดูเป็นตัวอย่างที่ชัดว่า มันไม่ใช่แค่สิ่งแปลกปลอมในโลกของสมบัติ แต่มันแปลกปลอมในโลกของคนดูด้วย เพราะในโรงก็มีเสียงหัวเราะเหมือนกับประหลาดใจในครั้งแรกที่ได้ยิน

....สมบัติ ดีพร้อม เป็นเหมือนตัวแทนส่วนหนึ่งของมนุษย์ในสังคมอย่างเราๆ คุณย่อมมีโลกตัวเองที่หมุนไปไม่พร้อมคนอื่น คุณย่อมมีความดี มีสิ่งที่ศรัทธาต่างจากคนอื่น คุณเองก็เคยมีความโกรธความรุนแรงที่อยากระบายออกมา คุณเองก็เคยมีความโลภความอยากได้ในสิ่งรอบตัว

สมบัติยอมเคลื่อนไหวไปกับโลกและมีเป้าหมายเพราะความรัก และ สมบัติสูญสลายความศรัทธากับความดีเพราะความโกรธและผิดหวัง

แต่อย่างน้อย สมบัติยังรู้จักตัวเองและมีโลกของตัวเอง สมบัติยังสามารถหาเป้าหมายในการใช้ชีวิตอยู่ แล้วคุณเองเคยรู้ตัวเองบ้างหรือยังว่า โลกของคุณจะเคลื่อนไหวไปอย่างไร จะเคลื่อนไปพร้อมกับโลกที่หมุนอยู่รอบตัวคุณ หรือ อยู่นิ่งไม่ไหวติง

คุณเคยหวนกลับมามองชีวิตบ้างหรือยัง ว่าเป้าหมายปลายทาง (Purpose) ในชีวิตคุณ นอกจากทำงานหาเงินไปในแต่ละวันคืออะไร?

...สังคมของเรามีความโหดร้ายอยู่เสมอ ตราบเท่าที่เราได้รู้เห็นเราก็จะพบมัน แต่หากเราไม่เห็นความเลวร้าย ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มี

สิ่งที่สวยงามหรือเลิศเลอที่เราเจอเพียงครั้งเดียวมันยังคงสวยงามอย่างนั้นตลอดไป แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะดีเช่นนั้นจีรังยั่งยืน เช่น ลุงเอื้อยังคงเป็นคนดีของสมบัติตลอดไปถ้าเพียงเขาเจอกันแค่ครั้งเดียว ดีเจธำมรงค์ยังคงเป็นใครบางคนที่สมบัติผูกพันและมั่นคงไปตลอด ถ้าเพียงเขาไม่พยายามไปเจอตัวจริง

...หนังไม่ได้บอกให้เราต้องหลอกตัวเองว่าโลกใบนี้สวยงาม แต่หนังเผยแง่มุมให้เห็นว่าอย่ายึดติดกับความงามของโลกที่เราเห็น แม้แต่ความดีที่เราเชื่อมั่นมันก็สั่นคลอนได้เสมอ เมื่อมันเข้ามาอยู่ในใจของคนซึ่งมันแปรปรวนได้ตลอดเวลา ดังคำพูดที่ว่า"ความดีนั้นยังคงทน ตราบที่ใจคนไม่อ่อนแอ”

...หนังพยายามแสดงความจริงของสังคมเราแต่ด้วยวิธีการเสียดสี ความเหนือจริง (Surreal) มากกว่าใช้ความสมจริง(Reality)

ตั้งแต่ชื่ออย่าง “สมบัติ ดีพร้อม”, “เอื้อ อาทร” ที่ทั้งให้และขอคืนทบต้นทบดอก , “Future Perfect” ที่ไม่ได้ perfect สมชื่อ , ละครวิทยุที่เสมือนกับการหลุดออกไปสู่โลกจินตนาการ (escape fantasy) ของสมบัติ, คนแก่ใจดีพร่ำบอกให้ทำดีกลายเป็นไซบอร์กเฒ่าใจบาป, ฉากที่เป็นส่วนจินตนาการทั้งหลายของสมบัติ, ความบังเอิญในตอนท้ายสุด ฯลฯ

...หนังเล่าเรื่องหลายส่วนที่ผมมองว่า พยายามถ่ายทอดสิ่งที่เป็นนามธรรมออกมาให้เป็นภาพบนจอ ทั้งพยายามยั่วล้อเปรียบเทียบความจริงในเชิงอุดมคติ (ทำดีได้ดี) กับ ความจริงแท้ที่เกิดขึ้นได้ในชีวิต (ทำดีแต่กลับโดนดี)ไปพร้อมๆกัน

ทำให้ผมหวนไปคิดถึงหนังไทยอีกเรื่องที่คล้ายคลึงกันอย่างหมานคร ในแง่ที่ว่า ตัวหนังพยายามสื่อทั้งเรื่องสังคมและความรักของตัวละครไปพร้อมๆกัน โดยใช้ความเหนือจริงมาเล่าเรื่องราวที่ค่อนข้างมีความเป็นนามธรรมอยู่สูง (เช่น ความดี ความศรัทธา ความรัก ฯลฯ) จะต่างก็ตรงที่ เฉิ่มเล่าเรื่องโดยขยับเข้าใกล้โลกของความจริง (reality) มากกว่า และถ่ายทอดในส่วนของอารมณ์ความรู้สึกออกมาได้ดีกว่าหมานคร

....ผมชอบเรื่องนี้มากกว่า สยิว ที่เป็นงานของผู้กำกับคนเดียวกัน ในแง่ที่มันลงตัวกว่าและเข้าถึงคนดูได้ง่ายกว่ามาก ผมชอบบทในเรื่องนี้มากกว่า The Letter ที่เขาเขียนเพราะมันฟูมฟายและจงใจบีบอารมณ์น้อยกว่า

การกำกับนักแสดงและเรื่องราว ,การใส่เพลงและดนตรีประกอบ และ สารที่อยากจะสื่ออกมา สิ่งเหล่านี้คลุกเคล้ามาได้อย่างกลมกล่อม เป็นงานที่เห็นรอยต่อหรือรอยสะดุดของเรื่องราวน้อยมาก หากจะมีก็คงเป็นฉากในม่านรูดตอนท้ายที่ดูหลุดออกจากภาพรวมของหนัง

