Always: Sunset on Third Street , บางสิ่งที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ ![]() ![]() / หนังดูได้ทุกเพศทุกวัย / เข้าฉายเฉพาะที่โรงสยามและโรง House Spoiler alert : บทความนี้เปิดเผยรายละเอียดของหนัง หากยังไม่ต้องการรับรู้เพราะยังไม่ได้ดู ท่านสามารถคลิกไปอ่านบทความแนะนำหนังเรื่องนี้ได้ที่ >> ขออาสาเป็นหน้าม้า ขออาสาเป็นป๋าดัน เชียร์หนัง .. Always: Sunset on Third Street (หนังของเขาดีจริงๆ) ซูซูกิ โนริฟูมิ อาศัยอยู่กับภรรยาและลูกชายที่น่ารักช่างเจรจาชื่อ อิปเป ประกอบกิจการอู่ซ่อมรถ ชากาวะ ริวโนะสุเกะ นักประพันธ์ไส้แห้ง มีชีวิตอยู่ตัวคนเดียวเขียนนิยายในร้านของชำ คุณหมอทาคุมะ หมอยักษ์ ผู้ที่มีแต่ภาพครอบครัวอยู่ในบ้าน แต่ครอบครัวแท้จริงได้จากเขาไปเพราะสงคราม เด็กสาววัยรุ่น มัตสุโกะ หรือ โรขุ ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อมาหางานทำในเมืองใหญ่ ฮิโรมิ สาวงามประจำร้านอาหารผู้เป็นที่ฝันใฝ่หมายปองของหนุ่มๆ กับ จุนโนะสุเกะ เด็กผู้ชายที่เพื่อนของเธอทิ้งไว้ให้ดูแล คุณยายร้านขายบุหรี่สุดเปรี้ยวที่รู้จักโคล่าก่อนใครในซอย ฯลฯ ซูซูกิ มีความฝันที่จะก่อร่างสร้างตัวสร้างกิจการ ซูซูกิ ออโต้ ของตัวเองให้เป็นอุตสาหกรรมรถยนต์ขนาดใหญ่ในอนาคต โรขุ อยากเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถดูแลตัวเอง เป็นผู้ใหญ่เพียงพอที่จะสู้ชีวิตทำงานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาพ่อแม่ ริวโนะสุเกะ ปรารถนาการยอมรับจากผู้คน เขาทุ่มเทให้งานเขียนสำหรับเยาวชนที่ไม่เคยได้รับการเหลียวแล ฮิโรมิ มองหาความรักที่จะมาพาเธอโบยบินไปสู่โลกใบใหม่ที่กว้างใหญ่กว่าเดิม จุนโนะสุเกะ ขาดครอบครัวที่จะคอยดูแลสั่งสอน ร่วมเสวนาพูดคุย กินข้าว และ ห่วงใยในกันและกัน ![]() โรขุ ทำให้ ซูซูกิ ต้องเคืองใจเมื่อเขารู้สึกว่าเธอพูดจาดูถูก และ เขาทำให้เธอต้องผิดหวังเมื่อสถานที่ทำงานจริงไม่เป็นอย่างที่คาดคิด เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อเราตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า โลกใบนี้ไม่เป็นอย่างที่คิดไม่ได้เป็นดั่งใจ แล้วหากเราหลับตานอนต่อไป เราก็จะไม่มีวันได้สร้างโลกใบใหม่ขึ้นมาอย่างที่ฝัน แต่ในหนัง การเปิดใจยอมขอโทษของซูซูกิ และ การน้อมรับคำขอโทษบวกความไม่ย่อท้อของโรขุ ก็ทำให้ทั้งสองคนหันหน้ากลับมาจับมือช่วยเติมเต็ม ความฝันของกันและกัน เธอทำให้เขาเชื่อว่า ซูซูกิ ออโต้ มีอนาคตมากพอที่จะฝากชีวิตไว้ และ เขาทำให้เธอเชื่อในคุณค่าที่มีในตัวเอง การก้าวเข้ามาของ จุนโนะสุเกะ เข้ามาสู่ชีวิตอันโดดเดี่ยวของ ริวโนะสุเกะ ทำให้ชีวิตชายคนหนึ่งได้พบเจอคุณค่าในตัวเองที่ถามหามานาน จากที่เคยรู้สึกแค่ว่า งานเขียนตัวเองเป็นแค่วรรณกรรมชิ้นเล็กๆที่ถูกลืม แต่สำหรับเด็กชายตัวเล็กๆอย่างจุนโนะสุเกะ ริวโนะสุเกะเปรียบเสมือนฮีโร่ คือ ภาพฝันในใจที่วาดไว้มาแสนนาน แม้จะถูกริวโนะสุเกะขโมยเอาผลงานที่ตัวเองวาดไปเป็นของตัวเอง ถ้าเป็นเราคงโกรธผิดหวัง แต่สำหรับเด็กน้อยจุนโนะสุเกะไม่ใช่เลย เพราะ การที่งานของเขาได้รับการยอมรับจากคนที่เป็นฮีโร่ มันย่อมทำให้หัวใจดวงน้อยพองโต และ รอยยิ้มดีใจของเขา มันทำให้นักเขียนคนหนึ่งถึงได้ตระหนักว่า ตัวเขาเองนั้นมีคุณค่า มีความหมายสำหรับใครอีกคนในโลกใบนี้อย่างที่ไม่เคยรู้ตัวมาก่อน ไม่เพียงแค่การเติมเต็ม คุณค่าในจิตใจ แต่ สำหรับสองคนนี้แล้ว หนึ่งคนนั้นเติมเต็มความเป็นพ่อให้อีกคน และ อีกหนึ่งคนก็ทำให้อีกคนได้พบความสุขของการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว ... แม้ หมอทาคุมะ จะไม่เหลือใครในบ้านหลังใหญ่มาแสนนาน แต่ ช่วงเวลาสั้นๆของคืนวันหนึ่งที่หมอทาคุมะได้รับไหว้วานจาก ริวโนะสุเกะ ให้แต่งตัวเป็นซานตาคลอส คือ ช่วงเวลาที่เขาได้มีส่วนช่วยในการสร้าง ครอบครัว หนึ่งให้ก่อเกิดขึ้นมา และ มันสามารถสร้างความรู้สึกอบอุ่นให้กับใจที่เหน็บหนาวจากการไร้ความครัวมายาวนาน มันทำให้ ความสุขของการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว เกิดขึ้นในใจเขาอีกครั้งหนึ่ง การเปิดบ้านต้อนรับ ฮิโรมิ ทำให้เธอได้สัมผัสด้านที่อ่อนโยนจริงใจของ ริวโนะสุเกะ และ ริวโนะสุเกะ เองได้เรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนอื่น การใช้ชีวิตเป็นครอบครัวอย่างที่ตัวเองไม่เคยสัมผัสมาก่อน เขาปริปากถามคู่ปรับบ้านตรงข้ามอย่าง ซูซูกิ ว่าการเป็นครอบครัวนั้นดีอย่างไร สำหรับผู้ชายที่มีแต่ความกลัวอย่างเขา ผู้ชายที่รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าจนไม่กล้าจะพาใครเข้ามาอยู่ในชีวิต แต่วันนั้นมันคือวันที่เขาคิดเริ่มต้นสละชีวิตที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวและกล้าตัดสินใจจะอยู่รวมกับคนที่เขารักและคนที่รักเขาเช่นเดียวกัน เธอทำให้เขาได้รู้จักความรู้สึกที่เรียกว่าว่า ความรัก และสอนให้เขารู้จักความสุขของการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว และ เขาทำให้เธอได้รับความรักที่จริงใจ นั่นคือสิ่งที่ทุกคนในถนนสายนี้ได้เรียนรู้ การได้อยู่ร่วมกัน การได้เติมเต็มความหมายของชีวิตให้แก่กันและกัน จากจุดเริ่มต้นหนึ่งคนจนกลายเป็นครอบครัวที่อบอุ่น ![]() ปากกาของจุนโนะสุเกะ ... มีค่ามากกว่า ทรัพย์สมบัติมากมายที่พ่อแท้ๆของเขาจะมอบให้ สมบัติเหล่านั้นมันคือ มูลค่าเงินที่ปราศจากรัก ในขณะที่ปากกาเก่าๆด้ามนี้ คือ ความรักที่ไม่สามารถตีราคาเป็นค่าเงิน ปากกาด้ามนี้ คือ ความรักในฐานะพ่อ ที่ผู้ชายคนหนึ่งพึงจะทำได้แม้จะขัดสน เพียงเพื่อได้เห็น รอยยิ้มของเด็กคนหนึ่งมีความสุขในวันพิเศษเช่นนี้ ในวันนั้น ริวโนะสุเกะคงได้รับรู้ความรู้สึกเหมือนกับพ่อทั้งโลกแล้วว่า แม้พ่อจะลำบากเพียงใดแต่เพื่อรอยยิ้มของลูกสักหนึ่งครั้ง มันก็ชโลมใจให้พ่อพร้อมจะเสียสละทุกสิ่งในโลกนี้ได้เพื่อลูก เครื่องรางของแม่ ... อิปเป อยากให้แม่ซื้อเสื้อตัวใหม่ให้แทนตัวเก่าที่ขาดวิ่น เขาทำหน้าเหยเกเมื่อแม่ยื่นเสื้อตัวเก่าที่เพิ่งปะเสร็จให้ แม้แม่จะบอกว่า เสื้อตัวนี้แม่ปะเครื่องรางไว้ด้วย ตามประสาเด็ก อิปเป วิ่งออกไปเล่นอย่างหน้าเซ็งๆ เมื่อเขาใช้ตามอง เขาเห็นแต่เสื้อเก่าตัวหนึ่ง ก่อนที่สุดท้ายเขาจะพบว่าเสื้อเก่าๆตัวนี้มันคือ ความรักและความห่วงใยของแม่ที่ถักทอไปพร้อมกับเครื่องราง ไม่ใช่เครื่องรางหรอกที่พาเขากลับบ้าน แต่ความรักของแม่ต่างหากที่ผูกเขาไว้ไม่ให้ต้องหลงทางจากไป ในตอนเด็กที่เราเห็นเพื่อนคนอื่นๆมีเสื้อผ้าใหม่ๆแต่เราต้องใช้ของพี่ตัวเก่าๆ เราอยากให้แม่ซื้อกางเกงตัวใหม่ แต่แม่กลับเอาตัวเก่าไปปะชุนเป็นรอยจนเรารู้สึกอายเพื่อน ความอับอายในวัยเด็กนั้น เกิดจากสิ่งที่ ตาเรามองเห็น คือ วัตถุ แต่คุณค่าที่เราไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตา คือ คุณค่าของ ความรัก ที่แม่ถักทอด้วยความห่วงใยในลูกของตัวเอง จดหมายที่โรขุไม่ได้อ่าน ... โรขุ คิดว่าทางบ้านไม่มีใครต้องการเธออีกต่อไป เพราะตั้งแต่เธอจากมาก็ไม่มีใครถามหา แท้จริงแล้วเป็นเพราะว่า พ่อแม่ของโรขุ กลัวว่า ถ้าตอบจดหมายกลับมา ลูกสาวตัวเองจะอ่อนแอและยอมแพ้ชีวิตกลับบ้านไป พ่อแม่ของเธอจำต้องฝืนใจไม่ติดต่อเธอแต่แอบถามจากเจ้าของบ้านแทน เพื่อช่วยสานฝันให้ลูกและให้ลูกแข็งแกร่ง จดหมายเหล่านั้น บ่งบอกชัดเจนว่า บางครั้งสิ่งที่พ่อแม่แสดงออกมาเหมือนผลักเราออกไป ไม่ได้หมายความว่าพ่อแม่ไม่รักเรา แต่เพราะรักและรู้จักลูกตัวเองมากนั่นเอง เขาจึงเลือกทำเช่นนั้น ความรักที่จำต้องอดกลั้นไว้ไม่แสดงออกมามันลำบากนักหนาสำหรับคนเป็นพ่อแม่แต่พวกเขาก็ยอมทน เพื่อคนที่เขารักมากที่สุด แหวนที่มองไม่เห็น ... ทันทีที่ฮิโรมิเปิดกล่องออกมา มันมีเพียงความว่างเปล่าอยู่ภายใน หากเธอมองหาคุณค่าของวัตถุ เธออาจมองหาแหวนวงนั้นไม่เจอ แต่เธอไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมื่อเปิดกล่องออกมาเธอรู้ในทันทีว่า สิ่งที่นักประพันธ์ไส้แห้งขี้อายอย่าง ริวโนะสุเกะ ทุ่มเทและรวมรวมความกล้าในวันนี้ได้ มาจากแรงผลักดันที่มากพอจาก ความรักที่เขามีต่อเธอ ความรักซึ่งไม่อาจใช้ตามองเห็นแต่สามารถใช้ใจสัมผัสรับรู้ เช่นเดียวกัน แหวนวงนี้จึงไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสสวมใส่ได้ด้วยใจ และ เมื่อใดก็ตามที่เธอมองหาความรักที่ผู้ชายคนนี้มีให้ แหวนวงนั้นจะส่องประกายทุกครั้งยามเธอมองกลางแสงตะวัน ![]() Always: Sunset on Third Street ... เป็นหนังที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูน ตัวหนังเล่าย้อนไปในสมัยที่ผู้คนต้องใช้ชีวิตหลังสงคราม หนังเริ่มต้นตั้งแต่โตเกียวทาวเวอร์ที่กำลังเริ่มต้นก่อสร้างซึ่งเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของชีวิตคนญี่ปุ่นที่กำลังตั้งต้นขึ้นมาใหม่ ก่อนที่หนังจะไปจบลงที่ภาพพระอาทิตย์ตกดินเป็นฉากหลังของโตเกียวทาวเวอร์ที่เสร็จสมบูรณ์ เชื่อได้เลยว่ามัน เป็นหนังที่ทำให้คนญี่ปุ่นน่าจะอิ่มสุขกับการได้รำลึกความหลัง เป็นอีกหนึ่ง nostalgia ของพวกเขา แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคนดูชาติอื่นดูแล้วจะไม่เข้าใจ บางสิ่งอาจเป็นวัฒนธรรมเฉพาะตัวแต่บางอย่างก็เป็นวัฒนธรรมร่วม เพราะชีวิตที่เริ่มต้นหลังสงคราม มันก็ไม่ต่างจากการเริ่มต้นสร้างชีวิตใหม่ของผู้คนไม่ว่าจะชนชาติไหนก็ตาม จึงไม่น่าแปลกใจที่ เราเองจะดูแล้วรู้สึกอิ่มอุ่นประทับใจหรือคุ้นเคย กับ ฉากผู้คนบนถนนมารอคอยการถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ (คิดถึงตอนที่ตัวเองได้ทีวีมาใหม่ๆตอนเด็กๆ ฉากนี้น่ารักดีในตอนท้ายเมื่อแต่ละคนต้องเศร้าจากไปด้วยผลงานของคนที่จบมหาวิทยาลัยโตเกียว) หรือ ฉากตื่นเต้นกับตู้เย็นที่มาถึงบ้าน (ทุกอารมณ์ทุกอย่างที่ตัวละครทำ เช่น เอาหัวมุดตู้เย็นตอนร้อนๆ ผมเองก็เคยทำแบบนั้นมาก่อนแล้วเช่นกัน) หรือ ฉากกินขนมที่หมดอายุเพราะความเสียดายของดี (ก็มันไม่มีตังค์หงะ จะเอาไปทิ้งก็เสียดาย ) นอกจากฉากหลักๆของหนังแล้ว หนังยังมีรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ทำให้เราต้องยิ้ม สลับ น้ำตาริน ตลอดทั้งเรื่อง เช่น เราอดยิ้มไม่ได้กับความช่างคิดของ ซซูกิออโต้ ที่ไปพ้องกับกิจการซูซูกิในปัจจุบัน หรือจะ หัวเราะไปกับฉากที่เหมือนการ์ตูนตอนคุณซูซูกิบ้าพลัง ไม่นานต่อมาเราก็อาจจะซึ้งกับฉากเล็กๆที่สีหน้าเศร้าสร้อยของคนส่งน้ำแข็งที่ตัวเองหมดบทบาทลงเมื่อตู้เย็นเข้ามาแทนที่ ...ฉากชุมชนที่ถูกสร้างย้อนยุคขึ้นมา กับ การถ่ายภาพในหนัง สร้างบรรยากาศในอดีตได้อย่างสมจริง ภาพโตเกียวทาวเวอร์ที่ถูกสร้างขึ้นมากลมกลืนไปกับตัวอาคารบ้านเรือนของจริง อีกทั้งดนตรีประกอบก็มีส่วนช่วยในการเรียกน้ำตาคนดูยิ่งนัก ... โดยตัวหนังแล้วเรียกได้เลยว่าพล็อตของ Always เป็นหนังน้ำเน่า เล่าเรื่องทิศทางเดียว ไม่สลับซับซ้อน หลายบทหลายตอนหลับตาก็เดาได้ว่าฉากต่อไปจะเป็นเช่นไร แต่ ...ความเรียบง่ายและเดาได้นั้นทุกบททุกตอน ผ่านการกลั่นกรองและกำกับอย่างได้จังหวะพอดิบพอดีที่จะสัมผัสความรู้สึกคนดูเข้าไปถึงข้างใน ชนิดที่เรียกว่า แม้จะรู้ว่าฉากต่อไปต้องเสียน้ำตาและสะกดกลั้นไว้ ก็ยากยิ่งที่จะไม่ให้มันไหลรินออกมา ทั้งรอยยิ้ม ทั้งเสียงหัวเราะ ทั้งน้ำตา จะปรากฎพร้อมกันในช่วงเวลา 2 ชั่วโมงที่รับชม นี่เป็นตัวอย่างของหนังที่มีบทที่ยอดเยี่ยมและการกำกับที่ยอดเยี่ยม เป็นการทำน้ำเน่าให้ออกมาหอมชื่นใจ การย้อนสู่ความเรียบง่าย ในยุคสมัยที่คนทำหนังไขว่คว้าทำหนังที่ยากขึ้น มีปมเงื่อนให้ซับซ้อนขึ้น แต่กลับไม่สามารถทำให้มันเข้าถึงหัวใจคนดูได้เลย น่าจะมาดูหนังเรื่องนี้เป็นตัวอย่าง ว่า หากมีฝีมือ มีบทที่ดี มีการกำกับที่ดี เรื่องราวเรียบง่ายนั้นก็สามารถเป็นความยอดเยี่ยมและงดงามได้เช่นกัน สิ่งที่ชอบ ![]() 1.ฉากเครื่องราง น้ำตาไหลริน 2.ฉากแหวนที่มองไม่เห็น น้ำตาพรั่งพรู 3.ครอบครัว เป็นเรื่องที่สองถัดจาก Be with you ที่ดูจบแล้วรู้สึกว่า อยากมีครอบครัว และ การมีครอบครัวนี้ช่างงดงามยิ่งนัก ![]() 4.ความงดงาม ... หนังเรื่องนี้ก็เหมือนแหวนที่ฮิโรมิได้รับ หากวัดกันที่งานสร้างหรือความอลังการมันไม่ได้มีสิ่งเหล่านั้นเลย แต่หากใช้ใจสัมผัสจะพบเห็นราคาที่มากไปกว่าเงินค่าตั๋วที่เสียไป 5.การกำกับและบทภาพยนตร์ ... ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นความง่ายที่งดงามและให้ความรู้สึกดีหลังหนังจบลง แม้เจตนาของหนังดูจะจงใจสร้างความรู้สึกดีเต็มที่ เรียกว่าบทหนังถูกเขียนมากันเพื่อบิวท์อารมณ์กันตรงๆ แต่มันก็ไม่ได้รู้สึกแปลกแยกหรือตะขิดตะขวงใจ เพราะผู้กำกับสามารถเสนอมันออกมาอย่างจริงใจและเข้าถึงใจคนดู สรุป ... เป็นหนังที่มากกว่าคำว่าคุ้มค่าตั๋ว มันเป็นหนังที่งดงาม น้ำตาของคนดูที่ไหลรินจะไม่ใช่ไหลออกมาเพราะความรู้สึกผิดหวังเสียใจ แต่เป็นน้ำตาแห่งความอิ่มเอม ซึ่งนานเหลือเกินแล้วที่เราไม่ได้เสียน้ำตาให้เพราะความสุขจากจอภาพยนตร์ ไม่ว่าคุณจะชอบหนังแนวไหนก็ตาม Always: Sunset on Third Street เป็นหนังที่คุณไม่ควรพลาดเด็ดขาด ปล ... เจ้าของ Blog จะไม่อยู่ ช่วง เสาร์นี้ถึงพุธหน้า หากมีความเห็นหรือคำถาม ขออภัยที่ไม่ได้อยู่ตอบใน Blog ไว้กลับมาตอบแน่นอนครับ รบกวนฝาก Blog ให้เพื่อนๆดูแลชั่วคราวจ้า ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ความเห็นของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านคนถัดมา คำทักทายของคุณเป็นกำลังใจให้ผู้เขียน คำติชมหรือคำแนะนำของคุณจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพัฒนาหากคุณเข้ามาอ่านครั้งถัดไป เป็น review ที่สมบูรณ์มากๆ ครับ
![]() ผมดูเรื่องนี้ไปสองรอบครับ ... เจอใคร รักใครก็บอกพวกเขาว่าควรไปดูหนังเรื่องนี้นะ เพราะมันให้อะไรมากกว่าความเพลิดเพลิน ครั้งที่สองที่ดูก็ไปกับเพื่อนอีกคนครับ เห็นเพื่อนชอบมาก ผมก็พลอยดีใจไปด้วย ผมชอบ "ความรัก" ในหนังเรื่องนี้ครับ เป็นความรักที่บริสุทธิ์ ระหว่างเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน โดย: King Of Pain
![]() กำลังรออ่าน Review แบบเต็ม ๆ อยู่เลยค่ะ
นานแล้ว ที่ไม่ได้เจอหนังเรียบง่าย แต่ได้ใจแบบนี้ รายละเอียดเล็ก ๆ ในทุกฉากมีความหมาย และสร้างความประทับใจให้ไม่รู้ลืมเลยค่ะ ชอบมาก ๆ ค่ะ หนังเรื่องนี้ โดย: BeeJang
![]() เด็กน้อยในเรื่องสองคนน่ารักมากค่ะ ชอบตรงองค์ประกอบทางศิลป์ของหนังเรื่องนี้ ทำออกมาได้ย้อนยุคดีมากค่ะ
![]() โดย: Tai-Sarunya
![]() กำลังรอคอยรีวิว คุณอยู่ข้างหลังผม อยู่เลย และแล้วก็สมใจ...
ไม่ต้องพูดอะไรมากครับ เพราะผมกับคุณ และคนที่ได้ดูทุกคน ต่างก็พร้อมมอบใจให้หนังเรื่องนี้ไปเต็มๆ ![]() ถ้าคุณยังคงรัก Be with You ... เชื่อผมเถอะว่าคุณจะต้องหลงรัก ALWAYS : Sunset on Third Street ไปด้วยอย่างแน่นอน https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=onceupon&group=9&month=04-2006&date=27&blog=1 โดย: OncE UPoN'-'a MaN
![]() หลงรักหนังเรื่องนี้ไปเลยครับ ฉากแหวนที่มองไม่เห็น กับการผลักไสจุนโนะสึเกะไปสู่ชีวิตที่ดีกว่า ทำผมแทบตายคาโรงเลยครับ กลั้นน้ำตาไม่อยู่เลยอินจัดๆ แถมช่วงเครดิตท้ายเรื่อง เพลงประกอบกับรูปยังทำให้ผมน้ำตาพรั่งพรูออกมาไม่ยั้งอีกครั้งครับ
![]() ![]() โดย: เข็มขัดสั้น
![]() พี่เลือกมุมมองจากหนังมาเขียนได้ดีจังค่ะ ชื่นชม แปะๆๆ
![]() เริ่มร้องไห้ตั้งแต่ฉากท่านประธานซูซูกิทะเลาะกับโรขุ หลังจากนั้นคงไม่ต้องบอกมั้งคะ ว่าร้องไม่หยุดเลย ![]() แต่ฉากที่โดนใจเราอาจจะต่างออกไปนิดหน่อยค่ะ เพราะชอบฉากที่คุณลุงร้านน้ำแข็งมองเข้ามาเห็นตู้เย็น และมีกล่องใส่น้ำแข็งถูกทิ้งอยู่ มันสะท้อนใจดี ![]() ชอบไดอะล็อกอันนึงมากๆเลยค่ะ ตอนที่เด็กสองคนหายตัวไปแล้วประธานซูซูกิทะเลาะกับคุณนักเขียน คุณซูซูกิพูดว่า"คนอย่างแกเคยไปรบในสงครามรึเปล่า" ส่วนคุณนักเขียนก็ตอบโต้ว่า "แล้วนายเคยอ่านวรรณกรรมรัสเซียรึเปล่า" เราว่าเป็นไดอะล็อกที่เฉียบคมและแสดงถึงความไร้สาระของคนเราได้ดีมากๆ ว่าชอบตัดสินคนอื่นโดยใช้บรรทัดฐานของตนเอง ใครจะตัดสินได้เนาะว่าระหว่างไปออกรบกับการอ่านวรรณกรรมรัสเซีย นี่อะไรที่มีสาระและคุณค่ามากกว่ากัน ??? ชอบมากกว่า Be with you ค่ะ (ก็เราดันเป็นหนึ่งในน้อยคน ที่ไม่ได้ประทับใจอะไร Be with you มากมายนี่นา) เหตุผลคงเป็นเพราะว่าเราซึ้งกับเรื่องครอบครัว เรื่องความหวัง ได้มากกว่าเรื่องความรักมั้งคะ ![]() จุดเล็กๆที่เราข้องใจว่าทำไมต้องออกมาแนวนี้ คือความ overacting บางอย่าง โดยเฉพาะของคุณนักเขียน มันทำให้เรานึกว่าดูโหด มัน ฮาอยู่แน่ะ ![]() อีกประเด็นนึง คือเรื่องครอบครัวของโรขุ แอบรู้สึกว่าไม่ต้องคลี่คลายให้สวยงามแบบนี้ แต่ออกมาแบบเศร้าๆตามตอนแรก น่าจะซึ้งกว่านี้นะ ปล. ได้ดู Matchpoint แล้วค่ะ ไปตอบใน blog นั้นละกันนะ โดย: azzurrini
![]() ..
ชอบมากครับ รู้สึกอบอุ่นจริงๆ หลังจากปีที่แล้ว Be With You ก็เคยให้ความรู้สึกแบบนี้ ป.ล. ดูจบ กลายร่างเป็นสาวก โขุ จัง ด้วย >__< .. โดย: POGGHI
![]() ชอบจังเลยค่ะ ได้ความรู้สึกดีๆจริงๆ อยากไปดูซะแล้วสิ !
โดย: AIM IP: 202.44.8.100 วันที่: 14 พฤษภาคม 2549 เวลา:15:02:08 น.
