Sin city , ฟิล์มนัวร์ที่ลงตัวและเจ๋ง


Sin City….คือ “หนังอาชญากรรมที่เล่าเรื่องตัดสลับเรื่องราวพร้อมกับมุขตลกเจ็บแสบและกลิ่นอายของ Pulp fiction” นี่อาจเป็นคำนิยามของเมืองบาปแห่งนี้หากว่าหนังนำแค่เนื้อหาในการ์ตูนมาเล่าเรื่องด้วยรูปแบบภาพยนตร์ทั่วไป แต่เมื่อ Robert Rodriguez เลือกที่จะลาออกจากThe Directors' Guild of America เพื่อดึงFrank Miller ผู้สร้างเมืองนี้มากับมือมาเป็นผู้กำกับร่วมกัน ทดลองที่จะฉีกรูปแบบภาพยนตร์ทั่วๆไปทิ้งและคงความเป็นการ์ตูนของต้นฉบับไว้ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นภาพสีขาวดำที่เล่นสีเป็นครั้งคราว (รองเท้าผ้าใบสีแดงนี่เหลือเกิน) การถอดฉากมาจากในหนังการ์ตูนโดยไม่ได้สร้าง storyboard ขึ้นมาใหม่และ CG ทั้งหลายแหล่ที่แนบเนียนไปกับตัวภาพยนตร์กับการถ่ายหนังทั้งเรื่องด้วยกล้อง High-Definition digital ทำให้เมืองบาปนี้โดดเด่น เจ๋ง และไม่ใช่แค่ว่าสไตล์จะโดดเด่นเกินเนื้อหนังแต่เป็นสไตล์ของหนังที่ช่วยขับเสริมตัวหนังให้โดดเด่นมากขึ้นไปอีก

….ด้วยการที่หนังมีทั้งความเป็นการ์ตูนซ้อนทับคนจริงๆที่เล่นอยู่ นำไปสู่ข้อได้เปรียบที่จะเล่นสนุกกับความรุนแรงและความเหนือจริงได้อย่างเต็มที่ เหมือนกับ Kill Bill ที่ผ่อนความรุนแรงด้วยการทำให้หนังบอกคนดูทางอ้อมว่านี่มันไม่ใช่โลกแห่งความจริง ด้วยการสร้างให้หนังมีสีสันสุดขั้วเช่นเลือดพุ่งเป็นน้ำพุหรือฉากขาวดำ เรื่องนี้ก็เช่นกัน ด้วยเทคนิคและสไตล์ภาพที่หนังเลือกใช้ก็เป็นการบอกทางอ้อมอยู่กลายๆว่าจะเป็นเรื่องของคนจริงก็ได้ ในขณะเดียวกันที่คุณดูอยู่มันก็เป็นเรื่องที่แต่งแต้มจากการ์ตูน ลองนึกภาพหนังเรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาเป็นหนังคนแสดงเหมือนหนังทั่วไปแต่ใช้ฉากรุนแรงที่เหมือนกันเชื่อได้เลยว่ายากที่คนดูส่วนใหญ่จะรับความรุนแรงเลือดสาดบนจอได้ กระนั้นก็ดีนี่ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่เหมาะกับเด็กๆแต่อย่างใดเพราะความรุนแรงที่แม้ว่าจะลดทอนด้วยการนำเสนอแบบการ์ตูนมันก็ยังรุนแรงอยู่มากชนิดที่ผมคิดว่าถ้าได้เรทNC-17ดูจะเหมาะสมมากกว่า

