Night at the Museum , ความบันเทิงสำเร็จรูปที่สนุกเพลินเกินห้ามใจ
สวัสดีครับ

ขอพูดคุยเล็กน้อยครับกับ Blog "ดูแล้วมาคุยกัน"เรื่องแรกของปีนี้ หลังจากปีก่อนเจ้าของบล้อกคุยกับเพื่อนๆไปเฉพาะ blog หมวดนี้ก็ 70 เรื่อง ปีนี้จะได้ซักกี่เรื่อง ตื่นเต้นแฮะ

ขอส่งพรปีใหม่และภาพไฟแห่งความสุขให้กับเพื่อนๆไว้ที่ blog นี้แล้วครับ >> //www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&month=01-2007&date=01&group=5&blog=1

อย่างไรก็ขออวยพรอีกครั้ง ขอให้เพื่อนๆทุกคนมีความสุข และ พบแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตนะครับ สิ่งร้ายๆโชคร้ายๆทั้งหลายแหล่ใดๆขอให้รวมตัวกันส่งไปให้กับไอ้พวกก่อการร้ายให้พบความวิบัติและถูกจัดการได้โดยไว

และแน่นอน สำหรับเพื่อนผู้อ่าน Blog นี้ ปีใหม่นี้ขอให้มีเงินเหลือพอเหลือใช้ไว้ดูหนังกันตลอดปี มีหนังดีๆดูตลอดไป และ ได้แรงบันดาลใจหรือข้อคิดดีๆจากหนังเก็บเกี่ยวไปใช้กับชีวิตครับ

สวัสดีปีใหม่ครับผม





...ลาร์รี่ ดาลี่ (รับบทโดย เบ็น สติลเลอร์) ชายหนุ่มสถานภาพหย่าร้าง ยังคงมีความสัมพันธ์อันดีกับ คนรักเก่าและลูกชาย แต่ อนาคตระหว่างเขากับลูกกำลังสั่นคลอน อันเนื่องมาจาก ความล่องลอยไร้หลักแหล่งไม่มีงานมั่นคง เขาต้องหาทางคว้างานให้ได้ก่อนสูญเสียลูก และ งานที่เขาได้รับในวินาทีสุดท้ายคือ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกะกลางคืน ในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์

เพียงคืนแรกผ่านพ้น เขาก็แทบจะไม่รีรอที่จะขอลาออกจากงานชิ้นนี้ เพราะ ที่นี่ เมื่อถึงเวลาค่ำคืน หุ่นในพิพิธภัณฑ์ทั้งหมดจะกลับมามีชีวิต ไม่ว่าจะเป็น หุ่นขี้ผึ้งอดีตประธานาธิบดี รูสเวลท์ , โครงกระดูกไดโนเสาร์ , หุ่นแคระจำลองของคนยุคโรมัน หรือ ผองชาวคาวบอย ไม่เว้นแม้กระทั้งมนุษย์ยุคหิน หรือ รูปปั้นหน้าคนบนเกาะอีสเตอร์ ฯลฯ



ลาร์รี่ มีหน้าที่ดูแลให้เหล่าประชากรในพิพิธภัณฑ์อยู่ในความสงบ เพราะเมื่อไหร่ก็ตาม หากมีผู้ใดหลุดออกไปนอกพิพิธภัณฑ์และไม่กลับก่อนรุ่งเช้า ต้องสลายเป็นผุยผง

งานนี้สุดแสนจะวุ่นวาย และ ผู้ชายที่เหมือนจะไม่เอาไหนอย่าง ลาร์รี่ ก็ดูจะไม่อยู่สู้ต่อไป แม้หุ่นประธานาธิบดีจะพยายามรั้งเขาไว้ พร้อมให้ข้อคิดปลุกใจถึง ความยิ่งใหญ่ที่สามารถเกิดขึ้นในบางสถานการณ์ แต่ เขาก็ยังคงคิดที่จะออกจากงาน



...สำหรับบางคน ดูเป็นคนหงอๆใจไม่สู้ แต่เมื่อชีวิตมีจุดหมาย มีเป้าหมายในการอยู่เพื่อใครสักคน บางครั้ง พลังในการใช้ชีวิตก็กลับเพิ่มพูนขึ้นมา

