~@~NAI NOTE: TACIT TO EXPLICIT~@~

**สงครามโดยผู้บุกรุกจากที่อื่น ใน War of The Worlds**



เรื่องย่อที่เพิ่งไปดูมา

War of the Worlds เรื่องดำเนินโดยพระเอกของเรื่องทอม ครูซ คุณพ่อที่ถูกหย่าร้างต้องมาดูแลลูกทั้งสองที่แม่นำมาฝากไว้ ความสัมพันธ์ของพ่อกับลูกชายวัยรุ่น และลูกสาวตัวน้อยไม่ดีนัก ในวันแรกที่ลูกทั้งสองต้องอยู่ในความรับผิดชอบของเค้าก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอธิบายได้ ทั้งฟ้าผ่า พายุหมุน เมืองทั้งเมืองไฟตับ โทรศัพท์ถูกตัด รถเสียพร้อมกันทั้งเมือง ภายใต้ผืนดินที่ฟ้ารุมกระหน่ำผ่าไปร่วม26ครั้ง ก็มีสิ่งที่ไม่มีใครรู้จักจากนอกโลกโผล่มาทำลายล้างมนุษย์ หน้าที่ของพ่อที่ต้องปกป้องลูกๆเกิดขึ้นเค้าทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาชีวิตทั้งสอง แต่ด้วยความคึกคะนองของลูกชายที่มีจิตใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักโลก และอยากรู้อยากเห็น ทำให้เค้าต้องพลัดกับพ่อและน้อง แต่หน้าที่ของพ่อที่มีต่อลูกสาวยังคงต้องดำเนินต่อไป....แล้วเรย์จะสามารถพาลูกๆของเขารอดจากสงครามครั้งนี้ได้รึไม่



ความรู้สึกหลังจากดูจบ

เป็นหนังที่ผมรู้สึกว่าดูสนุกแต่ไม่ได้ประทับใจในเนื้อเรื่องมากนัก นั้นอาจเป็นเพราะผมว่าหนังเรื่องนี้เนื้อเรื่องไม่ได้ซับซ้อนมากนักดูๆไปก็ต้องเดาเรื่องออก แต่ในเรื่องนี้ก็มีจุดเด่นตรงที่เป็นหนังที่ถือว่าใช้ Computer กราฟฟิกได้ดีมากๆ ในเรื่องฉากต่างๆนั้นทำได้สมจริง โดยทำให้คนดูเชื่อได้ว่ามันมีสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกเข้ามารุกรานโลกเพื่อล้างเผ่าพันธ์มนุษย์จริงๆ และทำอย่างโหดเหี้ยมซะด้วย


อีกส่วนหนึ่งที่น่าสนใจก็คือจะมีแทรกดราม่าไว้ด้วย เพราะตัวพระเอกก็ถือได้ว่าครอบครัวล้มเหลวแต่ก็ยังรักลูกๆและเหตุการณ์นี้ก็ทำให้ลูกๆของเขาเข้าใจคนที่เป็นพ่อได้ดีมากยิ่งขึ้น รวมถึงบทสรุปของสงครามนี้ในหนังนั้นผมก็ชอบเพราะมันเหมือนเป็นสัจธรรมดี(แต่ไม่สามารถบอกได้ต้องลองไปดูเอาเองนะครับ)



ลองเข้าไปดูข้อมูลของหนังเรื่องนี้เพิ่มได้จาก

WAR OF THE WORLDS

War of The Worlds in Sanook

บทวิเคราะห์จาก manager

War of The World in Hi-speed world




 

Create Date : 04 กรกฎาคม 2548   
Last Update : 21 มกราคม 2549 12:09:47 น.   
Counter : 1351 Pageviews.  