....หนังเล่าเรื่องราวสามส่วนตามตอนในหนังสือการ์ตูน ก่อนที่จะมาเชื่อมโยงเรื่องราวของกันและกันได้อย่างแนบเนียน ทั้งสามตอนจะมีตัวเอกและเรื่องราวที่เกิดขึ้นรอบตัวเขาแตกต่างกันการเล่าเรื่องให้ความรู้สึกคล้ายกับในPulp fiction ทั้งสามตอนล้วนเป็นเรื่องราวของตัวเอกที่ต้องต่อสู้เพื่อกลุ่มคนชนชั้นในสังคมที่มักไร้ทางสู้และกลั่นแกล้ง (เด็ก,สตรี และคนไร้ชื่อเสียงไร้หน้าตาทางสังคมและทางกายวิภาค) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของSexual abusedหรือchild abusedหรือการดูถูกเหยียดหยาม (สีผิว/ชนชั้นฯลฯ)

Hartigan ตำรวจใกล้ปลดระวางที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องที่ไม่มีใครกล้าแตะต้อง(ความยุติธรรมความดีงามในสังคม การทารุณกรรมต่อเด็ก / เหยื่อของสังคมที่เขาต่อสู้เพื่อช่วยเหลือในเรื่องคือเด็ก)

Marv ชายหนุ่มหน้าตาอัปลักษณ์ที่ใครๆก็ไม่เหลียวแล ต่อสู้เพื่อตอบแทนในความศรัทธาต่อตัวเองของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีให้(ศักดิ์ศรีและคุณค่าของมนุษย์ / เหยื่อของสังคมที่เขาต่อสู้เพื่อช่วยเหลือคือตัวเขาเองที่เป็นเหมือนคนที่ถูกลืม)

Dwight ชายหนุ่มที่ต่อสู้เพื่อปกป้องอิสตรีและพวกพ้อง(ชนชั้นล่าง เพศหญิงและการรุนแรงต่อสตรี /เหยื่อของสังคมที่เขาต่อสู้เพื่อช่วยเหลือคือเพศหญิง)

ทั้งสามเหตุการณ์ล้วนเกิดขึ้นในเมืองบาปที่ซึ่งเต็มไปด้วยความสกปรกเลวร้ายของมนุษย์ในสังคม

Sin City หรือบาปในเรื่องจริงแล้วๆไม่น่าจะหมายถึงตัวเมืองแต่คือคนที่อยู่ในเมืองต่างหาก สีขาวดำในหนังสะท้อนให้เห็นถึงคนในเมืองที่มีส่วนประกอบทั้งดำและขาวในตัว ในคนชั่วนอกกฎหมายที่ดูเหมือนเลวร้ายเป็นสีดำที่เห็นชัดแต่ภายในใจที่มองไม่เห็นก็ยังมีความดีสีขาวแต่งแต้ม ในขณะเดียวกันบาทหลวงที่น่าจะเป็นตัวแทนของสีขาวผู้ซึ่งคอยชำระบาปให้กับผู้คนกลับเป็นตัวตนผู้สร้างบาปขึ้นมาเอง เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้มีเฉพาะในเมืองคนบาปแต่มันเป็นเรื่องจริงที่มีอยู่ทุกแห่งหนบนโลกใบนี้แม้แต่บ้านเรา

....ในช่วงแรกของหนังค่อนข้างอืดเพราะการบรรยายด้วยเสียงเล่าเรื่อง ที่เข้าใจว่าเป็นตัวแทนของกรอบสี่เหลี่ยมที่จะมีตัวหนังสือบรรยายเรื่องราวในหนังสือการ์ตูนแต่ละตอน โดยเฉพาะการ์ตูนของทางฝั่งอเมริกันที่จะมีกรอบบรรยายอยู่แทบทุกช่อง ทำให้คนดูไม่คุ้นและรู้สึกว่ามันน่าเบื่อแต่ไม่นานเมื่อความคุ้นเคยเกิดขึ้น เราก็จะลืมความรู้สึกตรงนี้ไปและสนุกกับมันได้อย่างเต็มที่