ดังที่บอกข้างต้นหนังเรื่องนี้เลือกที่จะค่อนมาทาง reality มากกว่า fantasy ส่วนต่างๆของหนัง เช่น จินตนาการที่เป็นละครวิทยุยังพอรับได้ แต่ส่วนไซบอร์กเฒ่าที่ม่านรูดนี้ เป็นส่วนที่มันค่อนไปทาง fantasy มากเกินไปและหลุดจากภาพรวมของหนังมากพอดู หากฉากม่านรูดแบบนี้จะไปโผล่ในหมานคร คนดูจะรู้สึกตะขิดตะขวงน้อยกว่าเพราะเรื่องนั้นค่อนไปทาง fantasy หรือบางฉากที่ดูจงใจให้ตัวละครพูดมากเกินไป เช่น ฉากคนขับแทกซี่คุยกันเรื่องมือถือตอนต้นที่ผมว่ามันไม่เป็นธรรมชาติ และเหมือนจงใจยัดเยียดสิ่งที่ผู้สร้างอยากจะเล่าออกมา

สิ่งที่ชอบ

1.หม่ำ ..เป็นดาบสองคมสำหรับคนไทยทุกคนที่รู้จักหม่ำจากภาพนักแสดงตลก เพราะนั่นทำให้คนดูส่วนหนึ่งไม่เชื่อในสิ่งที่หม่ำเป็น พร้อมกับรอว่าเมื่อไหร่หม่ำจะตลก ในขณะที่อีกกลุ่มก็จะประทับใจในสิ่งที่หม่ำแสดงออกมา และชื่นชมเขามากยิ่งขึ้น แต่หากมองอย่างเป็นกลาง ถ้าคุณเป็นใครสักคนหรือเป็นชาวต่างชาติที่ไม่รู้จักหม่ำ จ๊กมก ผมคิดว่าการแสดงของหม่ำในเรื่องนี้เป็นการแสดงที่สมควรได้รับคำชม ทั้งสีหน้าแววตาของผู้ชายชื่อ สมบัติ ดีพร้อม ที่ยึดมั่นความเชื่อและศรัทธาของตัวเองในโลกใบที่หมุนเร็วดุจจรวด

ฉากใจสลายของสมบัติที่สถานีวิทยุ เป็นฉากที่ผมชอบมากที่สุดฉากหนึ่ง มันถ่ายทอดความรู้สึกของคนที่พบว่า ที่พึ่งสุดท้ายของชีวิต พังทลายลงอย่างยับเยินต่อหน้าต่อตาได้เป็นอย่างดี รวมไปถึง ฉากตอนท้ายที่วิ่งไปยืนกลางถนน มันแสดงความสับสนในใจของสมบัติ เมื่อสิ่งที่ศรัทธาและความดีที่เคยยึดมั่นแปรเปลี่ยนไป โลกที่เขายืนอยู่ตรงกลางสี่แยก ไม่ใช่ โลกใบเดียวกับที่เขาเคยอยู่ก่อนหน้านี้

2.นุ่น....ไม่เพียงกี่ฉากที่ออกมา แต่ทุกฉากที่ออกมา นุ่นเรียกความรู้สึกคนดูได้เป็นอย่างดี หลายฉากที่ไม่ได้มีองค์ประกอบในการดึงอารมณ์คนดู แต่นุ่นสามารถดึงคนดูให้มีอารมณ์ร่วมได้ เห็นชัดอย่างยิ่งกับฉากจบที่ละม้ายคล้ายคลึงกับเถียนมีมี่ ซึ่งผมเองก็อดเปรียบเทียบไปด้วยไม่ได้ ในฉากนี้เป็นฉากที่ทำให้ผมมีความรู้สึกร่วมไปกับทั้งบัติและนวล ได้ด้วยการแสดงของนุ่นเพียงคนเดียว และทำให้คนดูพร้อมที่จะให้อภัยในความคล้ายคลึงนี้

3.สุนทราภรณ์....คือตัวประกอบของหนังที่เด่นที่สุด จะมีสักกี่เรื่องที่นำเพลงสุนทราภรณ์มาใช้แล้วทำให้ตัวเพลงเองเข้าได้ถึงคนดู และทำให้หนังเรื่องนั้นเพิ่มความสมบูรณ์ของมันไปในตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฉากจบนอกจากนุ่นแล้ว เพลงนี่ละที่ทำให้เป็นตอนจบที่สมบูรณ์ในตัวมันเองมากขึ้น ทำให้เฉิ่ม...มีความเป็นเอกเทศแยกออกมาจากเถียนมีมี่ได้

4.การถ่ายภาพ....ภาพของหนังสวยงามเข้ากับเนื้อหาได้ดี ดัดแปลงและมีลูกเล่นแต่ไม่เด่นจนโดดออกมาเกินตัวหนัง เป็นหนังที่ถ่ายภาพกรุงเทพตอนกลางคืนและใกล้รุ่งได้ความรู้สึกเหงา อ้างว้าง และสวยงามตามความจริง

5.การเล่าเรื่อง....เป็นหนังไทยที่เล่าเรื่องได้เนียน มีร่องรอยการสะดุดน้อยอีกเรื่องหนึ่ง

สิ่งที่ไม่ชอบ

1.นวลรักบัติ....หนังใช้เวลาน้อยเกินไปในการทำให้คนดูเชื่อว่าเธอรักเขา กับการแค่ฟังเพลงและเห็นสติกเกอร์บนเบาะหน้า หากจะอธิบายว่าเป็นความรู้สึกไม่มีใครของเธอ กับการมาเจอใครสักคนเช่นบัติ ผมก็ยังรู้สึกสงสัยว่าเพราะอะไรเธอถึงผูกพันกับบัติในครั้งถัดมาได้เร็วขนาดนั้น

2.ฉากจบ...ผมชอบฉากจบ (คิดว่าจบแบบไหนไม่ว่าจะ happy หรือ ไม่ happy สำหรับผมคงไม่แตกต่างกันสำหรับเรื่องนี้ เพราะหากจบแบบไม่สมหวังก็สะท้อนความจริงที่สามารถเกิดขึ้นในสังคมได้ แต่ในขณะเดียวกันความเหนือจริงในหนังก็มีอยู่มากหากจะจบแบบสมหวังก็ยอมรับได้เช่นกัน)