และสำหรับลาร์รี่ พลังนี้ได้มาจากลูกชาย

มีเพียงเหตุผลเดียวที่รั้งเขาไว้ไม่ยอมออกจากงานสุดหินชิ้นนี้ นั่นคือ ความกลัวที่จะสูญเสียลูกชาย

เขาจึงกลับไปอีกครั้งและจัดการกับความวุ่นวายของเหล่า หุ่นในประวัติศาสตร์ และ ตามแก้ปัญหาจากเรื่องเหนือความคาดหมายที่เกิดจาก คน จริงๆซึ่งเลวร้ายกว่าหุ่นขี้ผึ้งหลายเท่านัก

ก่อนที่เขาเองจะได้เรียนรู้และค้นพบความจริงข้อหนึ่งที่คล้ายกับหุ่นรูสเวลท์กล่าวไว้ว่า คนเราสามารถสร้างความยิ่งใหญ่ได้ตลอดเวลา และ ในทุกสถานการณ์ ไม่เว้นแม้แต่งานชิ้นเล็กๆที่คนมองข้าม

เพราะบางครั้ง ความยิ่งใหญ่รอจะถูกจับยัดใส่มือเรา แต่เพราะความกลัว ความท้อ ความหงอ การดูถูกตัวเอง และ ความไม่สู้ของคนนี่เอง ที่เสียโอกาสเหล่านั้นไป



...เดิมนั้น ผมไม่คิดจะดูหนังเรื่องนี้ซักเท่าไหร่ อ่านคำวิจารณ์จากฝั่งเมืองนอกก็เห็นให้เกรดกันบ้านๆประมาณ C+ ยิ่งดูหนังตัวอย่างยิ่งแล้วใหญ่ เพราะมันไม่ตลกแม้แต่น้อย จะมีก็ หึๆ แค่บางช็อต จนเหมือนกับว่า Night at the Museum ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเจาะตลาดขายกลุ่มเด็กๆ เน้นความแฟนตาซี ประเภท หุ่นในพิพิธภัณฑ์ มีชีวิต แล้ววิ่งไล่กันไปมาจนหนังจบ

ผมเข้าใจผิดไป เพราะถึงหนังจะเป็นเหมือน ความบันเทิงแพ็คเก็จประเภทสำเร็จรูปที่เราเปิดห่อออกก็เดาทางได้สบายๆ แต่หนังไม่ได้ใช้ความมักง่ายขายของเก่ากิน โชคดีที่การเชื่อกระแสความเห็นในพันทิปช่วยให้ผมได้หัวเราะร่วนกับการดูหนังเต็มๆอีกครั้งปิดท้ายปีนี้ เหมือนตอน แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า ที่ คิดโบกมืออำลาตั้งแต่เห็นชื่อทีมงานสร้าง แล้วก็เปลี่ยนใจเพราะกระแสความเห็นในพันทิปล้วนไปในทิศทางบวก

ผลลัพธ์ที่ออกมาหลังหนังจบ มันไม่ใช่แค่ หึๆ แต่มัน ฮาโฮ่ๆๆ 555 หลายตอน สลับกับยิ้มๆ ได้เกือบตลอดเรื่อง ดูแล้วให้ความรู้สึกเดียวกับตอนได้ดู Pirates of the Caribbean ภาคแรก นั่นคือ หนังสนุกมากอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีช่วงน่าเบื่อ และเป็น หนังขายความบันเทิงล้วนๆที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ



ไม่ว่าจะเป็น เอฟเฟคต์ที่เนียนตา ซึ่งดูเพลิดเพลินอย่างยิ่งกับการเห็นโครงกระดูกไดโนเสาร์หยอกเหมือนหมาน่ารักน่ากลัว , มนุษย์ตัวจิ๋วรวมกันจับพระเอก , รูปสลักโมอายกวนโอ๊ยฯลฯ

การผูกตัวละครและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ช่วยทำให้สนุกมากขึ้น เป็นข้อดีสำหรับเยาวชนยันคนแก่ ที่ดูหนังจบลงแล้วอาจจะอยากรู้จักหรือเรียนรู้ข้อเท็จจริงประวัติศาสตร์เพิ่มเติมแล้วไปค้นคว้ามาอ่านเหมือนกับลาร์รี่ (รวมผมไปด้วยที่ดูจบก็ search หาเรื่องราวของตัวละครเป็นว่าเล่น ตอนแรกก็นึกว่าบางคนเป็นตัวละครเขียนขึ้นมาใหม่ อย่าง ซาราจาเวีย แต่ปรากฎว่า เธอคือ คนที่มีชีวิตอยู่จริงในยุคสองร้อยปีก่อน)