การเปิดเรื่องด้วยJosh Hartnett ตามต่อมาด้วยเรื่องราวของBruce Willis เป็นการเกริ่นภาพรวมของหนังได้เป็นอย่างดีเพราะเท่ากับหนังบอกใบ้คนดูว่านอกจากภาพที่จะแปลกแหวกตาออกไป เนื้อหาในหนังก็จะเป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถจะคาดการณ์ได้เช่นกัน ตัวละครที่ไม่น่าไว้ใจ ตัวละครที่พร้อมจะตายได้ทุกเมื่อไม่ว่าจะเป็นพระเอก นางเอก ผู้ร้ายหรือสาวงาม เนื้อหาที่เข้มข้น ความรุนแรงดิบเถื่อนที่พร้อมจะเดินหน้าเต็มลูกสูบกับอารมณ์ขันชนิดตลกร้ายและตลกคำพูดที่สอดแทรกอยู่เป็นระยะๆ(ที่เด็ดสุดน่าจะเป็นฉากบนรถของ Dwight ที่ได้ Quentin Tarantino มาช่วยกำกับ ชนิดที่ไม่ต้องคิดนานก็เดาได้ว่าเขามากำกับฉากไหน)

......หนังหลายเรื่องเวลาถ่ายทอดจากต้นฉบับไม่ว่าจะเป็น ละครเวที หนังสือหรือการ์ตูนมาเป็นภาพยนตร์ ปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นคือไม่สามารถถ่ายทอดจิตวิญญาณของต้นฉบับมาสู่แผ่นฟิล์มได้เต็มที่คือได้แต่เนื้อหาแต่ขาดที่อารมณ์ หรือ บางเรื่องก็พยายามที่จะจับต้นฉบับมาใส่จอโดยแทบจะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากความเป็นภาพยนตร์เท่าที่ควรทำให้เหมือนกับกำลังเสพสื่อนั้นมากกว่าดูหนัง (ความรู้สึกผมเช่น Phantom of the opera ที่เหมือนถ่ายละครบนเวทีมาใส่จอหรือ Harry Potter 2 ภาคแรกที่เหมือนดูอ่านหนังสือในโรงหนังแต่เปลี่ยนตัวอักษรมาเป็นภาพ) แต่ Sin City เป็นการถ่ายทอดงานต้นฉบับมาสู่ภาพยนตร์ โดยสามารถถ่ายทอดจิตวิญญาณ เสน่ห์และความรู้สึกของหนังสือการ์ตูนเต็มเปี่ยม ในขณะเดียวกันก็ยังมีความเป็นหนังที่เล่าเรื่องได้อย่างสนุกหนักแน่นชวนติดตามสำหรับคนดูหนังที่แม้ว่าจะไม่รู้จักการ์ตูนเรื่องนี้มาก่อนก็ตาม

สิ่งที่ชอบ


1.อารมณ์ความรู้สึก....ต้องบอกไว้แต่แรกว่านี่คือหนังที่เน้นความรุนแรงและมันก็ทำออกมาได้ถึงแก่น ความสะใจ ถึงลูกถึงคน ชนิดไม่บันยะบันยังไม่ว่าจะเป็นการกราดกระสุน การตัดแขนขา ฯลฯ รวมไปถึงฉากแอคชั่นในเรื่องที่ใช้ประโยชน์จากความเป็นการ์ตูนและเทคโนโลยีของภาพยนตร์ทำออกมาได้ถึงอกถึงใจเต็มอิ่ม

2.รูปแบบการนำเสนอ...เก๋ไก๋ล้ำสมัย ฉลาดกับการเลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ๆมาประยุกต์ให้กับเรื่องราว ความกล้าที่จะนำเสนอในรูปแบบการ์ตูนบนจอภาพยนตร์ มันเหมือนกับการที่เราเห็นภาพการ์ตูนมันโลดแล่นอย่างมีชีวิตจิตใจ

3.บรรยากาศนัวร์....หากลบในเรื่องของสไตล์ของหนังทิ้งไป เนื้อหาและบรรยากาศของSin Cityที่ประกอบไปด้วย ควันบุหรี่ หญิงร้าย ชายโฉด การทรยศหักหลัง กิเลสตัณหาอาชญากรรม ทุกอย่างมีอยู่ครบครันและทำได้ดี