วันนี้ได้ไปดูเรื่องนี้มาตามคำเชียร์ของเจ้าของบล็อกแล้วค่ะ
เมื่อได้ดูแล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะดูแล้วมีความสุข เนื่องจากซาบซึ้งกับหนังมากๆเลยค่ะ ร้องไห้จนตาแดงเลยอะ ขอบคุณเจ้าของบล็อกมากๆเลยค่ะ ที่แนะนำ ^^ โดย: alizy IP: 58.136.224.231 วันที่: 14 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:36:38 น.
ยังไม่ได้ดูเลยครับ...
ตอนแรกว่าจะไม่ดู ตอนหลังโดนเพื่อนไซโคมากๆเข้า ชักอยากดูแล้วสิ เพราะไอ้เพื่อนคนนี้ก็ไม่ได้สักแต่ดูหนัง... แต่อยู่ต่างจังหวัดก็แย่อย่างนึงล่ะครับ... หนังดีดีไม่ค่อยมีคนยอมดูกัน คนฉายเลยไม่ยอมขาดทุนฉาย โดย: nanoguy IP: 203.172.108.211 วันที่: 15 พฤษภาคม 2549 เวลา:0:36:04 น.
ชอบอารมณ์ Nostelgia มากเลยครับ
เจอหนังแบบนี้ทีไรขนลุกตั้งแต่ฉากแรกเลย ยอมรับเลยฮะว่าตอนนี้นั้งอ่านไปฟังเพลงไปขนยังลุกซู่อยู่เลย แล้วก็เรื่องราวของคุณหมอ ที่แม้ว่าหนังจะให้เวลาเพียงแค่ไม่นานก็สามารถอธิบายชีวิตครอบครัวของแกได้อย่างสุดเศร้าและซึ้งถึงใจ ส่วนโตเกียวทาวเวอร์ผมให้เป็นตัวละครหลักอีกตัวเลยฮะเพราะมันเติบโตขึ้นตลอกเวลาพร้อมๆกับการเปลี่ยนแปลงของตัวละครทุกตัวในเรื่อง เสมือนสัญลักษณ์แห่งความเข้มแข็ง อดทน ทะเยอทะยานของผู้คน จนกระทั้งฉากสุดท้าย... ![]() โดย: kimprite
![]() ผมได้ชวนเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆที่รู้จักกันให้ดูหนังเรื่องนี้ อยากแบ่งบันความสุขที่ผมได้จากหนังเรื่องนี้ ผมไปดูมารอบที่สองเมื่อคืน กลั้นน้ำตาไม่อยู่จริงๆ ดูแล้วเข้าใจชีวิตมากขึ้น หนังที่เติมความสุขให้แก่ชีวิต เต็มไปด้วย มิตรภาพ ความหวัง ความรัก ความอบอุ่น อยากลองดูเหมือนกันว่าดูครั้งที่3 แล้วจะยังร้องไห้อยู่ไหม
![]() ปล.มีชาวต่างชาติมาถามผมถึงหนังเรื่องนี้ว่าเป็น หนังญี่ปุ่น หรือ มี Sub อังกฤษไหม ดีไหมผมตอบ ไปว่ามีครับ และผมมาดุรอบที่สองแล้วด้วย เขาเดินขึ้นไปซื้อตั๋วเลย ไม่รุ้ว่าเขาจะชอบไหม. โดย: ทิน IP: 138.32.254.21 วันที่: 15 พฤษภาคม 2549 เวลา:14:19:53 น.
เป็นหนังญี่ปุ่นเรื่องนึงที่ดูแล้วได้ใจอย่างมากมายเลยค่ะ
ชอบหลายๆอย่างในเรื่องเหมือนคุณผมอยู่ข้างหลังคุณ และเหมือนที่หลายๆคนรู้สึกกัน หลายฉากเรียกเสียงหัวเราะได้อย่างน่ารัก หลายๆฉากเรียกน้ำตาได้อย่างซาบซึ้ง และ อีกหลายๆๆๆฉากเรียกความประทับใจในมิตรภาพ ความอบอุ่น และความเป็นครอบครัว ได้อย่างงดงาม ดูแล้วรู้สึกว่าทุกคนบนถนนสายนี้ มีความสวยงามและน่ารัก จนอยากเข้าไปกอด!!!555 และความรู้สึกที่ได้ออกมาคืออบอุ่นใจ มองคนและโลกใบนี้ด้วยความรู้สึกชื่นชมมากขึ้น มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ น่าจะมีความสวยงามเช่นนี้อยู่ในตัวแต่ละคนเช่นกันนะ ชอบความเห็นของหลายๆคน และโดนใจที่คุณ azzurrini พูดถึงการให้คุณค่าตามบรรทัดฐานตัวเอง เช่นการเถียงกันระหว่างเจ้าของอู่กับคนเขียนหนังสือ เรื่องสงครามกับวรรณกรรมรัสเซีย เห็นด้วยเลยค่ะ ว่าคนเรามักตัดสินคนตามมุมมองของตัวเอง แถมไม่รู้ตัวด้วยค่ะ ![]() โดย: All ways IP: 58.9.156.24 วันที่: 16 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:03:14 น.
ชอบหนังที่พูดถึงความอบอุ่นในครอบครัว ดูแล้วมันเข้าถึงความรู้สึกได้ลึกดี
ฉากที่หมอซื้อไก่ย่างกลับไปที่บ้าน แต่ในควมเป็นจริงแล้วเป็นแค่ความฝัน มันทำให้นึกถึงพ่อ นำตาพุ่งเลย พล็อตเรียบง่าย ธรรมดาสุดๆ แต่ดูแล้วประทับใจมาก เจอใครก็บอกให้ไปดู แต่ที่ไม่ชอบ คือดูแล้วร้องไห้เยอะมากๆ ออกมาจากโรงตาบวมเลยอ่ะ โดย: heartfelt melody IP: 202.28.181.9 วันที่: 16 พฤษภาคม 2549 เวลา:21:32:45 น.
ชอบทุกฉากเลยคะ
เป็นหนังครอบครัวในดวงใจไปเลย โดย: tong IP: 202.28.181.10 วันที่: 17 พฤษภาคม 2549 เวลา:14:02:37 น.
ผมคงเขียนคล้ายๆ กับที่เคยเขียนไปในบล็อก "ขอเป็นหน้าม้าฯ" ของคุณจขบ. แหละครับว่า ... ข้อตินิดเดียวของหนังเรื่องนี้สำหรับผมก็คือ อาการ Overacting ของบางตัวละครในบางฉาก (ซึ่งอย่างน้อยก็มีคุณ azzurrini#7 ที่รู้สึกคล้ายๆ ผมเช่นกัน) กับภาคบังคับของบทหนังที่แทบจะรู้เลยว่าพอฉากนี้ออกมาแล้วมันจะเป็นยังไงต่อไปและหนังจะสื่อถึงอะไร จนแม้กระทั่งฉากจบ ก็พอจะรู้ได้เลยว่าต้องเป็นภาพผู้คนที่ยืนมองหอคอยโตเกียวที่สร้างเสร็จพอดีโดยมีดวงอาทิตย์เป็นฉากหลังแหงมๆ (จริงๆ ด้วยสิ!)
ส่วนความชื่นชมนั้น ก็มีมากมายก่ายกองเหมือนที่คุณ จขบ. และความเห็นบนๆ เขียนๆ กันมา เป็นหนังแนวครอบครัวที่สามารถดึงอารมณ์ nostaglia ของคนดูออกมาได้อย่างมากมาย (คนญี่ปุ่นที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ คงยิ่งซาบซึ้งเข้าไปใหญ่ที่มองเห็นอดีตของตัวเองกลับมาเรืองโรจน์อยู่บนแผ่นฟิล์มอีกครั้ง) ... ถึงบทจะน้ำเน่า แต่ก็ทำออกมาได้อย่างลงตัวและกลมกลืน ทุกจังหวะไม่มีพลาด เรียกว่าเรียกน้ำตาแบบเอาตายเลยทีเดียว ... เจ้าเด็ก 2 คนช่างไร้เดียงสาได้น่ารักมากมาย ส่วนคนอื่นๆ ก็แสดงดีกันทุกคน ... ขอเป็นอีก 1 เสียงที่ร่วมชื่นชมกับหนังเรื่องนี้ครับผม โดย: บลูยอชท์ IP: 210.1.33.130 วันที่: 17 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:04:03 น.
ผมกลับเฉยๆ จนเกือบจะไม่ชอบด้วยซ้ำ
ได้อารมณ์ Nostalgia อย่างเดียวที่พยุงหนังให้ไปรอดได้ ส่วนเรื่องอื่นๆ ผมว่าออกจะด้อยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละคร มันไม่ค่อยเนียนเลยครับ **1/2 ![]() โดย: A Gunner IP: 124.121.2.212 วันที่: 17 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:45:19 น.
มาอีกรอบค่ะ
ท่ามกลางกระแสหนังใหญ่เรื่องอื่น แอบดีใจกับชัยชนะเล็ก ๆ น้อยของหนังเล็ก ๆ เรื่องนี้ ที่ยืนฉายโรงใหญ่ คือ สยามได้ ต่ออีกหนึ่งสัปดาห์ คิดว่าจะหลุดไปลิโด้ซะแล้ว แสดงว่าแรงเชียร์ของเรา ๆ ได้ผล เป็นม้าต่อไปค่ะ โดย: BeeJang
![]() ไปดูมาแล้วค่ะ
ร้องไห้จนจมูกแดงก่ำเลย ก่อนเข้าโรงก็สวนกับรุ่นน้องที่มหาลัย เค้าดูรอบก่อนเราอ่ะค่ะ เค้าเห็นเราก็มาทักเราแบบตาบวมๆ ![]() แต่คงไม่ดูรอบสองแล้วค่ะ ดูรอบแรกแล้วร้องไห้จนเหนื่อยเลยไม่อยากร้องไห้แล้วค่ะ ![]() โดย: ป่อหงส์
![]() หนังเรื่องนี้ทำให้วันแย่ๆกลายเป็นวันดีๆได้เรยแหละค่ะ
![]() ดูแล้วประทับใจดี .. ยิ่งพอมาอ่าน คิดภาพตามไปด้วย ก็อยากพาคนพิเศษไปดูด้วยจัง หนังดีๆแบบนี้ ![]() โดย: noonnanoon
![]() ผมชอบหนังเรื่องนี้มากๆ ได้ดูแล้ว อบอุ่น และ น้ำตาไหลด้วยความซึ้งและตื้นตัน เป็นหนังที่ดีมากๆๆๆเรื่องนึง อยากให้ไปดูกันเยอะๆ
สุดท้านผมหลงรักเจ้าของ Blog ซะแล้วเนี่ยทำไงดี 555555555 อยากเก่งแบบคุณจัง ดูหนังแล้วเขียนได้แบบนี้อ่ะ ![]() โดย: Garuda IP: 61.90.128.94 วันที่: 20 พฤษภาคม 2549 เวลา:8:09:33 น.
เพราะเป็นความรัก....ยังไงก็สวยงามเสมอ...
ชอบหนังเรื่องนี้เหมือนกันจ้า ปล. ระวังตัวดี ๆ นะจ๊ะ เพราะเริ่มมีผู้ชายมาหลงรักเข้าให้แล้ว ![]() โดย: คุณป้าของคาปู IP: 202.28.181.9 วันที่: 20 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:04:54 น.
หนังเรื่องนี้สร้างจากการ์ตูนค่ะ...คิดว่าน่าเป็นคำอธิบายอาการ overacting ที่คุณความเห็นที่ 7 และ 17 ตงิดๆ หรือข้องใจได้บ้าง และถ้านึกออก ในหนังจะมีหลายภาพเลยทีเดียวที่ดูแล้วเหมือนยกออกมาจากการ์ตูน (เช่น ตอนที่หนุ่มนักเขียนโดนนายซูซูกิออโต้ซัดจนนอนแผ่หราอยู่หน้าร้าน)
ท้ายนี้ ขอบคุณเจ้าของ blog ที่เขียนให้(แอบ)อ่าน(มานานแล้ว)ค่ะ [เพิ่งชำระค่าบริการเป็นครั้งแรก ![]() โดย: เปีย IP: 124.120.162.249 วันที่: 20 พฤษภาคม 2549 เวลา:21:07:23 น.
เหอๆๆๆ ดูมารอบเดียวน้ำตายังไม่เท่ากับที่อ่านรีวิววันนี้เลยค่ะ เหมือนทุกฉากทุกตอนมันมารวมอยู่ภายใน5นาทีที่อ่าน
ตอนไปดูไปแบบไม่รู้เรื่องอะไร แค่มีคนรู้จักแนะนำให้ไปดู แล้วก็ได้ของแถมกลับมาคุ้มกับค่าเดินทางเข้ากรุงเทพ..55555 ยังอยากจะดูอีกสักรอบนะคะ ![]() โดย: kaka (kakaman
![]() ... แวะเข้ามาขอบคุณทุกความเห็นที่มาพูดคุยกัน ทั้งที่ชอบและไม่ชอบครับ และ มาบอกว่า แม้ ดาวินชี่ จะบุกโรงหนัง แต่ เรื่องนี้ยังคงยืนหยัดอยู่ที่โรงสยามและ House อยู่ครับ ไม่อยากให้พลาดหนังเรื่องนี้ไป ดูจอทีวีที่บ้านก็อาจไม่ได้อารมณ์ร่วมเท่าดูในโรงใหญ่พร้อมๆกัน
![]() โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
![]() ![]() จะรีบชวนเพื่อนๆไปดูเลยค่ะ
โดย: sky_pink IP: 202.44.135.35 วันที่: 21 พฤษภาคม 2549 เวลา:15:30:08 น.
