ใครดู Star Wars ครบทั้ง 6 ภาดแล้ว บอกหน่อยว่าชอบภาคไหนที่สุด วันเสาร์ที่ผ่านมา ผมนั่งอยู่บ้านเฉยๆโดยไม่มีโปรแกรมจะออกไปไหนก็เลย ยืม Star Wars ของพี่ที่ทำงานมานั่งดูสามภาคแรกเพราะยังไม่เคยดู (เกิดไม่ทันกับยังเด็กอยู่เลยไม่ได้ดู) แต่ก่อนหน้านั้นผมได้ดู Episode 1-3 มาแล้ว(โดยนั่งดูทางช่องเจ็ดสี และภาคสามก็เพิ่งไปดูในโรงมาอาทิตย์ที่แล้ว) สรุปแล้วผมนั่งดูหกภาคในหนึ่งเดือน(เหอ เหอ) เรามาระลึกกันดีกว่าว่าหกภาคนั้นมีตอนอะไรกันบ้าง(จะได้มาบอกผมหน่อยว่าคุณชอบภาคไหนที่สุด) EpisodeI : The Phantom Menace : เป็นตอนที่พวกเรารู้จัก อนาคิน หรือเด็กชายแอนดี้ โดยที่อาจารย์ของโอบีวันเป็นคนค้นพลังที่สูงมากในตัวเด็กคนนี้เลยจะเอามาฝึกสอน แต่ก็ต้องตายไปเสียก่อน โอบีวันเลยได้เป็นอาจาร์ยของ อนาคิน สกายวอคเกอร์ ตั้งแต่นั้นมา และภาคนี้ยังทำให้เจ้าหญิงและอานาคินพบกันครั้งแรกอีกด้วย EpisodeII : Attach of The Clones : เป็นตอนที่ สกายวอคเกอร์หนุ่มหรืออนาคินนั้นเอง ได้เริ่มมีอารมณ์แปรปรวนเนื่องจากต้องการปกป้องคนที่เขารัก และได้แต่งงานกับเจ้าหญิง(จำชื่อไม่ได้แล้วง่ะ) ในภาคนี้ดราจะได้เห็นอนาคินที่ เก่งขึ้น และเริ่มมีอารมณ์ที่รุนแรงขึ้น EpisodeIII : Revenge of The Sith : เป็นตอนที่ อนาคินได้หันเข้าสู่พลังด้านมืดเต็มตัวแล้วกลายเป็น ดาร์ธเวเดอร์ เพราะเขาต้องการปกป้องคนที่เขารัก และได้รู้จักตัวจริงขององค์จักรพรรดิ์ ว่าทำไมเขาถึงเขามาปกครองจักรวรรดิ ได้ ซึ่งตอนนี้ยังเขาอยู่ในดรงอยู่นะครับ และภาคนี้เป็นการถือกำเนิดของ ลุค สกายวอคเกอร์ ซึ่งเป็นตัวเอกในภาคต่อๆไปด้วย และภาคนี้เป็นจุดจบของเจไดเพราะเสียชีวิตไปเกือบหมด EpisodeIV : A New Hope : ภาคนี้ถือเป็น Star Wars ภาคแรกที่ปรากฎสู่สายตาชาวโลก เป็นภาคที่ ลุค สกายวอคเกอร์ได้รู้จักกับหุ่นยนต์สองตัวที่เป็นคุ่ทุกข์คู่ยาก และได้รุ้จักกับ ฮันโซโล และ โอบีวันอีกด้วย(แต่ตอนแรกรู้จักในนาม เบน เคนโนบี) ในภาคนี้ ลุคก็จะได้เข้าร่วมกับกองทัพฝ่ายกบฏ EpisodeV : The Empire Strikes Back : ส่วนภาคนี้นั้นจะ ลุคจะได้ไปฝึกการใช้พลังกับอาจารย์โยดา และได้สู้กับ ดาร์ธเวเดอร์เป็นครั้งแรกโดยพ่ายแพ้และได้เสียมือไปหนึ่งข้าง แต่ก็สามารถรอดชีวิตมาได้ และได้รู้ว่าแท้จริงแล้วพ่อของเขาคือใคร โดยในตอนนี้ทางเวเดอร์ก็พยายามดึง ลุคให้เข้ามาใช้พลังด้านมืดเพื่อปกป้องคนที่ตัวเองรัก แต่ก็ยังทำไม่สำเร็จ EpisodeVI : Return of The Jedi : ภาคนี้เป็นภาคสุดท้าย(ที่มีอยุ่ตอนนี้) โดยลุคจะสามารถใช้พลังได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว พวกของลุคได้เข้าไปช่วยอันโซโลที่โดนจับไว้ ส่วนลุคได้กลับไปฝึกกับอาจาร์ยโยดาต่อแต่ก็ไม่ฝึกอะไรเพิ่มเพราะโยดาได้สิ้นอายุไขไปก่อนโดยบอกความจริงกับลุคว่า ยังมีสายเลือดสกายวอคเกอร์อยู่อีกคนนึง แต่สุดท้ายแล้วลุคก็ได้ไปต่อสู้กับ ดาร์ธเวเดอร์โดยเขาพยายามให้พ่อหันออกมาจากการใช้พลังด้านมืดให้ได้เพราะเขาคิดว่าดาร์ธเวเดอร์ยังมีส่วนดีอยู่ในตัว ส่วนทางด้านนั้นก็พยายามดึงลุคให้เป็นพวกให้ได้ ดดยใช้เพื่อนๆของลุคเป็นตัวล่อให้ลุครู้สึก โกรธเค้นและใช้พลังออกมา แต่สุดท้ายแล้ว..... โดยส่วนตัวผมแล้วนับเป็นหนังอวกาศที่ทำได้อย่างยิ่งใหญ่ถึงหกภาคและเนื้อเรื่องก็มีความลุ่มลึกของตัวละคร แต่ภาคที่ผมชอบมากที่สุดกลับเป็น ภาคที่สี่ เพราะผมดูแล้วมันคลาสสิกดี ไม่ค่อยมีการใช้เทคนิดอะไรมากมายเพราะสมัยนั้นยังไม่มีแต่ก็ทำออกมาได้อย่างดี ส่วนภาคอื่นๆผมเฉยๆ รุ้สึกว่าออกมาเติมเต็มภาคแรกมากกว่า "แล้วคุณละ ชอบภาคไหนที่สุดในหกภาคนี้"   Create Date : 29 พฤษภาคม 2548     65 comment Last Update : 21 มกราคม 2549 12:17:05 น.     Counter : 46770 Pageviews.   Share Tweet

Seven Samurai : Classic Samurai Movie by Kurosava เรื่องย่อๆ หมู่บ้านชาวนาหมู่บ้านหนึ่ง ได้ถูกคุกคามโดยกลุ่มโจร ซึ่งเมื่อชาวนาในหมู่บ้านนั้นได้ผลผลิตมาเมื่อไรพวกโจรก็จะเข้ามาปล้นสดม พร้อมกับปล้นผู้หญิงไปด้วย ทำให้หมู่บ้านนี้ได้ไปปรึกษาผู้เฒ่าของหมู่บ้าน ก็ได้ทางออกว่าต้องไปหาซามูไรมาช่วยปกป้องและกำราบพวกโจรกลุ่มนี้ให้ได้ ชาวนาในหมู่บ้านนี้จะได้มีความสุขซะที คนในหมู่บ้านเลยเดินทางเข้าเมืองเพื่อไปหาซามูไรที่จะมาช่วยหมู่บ้านโดยเขาไม่มีวิ่งใดตอบแทน นอกจากที่พักและอาหารสามมื้อเท่านั้น ทำให้การหาซามูไรมันยากลำบากมาก เพราะส่วนใหญ่ก้ต้องการค่าตอบแทนทั้งนั้น จนได้มาพบกับซามูไรคนนึงที่ยอมช่วย และเขาก็หาซามูไรคนอื่นๆเพื่อจะไปช่วยหมู่บ้านนี้ ก็หาซามูไรมาได้ 5 คนและมีซามูไรหนุ่มที่อยากไปด้วย และคนที่อยากเป็นซามูไร รวมทั้งหมดเจ็ดคน ก็ได้เข้าไปช่วยหมู่บ้านนี้ไว้ โดยตั้งแต่ไปถึงหมู่บ้านก็ได้มีเหตุการณ์ต้างๆมากมาย ทั้งภายในกลุ่มซามูไร ซามูไรกับชาวบ้านและวิธีการวางแผนเพื่อจะปกป้องหมู่บ้าน สุดท้ายแล้วพวกเขาจะปกป้องหมู่บ้านได้รึไม่ ด้วยวิธีการอย่างไร พวกเขาและชาวบ้านต้องสูญเสียอะไรบ้าง สิ่งเหล่านี้ต้องไปติดตามเอาเองในหนังเรื่องนี้ ความคิดเห็นส่วนตัว หนังเรื่องนี้กำกับโดย Akira Kurosawa ซึ่งเป็นผู้กำกับญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในเวทีโลก และหนังเรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นมาเมื่อปี 1954 ซึ่งแน่นอนว่าต้องเป็นหนังขาวดำไม่เท่านั้นหนังเรื่องนี้ผมต้องนั่งดูครึ่งวันเลยที่เดียวเพราะมันยาวถึงสามชั่วโมง แต่เมื่อดูจบแล้ว "โอว์....