**คู่สามีภรรยาสุดแสบใน Mr&Mrs Smith**



เรื่องย่อ

Mr.Smith และ Mrs.Smith เป็นคู่แต่งงานที่สมบูรณ์เพียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นฐานะทางการเงิน หน้าตาทางสังคม รวมถึงงานการที่ทำก็ดูจะมั่นคงทั้งคู่ แต่ก็ไม่วายที่คนทั้งคู้นั้นจะมีปัญหาครอบครัวกันเพราะ คนทั้งคู่ต่างมีความลับของตนเองที่ไม่สามารถบอกกับอีกฝ่ายนึงได้ ทำให้เหมือนว่าคนทั้งสองยิ่งใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมากเท่าไรก็ยิ่งห่างเหินกันมากเท่านั้นจนถึงขั้นที่ ทั้งสองคนต้องเข้าไปรับการช่วยเหลือจากผู่เชี่ยวชาญด้านปัญหาครอบครัว


อยู่มาวันนึงทั้งสองก็ได้รับมอบหมายงานงานนึง(ซึ่งงานของพวกเขาคือ "มือปืน")ทำให้ทั้งสองได้พบกัน จนได้รู้ความลับของอีกฝ่ายว่าจริงๆแล้วสามีหรือภรรยาของเขานั้นเป็นมือปืนที่อยู่กันคนละองค์กร

แต่ปัญหาต่อมาเมื่อมีคนรู้ความจริงของตนเองว่าเป็นมือปืนแล้วจะไม่สามารถปล่อยให้มีชีวิตต่อไปได้ ทำให้ทั้งสองต้อง พยายามฆ่าอีกฝ่ายให้ได้ แต่ขณะที่พยายามกันอยู่นั้นก็ทำให้ทั้งสองได้เปิดใจคุยกันมากขึ้น เข้าใจกันมากขึ้นและเข้าใจความรู้สึกของตนเองมากขึ้นว่าจริงๆแล้วเขาและเธอต่างมีความรู้สึกดีๆให้แก่กันและกัน จึงไม่สามารถฆ่าอีกฝ่ายได้

เมื่อเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ทำให้องค์กรณ์ก็ต้องพยายามหาทางที่จะฆ่าสองสามีภรรยาคู่นี้ให้ได้ ทางฝ่ายของMr.&Mrs.Smith ก็ได้ร่วมมือกันหลบหนีจากการตามล่าขององค์กร บทสรุปแล้วเขาและเธอจะรอดหรือไม่ และเขาและเธอจะยังเป็นสามีภรรยากันอยู่หรือไม่ในตอนจบของเรื่องนี้



ความรู้สึกหลังจากดูจบ

จริงๆแล้วดูตั้งแต่สองอาทิตย์ที่แล้วแล้วแต่ไม่ได้มีเวลามาอัพ ก็เลยถือโอกาสนี้อัพไปเลย ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะออกจากโรงกันไปแล้วสำหรับบางที่ ส่วนความรู้สึกของผมหลังจากดูจบผมรู้สึกเฉยๆกับเรื่องและฉากบู้ต่างๆ (แต่ชอบตรงที่พระเอกกับนางเอกหน้าตาดี หุหุ) สำหรับหนังเรื่องนี้ผมดุแล้วเนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรเท่าไร เหมือนเป็นเรื่องภายในปัญหาครอบครัวที่ไม่เคยคุยกันมากกว่า แต่กว่าจะคุยกันได้รู้เรื่องก็เล่นเอาบ้านช่องและที่ต่างๆราบเป็นหน้ากลองเลยง่ะ แต่ก็ดีตรงที่หนังแสดงให้เห็นว่า

การใช้ชีวิตคู่ร่วมกันนั้นเราต้องให้คู่ชีวิตเรารู้จักตัวเราทั้งในด้านดีและด้านที่ไม่ดี เพราะถ้ารู้จักกันด้านเดียวแล้ววันนึงเกิดอีกฝ่ายรู้ความจริงแล้วรับไม่ได้ขึ้นมา ก็จะทำให้ครอบครัวแตกแยกได้เพราะอยู่ด้วยกันแล้วเหมือนรู้สึกว่าเป็นคนอื่นสำหรับกันและกันเพราะตัวตนจริงๆไม่ได้แสดงออกมาให้เห็นกันตั้งแต่แรก



ลองเข้าไปหาอ่านเพิ่มเติมได้ที่

In Pantip

Mr&Mrs.Smith




 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2548   
Last Update : 21 มกราคม 2549 12:10:52 น.   
Counter : 8637 Pageviews.  