4.ความมีเอกภาพและลงตัวของหนัง....หนังทั้งเรื่องที่มีสีสันบาดตา สไตล์โดดเด่น นักแสดงชื่อดัง ผู้กำกับหลายคน เนื้อหาซับซ้อน แต่หนังกลับคุมโทนของหนังได้ดีเยี่ยมตลอดตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่ยอมให้ส่วนไหนกลบส่วนไหนลงไปได้เลย

5.นักแสดง...ทุกคนเล่นได้เฉียบคมและดูสนุกกับบทของตัวเองกันทั้งนั้น ตั้งแต่Mickey Rourkeนี่น่าจะเป็นบทที่เขาเล่นได้เด่นถึงใจที่สุดในช่วงหลายปีหลัง หรือBenicio Del Toro ที่ดูสนุกเหลือเกินกับบทกวนประสาทของตัวเอง แม้แต่ Elijah Wood ที่น่าจะประทับใจกับบทในเรื่องนี้เป็นพิเศษเพราะนับตั้งแต่เป็นโฟรโด้มานี่เป็นเรื่องแรกที่เขาสลัดภาพนั้นออกไปได้อย่างหมดจด

6. เสน่ห์ของJessica Alba และลีลาของ Devon Aoki ....แค่เพียง Jessica Alba เธอยืนเฉยๆหรือเยื้องย่างในแต่ละอัปกิริยา เธอมีเสน่ห์ดึงดูดคนดูได้อย่างมากมาย (แปลกที่เวลาเธอพูดทีไรผมรู้สึกว่าเสน่ห์เธอหดหายลงทุกที) ในขณะเดียวกันกับลีลาการฆ่าของMihoที่รับบทโดยDevon Aokiก็เท่ห์บาดใจทุกท่วงท่ากับแววตาที่คมพอๆกับอาวุธของเธอ

สรุป... Sky Captain and the World of Tomorrow อาจทำให้ผมทึ่งกับภาพที่ออกมาแต่กับเนื้อหาแล้วยังไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก ตรงข้ามกับเรื่องนี้การผสมสไตล์ที่เก๋ไก๋ล้ำสมัยมันไม่ได้เด่นจนเกินหน้าเกินตาส่วนอื่น ความเป็นภาพยนตร์ของมันยังตอบสนองความต้องการคนดูได้เต็มอิ่มและลงตัว สำหรับผมหาก Moulin Rouge ถือเป็นหนังเพลงที่ฉีกขนบเดิมๆและเป็นหนังเพลงผู้บุกเบิกสร้างรูปแบบหนังเพลงของศตวรรษใหม่ Sin Cityที่ผมได้ดูไปเมื่อวันศุกร์ในโรงSF MBK รอบ18.45น.ก็เป็นภาพยนตร์ในตระกูลนัวร์ที่ผสมผสานการเล่าเรื่องและเทคโนโลยีของภาพยนตร์ที่ทันสมัย ทำให้มันเป็นหนังในตระกูลนัวร์ยุคใหม่อย่างแท้จริงที่ไม่ควรพลาด





ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป

ตามอ่านเรื่องใหม่ๆและเรื่องเก่าที่น่าสนใจได้ที่ --> หน้าแรก


รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง



Create Date : 29 พฤษภาคม 2548
Last Update : 29 สิงหาคม 2548 16:34:16 น.
Counter : 4724 Pageviews.

28 comments
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
ไม่ลอดช่องโหว่ ปัญญา Dh
(2 ม.ค. 2567 13:44:30 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
BUDDY คู่หู คู่ฮา multiple
(3 ม.ค. 2567 04:49:04 น.)
  
