
..คุณมีมั้ยว่าถ้าเป็นหนังของดาราคนนี้คุณจะไม่พลาดแน่นอน สำหรับผมมีอยู่ เช่น อัลปาชิโน่ โจวหยุนฟะ
..คุณมีมั้ยว่าถ้าเป็นหนังของผู้กำกับคนนี้คุณจะไม่พลาดแน่นอน สำหรับผม มี ไมเคิล มานน์เป็นหนึ่งในนั้น
....จาก Heat ที่เป็นเรื่องแรกของผู้กำกับคนนี้ที่ผมได้ดู ความประทับใจที่เอา2ดาราดังเจ้าบทบาทที่มักจะเด่นเกินจอมาเจอกันแต่สามารถรวมกันตัวหนังได้อย่างน่าทึ่ง มาสู่ The Insider หนังที่ผมคิดว่าสมควรจะได้oscarในปีนั้นด้วยประการทั้งปวง ทั้งการแสดง การกำกับภาพ แสง ทุกรายละเอียดบอกถึงความใส่ใจและการแม่นยำของผู้กำกับคนนี้อย่างชัดเจน
.......วันนี้เริ่มต้นเหมือนคืนอื่นๆที่ผ่านมา สำหรับเจมี่ ฟ็อกซ์ เค้ารับทอม ครูซ ขึ้นมาบนtaxiของเค้า ส่วนผมเริ่มต้นที่SF MBK ซึ่งโดยปกติโรงที่รับผมมักจะเป็นLido และ Scala แต่วันนี้รอบสำหรับผมมันดึกเหลือเกินจึงต้องตัดใจ
.........หลังจากเสียตังค์ไป120บาทกับค่าโดยสารโรงใหม่ ผมเลือกที่นั่งที่คิดว่าเลขสวยสำหรับคืนนี้...B5.... (เพลงเพราะดีนะครับ ผมชอบมากโดยเฉพาะแทรค1กับแทรคสุดท้าย เอ๊ะไม่เกี่ยวนี่หว่า )
............ขอย้ำ(I repeat)สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ดูทุกคนว่านี่ไม่ใช่หนังแอคชั่น บู๊เลือดพล่าน ขอย้ำ(I repeat) เพราะถ้าคุณคาดว่าจะเป็นแบบนั้นคุณจะผิดหวังอย่างแน่นอน หนังเริ่มต้นด้วยภาพและเสียงที่คุณคงคิดไม่ถึงว่าจะเป็นหนังอย่างที่คุณดูในตัวอย่าง ผู้โดยสารสาวสวยที่Maxพระเอกของเรารับก่อนจะเจอเหตุการณ์ระทึกขวัญ ช่วงเวลานี้ผมชอบมากจนคิดว่าถ้าไมเคิล มานน์จะกำกับหนังรักโรแมนติกซักเรื่อง น่าจะไม่เลว เพราะ15-20นาทีแรกถึงแม้ว่าจะไม่มีฉากแอคชั่นเลยแต่ผมกลับรู้สึกว่ามีเสน่ห์และชวนให้ติดตามต่ออย่างเย้ายวน ด้วยภาพหลายหลากมุมและดนตรีประกอบที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี
...................

หลังจากรับvincent อดีตซามูไรของเราขึ้นมาบนรถ หนังก็เริ่มขับเคลื่อนไปในทิศทางที่เร็วมากขึ้น เข้มข้นมากขึ้น ระทึกมากขึ้น ถ้าช่วงนี้จะเป็นหนังแอคชั่นผมขอเรียกมันว่าแอคชั่นนุ่มๆก็แล้วกัน มันกลมกล่อม ไม่คึกคะนองเกินไป ไม่โลดโผนเกินไป จะตลกก็ตลกอย่างได้ที่ การเรียนรู้ของทั้ง2คนผมอยากจะเรียกว่า การเลือก2คนนี้มาเจอกันในหนังเรื่องนี้ดูมีchemistry(ขอใช้ศัพท์ฝรั่งหน่อย)ที่เข้ากันได้ดีเลยทีเดียว (ในตอนแรกบทของMaxจะตกเป็นของ อดัม แซนด์เลอ ตอนนั้นยังเสียดายอยู่ว่าไม่น่าเปลี่ยนเลย แต่หลังจากเปลี่ยนเป็นเจมี่ ฟ็อกซ์ ผมกลับมาคิดว่าดีแล้วที่ไม่เป็นอดัม แซนด์เลอ ) ครูซเล่นได้ในระดับที่ไม่แตกต่างจากเดิมที่เคยเล่นในหลายเรื่อง เค้าเป็นพระเอกอีกคนที่คิดว่าเค้าเล่นเหมือนกันทุกเรื่อง และ ตัวเค้ามักจะเด่นเกินหนังและผมคิดว่าเค้าคงไม่ได้ไปไกลกว่านี้แล้วแต่เมื่อมาประกบกับเจมี่ ฟ็อกซ์ เค้าก็สามารถทำได้ดี(อาจต้องชมผู้กำกับด้วย)
...........................

ครึ่งสุดท้ายของเรื่อง ขับเคลื่อนไปอย่างเร็ว แต่ก็ไปในทิศที่ควรจะเป็น อาจจะจบแบบเรียบง่ายไปนิดแต่ผมว่าก็ถือว่าเหมาะสมแล้วกับความเร็วกับความเข้มข้นของหนังที่พาเรามาจนถึงตรงนี้
ขอสรุปเลยแล้วกันว่าผมชอบหนังเรื่องนี้มากและอยากแนะนำให้ได้ไปดูกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนครูซ แฟนไมเคิลมานน์ หรือแฟนเจมี ฟ้อกซ์(ไม่น่าจะมีนะ) นี่เป็นหนังที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
โปรแกรมหน้า....จอมใจบ้านมีดบิน และ the notebook เจอกันแน่ครับเจ้าเก่า ลิโด้
....................บรรทัดถัดจากนี้คือ Spoiler สำหรับผู้ที่ดูแล้ว................
....หนังมีจุดหักมุมที่ทำให้หนังสามารถเดินเรื่องได้ยาวเรื่อยๆ และจุดที่ใส่เข้ามานี่ผมชอบและคิดว่าเข้าท่าดีนะ เช่น ตอนที่maxโยนกระเป๋าของvincentทิ้ง แล้ว ทำให้max ต้องปลอมเข้าไปในแกงค์เพื่อเอารายชื่อที่เหลือมา ซึ่ง ฟ็อกซ์ก็เล่นได้น่ารักน่าชังดีแท้ กับตอนที่ถูกมัดบนรถแล้วขอความช่วยเหลือกลับกลายเป็นเจอปล้นซะนี่
ตอนจบผมคิดว่า2คนนี้เค้าน่าจะคุยอะไรกันมากกว่านี้หน่อยนะ ก่อนตายคือผมรู้สึกว่าตายเร็วไปหน่อยและก็จบเลย แหมอุตส่าห์ผจญภัยกันมาทั้งคืน คือ รู้สึกเหมือนกับว่าตอนจบน่าจะมีพลังมากกว่านี้ได้อีก กับหนังที่ทำได้ดีมาตลอดทั้งเรื่อง
5/8/2004