**จุดกำเนิดฮีโร่ที่เรารู้จัก ใน Batman Begin**



เรื่องย่อ

บรูช เวย์ ซึ่งเป็นคนของตระกูลที่รำรวยใน ก็อธแธมซิตี้ แต่ไปอยู่นะดินแดนไกลเพราะต้องการฝึกตัวเองเพื่อขจัดความชั่วร้ายออกไป แล้วหนังก็พยายามสื่อสารว่าชีวิตในวัยเด็ก เขาได้รู้จักและสนิทสนมกับเรเชล(นางเอก) และได้แสดงให้เห็นว่าทำไมบรูซ ถึงได้กลัวค้างคาว รวมถึงได้แสดงถึงตอนที่พ่อกับแม่ของบรูซถูกฆ่าตาย


แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้พบกับ ราซ ลากุล ซึ่งเป็นคนฝึกเขาให้ขจัดความกลัว แต่เมื่อเขาฝึกจบก็ต้องต้องทำลายสถานที่แห่งนั้น เพราะองค์กรนั้นต้องการทำลายเมืองก็อธแธมทั้งเมือง ซึ่งบรูชไม่ยอมทำตามและไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้


และเมื่อเขากลับมายังเมืองของตัวเองก็ได้พยายามหาทางกอบกู้เมืองคืนมาจากเหล่าร้ายทั้งมวล โดยเขาพยายามหาสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่ตัวเขาเคยกลัวนั้นก็คือ "ค้างคาวนั้นเอง" ซึ่งเขาก็ได้รับความช่วยเหลืออย่างดีจาก พ่อบ้านของเวย์และพนักงานที่ซื่อสัตย์ของบริษัทของเขาเอง ทำให้การสร้างสัญลักษณ์เป็นแบทแมนของเขานั้นสมบูรณ์


แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างที่เขาหวังเมื่อเจ้าพ่อที่เขากำจัดไปนั้นไม่ใช่คนที่บ่งการเรื่องที่จะทำลายเมือง กลับกลายเป็นราซ อาจารย์ของเขาที่ไปฝ่ายวางแผนเพื่อที่จะทำงายเมืองๆนี้ โดยปล่อยสารที่ทำให้คนเกิดเห็นสิ่งที่กลัวขึ้นผ่านทางการพ่นน้ำจากระบบน้ำประปาของเมือง ฮีโร่ของเราก็ต้องรับหน้าที่หยุดยั้งปฎิบัติการครั้งนี้ให้ได้



ความรู้สึกหลังจากดูจบ

สนุกดีครับ เป็นหนังฮีโร่ที่ผมชอบมากเรื่องนึงเลยน่ะครับ ชอบมากกว่าพวก X-Men,Spider man ซะอีก เพราะรู้สึกว่าตัว Batman เป็นฮีโร่ที่มีที่มาที่ไป มีความรู้สึกและไม่ได้ใช้พวกพลังแปลกๆแต่เป็นพวกที่ใช้อุปกรณ์ต่างๆให้เหมาะสม และตัวร้ายต่างๆของหนัง ก็ดูมีเหตุมีผลกว่าเรื่องอื่นๆเยอะ


สำหรับในภาคนี้ผมวาเขาพยายามใส่ใจกับรายละเอียดที่จะให้ต่อกับภาคแรกๆที่เราเคยดูกัน เรื่องนี้ทำให้ผมรู้จักกับคำว่าความกลัวจริงๆแล้วมันอยู่ภายในตัวเราเองถ้าเราอยากจะกำจัดมันทิ้งเราก็ต้องเอาชนะจิตใจของตัวเองให้ได้ก่อน ส่วนการแสดงของนักแสดงก้นับว่าแสดงได้ดีทุกตัวเลยดีเดียวไม่ว่าจะเป็นพระเอกที่จะต้องมีนัยต์ตาที่เศร้าเพราะมีความทุกข์อยู่ในตัว อีกทั้งนางเอก(ซึ่งน่ารักดี ฮิฮิ)ก็นับว่าการพูดของเขาก้ยังเป็นเอกลักษณ์อยู่ดี เหอ เหอ