รูปสเก็ตช์ , รูปถ่าย และ รูปปั้น ของใครในหนังบ้างเอ่ย ลองทายกันดูเล่นๆ


...ตัวบทหนังนั้นหยอดรายละเอียดและแง่มุมเล็กๆน้อยๆไว้หลายจุดหลายตอน ทำให้เนื้อหนังมีอะไรมากกว่า การขายความแฟนตาซี เช่น ตัวบทของ เบน สติลเลอร์ ดูมีความลึกอยู่บ้างในรายละเอียดของความเป็นพ่อ ความเป็นคน ที่ขาดการยอมรับนับถือ โดยเฉพาะจากลูกตัวเอง การต่อสู้เพื่อให้ได้งานและเพื่อให้ไม่ตกงานของเขา ไม่ได้มีความหมายแค่นั้น แต่มันยังหมายถึง การต่อสู้เพื่อปกป้องความเป็นพ่อของตัวเองไม่ให้ร่อยหรอไป

หรือ การใส่เรื่องราวของสาม night guard คนเก่าให้มีอะไรมากไปกว่าเจ้าหน้าที่รุ่นพี่ที่ให้คำแนะนำตอนต้น หรือ ข้อคิดในการใช้ชีวิตจากตัวละครอดีตประธานาธิบดีที่รับบทโดย โรบิน วิลเลี่ยมส์ ไปจนถึง พล็อตกระจุ๋มกระจิ๋มแบบ ความข้ดแย้งของคนสองยุคสมัย หรือ การแอบรักของท่านประธานาธิบดี ล้วนมีส่วนให้หนังกระชุ่มกระชวยขึ้นมาได้มาก



หนังยังได้ การแสดงที่น่ารักๆและมีจุดเด่นของเหล่านักแสดงไล่ไปตั้งแต่ลูกชายของพระเอก , Dick Van Dyke เจ้าหน้าที่รุ่นพี่กับเพื่อนวัยดึกอีกสองคนที่ดูซู่ซ่าผิดวัย ,เจ้าของพิพิธภัณฑ์จอมจู้จี้ , พอล รัดด์ ในบทแฟนใหม่ของอดีตภรรยา และ อดีตภรรยา ที่ได้คิม แรเวอร์ หรือ ออเดรย์ เรน ขวัญใจผมจาก 24 มาสร้างความแช่มชื่นบนจอฯลฯ การใส่ใจสร้างจุดเด่นให้กับตัวละครช่วยให้คนดูยิ้มได้ถี่ขึ้นแม้ช่วงนั้นเนื้อเรื่องจะยังไม่เดินหน้าไปไหนก็ตาม

... ที่เหนือความคาดหมายที่สุดคือ ความฮา เพราะนึกว่าจะเป็นมุกบ้านๆประมาณหลอกเด็กห้าหกขวบให้ขำ แต่ เอาเข้าจริงกลับมีมุกเฉียบๆคมๆในหนังมากมาย แม้บางฉากดูหนังตัวอย่างจะแป้กเช่น ฉากลาร์รี่ตบหน้าลิง แต่พออยู่ในหนังที่มีการปูรายละเอียดมาก่อนหน้านั้น ความฮาก็บังเกิดขึ้นได้ เป็นอีกเรื่องที่ดีมากที่แอบซ่อนฉากฮาสุดๆไว้ในหนังไม่ปล่อยมาหมด ไม่อย่างนั้นคนดูคงดูไปเซ็งไปเหมือนหนังหลายเรื่องที่มุกฮาที่สุดปล่อยไปหมดแล้วตอนหนังตัวอย่าง (สองฉากที่ผมฮาสุดคือ การแกะรอยของซาคาจาเวีย และ ลาร์รี่วิ่งเข้าหาแอตติลา เดอะฮัน )