โครตชอบเรื่องนี้เหมือนกันครับ ชอบตัวละคร มาฟ ของ มิคกี้ชะมัดเลย
แนะนำแฟนๆ ว่ามีซาวแทรคให้โหลดใน bittorrent แล้ว ผมใช้ เนท 56 k โหลดก็ไม่ช้าน่าเกลียดอะไร ไว้โหลดเสร็จจะเอามาฝากกันนะครับ
โดย: Papercut วันที่: 29 พฤษภาคม 2548 เวลา:2:06:39 น.
  
แวะมาอ่าน เรื่องราวน่าสนใจดีนะคะ
โดย: zaesun วันที่: 29 พฤษภาคม 2548 เวลา:2:44:48 น.
  
รอดูเหมือนกันครับ
โดย: Bluejade วันที่: 29 พฤษภาคม 2548 เวลา:2:59:02 น.
  
สวัสดีค่ะ
สนุกดีค่ะ
ชอบเนื้อเรื่องตัดไปมาดูแรกๆงงเหมือนกัน แต่กลับเป็นเสน่ห์อันนึงทำให้น่าติดตามได้
ชอบฉากแอคชั่นทั้งสะใจแต่ก็พะอืดพะอมอยู่ในคราวเดียวกัน
ชอบแนนซี่ น่ารักดี โดยเฉพาะตอนเธอยิ้มน่ารักมากๆ
และที่ชอบที่สุดคือฉากสุดท้ายของ Josh hartnett หล่อน่ารักที่สุด แม้เจอแล้วต้องตายก็ยังน่าสนใจอยู่
โดย: sunsun IP: 58.10.57.18 วันที่: 29 พฤษภาคม 2548 เวลา:12:56:05 น.
  
ถ้ามีตังจะไปดูคับ...

สตาร์วอร์สก็ไม่ได้ดูเพราะไม่มีตังนี่แหละ...

เศร้าเจงๆ
โดย: nanoguy unlog IP: 203.151.140.111 วันที่: 29 พฤษภาคม 2548 เวลา:13:31:08 น.
  
หวัดดีค่ะ (อีกรอบของวันนี้)

มาย้ำว่าไปดู Be With You มาแล้วนะคะ

ขอบคุณที่แนะนำ

ส่วนเรื่องที่ขอ..จะไม่เขียนซ้ำให้เปลืองเนื้อที่ละกันนะคะ ลองไปอ่าน comment ที่อีกหัวข้อละกันค่ะ

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 31 พฤษภาคม 2548 เวลา:16:00:41 น.
  
วิจารณ์ได้ดีมากค่ะ

เดี๋ยวต้องไปดู ๆ

^___^
โดย: ฮิปโปปาร์ตี้ วันที่: 31 พฤษภาคม 2548 เวลา:17:20:52 น.
  
Papercut...จะรอซาวด์แทรคอย่างใจจดใจจ่อนะครับ

zaesun / Bluejade...ลองไปดูแล้วมาคุยกันนะครับ แต่ต้องบอกนิดนึงว่าหนังมีความรุนแรงสูงและการเล่าเรื่องย้อนไปมาอยู่บ้าง บางคนจะไม่ชอบ

sunsun...อย่างน้อยก็ยังทันJosh hartnettในท้ายที่สุดนะ

nanoguy...ส่งแรงใจให้มีตังค์ไปดูหนังเร็วๆนะครับ


สาวไกด์ใจซื่อ ....แวะไปหย่อนชื่อหนังกับเหนังสือแล้วครับ
โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 31 พฤษภาคม 2548 เวลา:17:21:44 น.
  
เขียนได้ดีเหมือนเดิมนะครับ

ดูแล้วผมก็ชอบเรื่องนี้เหมือนกัน

แต่ก็ได้ตั้งข้อสังเกตไว้อย่างหนึ่งเรื่องกุศโลบายของรอดริเกซในการทำหนังเรื่องนี้น่ะครับ ถึงการใช้ "ดารา" เป็นตัวผลักเนื้อเรื่อง ซึ่งถ้าจะให้อธิบายก็ยาวพอดู ถ้าสนใจก็ลองแวะไปอ่านดูที่blogผมได้นะครับ

https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=rynekel&date=31-05-2005&group=5&blog=1
โดย: เซียวสี่บ้อ (rynekel ) วันที่: 31 พฤษภาคม 2548 เวลา:21:39:46 น.
  