"คนเราทำไมถึงต้องล้ม เพราะว่ามันจะได้ลุกกลับขึ้นมา"

และอีกอย่างในหนังเรื่องนี้คือการที่มีคำพูดคมๆหลายๆประโยคให้เราได้ยินได้ฟังได้คิดกันอยู่เสมอ



สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

ตัวอย่างหนัง จาก hi-speed world

Batman ใน movieseer

batmanbegins

Batman in popcornfor2

Batman in Pantip




 

Create Date : 27 มิถุนายน 2548   
Last Update : 21 มกราคม 2549 12:11:26 น.   
Counter : 4090 Pageviews.  

**ชิวิตมนุษย์แบบสีฟ้าๆ ใน A SNAKE OF JUNE**(Movie)



เรื่องย่อ

นางเอกทำอาชีพเป็นที่ปรึกษาเพื่อช่วยรักษาคนที่มีปัญหาทางจิต สถานภาพของนางเอกในหนังก็เป็นหญิงที่แต่งงานแล้วโดยสามีนั้นค่อนข้างจะมีอายุแล้ว อยู่มาวันนึงคนไข้ที่เขาโทรเข้ามาปรึกษาเพราะอยากฆ่าตัวตายกับกลับใจไม่ยอมฆ่าตัวตายเพราะเขาค้นพบสิ่งที่สำคัญสำหรับเขา นั้นก็คือ การแอบถ่ายรูปนางเอก


ปัญหามันก็มีอยู่ว่า เขาแอบถ่ายรูปนางเอกขณะกำลังแอบช่วยตัวเอง รวมถึงแอบถ่ายตอนนางเอกลองใส่กระโปรงสั้นแค่คืบและแต่งหน้าจัด(ซึ่งโดยปกติแล้วนางเอกจะเป็นคนเรียบร้อย รักสัตว์ แต่ใจจริงอยากจะทำตัวเปรี้ยว)


ขณะนั้นชีวิตคู่ของนางเอกก็เริ่มมีปัญหา(ทางSexเพราะไม่ค่อยได้คุยเรื่องนี้กันทั้งคู่) แต่นางเอกก็เจอปัญหาที่ใหย่กว่านั้นก็คือการถูกบีบบังคับโดยคนที่แอบถ่ายรูปนางเอกไว้ว่าให้ทำโน่นทำนี่ เพราะนางเอกต้องการเอาฟิลม์คืนจากชายผู้นี้ เมื่อภารกิจเสร็จสิ้น กลับพบคำตอบว่า ชายผู้นั้นใกล้ตายแล้ว


แต่ไม่พอเท่านั้นก็เกิดเหตุการณ์กับทางสามีของนางเอกด้วยเพราะกลับกลายเป็นว่าคนที่แอบถ่ายรูปนางเอกนั้นกลับรู้ความลับบางอย่างของทางสามีด้วย ส่วนสามีอยากจะเอาฟิมล์ของภรรยาตัวเองคืนมาเหมือนกัน เลยทำให้เรื่องมันซ้อนปมกันเข้าไปอีก



สุดท้ายแล้วเรื่องต่างๆเหล่านี้จะจบลงเช่นไร ทั้งสามคนจะเป็นยังไงกันบ้างกับเหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นในเรื่องนี้