ตามลิงก์มาจากพันทิปค่ะ
[[ขอโทษนะคะ เอาข้อความในบล็อคนี้ไปลงไดอารี่ตัวเองไว้นิดนึง(ให้เครดิตแล้วค่ะ ที่//lonea.storythai.com)]] แบบว่ารู้สึกกินใจกับเนื้อเรื่องอ่ะค่ะ (ขนาดแค่อ่านนะ) .. :) ยังไม่ออกจากโรงใช่มั้ยคะ อยากดูมากเลยค่ะ โดย: lonea IP: 203.118.85.20 วันที่: 22 พฤษภาคม 2549 เวลา:8:07:10 น.
เรื่องนี้ดีมาก ๆ เค้าทำให้เราหัวเราะจนน้ำตาเล็ด แล้วตามด้วยฉากซึ้งที่ทำเอาน้ำตาซึมได้หลายฉาก
อิ่มใจที่ได้ดูหนังดี ๆ แบบนี้ ต้องเรียกว่าเป็นหนังรักแห่งปีเลยก็ว่าได้ แหม น่าจะมาช่วงหน้าหนาว คงได้อารมณ์น่าดู ปล. ขอร่วมเป็นขบวนการหน้าม้าด้วยคน เพราะว่าเรื่องนี้ดีจริง ๆ ปล.2 มีคนบอกว่าเรื่องนี้เหมือน "แฟนฉัน" ตรงที่เรื่องราวทั้งหมด เกิดขึ้นในยุคสมัยก่อน และเกี่ยวกับความรักล้วน (รักแบบหลายรูปแบบ) โดย: คุณแม่ของคาปูและคุณหลวง IP: 203.144.196.34 วันที่: 22 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:58:46 น.
อืม .... ตามลิงค์มาจากไดอารี่เพื่อน และเพื่อนมันชวนไปดูอ่าค่ะ ฟีอยากไปดูมากๆเลย
ชอบแนวหนังเรื่องนี้ มากเลยค่ะ .... มันกินใจ ตอนอ่านเรื่องเครื่องรางของแม่ .... ร้องไห้ซะแล้ว ขอบคุณที่แนะนำหนังดีๆนะคะ ถ้าเกิดฟีไปสามารถไปดูได้จริงๆ ก็คงจะไปหาซีดีมาดูให้จงได้ค่ะ ^ ^ โดย: ฟีเลีย IP: 61.47.106.34 วันที่: 22 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:51:29 น.
>lonea ... อนุญาติด้วยความดีใจและยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
![]() ฟีเลีย ... ได้ดูแล้วกลับแวะเวียนมาแสดงความเห็นพูดคุยได้เสมอครับ เพราะ blog นี้ก็ยังอยู่ always ![]() ... ขอบคุณทุกความเห็นที่แวะเวียนมาพูดคุย และ ยังรอคอยความเห็นถัดๆมาครับ + ยินดีด้วยสำหรับผู้ที่ถูกล่อหลอกเชิญชวนไปดูแล้วกลับมาอย่างมีความสุข เพราะ เจ้าของ blog ก็มีความสุขตามเมื่อได้เป็นส่วนร่วมในความสุขของคุณ ![]() โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
![]() ![]() lonea ... อนุญาติด้วยความดีใจและยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
![]() ฟีเลีย ... ได้ดูแล้วกลับแวะเวียนมาแสดงความเห็นพูดคุยได้เสมอครับ เพราะ blog นี้ก็ยังอยู่ always ![]() ... ขอบคุณทุกความเห็นที่แวะเวียนมาพูดคุย และ ยังรอคอยความเห็นถัดๆมาครับ + ยินดีด้วยสำหรับผู้ที่ถูกล่อหลอกเชิญชวนไปดูแล้วกลับมาอย่างมีความสุข เพราะ เจ้าของ blog ก็มีความสุขตามเมื่อได้เป็นส่วนร่วมในความสุขของคุณ ![]() โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
![]() ![]() ชอบมากเลย (ไปดูมาเพราะเพื่อนบังคับ)
หนังงดงามจริงๆๆ อิ่มเอิบใจมากๆๆ ครับ ละเมียดละไมเหลือเกิน โดย: คนตะวันออก IP: 58.8.12.127 วันที่: 22 พฤษภาคม 2549 เวลา:21:30:00 น.
นานๆจะเจอหนังที่ดูจบแล้ว ทำให้มีความสุขได้สักที...
เฮ้อ...สุดยอดจริงๆ~^ ^ ตอนแรกรู้สึกเฉยๆมาก แต่โดนน้องลากไป เพราะมันจะดูอีกรอบ... แต่เมื่ออกมาจากโรงหนังแล้ว เราก็กลายเป็นหน้าม้าอีกหนึ่งไปโดยปริยาย 55+ โดย: จั่น* IP: 58.8.72.4 วันที่: 23 พฤษภาคม 2549 เวลา:0:34:32 น.
อยากดูจัง คงได้แต่รอแผ่นอยู่ไกลขนาดนี้เฮ้อ...
โดย: nam IP: 58.147.119.19 วันที่: 23 พฤษภาคม 2549 เวลา:14:15:48 น.
^^ แฮ่ะๆ ขอบคุณมากเลยค่ะ (นึกว่าจะโดนว่าซะแล้ว)
วันนี้โทรไปถามที่โรงหนังสยามมา เขาบอกว่า Always จะออกจากโรงวันพฤหัสนี้ แต่ว่าจะไปฉายต่อที่ลิโด้ค่ะ ทีแรกแอบใจแป้ว แต่คราวนี้ก็มีโอกาสได้ดูแล้ว T T ((ไม่พลาดแน่นอนนน)) โดย: lonea IP: 203.118.85.50 วันที่: 23 พฤษภาคม 2549 เวลา:17:55:29 น.
ชอบเพลงประกอบที่เปิดตลอดทั้งเรื่องนี้มากค่ะ
(เพลงที่ขึ้นครั้งแรก ในฉากที่อิปเปเล่นเครื่องบิน) โดย: NeVeR FaKe IP: 202.29.54.62 วันที่: 23 พฤษภาคม 2549 เวลา:20:37:34 น.
ชอบหนังเรื่องนี้ครับ
ร้องไห้อยู่ 2 ครั้งด้วยกัน แหวนที่มองไม่เห็น ชอบมากที่สุดในเรื่อง เป็นมุกที่ได้ใจที่สุดของฉากรักเลยทีเดียวจนไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ จดหมายของโรขุ หลังจากหมดน้ำตาก๊อกแรกไปได้ ไม่คิดว่าจะต้องเปิดก๊อกอีก แต่มันอดไม่ไหวจริง และก๊อกนี้ไหลแรงและนานกว่าเดิมเสียอีก เรื่องครอบครัวเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อจิตใจค่อนข้างมากจริงๆ โดย: k r y IP: 58.9.158.79 วันที่: 23 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:33:29 น.
เขียนได้ละเอียดถี่ถ้วน และจับใจมากครับ ผมชอบหนังเรื่องนี้มาก ร้องไห้จนตาบวมเลย ดีใจที่ได้เข้ามาอ่านบล็อกนี้นะครับ
![]() โดย: ดิว IP: 124.157.171.228 วันที่: 24 พฤษภาคม 2549 เวลา:21:06:01 น.
ขออาสาเป็นหน้าม้าเรื่องนี้ด้วยอีกแรงค่ะ
เพราะหลังจากหลวมตัวไปดูตามที่เจ้าของบล็อคแนะนำ ปรากฎว่าออกมาด้วยอาการคล้ายๆ กับหลายคนคือตาบวมเปล่ง โดนสุดๆ อินกับหลายๆฉาก เหมือนกับที่เจ้าของบล็อค แต่ที่ร้องไห้ฟูมฟาย ก้อต้องฉากนี้เลย "แหวนที่มองไม่เห็น" โอ้วว คิดได้ไงเนี่ย เพราะหากว่าฉากนั้นมีแหวนประกอบในฉากนี้สักวงนึง เราก้อจะแค่แอบยิ้มๆดีใจกับผู้หญิงคนนั้นด้วย แต่กลับกลายเป็นว่า...โอ้วว น้ำตาพรั่งพรูจริงๆค่ะ เป็นฉากประทับใจไปอีกนานเลยล่ะ ยอมรับว่าหนังเรื่องนี้ไม่มีพล็อตเรื่องอะไรโดดเด่น แต่คนเขียนบท คนกำกับภาพ คนตัดต่อ... ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม ทำให้เปรียบเทียบกลับไปกับความรู้สึกที่พอเราออกมาจากโรงหนังกับอีกเรื่องที่เราตั้งตารอคอย แต่กลับไม่รู้สึกประทับใจอะไรเลย ดูแล้วเฉยๆมากมั่ก ทั้งที่ฟอร์มหนังยิ่งใหญ่อลังการ โปรโมทกันทั่วโลก กระทู้ต่างๆ ก้อเขียนวิจารณ์กันอย่างถึงพริกถึงขิง หรือขนาดมีการประท้วงกันทั่วโลก คงรู้แล้วใช่ไหมค่ะ ว่าเรื่องนั้นคือ Da Vinci Code สุดท้าย ขอขอบคุณเจ้าของบล็อคอีกครั้ง ที่แนะนำหนังฟอร์มเล็ก แต่เปี่ยมด้วยคุณภาพและความประทับใจเช่นนี้ และจะขออาสาเป็นหน้าม้าให้ต่ออีกทีนึงนะคะ ป.ล. ไปดูมาวันนี้รอบสองทุ่มสิบห้า ปรากฎว่าคนเยอะพอสมควรทีเดียว สงสัยอาจจะเป็นเพราะกระแสจากในห้องเฉลิมไทยนี้แน่ๆเลยค่ะ โดย: aorengja IP: 203.107.204.221 วันที่: 25 พฤษภาคม 2549 เวลา:0:19:46 น.
เพิ่งไปดูมาเมื่อวานเองค่ะ
รุสึก "อิ่มตา อิ่มใจ" มาก ๆ เลยค่ะ โดย: sunniece IP: 202.12.118.36 วันที่: 25 พฤษภาคม 2549 เวลา:9:55:28 น.
อ่านแล้วอยากดูมากๆ แต่อยู่ไกล กลับเมืองไทยคราวนี้ต้องหาดูให้ได้ ไม่ทราบว่าจะหาหนังแผ่นเรื่องนี้ได้ที่ไหน จะพยายามหาจากอเมซอนดู หรือใครพอทราบว่าที่เมืองไทยมีขายที่ไหน รบกวนช่วยบอกด้วยนะคะ อยากดูมากๆๆๆ
โดย: jj IP: 67.170.137.151 วันที่: 25 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:13:19 น.
เป็นหนังเรื่องแรกที่ทำให้น้ำตารื้นด้วยความตื้นตันได้มากกว่าหนึ่งครั้ง อิ่มเอมกับทุกฉาก ยกความดีความชอบให้คนชวนค่ะ ซึ่งเธอก็คงยกต่อให้เจ้าของบล๊อกอีกที
จริงๆ เป็นหนังที่ไม่ได้ตั้งใจจะไปดูเลย เพราะไม่ใช่หนังรักอย่างที่ชอบ แถมเป็นหนังย้อนยุค ไม่พากษ์อีกต่างหาก แถมมีโรงเดียว แต่พอดูจบ หัวใจได้พองโตอย่างที่คุณบอกจริง ๆ เป็นการบริหารหัวใจที่ดีค่ะ ขอบคุณอีกครั้ง โดย: singlemom IP: 202.147.38.96 วันที่: 25 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:13:22 น.
>... เข้ามาตอบว่ารู้สึกดีใจครับ ที่การเป็นหน้าม้าอาสาของผมมีส่วนร่วมที่ทำให้คนไปดูมามีความสุข
![]() ป.ล. ตอนนี้หนังย้ายจากโรงสยามไปประจำการที่ลิโด้แล้วนะครับ โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
![]() ![]() ในที่สุดก็ไปดูมาแล้วค่ะ ^___^ (ช้าไปหน่อยแต่ก็ทันล่ะน่า ...) หาคนไปดูด้วยอยู่ตั้งนานแต่สุดท้ายก็ไปคนเดียวแฮะ
![]() ทั้งที่รู้เนื้อเรื่องอยู่ก่อนแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังกลั้นน้ำตาไม่อยู่เอาซะเลย โดยเฉพาะตอนที่ริวโนะสุเกะขอฮิโรมิแต่งงาน กระทั่งตอนท้ายๆเรื่องที่ฮิโรมิยกมือตัวเองขึ้นส่องดูแหวนอีกหน เห็นแล้วแทบอยากร้องเลยค่ะ แล้วก็ซึ้งกับอีกหลายต่อหลายฉาก ฉากที่จุนโนะสุเกะร้องไห้ทั้งที่ถูกขโมยผลงาน ฉากที่โรขุเห็นจดหมายจากที่บ้าน รู้สึกว่ามัน''เข้าตัว''ยังไงก็ไม่รู้ค่ะ T T (อ้อ แล้วก็ฉากที่ท่านประธานโกรธนี่น่ากลัวชะมัดเลยค่ะ (- -''') คนอาร๊าย ...) ส่วนตัวแล้วคิดว่าเพลงประกอบมีส่วนมากจริงๆเลยค่ะ ฟังจากในบล็อกนี้ก็หลายรอบแล้วนะ แต่ยิ่งพอได้เปิดประกอบในหนังแล้วมันยิ่งสุดยอดไปกันใหญ่ ทั้งฉากเปิดตัวที่เครื่องบินร่อนออกไปแล้วก็ฉากแหวน เหมือนเพลงเป็นตัวกระตุ้นให้น้ำตาแตกเลยค่ะ ฉากก็ทำออกมาดูอลังการมากเลย ดูแล้วนึกถึงเรื่องแฟนฉันเลยแฮะ (เพราะเป็นแบบย้อนยุคเหมือนกันล่ะมั้ง แต่เรื่องฉากนี่ Always ชนะขาดลอยค่ะ - -''') แต่การตัดฉากของ Always ยังให้ความรู้สึกว่า ตัดแว้บ .. ตัดแว้บ .. ไปหน่อยอ่ะค่ะ (ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี ... -.-' ส่วนนี้ให้ความรู้สึกคล้ายๆเวลาอ่านการ์ตูน ว่าแต่การ์ตูนต้นฉบับของเรื่องนี้มีขายในไทยมั้ยคะ?) ที่เหลือก็ชอบหมดทุกอย่างเลยค่ะ .. จะวันนี้ จะพรุ่งนี้ หรือจะอีกห้าสิบปี พระอาทิตย์ตกดินก็จะสวยงามตลอดไป อิปเปพูดประมาณนี้รึเปล่านะ? ฉากสุดท้ายนี่ก็น้ำตาทะลักอีกแล้ว ![]() ![]() โดย: lonea IP: 203.118.85.57 วันที่: 27 พฤษภาคม 2549 เวลา:9:18:18 น.