พระเจ้ามันยอดมากกกก" ผมได้เห็นหนังซามูไรที่คลาสสิก ช่วงเวลาในหนังนั้นน่าจะเป็นช่วงก่อนของเวลาในหนัง The Last Samurai (ซึ่งผมชอบเรื่องนี้มากกว่า The Last Samurai)มีทุกอย่างที่หนังซามุไรต้องมี ตั้งแต่การใช้ดาบ การวางแผน ความมีคุณธรรม ความรักระหว่างชนชั้น การเติบโตของอารมณ์ความรู้สึกของตัวละคร ทั้งตัวที่เป้นเด็กแล้วมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น คนที่ไม่ได้เป็นซามูไรแต่ทำตัวเยี่ยงซามูไร ความเสียสละและอีกหลายๆอย่าง เยอะมากที่คุณจะได้รับกับหนังเรื่องนี้ ตอนผมนุ่งดุหนังเรื่องนี้ผมมีความรู้สึกลุ้นไปกับการวางแผนว่าพวกเขาจะปกป้องหมู่บ้านได้ยังไง และมีอารมณ์ร่วมไปกับตัวละครทุกตัว ซึ่งแสดงออกมาได้อย่างดี ทั้งสุข ทุกข์ เศร้า เหงา รัก มีหมดในหนังเรื่องนี้ "สรุปแล้ว ผมอยากชวนทุกคนดูหนังคลาสสิกเรื่องนี้ ถึงแม้มันจะหาดูยากหน่อยก็ตาม เพราะดูแล้วคุ้มครับผม หรือใครได้ดูแล้วคิดว่าอย่างไรบ้างก็สามารถคอมเมนท์ได้นะครับ" เพื่อนๆสามารถหาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ข้างล่างนี้นะครับ(ภาษาอังกฤษนะครับ) IMDB bfi.org.uk BrightlightsFilm www.rottentomatoes.com MoverSeer New York Times   Create Date : 28 พฤษภาคม 2548     126 comment Last Update : 21 มกราคม 2549 12:17:34 น.     Counter : 1235 Pageviews.   Share Tweet

หม่ำจะรักนุ่นจนคนดูน้ำตาซึมใน"เฉิ่ม" เรื่องย่อ บัติ คนขับรถแท็กซี่ ซึ่งชอบฟังแต่วิทยุ AM. อมโบตัน(ซึ่งคุณจะได้มันมาเมื่อคุณเขาไปดูหนังเรื่องนี้)และชอบกินข้าวร้านเดิม จนกระทั่งวันนึงเขาได้พานพบกับนวลซึ่งทำงานเป็นหมดนวด เมื่อเขาและเธอได้พบกันบางสิ่งบางอย่างก็ได้เกิดขึ้นในใจของทั้งสอง ซึ่งเขาจะรู้สึกว่าคนอีกคนนึงสามารถมาเติมเต็มหัวใจของเขาได้ ซึ่งทั้งสองก็จะได้พบกับเหตุการณ์ต่างๆที่เป็นบททดสอบในชีวิต วันนี้ผมได้มีโอกาสไปดู"เฉิ่ม" โดยมีคนบ่นเข้ามาในหูผมว่าไม่ค่อยสนุกเพราะมันไม่ตลกเลย เมื่อผมได้ยินผมก็คิดว่า เอ....