แต่ความชอบของผมรู้สึกว่ามันเกิดผลลัพธ์ทางอารมณ์น้อยกว่าที่ควรจะเป็น ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้ดูเถียนมีมี่มาก่อน เมื่อได้ดูฉากจบของเฉิ่ม... ก็เกิดความคิดแวบขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ในส่วนของภาพและอารมณ์ที่คล้ายคลึงกัน มันไม่ได้เหมือนสักทีเดียว และผมก็ไม่ได้คิดว่าผู้กำกับเลียนแบบซ้ำยังก็ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือจงใจ (ถ้าจงใจถือว่าแย่/ถ้าบังเอิญถือว่าโชคร้าย) แต่มันเป็นจุดบอดของตอนจบในเรื่อง เพราะแทนที่ตอนจบคนดูจะมีส่วนร่วมและสมาธิกับภาพในหนัง แต่คนดูหลายคนกลับมามีภาพของหนังอีกเรื่อง คือ เถียนมีมี่ ทำให้ลดทอนความดื่มด่ำของตอนจบอย่างที่หนังอยากจะให้เป็น

3.ฉากแฟนตาซี (ละครวิทยุ) ของหม่ำในช่วงท้าย...มีช่วงแรกในการช่วยเล่าเรื่องและผ่อนคลายอารมณ์คนดูยังเป็นส่วนที่ดี แต่ตอนหลังผมเริ่มรู้สึกว่ามันมากไป มันไม่จำเป็นที่ต้องใช้ช่วงนี้ช่วยเล่าเรื่องแล้ว เพราะการหลุดไปสู่แฟนตาซีที่เป็นละครนั้น มันทำให้อารมณ์คนดูหลุดออกจากโลกความจริงในหนังมากเกินไป ที่เห็นชัดคือฉากช่วงท้ายที่หม่ำไปคอนโด ตัดสลับกับฉากละครที่นางเอกจะขึ้นรถออกจากคฤหาสถ์ มันทำให้ส่วนแฟนตาซีฉากนี้จะขำก็ไม่ขำ แถมยังลดทอนอารมณ์ความรู้สึกของสมบัติที่สื่อออกมาในฉากนั้นลงไปอีก

4.ความไม่ชัดเจนของบทในบางช่วง...ทั้งเรื่องยาบนรถหรือเรื่องตอนท้าย สมบัติติดคุก? ติดนานเท่าไหร่ ? ทำไมออกมาเหมือนเดิมทุกอย่างเพราะถ้าติดมันน่าจะนานกับคดีที่รุนแรงแบบนั้น (ตอนออกจากคุก ตัวสมบัติแตกต่างกับตอนเข้าคุก แค่มีเครื่องช่วยฟังกับแผลที่หน้าผากและเดินกะเผลก) หรือ ไม่ติดคุก? ถ้าไม่ติดทำไมถึงรอด? การขาดความชัดเจนในช่วงเวลามีผลอย่างมากในการทำความเข้าใจเรื่องราวและรู้สึกร่วมไปกับตัวละคร

ในบางเรื่องเช่นเถียนมีมี่ หนังทำให้คนดูรู้ว่ากี่ปีที่ผ่านไป และสุดท้ายเวลาที่ผ่านไป มันส่งผลให้ฉากสุดท้ายเกิดความรู้สึกที่มีอิทธิพลกับคนดู เพราะคนดูรู้สึกถึงความโหยหา ความพลัดพรากที่แสนนาน แต่กับเฉิ่มระยะเวลาที่หม่ำจากไปหนังไม่บอกให้รู้เลย มันต่างกันมากถ้าบอกว่าจากกันไปแค่ 1 สัปดาห์ 1 ปี หรือ 10 ปี แถมเมื่อออกมาจากคุกยังดูไม่ต่างจากก่อนเข้าคุกทุกประการ มันจึงไม่เกิดความรู้สึกที่โหยหากันของทั้งคู่ได้มากเท่าที่ควร)

สรุป...นี่เป็นหนังไทยที่อาจไม่ได้มี คุณสมบัติ ดีพร้อม ทุกอย่าง แต่มันมีดีเพียงพอ ที่น่าจะสนับสนุนเข้าไปดูในโรงและไม่เสียดายตังค์แต่อย่างใด (สำหรับผมกับเงิน 120 บาทในโรง SF MBK รอบ 17.20 น.เมื่อวานนี้) หากไม่คาดหวังไว้ก่อนว่าเป็นหนังรักกุ๊กกิ๊กโรแมนติก เพราะนี่คือหนังดราม่าที่เล่าเรื่องความรักและเล่าเรื่องสังคมไปด้วยกัน หนังทำได้ค่อนข้างลงตัวในส่วนที่หนังอยากจะเล่าและอารมณ์ที่หนังส่งให้คนดู

.....ผมคิดว่าหากจะสนับสนุนให้หนังไทยก้าวไปได้ไกลขึ้นต้องอาศัยความร่วมมือของทั้งผู้สร้างและคนดู คนดูน่าจะให้โอกาสหนังไทยที่ดีๆโดยการไปดูในโรงมากขึ้น ผมสงสัยหลายหนที่หนังไทยบางเรื่อง คนดูส่วนหนึ่งจะรอฟังคำวิจารณ์ก่อนแล้วพอมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง หนังจะถูกมองข้ามไป ในขณะที่หนังฝรั่งหลายเรื่องที่มีข้อบกพร่องกว่ามากมาย กลับพร้อมเสียเงินไปดูทันทีโดยไม่รอคำวิจารณ์ ในอีกมุมหนึ่งผู้สร้างหนังไทยเอง ก็น่าที่จะสร้างงานดีๆที่ไม่ดูถูกคนดู ไม่ใช่ทำตามกระแสเพื่อโกยเงินเป็นช่วงๆไว้ต่อทุนเรื่องต่อไป หรือคิดแค่ว่าจะทำอย่างไรให้ได้เงินเข้ากระเป๋ามากที่สุด




ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป

ตามอ่านบทความใหม่ๆ และ เรื่องเก่าๆที่น่าสนใจได้ที่ --> หน้าแรก


รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง



Create Date : 14 พฤษภาคม 2548
Last Update : 24 กันยายน 2548 21:18:07 น.
Counter : 5294 Pageviews.