ชอบมาก ชอบทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในหนังเรื่องนี้ เป็นหน้าม้าอย่างเต็มใจ ชวนเพื่อนไปดูเพียบ คนที่ชอบดูหนังอยู่แล้วบอกครั้งเดียวไปทันทีเลย จะเข้าใจว่าดีจริง แต่เพื่อนที่ไม่ค่อยได้ดูหนังหรือดูแต่หนังตลกกับแอคชั่น ชวนจนเหนื่อย เลยต้องมานั่งคิดว่าทำไมต้องมานั่งปากเปียกปากแฉะแล้วก็เหนื่อยขนาดนี้ด้วย พอเพื่อนได้ดูออกมา มันชอบทุกคนและมาขอบคุณเรา
อือ หายเหนื่อยเลย แล้วก็หาเหยื่อรายต่อไปให้มาเสพความสุข ปล.ไม่คิดว่าจะเจอคุณคนตะวันออกในนี้ด้วย โดย: ท่าเรือรามา IP: 202.44.72.3 วันที่: 27 พฤษภาคม 2549 เวลา:15:12:00 น.
ผมคงเป็นม้า Always รุ่นหลังๆ พอสมควรครับ เพราะนับจากวันแรกที่ได้ดู ก็เป็นเวลา 1 สัปดาห์พอดี ถึงกระนั้นก็ได้ดูไปแล้ว 3 รอบ และคงมีรอบที่ 4 ในเร็วๆ นี้ รู้สึกว่ายังเก็บรายละเอียดได้ไม่ครบครับ กระทู้ก็ได้ตั้งไปแล้วประมาณ 4 กระทู้ พยายามหารูปสวยๆ มาโพส แต่หารูปดีๆ จากเรื่องนี้ยากมากเลยครับ
ได้รู้จักหนังเรื่องนี้ก็จากเพื่อนสนิทคนนึงที่ชวนไปดู และก็ได้ติดตามจากบล็อกนี้ด้วยครับ พอได้ดูจริง ผมน้ำตาไหลตั้งแต่ฉากเล่นเครื่องบินตอนแรกแล้วครับ ดนตรีไพเราะ และภาพท้องฟ้ากับนครโตเกียวเมื่อ 50 ปีก่อน สวยงามและลงตัวที่สุดเลยครับ ผมว่า ดีกว่าฉากขนนกปลิวใน Forrest Gump อีกครับ ส่วนในเรื่องของตัวหนัง ผมว่าหนังเรื่องนี้ไม่ใช่แค่ tear jerker ธรรมดา แต่เป็นความละเมียดละไมตามแบบฉบับหนังเอเชีย ที่ทำให้เรารู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับเรื่องราวโดยไม่รู้ตัว และสร้างจุดพลิกผันที่กระทบในหัวใจของเรา จนน้ำตามันไหลออกมาโดยไม่ได้บีบคั้นเหมือนหนัง tear jerker อื่นๆ ทั่วไป เป็นน้ำตาแห่งความอบอุ่นปีติ เป็นน้ำตาที่เกิดจากความซาบซึ้งในความรักและมิตรภาพหลายรูปแบบที่ปรากฏในเรื่อง ซึ่งอาจจะไม่ได้จบอย่างสวยงามสมบูรณ์แบบไปหมด แต่ก็ดีเพียงพอที่จะสร้างความหวังให้กับหลายๆ ชีวิตในเรื่อง รวมถึงจุดประกายความหวังในชีวิตของเราๆ ผู้ชมได้ ฉากที่ประทับใจ คงจะเป็นฉากแหวนที่มองไม่เห็น กับฉากของจุนโนะสุเกะกับริวโนะสุเกะตอนท้ายเรื่องครับ ความรักของคู่หลัง น่าประทับใจตรงที่ ทั้งสองไม่ได้เป็นอะไรกันเลย (เหมือนที่ริวโนะสุเกะพูดในเรื่องไงครับ) แต่กลับเรียนรู้ที่จะมาผูกพันกันได้ขนาดนั้น สำหรับผม มันสวยงามมากครับ รักหนังเรื่องนี้ และจะพาเพื่อนสนิททุกคนไปดูครับ อยากให้พวกเขาได้รับความสุข และสัมผัสความสวยงามชิ้นเล็กๆ นี้ เหมือนที่ผมได้สัมผัสครับ แย่หน่อยที่คุณแม่เดินไม่ค่อยไหว ไม่ทราบว่าอีกนานเท่าไหร่จะมีดีวีดีมาให้ท่านดูที่บ้านครับ โดย: ruiN
![]() อ่านแล้วร้องไห้อีกรอบเลยค่ะ
ขอบคุนค่ะ โดย: tanoshimi@hot IP: 58.8.58.137 วันที่: 28 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:43:18 น.
มาตามคำเชิญ
จริงๆ ก็มาอ่านแล้วล่ะค่ะ แต่ไม่ได้ทิ้งคอมเม้นท์ไว้ (ตอนที่ยังเป็นพรีวิวอะนะคะ) ถ้าจำไม่ผิดฉากแรกที่เราร้องไห้กลับเป็นฉากดูทีวีอะค่ะ ฉากคนส่งน้ำแข็งนั่นเราก็ชอบมาก สะเทือนใจลึกๆ เลยหละค่ะ แต่ฉากที่น้ำตาพรั่งพรูมากที่สุดคือฉากขอแต่งงานค่ะ ไม่ชอบเรื่องการพยายามสร้างความประทับใจบางอย่าง อย่างกรณีพูดย้ำแล้วย้ำอีกว่า ไม่ได้เป็นอะไรกันน่ะค่ะ แต่ก็นะ..ความประทับใจมันมากกว่าน่ะค่ะ ![]() ดูเรื่องนี้ออกมา สวนกับคนเดินเข้าไป ก็ได้ยินเสียงฝ่ายชายบอกแฟนตัวเองว่า "เห็นมั้ยเค้าร้องไห้ หนังเศร้าแน่ๆ เลย" เอ่อ..อยากบอกว่า หนังซึ้งต่างหาก ![]() โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() อ้อ..เพลงประกอบบล็อกนี้ได้ใจมั่กๆ
ดีวีดีออกซื้อแน่นอน ![]() โดย: สาวไกด์ใจซื่อ
![]() ฮ่าๆๆๆ ผมไปสั่ง DVD จาก Amazon.co.jp มาแล้วคร้าบบ ออกวันที่ 9 นี้แล้ว อยากดูจัง เป็น Deluxe edition มีแผ่นเบื้องหลังกะ CD-ROM มาให้ด้วย รวมเป็น 3 แผ่น คิดแล้วว่าเมืองไทยไม่ทำขายแน่ๆ เลยกัดฟันสั่งไปเลยครับ สองพันบาทเศษๆ เท่านั้นเอง (เลือดไหลซิบๆ)
โดย: ruiN
![]() เอาเพลงมาให้ฟังเพิ่มครับ
Always - D-51 https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ruin&month=05-2006&date=29&group=1&blog=1 โดย: ruiN
![]() ได้ไปดูมาแล้วเมื่อวานค่ะ
อยากบอกว่าไม่ผิดหวังเลย จากตอนแรกที่ได้อ่านพล็อตเรื่องแล้วคิดว่าไม่น่าสนใจ เลยจะไม่ไปดู ก็ต้องขอขอบคุณม้าทุกท่านค่ะ ที่ช่วยกันเชียร์จนเราต้องไปดูให้ได้ ไม่งั้นเราก็คงพลาดหนังดีๆ เรื่องนึงไปแล้ว ps แอบมีคำถามนิดนึงว่า ทำไมถึงเรียก มัตสุโกะ ว่า โรขุ ล่ะคะ พอดีดูตามไม่ค่อยทัน โดย: Being Bee IP: 161.200.255.161 วันที่: 30 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:21:24 น.
มีข่าวอัพเดทค่ะ เพิ่งโทรไปถามพี่เอ๋ ณ ลิโด้มา
หนังเรื่องนี้จะฉายต่อไปอย่างไม่มีกำหนด แต่วันพฤหัสจะย้ายกลับมาฉายที่"สยาม" รอบฉายเหมือนเดิมทุกประการค่ะ ใครที่ยังไม่ได้ตัดสินใจไปดู รีบไปดูเสียนะคะ เด๋วจะพลาดโอกาสช่วงเวลาประทับใจในหนังเรื่องนี้ไปนะคะ ![]() ![]() โดย: aorengja IP: 202.147.38.96 วันที่: 30 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:22:54 น.
นานมากแล้วที่การดูหนัง
มอบความสุขให้ทั้งระหว่างชม และเมื่อหนังจบก็ยังอิ่มใจอยู่อย่างนั้น มันแช่มชื่น อบอุ่น ซาบซึ้ง และเข้าถึงอารมณ์เราอย่างร้ายกาจ (ชนิดเพิ่งหัวเราะอยู่หยก ๆก็เสียน้ำตาให้กับตัวละครที่แสนน่ารัก) ฉากอิบเปกับเครื่องรางของแม่ จุนโนะสุเกะบอกขอบคุณคุณน้าที่แอบเอาผลงานเค้าไปตีพิมพ์ หรือฉากสั้น ๆ อย่างหมอยักษ์กลับบ้าน ฯลฯ ฉากทุกฉากที่เฟดมืดลง มันสมบูรณ์แบบ สารภาพตามตรงเราไม่อยากให้หนังจบเลย ขอบคุณ "ผมอยู่ข้างหลังคุณ" ที่แนะนำหนังดีๆ จะยอมเป็นม้าหน้ายาว เพื่อความเรียบง่ายที่งดงามเช่นหนังเรื่องนี้ ใช่ครับ...บางสิ่งไม่อาจเห็นได้ด้วยตา แต่สัมผัสด้วยใจ...เป็นบทวิจารณ์ที่ดีเยี่ยม ยอมจ่าย1คอมเม้นท์ ที่นี่เป็นที่แรก โดย: ประหลาดจังฮู้ IP: 203.151.169.253 วันที่: 30 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:51:12 น.
หนังดีจริงๆหรอค่ะ คุณผมอยู่ข้างหลังคุณ อยากดูจัง อ้อ !!! คุณประหลาดจังฮู้ เขียนแนะนำซะน่าดูเล้ยยยยยย ซื่อก้อแปลก สงสัยจา.....
![]() โดย: ๑۩۞۩๑ ปลาทองแก้มเหี่ยว๑۩۞۩๑ (idaho
![]() เรื่องชื่อของโรขุ เข้าใจ(เอาเอง)ว่าคงเขียนด้วยตัว "六" รึเปล่าคะ ถ้าเป็นตัวนี้มันจะอ่านได้ว่า มุตสึ หรือ โรขุก็ได้น่ะ
ว่าแต่ .. ซีดีราคาสองพันเลยเหรอคะ o____O''' ... งั้นเดี๋ยวกลับไปดูอีกรอบที่สยามดีกว่า T T ... โดย: lonea IP: 203.118.85.84 วันที่: 30 พฤษภาคม 2549 เวลา:22:21:00 น.
งดงาม จริงๆสำหรับหนังเรื่องนี้
โดย: คนที่เดินผ่าน IP: 124.121.113.60 วันที่: 31 พฤษภาคม 2549 เวลา:19:54:03 น.
ไปดูเรื่องนี้มา 2 รอบ ชอบมากๆไม่รู้จะอธิบายยังไงรู้แต่ว่าพอดูจบแล้ว อิ่มใจจริงๆ ขอบคุณมากนะคะที่แนะนำหนังเรื่องนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ดูหนังดีๆแบบนี้
![]() โดย: dike IP: 58.9.191.135 วันที่: 31 พฤษภาคม 2549 เวลา:22:33:53 น.
บางสิ่ง...คงอยู่
โดย: redstar IP: 58.64.121.93 วันที่: 2 มิถุนายน 2549 เวลา:23:55:55 น.