มันเป็นหนังชีวิตไม่ช่ายยเหรออ แล้วมันจะตลกได้ไงง่ะ ผมก็เลยเดาว่าคนไปคาดหวังว่าจะตลก พอดูแล้วไม่ตลกเลยคิดว่าหนังไม่สนุก แตเมื่อผมได้ดูหนังเรื่องนี้ในตอนแรกๆของหนังก็มีเรื่องให้ได้อมยิ้มกันนิดหน่อยกับการดำเนินชีวิตเฉิ่มๆของพระเอก ในส่วนแรกของหนังนั้นผมว่าเปรียบเสมอแนะนำให้คนดูรู้จักกับตัวเอกของเรื่องว่ามีนิสัยเป็นอย่างไร ชอบอะไร พอพระเอกเริ่มรู้จักกับนางเอกก็ทำให้ความรู้สึกต่อโลกเปลี่ยนไป แล้วก็เกิดมีเหตุการณ์ต่างๆที่ดูแล้วน่าจะเป็นความน่าเศร้าในชีวิตของตัวละคร แต่คนทำหนังเรื่องนั้ก็มีบางเหตูบางตอนที่เขาจะค่อยๆนำเสนออดีตของพระเอกว่าทำอะไรมาบ้าง ก็สามารถทำให้ผมจุกๆได้เหมือนกัน.เพราะมีหักมุมเยอะเหมือนกัน และในหนังก็ชอบมีคำพูดธรรมดาๆแต่เวลานายบัติพูดแล้วมันได้เอกลักษณ์ดี เช่น "ผมไม่อยากไปกินร้านอื่นเพราะกลัวไม่อร่อยเหมือนร้านนี้" .แล้วนวลก็บอกว่า "นั้นซิถ้าคนเราหาอะไรที่คิดว่าเหมาะสมกับตัวเองได้แล้วเราก็คงไม่ต้องการไปหาสิ่งอื่นอีก" สิ่งที่ผมว่าหนังเรื่องนี้ทำได้ดี คือ เนื้อเรื่องค่อนข้างจะดีทีเดียว กับบางเหตุการณ์ก็ทำให้ผมขนลุกเหมือนกัน เพลงประกอบของเรื่องนี้ส่วนใหญ่จะเอาเพลงเก่าๆมาซึ่งผมว่ามันได้อารมณ์ดี ส่วนที่ผมไม่ชอบก็มีอยุ่บ้าง คือ บางตอนที่ดูจะเวอร์เกินไป และผมอยากให้มันจบแบบเศร้าๆไปเลยไม่อยากให้จบเหมือนในหนังรู้สึกว่าอารมณ์ยังไม่ถึงที่สุด สรุปแล้วโดยส่วนตัวผมชอบหนังเรื่องนี้ได้เข้าไปดูหนังอีกอารมณ์นึง เพลงเพราะ มีเนื้อหาที่ชัดเจน ใครที่ยังไม่ไปดูก็อยากให้ไปดูหนังเรื่องนี้กันนะครับ สว่นคนที่ดูไปแล้วคิิดเห็นอย่างไรกันบ้างก็มาบอกกล่าวกันหน่อยนะครับ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ "เฉิ่ม"website "เฉิ่ม"ในManager "เฉิ่ม"ในSiamzone "เฉิ่ม"ในPantip "เฉิ่ม"ในSanook   Create Date : 22 พฤษภาคม 2548     48 comment Last Update : 21 มกราคม 2549 12:18:12 น.     Counter : 14095 Pageviews.   Share Tweet

หลังจากดูมหา'ลัยเหมืองแร่มาแล้ว... เมื่อวานได้มีโอกาสไปดูหนังเรื่องนี้ โดยได้รับโอกาสจากพี่ที่ทำงานที่หาบัตรมาให้กับเด็กคนนี้(ขอบคุณมากกกกครับ ฮิฮิ) เพราะผมอยากดูเรื่องนี้มากเพราะเคยได้อ่านเรื่องสั้นชุดนี้ตอนที่กำลังเรียนอยู่(ยังไม่แก่น่ะครับ เพราะเพิ่งจบมาไม่กี่ปีเอง) ก่อนไปดูก็คิดในใจว่าจะทำเป็นหนังออกมายังไงเพราะมันเป็นเรื่องสั้นที่จบในตอนแล้วก็มีหลายๆตอน(พยายามคิดแล้วก็คิดไม่ออกเหมือนกัน) พอเป็นหนังเรื่องก็เป็นแบบว่า มหา'ลัยเหมืองแร่จริงๆ ผมคิดว่าเขาเสนอชีวิตของเด็กหนุ่มที่ชื่ออาจินต์ที่ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในเหมืองแร่ เพราะเรียนไม่จบเนื่องจากถูกให้ออกจากวิศวะ จุฬาฯซะก่อน แต่แล้วก็ได้ไปเรียนรู้ชีวิต