ความรู้สึกหลังจากดูจบ

ถ้าถามผมว่าดูหนังเรื่องนี้แล้วสนุกไหมผมบอกได้ทันทีว่าไม่สนุก เพราะดูแล้วรู้สึกกดดัน เครียด กับเหตุการณ์ในตอนแรกๆที่เป็นของนางเอก พอผู้กำกับตัดเข้าในตอนของสามีนางเอกผมก็เริ่มงงกับลำดับเหตุการณ์ ทำให้พอหนังจบแล้ว มีเรื่องต่างๆต้องคิดเต็มหัวไปหมด เพราะงงรวมทั้งค่อนข้างปวดตานิดนึงกับการใช้สีฟ้าทั้งเรื่อง

แต่ที่ผมคิดว่าชอบในหนังเรื่องนี้ก็คือ การที่ตอนแรกนนางเอกเป็นตัวเดินเรื่องตอนท้ายสามีนางเอกเป็นตัวเดินเรื่อง(ถึงจะงง งง อยู่ด้วยก็เถอะ) และก็การแสดงของนางเอกซึ่งทำให้เรากดดันไปกับการถูกคนโรคจิตคุกคาม


ส่วนตัวผมหนังเรื่องนี้เป็นในช่วงแรกผมมีความเข้าใจว่า"บางทีคนเราปากก็บอกให้คนอื่นทำอย่างนั้นอย่างนี้ตามที่ใจอยากทำ แต่กับตัวเราเองที่เป็นคนสอนคนอื่นกลับไม่กล้าที่จะทำสิ่งที่ตัวเองได้บอกคนอื่นไป"

ส่วนในการใช้ชีวิตคู่นั้น"ต้องหันหน้ามาคุยกันบ้าง เพราะความไม่เข้าใจกันนั้นอาจจะเกิดปัญหาได้" และ "คนเราอย่างมัวแต่เห็นแก่ตัวเพียงด้านเดียว ควรจะนึกถึงคนที่เราใช้ชีวิตคู่ด้วย"

ต่อมาหนังก็แสดงให้เห็นอีกด้วยว่า "ถ้าคนเราไม่จวนตัวหรือใกล้จะตายจริงๆแล้วนั้น คนเราก็ไม่ยอมเปิดเผยสิ่งต่างๆในตัวเองออกมาจนหมด" โดยตัวกระตุ้นก็คือผู้ชายคนที่แอบถ่ายรูปนั้นเอง



แต่หนังเรื่องนี้ผมก็ยังสงสัยในหลายๆจุดไม่รู้ว่าหนังต้องการสื่อถึงอะไร การลำดับเหตุกาณ์ก่อนหลังในช่วงครึ่งหลังของหนัง ก็ดูจะงง งง (น่าจะสื่ออะไรบางอย่างแต่ก็ไม่เข้าใจเช่นกัน)

สรุปแล้วถ้าใครอยากดูหนังสนุก ไม่ต้องคิดมาก ไม่เครียด ก็ไม่ควรดูเรื่องนี้อย่างยิ่ง แต่ถ้าใครอยากเขาไปดูหนัง Art หนังที่กดดันๆ โรคจิตๆ หรืออยากดูการใช้ภาพใช้สีของเขาก็ควรไปดูเรื่องนี้น่ะครับ มันเป็นหนังที่แตกต่างกับหนังเรื่องอื่นๆในช่วงนี้น่ะครับ

A SNAKE OF JUNE WEBSITE

A SNAKE OF JUNE in Pantip

A SNAKE OF JUNE in Siamzone




 

Create Date : 21 มิถุนายน 2548   
Last Update : 21 มกราคม 2549 12:12:05 น.   
Counter : 1206 Pageviews.  

**เหตุการณ์น่าสลดที่ถูกมองข้าม ใน HOTEL RWANDA**



เรื่องย่อ(เอามาจากที่อื่น บังเอิญว่าง่วงแล้วง่ะ)

ในปี1994 พอล รูสซาบาจิน่าทำงานเป็นผู้จัดการโรงแรมในกิกาลี่ เมืองหลวงของประเทศรวันด้า เขาใช้ชีวิตแบบชนชั้นกลางสบายๆ เขามีภรรยาที่ทั้งสาวและสวยชื่อ ทาเทียน่า กับลูก 4 คน ชีวิตของเขาเป็นเหมือนการเชื่อมโยงของสองชนเผ่า เพราะเขาเป็นชาวฮูตู ในขณะที่ภรรยาของเขาเป็นชาวทุตซี่