สวัสดีครับ ตามอ่านรีวิวของคุณหมอมาตลอดเลย มาคราวนี้ขอโพสบ้างเพราะประทับใจจริงๆ
ได้ไปชมเรื่องนี้ก็เพราะเห็นคุณหมอโปรโมทบ่อย เลยลองสอบถามจากเพื่อนๆ คนที่ได้ไปดูแล้วทุกคนบอกเหมือนกันเลย ว่าไปดูเถอะ อย่าถามมาก สบโอกาศได้ไปมาเมื่อพฤหัสที่ผ่านมา ซึ่งโดนย้ายไปยังสยามแล้ว ช่วงแรกๆหนังออกจะเนือยๆ เหมือนพวกหนังย้อนยุคทั่วๆไปค่อยๆพาเรารำลึกอดีตไปเรื่อยๆ แต่พอสักพัก หนังยิงความประทับใจมาเป็นชุดๆ ซีนที่ผมชอบ ก็ตอนจุนโนสุเกะรู้เรื่องที่ตานักเขียนเอาเรื่องของตัวเองไปลง ตอนแรกผมนึกว่าเด็กมันจะผิดหวัง เพราะเด็กมันนับถือเพราะเป็นนักเขียนที่ตัวเองชื่นชอบ และเป็นคนที่ใจดีกับตัวเองด้วย แต่พอตัดมา จุนโนะสุเกะกลับดีใจ ที่ตัวริวโนะยอมรับตัวเอง ไม่ได้คิดโกรธเคืองด้วย ฉากนี้โดนไปหนึ่ง จดหมายที่ไม่ได้อ่านของโรคุมาได้ถูกเวลามาก แบบที่คนด้านบนๆบอก พลอตความรักของครอบครัวมันสากลกว่าอยูแล้ว ตอนจบของริวโนะสุเกะตอนแรกเดาผิดนะ ผมคิดไปก่อนว่าน่าจะจบแบบที่ริวโนะแกล้งทำเป็นเกลียด เสือกไสไล่ส่งเด็กให้กลับไปอยู่กับพ่อได้ แต่ด้วยความรักและผูกพันธ์ทางเดียวที่อยากจะสื่อถึงกันได้ โดยการเขียนการ์ตูนที่เกี่ยวกับริวโนะสุเกะ หรือให้เป็นตัวเอกในวรรณกรรมส่งประกวดใหม่ ด้วยความที่ตัวเองได้เรียนรู้ความรัก ความผูกพันธ์ เลยสามารถทำไห้เค้าเขียนวรรณกรรมเยาชนดีๆได้สักที แต่คิดๆไปแล้ว หนังไม่น่าจะมีเวลาพอ แล้วมันอาจจะเป็นการทำร้ายจิตใจคนดูและตัวละครนี้มากเกินไปรึเปล่า ก่อนหน้านี้ก็เพิ่งจะไม่สมหวังเรื่องความรักไปแล้วด้วย แม้โดยรวม ใครจะว่าพลอตมันน้ำเน่า หนังfeel goodหรือโบราณๆ แต่อยากให้ได้มาดูเองจริงๆครับ สัตว์ประหลาดไร้ใจอย่างผมยังเกือบปล่อยโฮกลางโรงมาแล้วเลย โดย: the red IP: 203.155.247.119 วันที่: 3 มิถุนายน 2549 เวลา:18:52:48 น.
ทนกระแสไม่ไหว เดี๋ยววันนี้จะไปดูแล้วค่ะ
![]() โดย: โยเกิร์ตรสสตอว์เบอร์รี่ IP: 202.28.181.10 วันที่: 4 มิถุนายน 2549 เวลา:9:13:33 น.
เขียนได้ดีมากๆ เลยครับ ผมต้องอายเลย เพราะเขียนได้ดีไม่เท่าคุณ
ได้ดูมาเหมือนกับหลายๆ คน ทนเสียงชื่นชมกระทบหูไม่ได้ ต้องไปดูด้วยตาตัวเอง แล้วก็เป็นอย่างคาด น้ำตาไหลนองเหมือนคนอื่นๆ ว่างๆ ไปเยี่ยมกันมั่งนะครับ //www.patsonic.com ![]() โดย: patsonic IP: 58.10.167.146 วันที่: 5 มิถุนายน 2549 เวลา:16:45:30 น.
สุดยอดจริงๆค่ะ มากกว่าคำว่าคุ้มมากๆ ไม่มีคำบรรยายใดๆ เพราะคุณบรรยายไว้ โดนใจที่สุดเลยค่ะ เป็นหนังที่ดีจริงๆนะ ประทับใจมากๆๆ อยากดูอีกรอบจัง
![]() ![]() โดย: jinmetip IP: 124.121.149.225 วันที่: 8 มิถุนายน 2549 เวลา:16:10:17 น.
ในที่สุดก็ไปดูมาแล้ว หนังน่ารัก ดูจบแล้วอิ่มเอิบใจ มีความสุข :)
โดย: โยเกิร์ตรสสตอว์เบอร์รี่ IP: 202.28.181.10 วันที่: 9 มิถุนายน 2549 เวลา:20:49:20 น.
![]() ได้ดูก็รู้สึกดี มากๆ แล้ว แต่พอได้มาอ่านนิสิ เข้าใจอะไรๆมากขึ้นเยอะเลย เป็นหนังที่ดีจริงๆ เจ้าของบล๊อคก็เขียนได้ดีมากจริงๆค่ะ โดย: tanlek
![]() ตอนแรกเห็นโปสเตอร์หนัง
หนังอะไรเนี่ย ใครจะดู ดูมันหนังเก่าๆ แต่ได้ยินหลายเสียงบอกดี เลยไปดู โอ้ว อย่าแค่รูปลักษณ์ภายนอกจริงๆด้วย เรื่องนี้ร้องไห้เยอะมากๆ ไม่ได้เศร้า แต่ซาบซึ้งอย่างที่คุณบอก ![]() โดย: nant_go@hotmail.com IP: 58.8.84.215 วันที่: 15 มิถุนายน 2549 เวลา:23:27:19 น.
สุดยอด ดูแล้วครับ สุดยอด
โดย: ดำรงเฮฮา IP: 58.9.61.139 วันที่: 18 มิถุนายน 2549 เวลา:13:54:53 น.
![]() โดย: โสมรัศมี IP: 58.10.195.208 วันที่: 18 มิถุนายน 2549 เวลา:17:00:17 น.
ไม่น่าเวลาเราดู มันเหมือนจะจบแล้ว ที่จริง ๆ มันเป็นตอน ๆ แบบนี้เองเนอะ
ชอบมากจ้า น้ำตาซึมแต่แอบอายคนข้าง ๆ จริง ๆ อยากจะร้องโฮ กลั้นน้ำตาหลายหน ทีเดียว โดย: akira IP: 58.8.121.48 วันที่: 19 มิถุนายน 2549 เวลา:1:35:43 น.
น้ำตาไหลพรากเกือบทุกฉากที่กระชากใจ ในรอบแรก
รอบสองก้อยังไหลพรากในบางฉาก ชอบมิตรภาพของเด็กๆ กะลังจะไปอีกรอบ (อย่าเพิ่งออกน้า) ![]() โดย: เนปาลี IP: 202.90.112.13 วันที่: 20 มิถุนายน 2549 เวลา:12:16:32 น.
มาร่วมเป็นหน้าม้าที่นี่ด้วยคน
//nighty.exteen.com/20060420/always โดย: Nighty (Meroko
![]() ผมเขียนรีวิว Always ของผมเองเสร็จเรียบร้อยแล้วนะครับ...
แวะไปอ่านกันได้ ไม่ต้องจ่ายค่าเข้าชม ขอเพียงแค่ 1 Comment ก็ดีใจหลายแล้วครับ ...ขอบคุณครับ ![]() "ALWAYS : Sunset On The Third Street" ... ความสุขทางใจ หาได้จากหนังเรื่องนี้ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=onceupon&group=2&month=06-2006&date=23&blog=1 โดย: OncE UPoN'-'a MaN
![]() เพิ่งได้ดูค่ะ จากดีวีดี หลังจากตามหามาซะนาน พยายามตะล่อมคนใกล้ตัวให้ดูด้วย เค้าก็ไม่ยอมดูซักทีค่ะ ไม่อยากให้พลาดหนังดีๆอย่างนี้เลย
ชอบค่ะ เดี๋ยวจะดูซ้ำอีกรอบ โดย: ลิปดา - พิลิปดา IP: 58.34.19.56 วันที่: 27 มิถุนายน 2549 เวลา:22:53:06 น.
![]() อยากดูจัง โดย: เรย์ IP: 58.9.69.52 วันที่: 28 มิถุนายน 2549 เวลา:3:57:06 น.
ในที่สุดก็ได้ไปดูเรื่องนี้กับคนพิเศษมาแล้ว ชอบทุกฉากเลยค่ะ ซึ้งกับฉากแหวนมากมายจริงๆ
โดย: Ornnie :D IP: 168.120.26.148 วันที่: 2 กรกฎาคม 2549 เวลา:22:51:10 น.
อยากดูจัง ที่ไหนยังแย อยู่บ้างอ่ะ (แล้ว K.ความคิดเห็นที่ 77 ไปซื้อ DVD จากที่ไหนเหรอ บอกกันบ้างดิน่ะ)
![]() โดย: nickuro IP: 124.121.106.60 วันที่: 3 กรกฎาคม 2549 เวลา:12:58:03 น.
^
^ ... เข้าใจว่าตอนนี้ยังฉายอยู่ที่ House นะครับ ![]() โดย: "ผมอยู่ข้างหลังคุณ"
![]() ![]() เคยเข้ามาอ่านหลายครั้งแล้วคะ (เข้ามาทางพันธุ์นะคะ) เปิดมาก็ได้ยินเพลงประกอบก่อนเลย น้ำตาร่วงอ่ะ นึกถึงความรู้สึกที่ได้ดูตอนอยู่ในโรง dvd ใกล้จะออกแล้ว ก็คงไม่พลาดเหมือนเดิม
![]() P.S อยากได้เพลงนี้บ้างอ่ะคะ จะหาได้ที่ไหนคะ ![]() โดย: oum IP: 203.131.208.115 วันที่: 3 สิงหาคม 2549 เวลา:15:50:47 น.
ไปหาเพลงประกอบมาจากไหนครับเนี่ย
โดย: ชาย2เพลท IP: 203.188.7.193 วันที่: 5 สิงหาคม 2549 เวลา:13:39:14 น.
เพิ่งดูเป็นวีซีดีเมื่อวานนี้เองอ่ะค่ะ แล้ววันนี้ก็เปิดให้คนที่บ้างดูอีกครั้ง ซึ้งใจและก็ประทับใจในเรื่องนี้มากๆๆๆเช่นกัน ยิ่งเข้ามาอ่านบล๊อกนี้แล้ว ยิ่งรู้สึกอินไปกับหนังเพิ่มไปอีก ตรงไหนที่ดูแล้วยังงงๆก็มาอ่านเข้าใจในนี้ ชอบอ่านล๊อกคุณมากๆเลยค่ะ เลาจะหาข้อมูลของหนังเรื่องอะไรก็ตาม ต้องเข้ามาอ่านของคุณทุกที
![]() อยากได้เพลงประกอบบล๊อกจังค่ะ ฟังแล้วรู้สึกดีจัง โดย: กลาดเกลื่อนกระพริบพร่าวพราว IP: 124.120.47.174 วันที่: 6 สิงหาคม 2549 เวลา:1:10:09 น.
เรื่องนี้เป็นหนังที่เพื่อนสนิทบอกว่า "ต้องไปดูให้ได้นะ ดูแล้วไปตายได้เลย"
เพิ่งได้ดู vcd เมื่อวานนี้.. วันนี้เลยรีบมาค้นบล็อคนี้ทันทีเลยอ่ะ แหะๆ ประทับใจการเติมเต็มของกันและกันในความสัมพันธ์ของตัวละคร เขียนไม่ค่อยเก่งอ่ะ เจ้าของบล็อคเขียนไว้ซะดีขนาดนี้แล้ว.. ขอเป็นหน้าม้า ให้เรื่องนี้อีกคนแล้วกันค่ะ ดูแล้วอบอุ่นที่สุดเลยเรื่องนี้ ![]() ปล.ชอบที่เขียนตรงนี้จัง.. "การมีชีวิตอยู่ตัวคนเดียว เราอาจพบว่าโลกใบนั้นมันก็พออยู่พอถูไถไปแต่ละวันได้ แต่ เมื่อเราได้พบใครบางคนที่มาเติมเต็มให้โลกของเรานั้นน่าอยู่กว่าที่เคยมีมา เราก็จะได้รู้ว่า การมีใครอีกคนเข้ามาอยู่ในชีวิตนั้นมันทำให้วันแต่ละวันสวยงามขึ้นได้อย่างไร" อยากมีครอบครัวบ้างจัง โดย: SFFC IP: 203.114.111.9 วันที่: 7 สิงหาคม 2549 เวลา:18:42:26 น.
มีน้องในเว็บ //www.allaboutkanok.com แนะนำให้ดู แต่ผมไม่มีโอกาสไปดูในโรงที่เข้าฉาย หลังจากนั้นก็มีน้องอีกคนส่งแผ่น dvd ต้นฉบับ มาให้
น้องๆรู้ว่าผมหลงใหล..แฟนฉัน,โหมโรง, The Road Home, Happy Time และหนังที่ไม่มีพระเอก ผู้ร้ายอีกหลายเรื่อง ผมได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วครับ..ปล่อยใจเตรียมตัวเต็มที่ หลบงานไปดูที่บ้านคนเดียวในตอนบ่ายวานซืน... ผมไม่ต้องใส่แว่นดูหนัง Always เพราะใช้ความรู้สึกนั่งดู อบอุ่นเหลือเกิน น้ำตาไหลพรากๆจากหัวใจ หนังไม่มีผู้ร้าย ไม่มีนังอิจฉาจริงๆด้วย หากจะมีตัวร้าย น่าจะเป็นโชคชะตาฟ้าลิขิต จัดวางให้ชีวิตตัวละครลำเค็ญแต่ไม่ถึงกับทุกข์เข็ญ ผมดีใจที่ท้ายที่สุด ทุกๆคนมีความสุข ความอบอุ่น ตามอัตภาพที่เรียบง่าย...อื่นๆก็คล้ายกับท่านอื่นๆ.. คุณเขียนได้ดีมากนะครับ โดย: กนก รัตน์วงศ์สกุล IP: 203.154.97.197 วันที่: 18 สิงหาคม 2549 เวลา:10:32:47 น.