สิ่งที่ชอบ

1.มุกตลก ... ส่วนใหญ่ฮา หลายมุกฮามาก และ เด็ดดวง

2.การกำกับ ...ผู้กำกับ ชอว์น เลวี่ ไม่เคยทำให้ผมสนุกสนานเต็มที่ได้เลยจาก The Pink Panther, Cheaper by the Dozen, Just Married เพราะหนังของเขาเหมือนจะกั๊กๆติดๆขัดๆสนุกได้ไม่ต่อเนื่อง หรือไม่ก็เหมาะกับเด็กๆเกินไป(ในอีกทางหนึ่ง ผมก็แก่เกินไป) ตรงข้ามกับใน Night at the Museum ที่ความสนุกสนานนั้นรื่นไหลตลอดความยาวของหนัง และ สร้างความหรรษาได้กับทุกวัย เขาคือคนที่ต้องชมที่สามารถคุมความสนุกสนานให้อยู่ในความสมดุล ทั้งที่หนังมีสิทธิแกว่งไปกับ CG ที่มีลูกเล่นหลากหลายในเรื่อง หรือ เหล่านักแสดงจำนวนมากที่พร้อมจะขโมยซีน

สรุป ... เหมาะสมกับการเป็นหนังปิดท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่อย่างที่สุด มีมุมมองว่าหนังมีสู้ Jumanji ไม่ได้ ผมเองกลับคิดค้านกันว่า หนังเรื่องนี้อาจไม่อึกทึกคึกคักเหมือน Jumanji แต่องค์ประกอบหลายๆอย่างไม่ว่าจะเป็น การแสดง มุกตลก ฯลฯ คือ ของดีที่ มีมากกว่า และ จับคนดูผู้ใหญ่ให้สนุกได้มากกว่า ผมเองก็ชอบเรื่องนี้มากกว่าเช่นกัน หนังสนุกมากกกกก ครับ และ ในปีนี้ผมจัดหนังเรื่องนี้รวมไปกับ แสบสนิท ศิษย์ส่ายหน้า และ The Devil wear prada เป็น 3 หนังคอมิดี้ที่มีความสนุกสนานมากที่สุดประจำปี



Blog พิเศษ ฉบับส่งท้ายปี


5 หนังไม่ชอบ + 10 หนังชอบ ประจำปี 2549
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=1&month=12-2006&date=31&blog=1

10 "ฉาก"ประทับใจจาก"หนัง"ปีที่ผ่านมา
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=1&month=12-2006&date=29&blog=1

10 ตัวละครประทับใจ จากหนังปีที่ผ่านมา
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=aorta&group=1&month=12-2006&date=27&blog=1


ขอฝาก"หนังสือรัก"ไว้กับผู้อ่านด้วยเน้อ กับ พ็อกเก็ตบุ้คเล่มแรก ที่หยิบยกความรักและความสัมพันธ์ในภาพยนตร์ มาช่วยให้คุณเข้าใจตัวเองและคนรอบข้าง ได้มากขึ้นและลึกซึ้งกว่าเดิม



(วางขายตามร้านหนังสือทั่วไปแว้ว)
เมื่อ "หนัง" ให้อะไรมากไปกว่า "ความบันเทิง"





ชวนไปอ่านบทความเรื่องอื่นๆ คลิก >> หน้าสารบัญ

ชวนคลิก ชวนคุยกับเจ้าของ Blog ที่ --> หน้าแรก

รวบรวมรายชื่อหนังเรื่องเก่าๆที่เคยเขียนไว้แล้วที่ ---> ห้องเก็บหนัง




ขอคิดค่าบริการต่อการอ่าน 1 หน้าในอัตราเพียง

ความเห็น
ของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป



Create Date : 02 มกราคม 2550
Last Update : 2 มกราคม 2550 0:29:15 น.
Counter : 4371 Pageviews.

23 comments
อุ้มสีมาทำบุญ ๙ วัด ในวันขึ้นปีใหม่ที่จ.อุบลราชธานี อุ้มสี
(3 ม.ค. 2567 19:10:02 น.)
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
No. 1259 สาระเกือบมี (ตอนทำงานที่ใหม่ ถูกลองดี) ไวน์กับสายน้ำ
(1 ม.ค. 2567 05:58:05 น.)
ประสบการณ์ ทำพาสปอร์ตที่สายใต้ใหม่ newyorknurse
(2 ม.ค. 2567 17:45:17 น.)
  
ว่าจะไปดูอยู่เหมือนกัน
โดย: รถเมล์สาย 170 วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:0:58:27 น.
  
อยากไปดูเหมือนกันค่ะ สุขสันต์วันปีใหม่

โดย: Too Optimistic วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:1:19:00 น.
  