ในค่ำคืนของวันที่ 6 เมษายนปีนั้น ประธานาธิบดีของรวันด้าซึ่งเป็นชาวฮูตูถูกลอบสังหาร ภายในเวลาไม่กี่นาที การสังหารผู้คนเริ่มต้นขึ้น พวกหัวรุนแรงชาวฮูตูใช้การตายของประธานาธิบดีเป็นข้ออ้างเพื่อกำจัดพวกทุตซี่ ตลอดระยะเวลาเพียง 100 วัน มีคนโดนฆ่าตายไปถึง 8 แสนคน ส่วนใหญ่ถูกตีจนตายด้วยเครื่องมือในฟาร์มโดยน้ำมือของคนชาติเดียวกัน ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยที่โลกภายนอกไม่มีโอกาสรับรู้ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเข้าสู่ยุคการสื่อสารไร้พรมแดนแล้วก็ตาม


หลายวันต่อมา รูสซาบาจิน่าได้เปลี่ยนโรงแรมสี่ดาวที่เค้าทำงานอยู่ชื่อมิลล์คอลลินส์ในกิกาลี่ให้กลายเป็นที่หลบภัยสำหรับชาวทุตซี่และผู้อพยพชาวฮูตูกว่า 1,200 คน ตลอดสามเดือนต่อมา เขานำเบียร์ ไวน์ และเงินไปเป็นสินบนมอบให้กับมือสังหารชาวฮูตูเพื่อต่อรองไม่ให้บุกเข้ามาที่โรงแรม และนั่นทำให้ไม่มีใครในโรงแรมสักคนถูกฆ่าตายทั้งๆ ที่บนถนนด้านนอกโรงแรมนั้นกลาดเกลื่อนไปด้วยซากศพ



ความรู้สึกหลังจากดูจบ

สำหรับเรื่องนี้ผมนั่งดูอย่างไม่เบื่อแม้ซักวินาทีเดียว หนังดำเนินเรื่องแบบว่าเป็นการแสดงภาพของความเป็นจริงมากกว่าที่จะทำเป็นเรื่องแต่งเพราะเรื่องนี้เขาว่ากันว่าเป็นเรื่องจริงที่คนภายนอกไม่ค่อยจะรู้กันเท่าไร เมื่อผมดูจบผมก็เห็นได้ว่าโลกเรายังมีความโหดร้ายความป่าเถื่อนอยู่อีกมาก อีกทั้งยังแสดงความมีน้ำใจของคนที่พยายามจะช่วยเหลือกัน


ทำไมคนเราถึงต้องฆ่ากันด้วย นั้นอาจเป็นเพราะความเกลียดมั้ง แล้วทำไมถึงเกลียดกันล่ะ ก็เพราะเป็นคนล่ะเผ่า คนล่ะโรงเรียน ถึงไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนก็พร้อมที่จะฆ่ากันได้ อย่างนั้นเหรอ??? เรื่องพวกนี้จริงๆแล้วเราสามารถเห็นมันได้ในชีวิตประจำวันด้วยซ้ำ เศร้าเศร้า


ส่วนตัวแล้วอึ้งกับเหตุการณ์ที่หนังนำมาเสนอ ประทับใจกับการแสดงของนักแสดงนำ โดยรวมแล้วเป็นหนังที่ไม่น่าที่จะพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะทำให้ได้รู้ได้เห็นอะไรขึ้นอีกเยอะเลยทีเดียว ห้ามพลาดครับเรื่องนี้ มีขายแล้วตามร้านทั่วไป



HOTEL RWANDA WEBSITE

Hotel Rwanda in Pantip




 

Create Date : 16 มิถุนายน 2548   
Last Update : 21 มกราคม 2549 12:13:33 น.   
Counter : 1105 Pageviews.  

1  2  3  4  

BedRoom
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add BedRoom's blog to your web]