45 comments
๏ ... รามคำแหง แรงคำหาม ... ๏ นกโก๊ก
(2 ม.ค. 2567 14:22:51 น.)
The Last Thing on My Mind - Tom Paxton ... ความหมาย tuk-tuk@korat
(1 ม.ค. 2567 14:50:49 น.)
พบเจอภาพอะไร? ส่วนหนึ่งของภาพน่าสนใจจึงตัดมาใช้ คุกกี้คามุอิ
(1 ม.ค. 2567 03:56:23 น.)
ไม่ลอดช่องโหว่ ปัญญา Dh
(2 ม.ค. 2567 13:44:30 น.)
  
อยากดูอะพี่... แค่เห็นนุ่นในบทแบบนี้ก็คุ้มแล้ว ผมว่า...
โดย: nanoguy วันที่: 14 พฤษภาคม 2548 เวลา:17:30:04 น.
  
เข้ามาดูแว้บๆๆ ค่ะ แต่ยังไม่กล้าอ่าน
เอาไว้ดูแล้วจะกลับมาอ่านค่ะ ^^
โดย: Nessa วันที่: 14 พฤษภาคม 2548 เวลา:18:51:30 น.
  
พ้มก็ว่าจะไปดุอยู่นะเนี่ย
โดย: Sugarray วันที่: 15 พฤษภาคม 2548 เวลา:0:00:51 น.
  
ยังลังเลตอนแรก
แต่ว่าตอนนี้ ไปดูดีกว่า อาทิตย์หน้านี่หล่ะฤกษ์ดี
โดย: คนที่คุณก็รู้ว่าใคร IP: 202.176.184.143 วันที่: 15 พฤษภาคม 2548 เวลา:12:38:51 น.
  
สวัสดีค่ะ
-สำหรับหนังเรื่องนี้ขอยกความดีให้กับ นักแสดงนำ 2คน ที่ทำหน้าที่ในบทของตนเองได้ดี ทำให้อารมณ์หนังไหลลื่น และทำให้คนดูคล้อยตามและมีอารมณ์ร่วมไปด้วย
ดูแล้วรู้สึกชอบ เป็นหนังไทยที่น่ารักเรื่องนึง แม้อาจมีจุดสะดุดไปบ้าง แต่โดยภาพรวมทำได้ดี
-สำหรับตนเอง หนังดีกว่าที่คิดเอาไว้(อาจเป็นเพราะตอนแรกไม่ได้คิดอะไรเลย555)
ตัดสินใจถูกที่ดูค่ะ ไม่เสียดายเงินและเวลา(ตอนแรกตัดสินใจนานมาก ว่าจะดูหรือเปล่า)

มี2 ฉากที่ชอบเป็นพิเศษ
-ฉากนุ่นเห็นซองของหม่ำ รู้สึกกินใจกับความรู้สึกทั้งคู่ที่มีต่อกัน
-ฉากสุดท้ายแม้อาจทำให้คิดถึงเถียนมีมี่แวบขึ้นมา แต่ก็จากการแสดงของคน 2 คน โดยเฉพาะนุ่นทำให้เกิดความรู้สึกดีใจและโล่งอกไปกับพวกเขาด้วยค่ะ

ปล. ดูเรื่องนี้แล้วชอบการแสดงของนุ่นและหม่ำขึ้นมา
และขอชมว่าคนหานักแสดงนำค่ะ
โดย: sunsun IP: 210.213.21.14 วันที่: 15 พฤษภาคม 2548 เวลา:22:00:19 น.
  
4ความเห็นแรก...อุๆ ยังไม่มีใครได้ดูเลยเนาะ ไว้ดูแล้วมาคุยกันนะครับ

sunsun....อุๆ ดีแล้วครับที่ตัดสินใจถูก ดีแล้วที่ไม่เสียดายเงินและเวลา ไม่งั้นคนชวนอาจได้ง่ายๆ /พูดถึงซองจดหมายสีชมพูสีหวานดีนะ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นซองแบบในหนังแล้ว
โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 16 พฤษภาคม 2548 เวลา:1:02:45 น.
  
แล้วมาคุยกันหลัง มหาลัย เหมืองแร่ นะคะ
โดย: Nothing is Real IP: 203.144.187.62 วันที่: 16 พฤษภาคม 2548 เวลา:10:39:53 น.
  
เดียวรอให้คนน้อยลงก่อนแล้วจะไปดูแน่ ๆ

โดย: merf1970 วันที่: 16 พฤษภาคม 2548 เวลา:14:43:11 น.
  
หวัดดีคับ
ไม่ได้มาเยี่ยมเสียนาน Blog คุณดูสวยงามและสบายตาขึ้นเยอะ...หลังๆ ก็ไม่ได้เข้า Web pantip เลย พอว่างเมื่อไรก็เข้า Game Room ไปเล่น Go ก่อนทุกที

ผมได้ดูเฉิ่มแล้วครับ ไม่น่าเชื่อที่เลือกเรื่องนี้ก่อน Kingdom of Heaven ซะอีก อาจเป็นช่วงที่อยากหาหนังเข้าใจง่ายๆ และไว้รอฉาก action ใน Episod III ดีกว่า

พูดถึงหนัง...(ยังไม่ได้อ่านบทวิเคราะห์ของคุณนะ)

ผมชอบการแสดงของนุ่นกับหม่ำมากๆ ทั้ง 2 เล่นดูเป็นธรรมชาติดี แม้จะรู้สึกว่าความรักของทั้งสองยังไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไร รู้เนื่องจากบทหนังกับตัวละครชื่อ 'บัติ' ดูแปลกๆ และพาตัวเองเข้าไปเจอปัญหาได้บ่อยๆ ก็ตาม

อย่างไรก็ดี หนังเรื่องนี้ยังมีอะไรที่พอจะให้อะไรได้บ้างหลังจากดูจบออกมา แต่ไม่รู้จะยืนโรงได้นานหรือเปล่า น่าเป็นห่วงเหมือนกัน เพราะหนัง Hollywood กำลังจะมาอีก Lot ใหญ่ๆ เลย

p.s. อาทิตย์หน้า ผมจะได้ไป Istanbul ล่ะ เพราะต้องไปงานที่นั่น 3-4 วัน ซึ่งเป็นวันนัดชิงประวัติศาสตร์ของหงส์แดงเลย.... เดี๋ยวก็รู้ว่าผีแดงดำจะแน่สักแค่ไหน
โดย: xymm วันที่: 20 พฤษภาคม 2548 เวลา:14:29:34 น.
  