DVDออกแว้ว ถึงเบื้องหลังไม่มีsubก็เหลือเฟือแลวล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็นการเนรมิตฉากโตเกียวด้วยCG (อึ้งครับ...คารวะ) และImpress of Image(หมอทาคุมิ...เล่นเอาน้ำตาแตกอีกรอบ)
โดย: เหรียญบาด IP: 203.113.33.12 วันที่: 21 สิงหาคม 2549 เวลา:21:07:25 น.
ดีมากครับ หนังทำได้ประทับใจมาก ทำย้อนหลังไปได้ดี เห็นอดีตของคนญี่ปุ่นหลังสงคราม ทำให้นึกถึงตอนเด็กๆเลยว่าเคยทำอะไรไปบ้าง แต่ถ้าเป็นคนญี่ปุ่นจะอินมากกว่านี้
โดย: superpun IP: 202.69.140.233 วันที่: 22 สิงหาคม 2549 เวลา:18:38:15 น.
คือผมอยากจะขอรบกวนหน่อยนะครับ คือผมกำลังทำหนังส่งไฟนอลและผมก็ชอบเรื่องนี้มาก และชอบเพลงscoreของเรื่องนี้ที่คุณใส่ลงบล๊อคนี้มาก จะเป็นไรไหมครับถ้าผมจะขอเพลงนี้ไปประกอบหนังผม ถ้าได้ผมอยากให้คุณส่งไฟล์เพลงนี้มาที่เมล์ผม yoshiki_pj7@hotmail.com ถ้าได้จะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ ขอบคุณมากนะครับ
ปล.Always กลายเป็นอันดับหนึ่งตลอดกาลของผมไปแล้ว ![]() โดย: นายตัว-P- IP: 58.10.234.202 วันที่: 29 สิงหาคม 2549 เวลา:23:54:09 น.
เเค่อ่าน review ก็ซึ้งเเล้วค่ะ
![]() ![]() โดย: MikaRin IP: 124.157.206.85 วันที่: 2 กันยายน 2549 เวลา:14:14:05 น.
Love this preview.The score you put on that matched all the pictures and words,it's really touchy...perfect.Made me want to see it all over again.
![]() โดย: Ash the best. IP: 216.6.169.182 วันที่: 3 กันยายน 2549 เวลา:1:42:04 น.
ตอนหนังเรื่องนี้เข้าได้ไม่กี่วัน
บรรดาคนรู้จักที่ไปดูมาแล้วต่างทยอยโทรมาบอกว่า... "ต้องไปดูเรื่องนี้ให้ได้นะ ฉันมั่นใจว่าแกต้องชอบ" "ดูเรื่องนี้นึกถึงพี่เลย พี่ต้องชอบแน่ๆ" "ดูเรื่องนี้รึยัง... ต้องดูให้ได้นะแก" ฯลฯ แต่... จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถจัดหาเวลาไปดูได้ จนกระทั่งเพื่อนส่งแผ่น dvd เรื่องนี้มาให้ ดูจบแล้วถึงเข้าใจว่าทำไมใครต่อใครถึงคะยั้นคะยอให้ไปดูกันจัง ![]() หนังน่ารักและอบอุ่นมากค่ะ ![]() โดย: กาน้ำชากะเชี่ยนหมาก IP: 58.10.27.110 วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:13:08:13 น.
เพิ่งดูจบไปครับ วันนี้เอง 6 กย. 49
ฉากเครื่องราง น้ำตาซึมครับ ซึมกันไม่หวาดไม่ไหว ![]() โดย: บิกวอร์ส IP: 203.188.34.216 วันที่: 6 กันยายน 2549 เวลา:16:57:21 น.
เป็นหนังที่โดนใจมากๆเลยค่ะ ขนาดที่ว่าหนังจบไปแล้ว แต่ความรู้สึกของคนดู (อย่างฉัน) ไม่ได้จบลงไปด้วยเลย
ชอบบทภาพยนตร์เรื่องนี้มาก ทุกฉาก ทุกซีนเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่ทรงพลังมาก เก็บรายละเอียดได้ดี ภาพทุกภาพแทนการบอกเล่าได้เยี่ยม ประทับใจฉากที่ TV เป็นพระเอกของคนในหมู่บ้าน ดูแล้วยิ้มได้จริงๆ ฉากเครื่องรางของแม่ ก็น่ารัก แหมคิดได้ไง ตอนเจ้าเด็กนั่นร้องไห้น้ำตาฉันก็แหมะๆออกมาเลยโดยไม่ต้องอธิบายถึงฉากต่อๆไป ฉากที่นักเขียนไส้แห้งขอสาวแต่งงาน สุดๆอ่ะ ดูแล้วจี๊ดมากเลย ชัดมากๆกับสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยใจ ซึ้งตายไปข้างอ่ะ.. ส่วนชีวิตคุณหมอก็เป็นตัวอย่างการเล่าเรื่องที่เจ๋งอ่ะ ออกมานิดเดียวแต่เรารู้เรื่องของเขาได้อย่างชัดเจน ชอบตอนที่เขาแปลงกายเป็นซานตาคลอสอ่ะ แม้จะเป็นอะไรเล็กๆแต่ยิ่งใหญ่นะในความรู้สึกของทั้งตัวหมอเอง และคนดู ส่วนฉากที่ทำฉันสะอึกสะอื้นได้เป็นวรรคเป็นเวร คือฉากที่นักเขียนไส้แห้งผลักเด็กชินโนสุเกะไปสู่สิ่งที่ดีกว่า เป็นอารมณ์ซีนเดียวกับโชจุเลย ครอบครัวอู่ซ่อมรถก็น่ารักอ่ะ อบอุ่นมาก ใครบางคนดูแล้วอาจจะรู้สึกอยากมีครอบครัวขึ้นมา ณ บัดดล 555.. ดูเรื่องนี้แล้วจะล้นค่ะ..ขอบอก โดย: loveletter_16@hotmail.com IP: 203.113.57.40 วันที่: 11 กันยายน 2549 เวลา:18:04:19 น.
เพิ่งดูจบเมื่อสักครู่ครับ
แผ่นห่วยมาก ภาพหาความชัดไม่มี เสียงเหมือนจะดีหรือเครื่องเสียงผมไม่ถึง รู้สึกเหมือนดูหนังซูมทั้งๆ ที่เป็นแผ่นแท้ แถมยังได้เป็นหนังพากย์ . . . เด๋วต้องหา DVD ให้ได้ หนังที่ผมประทับใจมาก . . . ความหวัง ความฝัน หนังที่อบอุ่นที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่ผมเคยดูมา . . . โดย: กึ่งอัตโนมัติ IP: 58.9.81.92 วันที่: 17 กันยายน 2549 เวลา:2:26:21 น.
เป็นหนังที่ดูแล้วรู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก หนังเดินเรื่อง ด้วยเหตุการณ์ธรรมดาทั่วๆไป แต่กลับสร้างค่อยๆสร้างความผูกผันระหว่างคนดูกับตัวละครได้อย่างกลมกลืน
โดย: Pach IP: 124.121.97.36 วันที่: 23 กันยายน 2549 เวลา:4:57:44 น.
น้ำตาซึม เป็นช่วงๆ เลยครับ
อินครับ โดย: DuZDe IP: 203.188.45.110 วันที่: 25 กันยายน 2549 เวลา:15:34:40 น.
ชอบหนังเรื่องนี้มากเหมือนกันค่ะ เพราะว่าชอบ Shinichi Tsutsumi ที่ในเรื่องแสดงเป็น คุณซูซูกิ
โดย: น้ำ IP: 203.154.48.14 วันที่: 17 ตุลาคม 2549 เวลา:13:37:27 น.
น่าดูมากๆครับ พออ่านจบแล้วอยากไปหามาดูจังเรื่องนี้
โดย: bank IP: 124.120.218.43 วันที่: 19 ตุลาคม 2549 เวลา:0:27:11 น.
ควรค่าแก่การเก็บไว้ครับ
ใครมีแนวนี้อีก แนะนำหน่อยนะครับ โดย: อัฐ IP: 125.24.175.235 วันที่: 19 ตุลาคม 2549 เวลา:17:10:09 น.
ขออนุญาตินำบางส่วนไปลงบลอกนะคะ นำลิงค์ไปแปะให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ขอบคุณค้ะ
![]() โดย: nanak IP: 58.9.176.244 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2549 เวลา:21:56:00 น.
//www.geocities.com/i_behind_you/alway.wma
โดย: pop IP: 192.150.249.114 วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:41:16 น.
ขอจ่ายค่าอ่านครับ
ชอบหนังเรื่องนี้มากเหมือนกันครับ ^^ โดย: นายฏ้ล IP: 58.9.62.253 วันที่: 23 ธันวาคม 2549 เวลา:22:02:51 น.
สมราคาหนังหลายรางวัลของญี่ปุ่น และนักวิจารณ์ไทยก็ชอบ ฉากหลังเป็นหลังสงครามโลก ค.ศ.๑๙๕๐ มีหลายฉากที่ประทับใจโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับครอบครัว
ผมนึกฉากประทับใจปี ๒๕๔๙ ได้อีฉากแล้ว "เครื่องรางของแม่พาผมกลับบ้านครับ" น้ำตาซึมเลย ต้องเบือนหน้าหนี พอดีดูด้วย Pocket PC กลัวคนข้างๆ บนรถทัวร์จะหาว่าบ้านั่งร้องไห้เป็น Music VDO โดย: คนขับช้า
![]() คุณ ชายลังเล บอกผมว่าให้อ่านนิยายซีไรท์ ช่างสำราญ อารมณ์เดียวกัน อ่านแล้วก็เห็นด้วยครับ ลองหาอ่านดู
หลังจากนั้นใครอ้างอิงเรื่องนี้ก็ตามไปดูเลย ไม่เว้นแม้ The Village Album โดย: คนขับช้า
![]() ขอบคุนมากๆคับสำหรับบทวิเคาระห์ของคุณ
เชื่อมั้ยครับว่าหลังจากอ่านที่คุณเขียนแล้วผมต้องไปตามหาหนังเกือบทุกเรื่องนั้นมาดู ขอบคุณจริงๆครับ โดย: แบมบู IP: 124.121.55.164 วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:14:07:31 น.
เพิ่งได้ดูเมื่อคืนค่ะ...
![]() เพื่อนเอาดีวีดีมาให้ยืม บอกว่าเป็นหนังที่ดีมาก ๆๆ ตอนแรกก็สงสัยว่ามันจะดีอะไรขนาดนั้น พอดูไปได้ไม่ถึง 15 นาที ก็รู้สึกว่าชอบ 30 นาที ชอบมากขึ้นอีก หลังจากนั้นก็ถอนตัวไม่ขึ้นจากหนังเรื่องนี้แล้วค่ะ ^ ^ ได้อารมณ์ไปครบถ้วนจริงๆค่ะ ทั้งสนุก ขำ เศร้า ซาบซึ้ง 2 ชั่วโมงกว่าตั้งแต่หนังเริ่มจนรายชื่อสต๊าฟตอนท้ายจบพร้อมเพลง มีทั้งเสียงหัวเราะเป็นระยะๆ รอยยิ้ม แล้วก็น้ำตาที่ไหลไม่หยุดในช่วงท้ายๆ (โดยเฉพาะฉากแหวนที่มองไม่เห็น กับ ฉากโรขุอ่านจดหมาย) นักแสดงทุกคนก็เล่นได้ดีมากจริง(ชื่นชมจากใจจริง) น้องๆเด็กๆก็เล่นได้เยี่ยมไม่แพ้ๆนักแสดงรุ่นใหญ่ หนังบางเรื่องดูแล้วก็มีแค่ตัวแสดงที่ประทับใจ แต่เรื่องนี้เรียกได้ว่าประทับใจตัวแสดงทุกคนจริงๆค่ะ ตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะหาไปซื้อดีวีดีมาเก็บเป็นของตัวเองค่ะ สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบคุณบทวิจารณ์ที่เยี่ยมยอดเหมือนเคยของคุณ aorta ด้วยค่ะ ทำเอาน้ำตาไหลไปอีก2ระลอก (เมื่อคืนพอดูจบก็รีบเอาหนังสือรักของคุณ aorta มาอ่านบทวิจารณ์ทันที ^ ^ แล้ววันนี้ก็มาอ่านที่บล็อกนี้อีกรอบ ร้องไห้จนตาแดงหมดแล้วค่ะ ^ ^ ) โดย: rudyH2O IP: 58.9.35.101 วันที่: 30 มกราคม 2550 เวลา:22:46:27 น.
เพิ่งยืม dvd เพื่อนมาดูครับ
ชอบครับ หนังนิ่งๆเรื่อยๆ ค่อยเป็นค่อยไปดี ชอบฉากแหวนที่มองไม่เห็นด้วย (แต่ตอนเช้าเธอก็จากไปแล้ว T-T) ชอบฉากเปิดเรื่องด้วยครับ เป็น long take ที่เนียนมาก และในหนังก็มักเป็น long take เสียด้วยสิ(ไม่แน่ถ้าดูแบบตัดต่อไปๆมาๆอาจไม่ได้อารมณ์หนังก็ได้มั้ง) ชอบภาพในหนังที่ดูสวยและอบอุ่น และเสียดายไม่ได้ดูในโรงอ่ะ โดย: mayhem IP: 124.157.172.172 วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:23:37:24 น.