หนังเรื่องนี้ไม่มี สิ่งที่ไม่เชอบเหรอครับ เห็นทุกทีต้องมี

แปลว่าชอบมาก เหมือมผม
โดย: KRIT IP: 58.10.185.48 วันที่: 1 มิถุนายน 2548 เวลา:1:33:34 น.
  
สวัสดี เจ้าของบล็อกแสนหวานค่ะ

มาสวัสดีวันแรกของเดือนมิถุนายนค่ะ
ขอให้ชีวิตมีแต่ความชื่นฉ่ำตลอดเดือนนี้นะคะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 1 มิถุนายน 2548 เวลา:11:52:02 น.
  
ไปดูมาแล้วครับ... เดี๋ยวว่าจะเขียนลงบล็อกตัวเองซะหน่อย... เดี๋ยวจะไปดูสตาร์วอร์สด้วยครับ... เพราะตอนนี้มีเงินแล้ว 555

เจสสิก้า อัลบา ผมชอบตอนเธอใส่ลีลายักย้ายส่ายสะโพกบนเวทีที่สุดครับ...เพราะผมว่า ตอนนั้นมันดุมีเสน่ห์แบบตัวเธอเองที่สุดแล้ว... เพราะตอนอื่นที่เธอทำตัวธรรมดาๆ บางมุมเหมือนฮิลารี่ ดัฟฟ์ (มองจากด้านขวา) อีกมุมเหมือนสการ์เล็ตต์ โยฮันส์สันซะอย่างงั้น... (มุมเงยหน้าทางซ้ายราวๆ 20 องศา) แล้วผมชอบเดว่อน อาโอกิเหมือนพี่เลยอะ... สุดยอดดดด...

เป็นหนังที่ซาดิสต์ได้ใจดีครับ... เพราะผมพยายามหาหนังโหดๆ ถึงลูกถึงคนแบบนี้มาซักพักแล้ว Saw ที่ผมคาดหวังไว้ก็ไม่ได้ใจผมเท่าที่ควรอีกต่างหาก

โดย: nanoguy (nanoguy ) วันที่: 4 มิถุนายน 2548 เวลา:12:41:56 น.
  
เขียนได้เยี่ยมไปเลยนะคะ

เพิ่งไปดูมา อืม มันนัวร์ นัวร์ นัวร์ นัวร์

โหด ดี นี่ถ้าไม่ใช้สีขาวดำ แดง ก็คงจะ
อืมมมมมมมมม ไม่อยากจะคิด

ก็สนุกดี แต่เนื้อเรื่องตัดไปมา
ตอนแรก ๆ ก็งง พึ่งมาเกตว่า
อ่อ มันอย่างนี้นี่เอง
ก็เมื่อจบเรื่องนี่ล่ะ

พยายามคิดอยู่ตั้งนานว่าคนนั้นมันเกี่ยวกะคนนี้ยังงัย
ที่แท้ก็มะเกี่ยวกัน

อ่อ ไม่สิ เกี่ยวแบบบาป ๆ

ชอบแนนซี่ .... อย่ากรี๊ด
โดย: yiba_aey IP: 203.113.67.103 วันที่: 9 มิถุนายน 2548 เวลา:13:21:16 น.
  
คุณเขียนได้สุดยอดเลยค่ะ ตอนแรกว่าจะเขียนเหมือนกัน เพราะพึ่งไปดูมาเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว (ที่สเปนมันพึ่งเข้าค่ะ) ยังไงขอทำลิงค์มาที่บล๊อคนี้ดีกว่า อิอิอิ
โดย: soulfighter IP: 84.120.138.131 วันที่: 29 สิงหาคม 2548 เวลา:21:11:43 น.
  