ตอนแรกคิดเหมือนจขบ.ค่ะ คิดว่าคงไม่สนุกมาก
แต่พอดูไปดูมา มันทั้งตลก ทั้งสนุก

สำหรับเราฉากเจาะยางเป็นอะไรที่ฮาสุดแล้วอ่ะค่ะ
ฮาจนปวดท้อง น้ำตาไหล


แล้วก็ชอบคำพูดของรูปปั้นหินอ่ะค่ะ
Hey, You Dum Dum
You shoulda Gimme Gum Gum
You Have To Run Run From Attila the Hun Hun.
ทั้งคล้องจอง ทั้งฮา
โดย: a r i t s u m e m o o n (a r i t s u m e m o o n ) วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:1:44:20 น.
  

ชอบ Dum Dum....Gum Gum เหมือนกัน ชอบคนที่เล่นเป็น Sacajawea สวยดี...



โดย: dollar_bht44 วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:6:20:51 น.
  
ดูมาแล้วสองรอบค่ะ รอบแรกดูกะเพื่อน รอบสองพาพ่อแม่ไปดู ฮาดีค่ะ ชอบท่านฟาโรห์ พูดภาษาอังกฤษได้เพราะไปเรียนเคมบริดจ์ 55555 เห็นว่าเป็นคนอียิปต์จริง ๆด้วยนะนั่น พ่อเจด กะ ออคเทเวียสก็น่ารักดีค่ะ
โดย: kimutaku IP: 203.170.174.79 วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:7:26:04 น.
  
ระยะนี้แวะเข้ามาบล็อกของคุณบ่อยมาก
คงเพราะเวลาเหงา ๆ ไม่มีอะไรดีกว่า
ภาพยนตร์อีกแล้ว

อันที่จริง หนังเรื่องนี้ ไม่เคยคิดจะดูเลย
แต่พอมาอ่าน
ก็เริ่มรู้สึกว่า น่าสนใจ
และจะหามาดู

(ซึ่งคงเป็นดีวีดี ตามเคย)

ขอบคุณค่ะ

I Wish in 2oo7
This year gives You...
12 Month of Happiness,
52 Weeks of Fun,
365 Days Success,
8760 Hours Good Health,
52600 Minutes Good Luck,
3153600 Seconds of Joy...
and that's all!

HAPPY NEW YEAR 2007



โดย: โสดในซอย วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:8:23:14 น.
  
เรื่องนี้อย่างฮาครับ...
อย่างที่เคยบอกไว้ที่บล๊อกก่อน ผมชอบโมอัยที่สุดในเรื่อง (ยิ่งตอนมันเป่าหมากฝรั่งติดหน้านี่ไม่ไหวแล้ว )

ไดอะล็อกคมๆที่ผมชอบก็คือตอนที่รูสเวลท์บอกว่า
"ฉันเป็นหุ่นขี้ผึ้งนะ แล้วนายเป็นอะไร?"
โดย: nanoguy (nanoguy ) วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:8:45:13 น.
  
สวัสดีปีใหม่ค่ะ

โดย: รักดี วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:10:30:10 น.
  








สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้คุณจขบและครอบครัวมีแต่ความสุข
โรคภัยไม่มี
มีโชคมีลาภมีเงินมีทอง
รวยๆ เฮงๆ ตลอดปีและก้อตลอดไปค่ะ


โดย: icebridy วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:11:42:59 น.
  
แน่ะ เรื่องนี้ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ ต้องหาดูซ๊าแล้ว

สวัสดีปีใหม่ค่ะ
โดย: JewNid วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:12:03:20 น.
  
ดูตอนแรกๆก็กลัวมันจะวืดเหมือนกัน แต่พอถึงบทพวกหุ่นในพิพิธภัณฑ์ออกโรงแล้วสนุกมาก

ชอบดนตรีของ Alan Silvestri มากมาย
กะชอบตอนท้ายๆ ที่รูสเวลท์ถามพระเอกกำลังจะตบกะลิงว่า "ใครมีสมองมากกว่า ? " 555 ได้คิดเลย
ปล.เห็นชื่อโรบิน วิลเลียม ตอนแรกในหนัง ก็ตามดูเหมือนกัน แต่ดูไปดูมาสนุกจนลืมแกไปเลย ถึง จะออกมาบ่อยก็เหอะ 555 มานึกได้ก็ตอนนี้แหละ
โดย: Fenrir IP: 58.9.44.249 วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:13:57:46 น.
  