หนังเรื่องนี้กลายเป็นหนังในดวงใจของผมไปอีกเรื่องแล้วครับ หนังดูอบอุ่นน่ารักและบีบคั้นอารมณ์ได้ถึงที่สุด และโดยเฉพาะฉากในคืนวันคริสมาสต์ ฉากนี้สุดยอดจริงๆ คุ้มค่าแก่การเก็บมากครับเรื่องนี้
![]() โดย: IQไอคิวแขม่ว IP: 203.188.3.109 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:31:25 น.
ดูไปทั้งหมดในโรง 6 รอบครับ
5 รอบแรกดูที่ lido แล้วพอดีต้องไปไต้หวัน 6 วัน กลับมาเมืองไทย 3 ทุ่ม นั่ง taxi ไปดูอีกรอบที่ house rca ตอน 4 ทุ่ม จำได้ว่าแบกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เข้าไปดู คนมองกันใหญ่ (ก็จะดูอ่ะ ใครจะทำไม) สุดท้ายซื้อ DVD มาให้เพื่อนดู เพื่อนมันชอบมาก บอกว่าขอบใจสำหรับของขวัญวันเกิด (เอิ้ก ตูให้ยืมไปดูว่ะ ไม่ใช่ให้เป็นของขวัญวันเกิด) แต่ก็พูดไม่ออก ไปซื้อใหม่ก็ได้วะ . . โดย: เอก IP: 124.120.184.120 วันที่: 27 เมษายน 2550 เวลา:12:19:09 น.
การมีชีวิตอยู่ตัวคนเดียว เราอาจพบว่าโลกใบนั้นมันก็พออยู่พอถูไถไปแต่ละวันได้ แต่ เมื่อเราได้พบใครบางคนที่มาเติมเต็มให้โลกของเรานั้นน่าอยู่กว่าที่เคยมีมา เราก็จะได้รู้ว่า การมีใครอีกคนเข้ามาอยู่ในชีวิตนั้นมันทำให้วันแต่ละวันสวยงามขึ้นได้อย่างไร
ชอบจังเลยค่ะ แต่ไม่รู้จะหาใครมาช่วยเติมเต็มดี ![]() โดย: nudee04 IP: 203.153.186.100 วันที่: 22 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:24:54 น.
ดูแล้ว ชอบนะ
แต่ยังไม่น้ำตาหยดอ่ะ ศึกไหม!!! โดย: ห้าจิก IP: 58.64.88.94 วันที่: 5 มิถุนายน 2550 เวลา:3:19:00 น.
โอ๊ะๆๆ ในที่สุดผมก็พลาดเสียน้ำตาให้เรื่องนี้จนได้ อย่างที่ จขกท.บอกว่า ยิ้มทั้งน้ำตาล่ะครับ ใครไม่เคยดูขอเชียร์ให้ดูเลยครับ
ตั้งแต่ดูหนังมา เสียน้ำตาให้เรื่องเดียว คือ Brave Heart แต่มาดูเรื่องนี้ น้ำตาไหลแบบไม่รู้ตัวครับ ตอนนี้เข้าไปอยู่ในหนัง 5 อันดับในใจเรียบร้อยแล้ว 3 แผ่น กับเวลาเกือบ 3 ชั่วโมง ดูอย่างใจจดใจจ่อ สนุกกว่าที่คิดไว้มากเลย ให้ 9.5/10 ครับเรื่องนี้ ติดอยู่นิดเดียวจริงๆ ตอนที่เด็กทั้งสองคนหนีออกจากบ้านไป แล้วกลับมาน่าจะทำได้ดีกว่านี้ โดย: YoiChi IP: 202.57.178.173 วันที่: 5 ตุลาคม 2550 เวลา:14:12:31 น.
9/10 คะแนน
เรื่องนี้ ดำเนินเรื่องเรียบๆง่ายๆ แต่สามารถกินใจคนดูได้เป็นอย่างดี ข้อนึงคือ วัฒนธรรมของเค้า(ญี่ปุ่น) กับเรามันก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ หนังเรื่องนี้จึงสะท้อนสังคมได้ดีกว่าหนังฝรั่งหลายๆเรื่อง โดย: นักวิจารณ์สมัครเล่น IP: 125.24.181.222 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:10:37:34 น.
![]() ![]() โดย: YELLY IP: 203.155.115.241 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:13:41:50 น.
เพิ่งดูจบไปค่ะ ถึงจะดูช้าไปหน่อย แต่ก้อชอบหนังมากนะคะ ทำเราน้ตาไหลพรั่งพรูตอนจบ ชอบหนังแบบนี้จังค่ะ เรียบง่าย และสวยงาม ดูแล้วอบอุ่น อยากมีความรัก กับเค้าสักทีนะคะ
โดย: medojo IP: 222.123.28.236 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:42:53 น.
ได้ดูเรื่องนี้ เพราะอ่านหนังสือรักของ ผมอยู่ข้างหลังคุณ นะคะ
หนังสุดยอด เรียบง่ายและสวยงาม หลงรักหนังเข้าอีกคนละค่ะ ตอนจบน้ำตาไหลเตมแก้มเลย ดูแล้วสุขใจ อิ่มเอมใจจริงๆ โดย: ฝ้าย IP: 222.123.26.227 วันที่: 30 พฤศจิกายน 2550 เวลา:23:20:25 น.
สั้น ๆ ครับ "เยี่ยม"
โดย: เพิ่งดูครับ IP: 58.8.11.118 วันที่: 5 ธันวาคม 2550 เวลา:0:53:34 น.
เพิ่งดูรอบ 2 จบไป หลังจากดูรอบแรกไป 2 วัน ชอบมาก ดูรอบ 2 ก็ยังไม่เบื่อ ส่วนงานรีวิวของคุณ ทำได้ดีมากค่ะ ชอบด้วยเช่นกัน / บังเอิญเข้ามาใน blog ของคุณ เพิ่งไป search หาชื่อหนังจาก google นี่แหละค่ะ
โดย: Tripti IP: 122.0.3.125 วันที่: 17 มกราคม 2551 เวลา:13:24:52 น.
ชอบมากเลย กลั้นน้ำตาไม่อยู่จริงๆ
โดย: morino IP: 124.120.91.167 วันที่: 10 เมษายน 2551 เวลา:15:25:02 น.
เธเนเธงเธเธชเธเธเธฃเธฒเธเธเน เนเธเนเนเธงเธฐเธฃเนเธฒเธเธเธถเธเธฒเธขเนเธฒ เนเธเนเธฒเธซเธเธฑเธเธเธตเนเธเธธเนเธ Alway เธกเธฒเธเธนเธเนเธณเธญเธตเธเธฃเธญเธ
เธเธญเธเธกเธฒเธเธเนเธฐ เนเธเธเนเธเนเธซเธกเธทเธญเธเธเธตเนเนเธเธฃเธซเธฅเธฒเธขเธเธเนเธญเธเธญเธดเนเธกเนเธญเธก เธเธฒเธเธเธถเนเธ เนเธเนเธเธซเธเธฑเธเธเธต เธกเธตเนเธฃเธทเนเธญเธเธฃเธฒเธงเนเธฅเธฐเธชเธญเธเนเธเธฃเธเธเนเธญเธเธดเธ เนเธเนเธชเธเธชเธฑเธขเธงเนเธฒ เธซเธญเนเธเนเธเธตเธขเธง เธกเธฑเธเธกเธตเธเธงเธฒเธกเธซเธกเธฒเธขเธเนเธญเธเธฒเธงเธเธตเนเธเธธเนเธเธขเธฑเธเนเธเธเนเธฒเธ เธเธณเนเธกเธซเธเธฑเธเนเธฃเธทเนเธญเธเธเธตเน เธเธถเธเธเธดเนเธเธเนเธญเธเธดเธเธญเธฐเนเธฃเธเธฒเธเธญเธขเนเธฒเธเนเธเธตเนเธขเธงเธเธฑเธเธซเธญเธชเธนเธเนเธซเนเธเธเธตเน เธเนเธงเธขเธเธญเธเธเธตเธเธฐเธเธฐ เธเธฑเธเธเธญเธเธเธธเธเธกเธฒเธเน โดย: เนเธซเธกเนเธกเนเธกเนเธฐ IP: 203.150.202.226 วันที่: 16 เมษายน 2551 เวลา:16:01:48 น.
Good
![]() โดย: NOOK IP: 58.8.180.75 วันที่: 19 เมษายน 2551 เวลา:12:36:15 น.
ชอบก็อตซิลล่าด้วยเฮอๆ...
โดย: MoMo IP: 125.24.80.44 วันที่: 15 มิถุนายน 2551 เวลา:23:39:55 น.
เพิ่งได้ดู...เมื่อคืนวาน เป็นหนังที่งดงาม ทำให้คิดถึงวัยเด็ก สมัยอยู่ที่ต่างจังหวัด 30 กว่าปีที่แล้ว... ฉากที่เพื่อนบ้านมารอดูทีวี บรรยากาศคล้ายกับที่บ้านอาม่า สมัยนั้น ห้องแถวเป็นบ้านไม้ในซอยที่บ้านอาม่ามีทีวีอยู่หลังเดียวเวลาเปิดจะมีเพื่อนบ้านมารอดูเต็มหน้าบ้าน...ดูฉากนี้แล้วคิดถึงอาม่า น้ำตาไหล...เป็นหนังที่มีคุณค่าทางใจมากเรื่องหนึ่ง
โดย: nira IP: 58.10.158.104 วันที่: 11 กรกฎาคม 2551 เวลา:10:21:49 น.
ผมยังไม่ได้ดูเลยครับ แต่เพื่อนแนะนำมา พอได้อ่านแล้วอยากดูมากๆ เลย ต้องหามาดูให้ได้แล้ว อิอิ
โดย: เอสโฟ่ IP: 124.157.158.202 วันที่: 17 กันยายน 2551 เวลา:20:48:56 น.
พอดีเพิ่งมีโอกาสได้ดูเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม ที่ผ่านมา ประทับใจมากๆค่ะ
โดย: หนูแนน IP: 203.148.220.220 วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:10:05:43 น.
เขียนละเอียดละออมากกก หนังดีอยู่แล้วรีวิวได้แตกความไปอีก เจ๋งๆๆ ตามติดต่อค้าบ
โดย: mommy IP: 58.8.71.33 วันที่: 12 เมษายน 2552 เวลา:2:36:51 น.
เขียนได้ดีมาก
โดย: konto IP: 10.18.1.50, 203.150.244.121 วันที่: 14 กรกฎาคม 2552 เวลา:18:16:04 น.
สุดยอดอ่ะ อบอุ่นในใจสุดๆ โดย: samurai funk IP: 202.28.62.245 วันที่: 9 ตุลาคม 2552 เวลา:14:07:51 น.
ไม่รู้ว่าช้าไปหรือเปล่า แต่พึ่งได้มีโอกาสไปดูหนังเรื่องนี้วันนี้เองค่ะ ที่โรงหนังHourse ปกติเฉยๆกะหนังญี่ปุ่น แต่เรื่องนี้ ดูแล้วอิ่มจริงๆค่ะ น้ำตาไหลสลับกับฉีกยิ้มไปตลอดทั้งเรื่อง เจ้าของบลอค review ได้เจ๋งมากๆค่ะ เก็บรายละเอียดได้เกือบครบเลย ...ภาค2และภาค3กำลังตามมา แน่นอนว่าไม่จะไม่พลาดค่ะ
โดย: skycrytear IP: 58.8.168.124 วันที่: 11 เมษายน 2555 เวลา:0:13:36 น.
บทความทั้งหมด
|
|
รออ่านมานานแล้วค่ะ เขียนได้ดีมากๆ เราว่าคุณจับแก่นของเรื่องได้ดีมากๆเลย ใช่แล้ว ที่บอกว่าคุณค่าบางอย่างมันมองไม่เห็นด้วยสายตา แต่ต้องใช้หัวใจมอง (เหมือนคำพูดในเรื่องเจ้าชายน้อยเลยเนาะ) อย่างแหวนที่มองไม่เห็นนี่เป็นฉากที่ชัดเจนที่สุดเลยมั้ง (เราว่าเป็นฉากขอแต่งงานที่โรแมนติกสุดๆเรื่องนึงเลยแหละ)
เราอ่านบทความของคุณ แล้วนึกถึงแต่ละฉากในหนังก็อดไม่ได้ที่จะซาบซึ้งอีกครั้ง T_T
ฉากแรกสุด ที่ทำให้เราน้ำตาซึมคือตอนที่จุนโนสุเกะไม่โกรธตานักเขียนสักนิดที่เอาเรื่องของเขาไปลง ประโยคที่ทำให้จี๊ดมาก "ปล่าว ผมดีใจ..." เห็นได้ถึงความบริสุทธ์ของเด็กจริงๆ ซึ้งแทนตานักเขียนอ่ะ
และหลังจากฉากนี้น้ำตาก็ไหลเป็นทางออกมาตั้งหลายรอบ (รู้งี้เอาผ้าเช็ดหน้าเตรียมไปดีกว่า)
เป็นภาพยนตร์ที่ดูแล้วรู้สึกอิ่มเอมใจ และยิ้มทั้งน้ำตาเลยจริงๆค่ะ ประทับใจมากๆ
ดูแล้วอยากมีครอบครัวด้วยยยยย ^^