การทำงาน และเรื่องอื่นๆ เหมืองแร่ในความรู้สึกของเด็กหนุ่มคนนนี้นั้น ก็เปรียบเทียบมหาวิทยาลัยแห่งชีวิตที่เขาได้เข้าไปเรียนรู้เป็นเวลาประมาณ 4 ปี ได้พบเจอ งานที่ยากลำบาก ได้เจอคนหลายๆประเภท ได้มีความรู้สึกเสียใจ ดีใจ สนุก เหงา คิดถึงบ้าน คิดถึงคนรัก อกหัก ขณะที่เขาดำเนินชีวิตอยู่ในเหมืองแร่แห่งนี้ ผมมีความรู้สึกว่าภาพกับสถานที่ต่างๆในหนังมันเหมือนกับของจริงในเวลานั้น ให้ผมชอบตรงส่วนนี้(ได้อารมณ์ เหมืองดี) ทำให้การจินตนาการของผมขณะที่อ่านหนังสือเด่นชัดขึ้นมา เหมือนที่ผมคิดบ้างไม่เหมือนบ้าง ไม่เป็นอะไรอยุ่แล้ว และในหนังก็ได้มีคำพูดคมๆหลายๆประโยคที่เราสามารถนำมาใช้ในชีวิตได้ แต่จุดที่ผมไม่ชอบก็มีอยู่คือการเล่าเรื่องของหนังผมรู้สึกว่ามันเหมือนดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆไม่ได้มีจุดไคลแมก เหมือนหนังทั่วๆไป(แต่เป็นสิ่งที่ผมคิดไว้แล้วเพราะเล่าเรื่องออกมาเป็นหนังได้ยากมาจากเรื่องสั้นชุดนี้)แต่ถึงยังไงผมก็คิดว่าผู้กำกับได้พยายามอย่างที่สุดแล้วเพราะสามารถนำเรื่องสั้นต่างๆมาต่อกันเป็นหนังใหญ่ได้ และอีกส่วนนึงคือนางเอก ผมไม่รู้ว่ามีตัวละครตัวนี้มาทำไมอยู่ดีๆก็โผล่มาแล้วเหมือนจะเป็นคนรักกับพระเอกแต่ตอนจะจบก็ไม่ใช่(ต้องไปดูกันเอาเอง) อีกอย่างนึงที่ผมประทับใจคือการได้ดูตอนจบเพราะรู้สึกผูกพันกับตัวละครในหนังสือแล้วได้มาเห็น(ตัวจริง)ในหนัง(ไม่ใช่จากหนังนะครับ) แต่สรุปแล้วเป็นหนังที่ให้ข้อคิดกับคนดูได้แต่ยังไงผมก็ยังชอบที่อ่านเป็นหนังสือมากกว่า แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือเพราะจินตนาการไม่ค่อยเก่งก็แนะนำให้ไปดูหนังก่อนแล้วต้องหาหนังสือมาอ่านตามนะครับ เพราะเรื่องสั้นชุดนี้ดีมากๆ(ขอบอก) "เราจะได้แร่ที่มีค่ายังต้องลงแรงขุดลงไปในดินทั้งๆที่ในดินนั้นเหมือนจะไม่มีอะไรอยู่ก็เหมือนกับชีวิตคนเราก็ต้องลงมือลงแรกเพื่อจะหาสิ่งที่มีค่าให้ตนเอง บางสิ่งอาจจะดูเหมือนไม่มีค่าแต่จริงๆแล้วกลับมีค่ามากมายนัก เหมือนกับที่เด็กหนุ่ม นายอาจินต์ได้เข้าไปเหมืองแร่เพื่อคิดจะเก็บเงิน แต่ตอนออกจากเหมืองก็ไม่มีเงินซักบาทเดียวที่สิ่งที่ได้จากเหมืองนั้นมีค่ายิ่งใหญ่อย่างไม่มีอะไรเปรียบเทียบได้สำหรับชีวิตของเขา" ข้อมูลเพิ่มเติม //www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A3471397/A3471397.html //content.kapook.com/content/publish/article_24523.shtml //content.kapook.com/content/publish/article_24523.shtml //www.pop.co.th/movie/cinemas_inside.phtml?type=coming&id=1393 //www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9480000066030&#Comment   Create Date : 19 พฤษภาคม 2548     49 comment Last Update : 21 มกราคม 2549 12:18:36 น.     Counter : 32348 Pageviews.   Share Tweet