ไหนๆ ก็เคยเข้ามาและ ก็เข้ามาอีกครั้ง

สำหรับเรื่องนี้ก็เพิ่งไปดูมาเมื่อวันที่ 31 ธค.นี่เอง
เนื้อเรื่องทำให้อารมณ์ดีตลอด

หนังดีหรือไม่ กราฟฟิคเนียนหรือไม่ ไม่สนใจ

รู้แต่ว่า การดูหนังสักเรื่องแล้วทำให้เราสบายใจนี่ มันน่าสนใจ

ก็บทวิจารณ์ของคุณ ก็เยี่ยมยอดเหมือนเดิม เห็นด้วยอย่างมากมายตรงเรื่องขำขำและรอยยิ้ม

งัยๆ ถ้ามีโอกาศจะแวะมาให้ได้ค่ะ อย่างน้อยดูหนังเสร็จก็อยากหาเพื่อนคุย
โดย: K-modjung วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:22:52:00 น.
  
ว่าจะไปดูอยู่เหมือนกันค่ะ
ชอบบทวิจารณ์ของคุณมากค่ะ
โดย: yuiorc IP: 203.146.85.142 วันที่: 3 มกราคม 2550 เวลา:9:42:47 น.
  
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
โดย: ตามมาอ่าน IP: 213.42.2.21 วันที่: 3 มกราคม 2550 เวลา:13:02:52 น.
  
อืม ... ผมมาตัดสินใจว่าจะดูเรื่องนี้หรือบอกผ่าน โดยมารออ่านจากบล็อกเนี้ยะวันนี้แหละครับ เพราะตอนกลับบ้านก็เผอิญมีเวลาน้อยเกินไป เลยไม่ทันได้เข้าโรงหนังกัน ... โอววว อาทิตย์นี้ก็มีหนังหลายเรื่องให้เก็บเลยสิเนี่ยเรา - -' ... เด๋วได้ดูแล้วจะมาเขียนเพิ่มนะครับ
โดย: บลูยอชท์ IP: 202.69.140.233 วันที่: 3 มกราคม 2550 เวลา:14:08:51 น.
  
ไปดูมาแล้วค่ะ สนุกมาก ฮากันทั้งครอบครัวเลย

ช่วงนี้แวะมาอ่านบล็อคคุณบ่อยเหมือนกันสนุกดีค่ะ
อยากวิเคราะห์ได้แบบนี้จัง ขอคารวะเป็นอาจารย์ได้ไหมเนี่ย อิอิ
โดย: มิโดริจัง IP: 203.118.74.67 วันที่: 3 มกราคม 2550 เวลา:14:47:08 น.
  
ดูมาแล้วค่ะ ชอบนะคะ สนุกดี
เหมาะแก่การส่งท้ายปีอย่างที่บอกจิงๆ
ชอบฉากที่พูดกับพวกฮันที่สุดเลย
ซีจี ก้อทำได้เนียนตาดีนะคะ
ทั้งหมดชอบทีเร็กซ์ แล้วก้อดัมดัมค่ะ
โดย: ฝนจ้า IP: 202.44.135.34 วันที่: 3 มกราคม 2550 เวลา:17:35:34 น.
  
สนุกกว่าที่คิดไว้ค่ะ หนังมีความพอดี พอดี
สนุกและพอดีกว่า pirate ภาค 2 ค่ะ
เสียดายตอนดูออกจะเพลียๆๆไปหน่อย
เลย ฮาไม่ได้เต็มที่นัก
โดย: Night at M.... !!! IP: 58.9.161.76 วันที่: 3 มกราคม 2550 เวลา:23:06:05 น.
  