โดยส่วนตัวชอบหนังขาวดำอยู่แล้วนะครับ
โดย: neoheart วันที่: 29 สิงหาคม 2548 เวลา:22:48:10 น.
  
มาจ่ายค่าเข้าค่ะ

ชอบหนังเรื่องนี้นะ ชอบมาก มันมีอะไรที่ลึกซึ้งอยู่ทั้งในเนื้อหา และ ในภาพที่เห็น

มีเรื่องอื่นที่เป็นแบบนี้อีกไหม เพราะ ตัวเองก็เรียกไม่ถูกเหมือนกันว่า เค้าเรียกว่าหนังแบบไหน
โดย: Enigma666 IP: 203.150.234.230 วันที่: 30 สิงหาคม 2548 เวลา:14:37:16 น.
  
จ่ายค่าบริการ 1 comment ครับ
เจ๋งครับ
คุณอยู่ข้างหลังผม
ผมหันหลังไปก็จะเจอคุณ
ส่วนใหญ่ชีวิตผมจะเดินไปข้างหน้า
เบื่อๆแล้วผมจะหันมาหาคุณ
โดย: ชง IP: 58.8.44.64 วันที่: 30 สิงหาคม 2548 เวลา:20:50:28 น.
  
เพิ่งได้ดู ชอบมากครับ
โดย: ปั๊ก IP: 203.151.140.122 วันที่: 31 สิงหาคม 2548 เวลา:3:37:33 น.
  
ว่าจะดูอยู่พอดีเลยครับ....ได้มาอ่านแล้วคิดว่าต้องหาซื้อเก็บไว้แล้วล่ะ
โดย: Mr.Rabbit IP: 58.64.126.48 วันที่: 1 กันยายน 2548 เวลา:20:30:51 น.
  
Elijah Wood เล่นเปนใครคะ ดูไม่ทันแฮะ
โดย: แพท IP: 203.151.140.122 วันที่: 3 กันยายน 2548 เวลา:5:41:50 น.
  
Elijah Wood เล่นเป็นฆาตรกรโรคจิต กินเนื้อคนครับ

ชอบมากๆ หนังเรื่องนี้ (ถึงจะเป็นหนังซอง 69 บาทที่พ่อผมซื้อมาระหว่างทาง...แต่ไม่นึกเลยว่าจะเยี่ยมอะไรขนาดนี้ ชอบมากจริงๆ)
โดย: pall IP: 58.147.37.69 วันที่: 11 กันยายน 2548 เวลา:13:13:22 น.
  
ชอบ Elijah กับ Aoki มากครับ โหดได้ใจมากเลย แต่เสียดายตอนท้ายไปหน่อยที่ Nancy อดอยู่กับ Hartigan (ฉากบนโซฟาก่อน Hartigan เข้าไปอาบน้ำลุ้นแทบตาย แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
โดย: hamee IP: 202.183.190.14 วันที่: 19 กันยายน 2548 เวลา:16:04:59 น.
  
เรื่องนี้ดิฉันก็ดูที่ SF เหมือนกัน แต่เป็นเซ็นทรัลลาดพร้าว ดูนานแล้ว เพิ่งจะได้มาอ่านคอมเมนท์ของคุณก็อาจจะจำเรื่องราวไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่รวม ๆ แล้วจัดว่าชอบมาก ๆ เพราะนาน ๆ หนังแนวนี้จะได้มาฉายบ้านเราซักเรื่องนึง

เห็นมีคนมาถามว่าแนวนี้มีเรื่องอื่นอีกไหม ยังไม่มีใครมาตอบเลย ก็รอ ๆ อ่านอยู่ค่ะ เท่าที่นึกออก Kill Bill ก็น่าจะเข้าข่ายแต่เนื่องจากเป็นหนังฮิต ก็ใคร ๆ ก็น่าจะได้ดูกันเกือบหมดแล้ว (ถ้ามาอ่านถึงที่นี่ได้ก็แสดงว่าคงชอบดูหนังพอสมควร) จริง ๆ อยากให้เล่าถึงเรื่องอื่น ๆ น่ะค่ะ ถ้าใครนึกออกก็มาบอกกล่าวกันให้ฟังหน่อยท่าจะดีนะคะ เผื่อจะได้ไปหาหนังแปลก ๆ มาดูไม่ให้จำเจ