พึ่งอ่านที่คุณวิจารณ์

เออ มันใช่หมดเลยนี่หว่า มองได้ลึก และ เขียนได้เยี่ยมมากครับ

นับถือๆ

ผมไปดูเรื่องนี้รอบ 2 ทุ่มที่ Major รามคำแหง วันเสาร์ที่แล้ว แม้จะเป็นสัปดาห์แรก แต่คนค่อนข้างน้อยครับ แถมอาทิตย์นี้เจอ Star War อีก น่าเป็นห่วงว่าจะต้องลาโรงไปเงียบๆ (อีกหรือเปล่า)
โดย: xymm วันที่: 20 พฤษภาคม 2548 เวลา:14:48:58 น.
  
สวัสดีค่ะ
ลืมชมที่คุณผมอยู่ข้างหลังคุณเขียนหัวไว้ว่า คุณ"สมบัติ" อาจไม่ "ดีพร้อม" แต่ก็ดีเพียงพอ เข้าใจเล่นคำและเป็นคำนิยามตรงกับคุณค่าของหนังค่ะ
โดย: sunsun IP: 202.28.179.1 วันที่: 26 พฤษภาคม 2548 เวลา:15:45:40 น.
  
กำลังมีชีวิตเหมือนสมบัติเลยค่ะ ใช้ชีวิตไปวันๆเดิมๆซ้ำๆไม่รู้ว่าอยู่ไปเพื่ออะไรหรือเพื่อใคร อยากสัมผัสความรู้สึกเดียวกับสมบัติจัง มีใครสักคนให้รัก มีใครสักคนให้ห่วงใย แค่นั้นก็พอแล้ว
โดย: นกน้อย IP: 58.8.245.162 วันที่: 18 กันยายน 2548 เวลา:0:58:09 น.
  
ไม่อยากตายไปโดยไม่มีใครสักคนให้เรารัก
โดย: นกน้อย IP: 58.8.245.162 วันที่: 18 กันยายน 2548 เวลา:1:00:26 น.
  
ชอบหนังเรื่องนี้ครับ ตามมาอ่านที่นี่ยิ่งรู้สึกว่ามันลึกเข้าถึงแก่นของหนังเข้าไปอีก แม้หนังเรื่องนี้จะไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่มันทำให้ผมพอใจมากครับ

ผมดูจากซีดีเมื่อวานก่อนนี้เอง ไม่มีโอกาสได้เข้าโรงหนังเกือบปีแล้วครับ ทำแต่งานๆๆ พอได้ดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกเสียดายจังที่ไม่ได้อุดหนุนหนังไทยดีๆ
โดย: เส้นยาแดงผ่าแปด IP: 58.147.41.85 วันที่: 18 กันยายน 2548 เวลา:7:42:52 น.
  
ต้องขอชมคุณ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ที่เขียนวิเคราะห์วิจารณ์ภาพยนตร์ได้ละเอียด ลึกซึ้งและยังมีสาระทางวิชาการแฝงอยู่เนืองๆ เคยอ่านงานเขียนของคุณมาหลายครั้งแต่ไม่มีโอกาสชม เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกพันธ์ทิพย์

ยังไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ครับ แต่พออ่านที่คุณเขียนแล้ว รวมทั้งหลายคนที่เพิ่งได้ดูหนังจากวีซีดีแล้วนำกลับมาพูดถึงอีก คงต้องไปหามาดูบ้างแล้วละครับ

ขอบคุณมากนะครับที่เขียนงานมาให้อ่านอยู่เรื่อยๆ
โดย: Jaime IP: 202.29.24.40 วันที่: 18 กันยายน 2548 เวลา:10:42:53 น.
  
จากที่คุณ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" เขียนคงต้องไปหาหนักเรื่องนี้มาดูบ้างแล้วค่ะ
โดย: สองจุก IP: 203.146.253.14 วันที่: 19 กันยายน 2548 เวลา:11:14:15 น.
  
แวะมาชมมาเยี่ยมตามคำเชิญครับ อ่านแล้วโดนใจมากครับ ^_^ และขอ add blog นะครับ
โดย: Cafe`tea วันที่: 22 กันยายน 2548 เวลา:19:31:58 น.
  
วิจารณ์ได้ดีครับ เห็นด้วยว่าฉากคุณลุงไซเบอร์นี่มันหลุดจากโทนรวมไปจริงๆ ยังไงก็แล้วแต่เรื่องนี้แค่ดูการแสดงของนุ่นก็คุ้มแล้วครับ
โดย: TG IP: 58.10.28.71 วันที่: 24 กันยายน 2548 เวลา:13:13:43 น.
  
เพิ่งดูตะกี้ แล้วก้อเข้าไปพันทิพ เหนคุณลงลิงค์เข้า Blog ของคุณเอาไว้ ผมเลยเข้ามาดู วิจารณ์ได้ดีมากๆเลยคับ
ส่วนตัว ผมชอบหนังเรื่องนี้มากเลยคับ ไว้มีเวลา กะว่าจะดูอีกซักรอบ และทั้งหม่ำและนุ่น ต้องขอชมเลยคับ แสดงได้ดีมากๆๆ
โดย: AM IP: 61.90.98.166 วันที่: 24 กันยายน 2548 เวลา:21:52:42 น.
  
ไม่ชอบตอนเอาครูเอื้อมาล้อเลียนเป็นเกย์เฒ่า
โดย: aid IP: 203.146.143.220 วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:13:39:40 น.
  
เข้ามาอ่านครับ
โดย: Me first and the Gimme IP: 58.11.51.16 วันที่: 28 กันยายน 2548 เวลา:11:57:31 น.
  
ต้องหามาดูให้ได้
โดย: พฤษภาคม 2510 วันที่: 30 กันยายน 2548 เวลา:1:37:09 น.
  