+ เมื่อเย็นวานผมเลือกประเดิมหนังเรื่องแรกของปีของตัวผมด้วยเรื่องนี้ ซึ่งก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เหมือนที่คุณ จขบ. และเพื่อนๆ เขียนกันไว้ ... ด้วยพล็อตเรื่องที่ออกแนวสูตรสำเร็จ รวมทั้งพระเอกอย่างเบน สติลเลอร์ ในมาดผู้ชายขี้แพ้ ที่คนดูเห็นจนชินตาจากหนังหลายๆ เรื่อง อาจทำให้ดูเฝือๆ ไปบ้าง ... แต่สิ่งที่มีทดแทนคือ ความสนุก (ผมว่าผมรู้สึกหนุกหนานใกล้เคียงกับตอนดู Jumanji ซึ่งไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานแล้ว) , มุกตลกที่เวิร์คหลายๆ มุก , เนื้อเรื่องที่มีเรื่องราว(ถึงแม้จะตามสูตร) และที่สำคัญคือ 'ความลงตัว' ของบท ... ทำให้เรียกเสียงฮาจากผู้ชมได้มากมาย , หุ่นหลายๆ ตัวก็มีบทบาทสำคัญและมีโมเมนต์ที่น่าจดจำของตัวเอง จึงไม่แปลกใจเลยที่หนังครองอันดับ 1 บ็อกซ์ออฟฟิศเมกาได้หลายสัปดาห์จนรายรับรวมเกือบ 200 ล้านเหรียญแล้ว ถึงแม้นักวิจารณ์จะไม่ค่อยชื่นชมกันเท่าไหร่ก็ตาม
+ ตอนดูหนังตัวอย่าง ผมออกจะไม่อยากดูนะ เพราะรู้สึกเหมือนมุกมันจะซ้ำๆ ... นี่เป็นอีกตัวอย่างนึง (คล้ายๆ เรื่อง Cars) ที่หนังตัวอย่างดูแล้วไม่เวิร์ค ไม่ชวนให้เข้าไปดู ... แต่กลับไปกั๊กความฮาจริงๆ ไว้ในเรื่องเต็ม (ซึ่งถ้าปล่อยตั้งแต่ตอนหนังตัวอย่าง พอดูเต็มๆ อาจฮาน้อยลงก็เป็นได้)
+ แหะๆ ... อันที่ให้ทายนั่น ขอทายดังนี้
รูปสเก๊ตซ์ - น่าจะเป็นของ อ๊อคเตเวียส
รูปถ่าย - ใครหว่า นึกม่ายออก
รูปปั้น - อันนี้น่าจะเป็น ซาคาฮาเวีย แน่นอน

=== Spoiler alert เกี่ยวกับมุกทั้งหลาย ===
* มีหลายๆ มุกเลยที่ทำให้ผมยิ้มแก้มปริ จนถึงหัวเราะกรั่กๆ อาทิเช่น ...
+ โมอายจากเกาะอีสเตอร์ (โดยเฉพาะมุกหมากฝรั่ง และคำพูดของเค้า)
+ เจ้าลิงน้อยตัวแสบ (ชอบตอนโดนหลอกเรื่องกุญแจเด็ก กับตอนที่ ปธน. พูดดีด้วยแล้วเค้าดีตอบ)
+ ทีเร็กซ์ ที่กลายมาเป็นหมาน้อยตัวโต
+ เจด (โอเว่น วิลสัน) และ ออคเตเวียส (สตีฟ คูแกน) ก็แสบๆ ฮาๆ ดี และมีซึ้งตอนที่กลายเป็นมิตรกันไปในที่สุด ตอนเจาะลมยางก็ฮามั่กๆ
+ โรบิน วิลเลี่ยมส์ ก็เข้าทาง (ยังไม่ได้ไปเสิร์ชเลย ว่าหน้าตาจะเหมือนท่านรูสท์เวล ตัวจริงขนาดไหน)
+ 3 ไนท์การ์ด (แก่แต่แสบ) ก็ร้ายได้ขำขำดี
+ ซาคาฮาเวีย - สวยแปลกตา ... ตอนแกะรอยก็ฮาด้วยคน
+ เพื่อนร่วมงาน ผู้กิ๊กกับพระเอก ... ไปดูเครดิตที่ imdb ถึงรู้ว่าเธอคือ คาร์ล่า กูจิโน่ จาก Spy kids! ... ตอนแรกผมก็นึกอยู่ว่าเธอมาที่พิพิธภัณฑ์ตอนใกล้รุ่งได้ไง แต่มานึกอีกที อ๋อ ... พระเอกโทรไปตามนั่นเอง แต่ แหม มาเร็วจัง
+ มุกตอน มนุษย์ นีแอนเดอธัล ผู้พยายามจุดไฟ และพวกชาวฮั่น (โดยเฉพาะตอนที่ผูกมิตรช่วงท้าย) ก็เวิร์คครับ
+ ทั่นฟาโรห์ ... ผมนึกๆ อยู่ว่าน่าจะเป็นไฮไลต์ที่ลุกขึ้นมาจัดการสิ่งต่างๆ ทั้งหมด ... แล้วก็ใช่จริงๆ ... แต่ไม่นึกว่าจะฉีกผ้ามัมมี่ออกมาเป็นชายหนุ่มได้ เหอะๆ แถมไปเรียนภาษาปะกิดจากเคมบริดจ์ แล้วพูดภาษาฮั่นได้ด้วยเนี่ยนะ เอิ๊กๆๆ
+ เบน สติลเลอร์ ... ยังเอาหนังทั้งเรื่องได้อยู่เช่นเคย เพราะยังไงนี่ก็เป็นหนังแนวถนัดของเค้าอยู่แล้ว
+ ช่วงท้าย end credit ยังทำเก๋ ด้วยการเฉลยว่า พิพิธภัณฑ์ถูกทำให้เข้ารูปเข้ารอยก่อนจะเปิดได้ ด้วยการที่พระเอกใช้ให้ 3 โจรทำความสะอาดให้ แลกกับการไม่ต้องถูกจับส่งตำรวจ อีกต่างหาก
โดย: บลูยอชท์ IP: 202.69.140.233 วันที่: 10 มกราคม 2550 เวลา:11:57:26 น.
  