แต่ถ้าเอาในแง่หนังขาวดำแล้วบางทีก็มีสีมาเน้น ๆ ก็พอนึกออก 2-3 เรื่องเอง ซึ่งจะว่าไปก็คนละแนวเลยแต่ก็ขอเอ่ยถึงไว้หน่อยเป็นการรำลึกความหลัง มี Shinlier’s List ที่ขาวดำทั้งเรื่องยกเว้นเด็กหญิงชุดแดงคนนึ่ง Plassant View (สงสัยสะกดไม่ถูก ขอโทษด้วยนะคะ) เป็นหนังขาวดำที่บางทีเทคนิคใช้มีสีโผล่มา Happy Together ก็ใช่ จะเป็นสีก็ต่อเมื่อสองคนในเรื่องอยู่ด้วยกัน
โดย: Lily of the Valley IP: 203.151.137.69 วันที่: 20 กันยายน 2548 เวลา:16:03:15 น.
  
พูดถึงขาวดำ The road home ก็น่าสนใจครับ นอกจากความซาบซึ้งของหนังแล้ว การเล่นสีก็น่าสนใจ เมื่อหนังให้ฉากขาวดำ เป็น เรื่องของปัจจุบัน และ ฉากสี เป็นเรื่องของอดีต แทน (ตรงข้ามกับขนบทั่วไปที่เราจะเห็น ฉากย้อนอดีต มักเป็นขาวดำ)

... หนังที่คุณ Lily of the Valley เล่าถึงก็ใช้สีมาเล่นได้อย่างน่าสนใจครับ เพราะสีแทนความหมายในเรื่องหลายอย่าง ถ้าจำไม่ผิดเป็นเจ้าหนุ่มสไปเดอร์แมนเป็นพระเอก(หรือเปล่าหว่า) กับ Pleasantville
โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" วันที่: 23 กันยายน 2548 เวลา:23:42:44 น.
  
ชอบเรื่องนี้มากๆ เป็นแฟนพันธุ์แท้หนังเรื่องนี้เลยนะ
สุดยอดดดดดดดดดดดดค่ะ
โดย: the sin girl IP: 61.90.89.25 วันที่: 24 กันยายน 2548 เวลา:18:03:58 น.
  
I think the style of this movie is interesting but the story is pretty cruel to me in some reason. I do prefer Kill-Bill over Sin City.
โดย: anonYmous IP: 64.119.43.102 วันที่: 17 ตุลาคม 2548 เวลา:2:55:33 น.
  
8.5/10 คะแนน

ดู 2 รอบครับ หนังแนวมากๆเลยครับสำหรับเรื่องนี้ ประมาณว่าโดนใจวัยรุ่นเลย ดูเอาความบันเทิงครับ เนื้อเรื่องอย่าไปเอาอะไรมาก

ผู้กำกับคนนี้สร้างหนังแนวๆนี้ได้ดีจริงๆ แต่หนังอาจจะเหมาะสำหรับกลุ่มคนที่ชอบเท่านั้น
โดย: นักวิจารณ์สมัครเล่น IP: 125.24.181.222 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:31:55 น.
  
เพิ่งดู DVD มาครับ

ก็ดูไปงงไป แต่ไม่ได้ลุกไปปิด คงเป็นเพราะภาพ และความตั้งใจของหนัง

พอถึงตอนจบ กลับรู้สึกว่า อ้าว....จบแล้วเหรอ? (ยังดูต่อได้อีก)
โดย: good on ya IP: 61.7.169.24 วันที่: 7 มกราคม 2551 เวลา:21:26:11 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aorta.BlogGang.com

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]

บทความทั้งหมด