ดูแล้วคับ....เถี่ยนมีมี่ไม่ได้ดู....ถ้าไม่เปรียบเทียบกัน...หนังเรื่องนี้ชอบคับ....เติมเต็มหัวใจ กับความรักบริสุทธิ์...ดีมั๊กมากคับ
โดย: หมูหวาน IP: 58.8.69.59 วันที่: 3 ตุลาคม 2548 เวลา:10:41:17 น.
  
ผมก็เพิ่งได้ดู รู้สึกประทับใจหนังไทยเรื่องนี้มาก ดูแล้วอยากมีเพื่อนรู้ใจบ้างจริงๆ
โดย: ... IP: 61.91.166.95 วันที่: 3 ตุลาคม 2548 เวลา:21:59:14 น.
  
หนังสวยๆ ดีๆ
ส่วนมากจะไม่ทำเงิน
น่าเสียดายจัง
โดย: Tan IP: 203.146.49.9 วันที่: 4 ตุลาคม 2548 เวลา:14:01:01 น.
  
ดูแล้วรู้สึกถึงความเหงา ความเปล่าเปลี่ยวเดียวดายและแปลกแยกในสังคมนี้เลยครับ แต่ถ้ามีใครสักคนก้าวเข้ามาในโลกของเรา คนๆนั้นคงเป็นคนเดียวในโลกของเราจริงๆ อาจจะเรีกยได้ว่าทำให้เรามีสติสตังอยู่ได้
โดย: David IP: 58.136.81.25 วันที่: 17 ตุลาคม 2548 เวลา:16:37:05 น.
  
เป็นงานวิจารณ์ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมมากครับ ทั้งในเรื่องของการเปรียบเทียบความเป็นจริงในสังคมของมนุษย์กับ สังคมที่อยู่ในหนัง ทำให้สามารถเข้าใจถึงแก่นแท้ของหนัง ที่ทางผู้กำกับ และผู้เขียนบท อยากจะสื่อออกมาให้กับคนดู เยี่ยมมากครับ

ส่วนตัวของผมนั้น ตอนแรกไม่ได้คิดจะดูหนังเรื่องนี้หรอกครับ ต้องยอมรับว่า ตนเองหลงไปตามกระแส ของการวิจารณ์ อยู่เหมือนกัน คือ เมื่อก่อนดูหนังไทยเรื่องไหนก็ไม่ประทับใจสักเรื่องเพราะ เวลาที่หนังกำลังเดินเรื่องมาถึงจุดๆ หนึ่ง ก็มักจะมีฉากตลก บ้าๆ บอๆ โผล่มาทุกที ทำให้เสียอารมณ์ เพราะไม่รู้ว่าตกลง หนังเรื่องนี้มันเป็นแนวไหนกันแน่

ในเรื่อง "เฉิ่ม" นี้ก็เช่นกัน ตอนแรกที่ผมเห็นภาพ กับชื่อหนัง ก็ทำให้เกิดจินตนาการมากมายว่า หนังเรื่องนี้ ก็คงเหมือนหนังไทยเรื่องอื่นๆ ที่ออกกันมาตามกระแส บวกกับได้อ่านข้อคิดเห็นของสมาชิกพันธ์ทิพย์บางคนที่ได้ไปดูมา (บ้างคนเท่านั้น) ก็บอกว่าไม่สนุก ทำให้ผมไม่เกิดความมั่นใจในตัวหนังเลยไม่ได้ไปดู

แต่เมื่อ 2-3 วันก่อน แฟนชวนให้ดูหนังเรื่องนี้ เพราะมีคนเอามาให้ยืม พอเริ่มต้นดูต้นๆเรื่องเท่านั้นแหละครับ ผมก็เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าผมคิดผิด ที่ไม่ดูหนังเรื่องนี้ให้เร็วกว่านี้

สิ่งที่ชอบในตัวหนังเรื่องนี้ที่สุดก็คือ "หม่ำ" ครับ ดูแล้วรักหม่ำขึ้นมาเป็นกอง เพราะเค้าแสดงอารมณ์ ของคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง ในสังคม ออกมาได้อย่างสมจริงมาก จนผมถึงกับน้ำตาซึมเมื่อดูจบ (ไม่เคยดูหนังเศร้าเรื่องไหนที่ทำให้น้ำตาซึมมาก่อน)

ฉากที่ประทับใจก็เรื่องฉากที่ หม่ำพานุ่นไปร้านอาหารที่มีคนเต้นลีลาศกัน ทำให้นึกถึงฉากนึงในไฟนอล7 ที่อลิสพาคลาวไปออกเดท ซึ่งบรรยากาศและสีสันของหนังทำออกมาได้สวยงาม และโรแมนติกมากจริงๆ

ในส่วนของ เฒ่าไซเบอร์นั้น ตอนแรกผมนึกว่า เป็นคนแก่ที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตยืนยาวซะอีก ตกลงเป็นหุ่นยนต์หรือนั่น หุหุ

ส่วนตอนจบของหนัง ผมว่า ถ้ามองอย่างเป็นกลาง แบบคนที่ไม่เคยดูหนังเรื่อง เถี๋ยนมี๋มี่ (เช่นผมเป็นต้น) ก็ถือว่าใช้ได้นะครับ เพียงแต่ในความคิดของผม ดูแล้วมันออกจะบังเอิญไปนิดนึงแค่นั้นเอง

แต่ก็เข้าใจว่า ผู้กำกับคงไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของคนดูว่า ตอนจบจะไม่จบอย่าง Happy ก็เลยต้องจบแบบนี้

ไปๆ มาๆ กลายเป็นว่าคนที่ชวนผมดู ดันบ่นว่าไม่สนุกไปซะอีก หุหุ อยากให้หนังไทยดีๆ แบบนี้ออกมากันเยอะๆ จริงๆ ครับ ขอบคุณสำหรับบทวิจารณ์อันยอดเยี่ยมนี้ด้วยครับ
โดย: de_dust IP: 125.24.3.153 วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:19:40:04 น.
  
ไม่รู้ เกย์ที่ชื่อ เอื้อ มีเพื่ออะไร ไม่น่าเลย
โดย: โก้ พริ้วววิ้ว IP: 58.9.142.127 วันที่: 31 ตุลาคม 2548 เวลา:19:20:16 น.
  
เป็นหนังไทยทีดีเรื่องนึงทีเดียวครับ
ทุกคนไม่ควรพลาด

โดย: superpun IP: 210.1.33.130 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2548 เวลา:20:52:56 น.
  