ความรักภายในครอบครัว ในหนังเรื่อง Be With You หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่มาจากประเทศญี่ปุ่น โดยสามารอ่านเรื่องคร่าวๆได้จาก //www.pantip.com/cafe/chalermthai/newmovie/bewithyou/bwy.html หลังจากที่ผมได้เข้าไปดูที่ลิโด้ คนดูเต็มโรงทีเดียวสำหรับเรื่องนี้ ตอนแรกๆของเรื่อง ผมรู้สึกว่าหนังมันเรื่อยๆไปหน่อย และยังไม่ค่อยเข้าใจว่า ทำไมถึงต้องมีเหตุการณ์หรืออาการของตัวละครในแบบที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ในโลกจริง แต่เมื่อดูต่อไปก็ต้องพบว่าตัวเองได้ถูกตัวละครต่างๆดึงดูดเข้าไปในเรื่องซะแล้ว ไม่ว่าจะเป็น พระเอกที่เป็นคนที่ดูเหมือนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองแต่รักที่มั่นคง ตัวลูกเป็นเด็กที่น่ารักแบบเด็กที่อยากอยู่กับแม่จริงๆ ส่วนนางเอกก็น่ารักโดยตัวเองอยู่แล้ว ส่วนตัวอื่นๆก็มีรายละเอียดในตัวเช่น แอบชอบพระเอกอยู่ หัวหน้าที่หลับตลอด หมอที่คอยเป็นที่ปรึกษา แต่จุดที่ดีที่เป็นประเด็นน่าจะอยู่ที่ตอนท้ายๆเรื่องที่หนังจะเล่าเรื่องโดยผ่านมุมมองของนางเอก ทั้งที่ผ่านมาโดยส่วนมากจะเป็นมุมของพระเอกและลูก เมื่อดูจบก็จะเข้าใจได้เองว่า ทำไมถึงต้องมีเหตุการณ์ที่เวอร์ๆเกิดขึ้นในเรื่องนี้ เมื่อออกจากโรงก็รู้สึกว่า ความรักของครอบครัวนี่มันอบอุ่นมาก พ่อ แม่และก็ลูก เมื่อใครคนหนึ่งเกิดจากไปเราต้องเหมือนขาดอะไรบางอย่าง และคาดหวังว่าอยากให้เขาคนนั้นจะต้องอยู่กับเราตลอดไป เหมือนอย่างที่เด็กในหนังพยายาม ห้อยหัวตุ๊กตาไล่ฝนเพื่อไม่ให้ฝนหยุด ส่วนพ่อก็ดีใจทุกครั้งที่ดูกรมอุตุรายงานว่าฝนจะยืดออกไป แต่...คนเราก็ต้องมีการจากลา ซักวันหนึ่งเราก็ต้องอยู่โดยไม่มี พ่อแม่มาดูแล เราก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อให้ได้อย่างมีความสุข ไม่ว่าเราจะมีอดีต ปัจจุบันและอนาคตเป็นอย่างไรก็แล้วแต่ เราก็ควรเลือกทางที่คิดว่าเหมาะกับเราที่สุดเหมือนนางเอกในเรื่องนี้ได้เลือก อ่านวิจารณ์ได้ที่ //www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9480000049655   Create Date : 09 พฤษภาคม 2548     119 comment Last Update : 21 มกราคม 2549 12:19:09 น.     Counter : 1618 Pageviews.   Share Tweet