ตอนแรกก็ไม่ได้กะจะไปดูเรื่องนี้เลยค่ะ เพราะดูจากหนังตัวอย่างแล้วไม่ได้รู้สึกสนุกอะไรมากมาย แต่พอดีพักนี้ทำงานหนัก อยากไปดูอะไรสนุกๆคลายเครียด ประกอบกับคอมเมนท์จากเพื่อนที่ได้ดูแล้วบอกว่าดีประกอบกับคุณอดีตแฟนอยากดู รวมๆด้วยเหตุผลทั้งหมดทำให้ได้ไปดูเรื่องนี้

พอดูจบก็คือชอบค่ะ หัวเราะตลอดเลย ชอบฉากที่พระเอกวิ่งหาแอตติลา เดอะฮัน แล้วตะโกนใส่หน้าโต้ตอบกันน่ะค่ะ ฉากนั้นฮามากๆ แล้วก็อีกหลายฉากมากมาย

ก็เลยได้ยิ้มตั้งแต่ต้นปีเลยค่ะ
โดย: ลิปดา-พิลิปดา IP: 161.200.255.162 วันที่: 15 มกราคม 2550 เวลา:16:04:55 น.
  
ขนาดคาดหวังกับหนังเรื่องนี้มากๆว่าต้องสนุกแน่ๆ พอได้ไปดูจริงๆแล้วไม่ผิดหวังเลยค่ะ สนุกมากกกกกกกกกกกกกกกกกก ชอบสุดๆเลย ดูง่ายแต่ได้ใจความ มีประโยคที่ชวนให้ฉุกคิดอยู่หลายประโยคเลย เช่น "ใครมีสมองมากกว่ากัน" "ฉันเป็นหุ่นขี้ผึ้ง แล้วนายเป็นอะไร" แล้วฉากที่ตลกสุดๆก็เหมือนกับหลายๆคนคือฉากที่ซาคาจาเวียแกะรอยรถเนี่ยแหละ เพราะตอนนั่งดูอยู่ยังคิดเลยว่า "รู้ได้ยังไงเนี่ย?"
โดย: littlepretty IP: 203.155.54.244 วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:18:21:26 น.
  
ดะเเดเพ
โดย: โยโย IP: 203.172.175.25 วันที่: 29 มกราคม 2550 เวลา:12:00:26 น.
  
7/10 คะแนน

ดูเพลินๆ ยิ้มไปได้ตลอดทั้งเรื่อง ขอชมไอเดียของคนสร้างเลยว่า ให้ความบันเทิงสุดๆ

แต่ดูจบแล้ว สำหรับผมกลับไม่มีอะไรให้น่าจดจำเท่าไหร่
โดย: นักวิจารณ์สมัครเล่น IP: 125.24.181.222 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:11:20:08 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Aorta.BlogGang.com

"ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 72 คน [?]

บทความทั้งหมด