ผมชอบเรื่องเฉิ่มนะ ถึงแม้ว่ามันจะข้อบกพร่องบางอย่างของเรื่องที่ผมก้อคิดเหมือนกับ คุณ ผมอยู่ข้างหลังคุณ
1. เรื่องบทแฟนตาซี เช่น ม่านรูดไซเบอร์ นี่ก้อหลุดไปมากกก เกินอารมณ์เลยนะ ตอนดูนี่งงเลยง่ะ
2. ตอนจบ ทำให้ผมเดาได้เลยว่าจบแบบไหนนะ เหมือนหนังเรือ่งเถียนมีมี่ เลยคับ แต่ก้อโอเคนะ ผมก้อไม่ได้น่าเกลียดจนเกินไปง่ะ
แค่นี้แหล่ะคับ ยังไงผมก้อยังติดตามผลงานที่คงเดชอยู่ลแวง่ะ ชอบๆ
โดย: หนุกๆ IP: 158.94.87.177 วันที่: 6 มกราคม 2549 เวลา:7:01:30 น.
  
ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ ไม่มีเวลาไปดู แต่ว่าจะไปหามาดูค่ะ
โดย: มี้น้อย IP: 58.11.84.84 วันที่: 20 มกราคม 2549 เวลา:13:08:22 น.
  
ยังไม่ได้ดูแต่ vcd มาแล้วขายถูกมาก 79 บาท
แล้วเจอกันหลังดูเสร็จ
โดย: mi mi IP: 158.108.196.70 วันที่: 20 มกราคม 2549 เวลา:15:06:03 น.
  
^
^
แล้วจะรออ่านความเห็นนะครับ
โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 20 มกราคม 2549 เวลา:18:55:24 น.
  
ชอบกล่องข้อความจังค่ะ

เรื่องนี้ยังไม่ได้ดู แต่ไม่น่าจะพลาดค่ะ
สงสัยต้องไปหาซื้อมาดูบ้างซะแล้วว
โดย: Snowy IP: 58.9.58.156 วันที่: 22 มกราคม 2549 เวลา:17:09:04 น.
  
ขอขอบคุณที่เจ้าของบล๊อกบอกทางมานะครับ

แวะเข้ามาตอบในประเด็น "นวลรักบัติ" ที่คุณเห็นว่าง่ายไปครับ อันนี้เป็นทัศนส่วนตัว

ประเด็นว่า ทำไมนวลถึงรักบัติ ... จริงอยู่มันดูง่ายไปหน่อย แต่ผมเชื่อครับ ...

ผมเชื่อเพราะว่า นุ่นเธอตีบทแตกครับ ผมเชื่อว่าอารมณ์
ของนวล คืออารมณ์หมอนวดจริงๆ

คือความเหงาที่ไม่มีใครรู้ ความเหงาที่ไม่มีใครจริงใจด้วย
เพราะตัวเป็นหมอนวด ใครเห็นใครก็นึกว่าฟันได้ จะฟัน
แบบเสียเงิน ฟันแบบลดราคา ฟันแบบจ่ายก้อนใหญ่ทีเดียวแล้วฟันบุฟเฟ่ต์
(แบบตาเสี่ยที่เอาไปเลี้ยงในตอนหลัง) หรือแม้แต่ฟันฟรี
ทัศนคตินี่มันซ่อนอยู่ในใจของคนในสังคมสว่างที่มองผู้หญิงกลางคืนอยู่แล้ว

ลองนึกถึงคำสัมภาษณ์ของเมียแท๊กซี่ลิ้นขาดดู ที่บอกว่า
นักร้องถ้าเงินถึงก็ยอมไปกับแขกทุกคน อันนี้ก็เวอร์ไป แต่
ถ้าไม่โกหกตัวเอง คนกลางวันส่วนใหญ่ก็แอบเชื่อแบบนี้กันจริงๆ

เมื่อนวลได้เจอคนที่นับถือเธอ คนที่มองเธอในแง่ดี เป็น
ลูกค้าที่ดี และมีความรู้สึกดีด้วย คนที่ถูกฟันมาทั้งวัน คนที่ถูกใครๆ
จ้องแต่จะหาเรื่องฟัน แทะโลม เพราะรู้ว่าเป็นหมอนวด
มาเจอคนซื่อๆ ที่อยู่ด้วยแล้วปลอดภัย
คนที่อยู่ด้วยแล้วไม่กะฟันเธอ แม้แต่จะหลอกจับมือก็ไม่ทำ

...ผมมานึกว่าถ้าเป็นแท๊กซี่ธรรมดา มีหมอนวดมาผูกรถแบบนี้
คงมีรายการขอฟันแลกค่าโดยสารกันบ้าง...

แต่ไม่ใช่ "สมบัติ ดีพร้อม"

ผมจึงเชื่อว่า นวลใจละลายเพราะเหตุนี้ด้วยส่วนนึง แม้จะเป็นเวลาอันสั้นก็ตาม
โดย: บุญชิตฯ IP: 83.205.53.232 วันที่: 22 มกราคม 2549 เวลา:18:41:33 น.
  
ดูแล้ว
คงเดชเปนคนที่โรแมนติคมากเลยนะ
โดย: hoshii IP: 203.155.225.13 วันที่: 1 มีนาคม 2549 เวลา:2:26:29 น.
  
เราเป็นคนไทยแต่ดันได้ไปดูหนังเรื่องนี้
ที่ฟิล์มเฟสติวัลของโตเกียว
ซึ่งจริงๆ แล้วตั้งใจจะไปดูหนังสเปน
แต่รอบมันหมด ก็เลยได้ไปดู เฉิ่ม โดยไม่รู้ว่าชื่อเฉิ่มซะด้วยซ้ำ เพราะว่าเป็นชื่อภาษาอังกฤษชื่อ
Midnight My Love ตอนไปดูนี่คนญี่ปุ่นและคนต่างชาตินั่งกันแน่นเต็มโรง เรานั่งดูไปทั้งสะท้อนใจกับสภาพที่เขาสะท้อนความเป็นจริงออกมา ซาบซึ้งกับภาพที่งดงาม และก็ต้องเสียน้ำตาไปมากมาย มากจนไม่คิดว่าจะร้องให้กับหนังดราม่าสะท้อนสังคมแบบนี้ได้ขนาดนี้
หลังจากนั้น ก็จะมีรายการถามตอบระหว่างคนดูและผู้กำกับ ซึ่งเขาก็ตอบคำถามคาใจของคนดูได้เคลียร์ และรู้สึกว่าบรรยากาศโดยรวมของคนดูต่างประเทศเขาก็เข้าใจและชอบหนังเรื่องนี้ไม่น้อยเลย
ดีใจที่มีหนังไทยแบบนี้ ดูแล้วชื่นใจนะ
โดย: sovo IP: 202.129.44.58 วันที่: 3 สิงหาคม 2549 เวลา:9:40:06 น.
  

น่ารักดีค่ะ สนุกดี
โดย: ออน IP: 203.155.2.133 วันที่: 11 กันยายน 2549 เวลา:9:15:36 น.
  
ชอบการถ่ายทอด รูปธรรม ของเรื่องนี้มากๆค่ะ

ฉากสะเทือนใจสุดๆก็คงเป็น ฉากใจสลายของสมบัติที่สถานีวิทยุ ถ่ายทอดได้ดีมากๆ ดูแล้วเข้าใจความรู้สึกของสมบัติเลย

ส่วนฉากจบก็ชอบมากๆค่ะ ไม่รู้ว่าเพราะไม่ได้ดูเถียนมีมี่มาก่อนรึเปล่า แต่คิดว่าฉากนี้ลงตัวดีแล้วค่ะ ทั้งการแสดงที่ไม่จำเป็นต้องใช้บทพูด บวก กับเพลงที่เปิดขึ้นมาในตอนนั้น สีหน้ากับแววตา ของนุ่นทำให้เข้าใจความรู้สึกของตัวละคร ที่บทละไป ได้ดีค่ะ
โดย: SFFC IP: 203.188.51.30 วันที่: 15 ตุลาคม 2549 เวลา:15:24:42 น.
  
ขอบคุณมากๆ ครับ บทวิจารณ์หนังนี้ช่วยทำให้ทุกอย่างเคลียร์ขึ้นมากๆ เลย

ตอน บัติ ติดคุกนั้นมีอะไรเขียนไว้ที่กำแพง น่าจะสื่อถึงเวลาที่ติดคุก แต่ผมอ่านไม่ออก ถ้าให้เดาคงติดเป็นปีมั้งครับ

อย่างไรก็ดี ผมเองไม่ชอบตอนจบแบบนี้เลย มันคาใจ ถ้าเรื่องนี้จบแบบ happy ending ไปเลย ผมเชื่อว่ามันจะสร้างความประทับใจมากกว่านี้ เพราะว่า หนังเองสร้างความรู้สึกกดดันมาทั้งเรื่อง ถ้าทิ้งตอนจบแบบนี้มันทำให้อึดอัดพอสมควร จากหนังดีเลยกลายเป็นหนังที่ไม่ประทับใจไป
โดย: =por= IP: 87.86.144.132 วันที่: 23 เมษายน 2550 เวลา:3:37:56 น.
  
เขาพยายามเสื่อให้เห็นความรู้สึกเติมเต็มของคนสองคนซึ่งต่างคนต่างมีบางอย่างที่ขาดหายไปความผูกพันที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงหนึ่งของเวลาซึ่งประจวบเหมาะซึ่งทั้งนวลและบัติเองก็ยังไม่เข้าใจว่านั่นคือความรักหรือเปล่า
โดย: เห้งเจีย IP: 58.8.102.193 วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:11:28:59 น.
  
บทวิจารณ์ดีมาก ๆ เลยครับ
อ่านแล้วเพลินดี และได้รับรู้สิ่งต่าง ๆ จาก
หนังมากขึ้นครับบบบบ
โดย: พุงพลุ้ย IP: 58.136.48.68 วันที่: 2 กันยายน 2550 เวลา:14:40:03 น.
  
ได้ดูที่ช่อง 7 เมื่อคืนเองค่ะประทับใจมาก
โดย: ผัก IP: 125.24.237.12 วันที่: 16 กันยายน 2550 เวลา:13:10:30 น.
  
ดูใหม่อีกครั้งไม่นานนี้เองครับ ยังประทัใจเหมือนเดิม เราคงเหลือมสมบัติดีพร้อมล่ะมั้ง ที่โลกหมุนอยู่รอบตัวเอง บางครั้งเลยรู้สึกเหมือนทั้งโลกนี้มีเราเพียงคนเดียว ถ้าเราได้เจอนวล อย่างสมบัติก็คงจะดี ล่ะมั้ง
โดย: Aquarium IP: 58.9.231.91 วันที่: 3 ตุลาคม 2550 เวลา:21:19:39 น.
  
ถ้าจะเขียนแสดงความคิดเห็นตอนนี้ หวังว่าคงยังไม่สายเกินไป ^^

อันที่จริงต้องบอกก่อนว่าไม่เคยคิดจะดูหนังเรื่องนี้เลย แต่เมื่อวันก่อนได้เข้ามาอ่านงานวิจารณ์หนังเรื่อง me , myself ขอให้รักจงจริญ (ชอบมากกๆๆ)

ก็ได้เห็นคุณ(ผมอยุ่ข้างหลังคุณ) บรรยายว่าชอบเฉิ่มมากที่สุด(มากกว่าme , myself และ happy birthday)

ก็เลยลองไปหาเรื่องเฉิ่มดูบนเว็บ

ก็รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้ชอบเป็นพิเศษ (เหมือนme , myself ) แต่ชอบฉากจบมากกๆๆๆเลยอาจเป็นเพราะไม่เคยดู เถียนมีมี่ มาก่อนก็ได้(หลังจากที่ได้อ่านบทความข้างต้น

ก็รุ้สึกชอบ และมีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่านบทวิจารณ์หนังของ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ทำให้อยากดูหนังมากขึ้น และได้คิดตามไปกับหนังในมุมที่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยถ้าหากดูคนเดียว

....ขอบคุณค่ะที่อ่านจบ ^^
โดย: FC* IP: 222.123.99.171 วันที่: 13 เมษายน 2552 เวลา:19:14:01 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aorta.BlogGang.com

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]

บทความทั้งหมด