จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
มกราคม 2553
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
26 มกราคม 2553
 
All Blogs
 

ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" (ตอนที่ 12)

ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย"
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 12

เส้นทางเดินที่เริ่มต้น

การออกตะเวนกรุงของท่านผู้ช่วยอธิบดี ฯ เผ่า ที่มีผมเป็นคนติดตามชนิดติดตัวนั้น เป็นไปอย่างที่ผมไม่เคยได้พบมาก่อน จี๊ปสีแดงประจำตัวท่านผู้ช่วย ฯ เผ่า คันนั้น เป็นจี๊ปที่ทรหดจริง ๆ เพราะเส้นทางที่วิ่งของมันไม่มีที่จะได้หยุดพักนานเท่าใด พลขับประจำรถต้องผลัดเปลี่ยนกันคนละยี่สิบสี่ชั่วโมง และเขาจะผลัดเปลี่ยนกันโดยไล่ตามกันเอาเอง เพราะไม่รู้ว่าตอนไหนท่านจะอยู่ที่ไหน

บ้านท่านผู้ช่วย ฯ นั้น อยู่ในซอยเทเวศร์ ส่วนมากก็จะไปจบเอาที่นั่น แต่ไม่รู้ว่าเวลาเท่าไร แล้วแต่ท่านเจ้าของรถจะหมดฤทธิ์ที่ไหน ที่ว่าหมดฤทธิ์นั่นก็คือ ไปไหนไม่ไหวแล้ว ก็จะหวนกลับบ้านเทเวศร์

วันที่ผมถูกเรียกให้ติดตามชนิดติดตัววันนั้น จิ๊ปคันแดงคันนั้นตะเวนไปหลายแห่ง ผมไม่ค่อยจะรู้จักว่าเป็นบ้านใคร เพราะยังใหม่อยู่ในแวดวงนี้ แต่ส่วนใหญ่จะไปจมนานอยู่ที่กองทัพทหารราบที่ 3 ในบริเวณนั้นเป็นที่ตั้งของกรมทหารราบที่ 11 และตัวผู้บังคับการกรมที่มีชื่อ พันเอก
สฤษดิ์ ธนะรัชต์ แถบนั้นดูเหมือนจะเรียกกันว่า ‘สะพานแดง’

ก่อนที่จะไปจมอยู่ที่นั่น ก็ตะเวนไปหาเหล้าหากับแกล้มกินในที่ต่าง ๆ แล้วแต่อารมณ์ของท่านเจ้าของรถ ผมก็ต้องติดตัวแจตามคำสั่ง และเป็นคนจ่ายเงินค่าเหล้าค่ากับในทุกที่ทุกแห่ง ในกระเป๋าใบใหญ่ที่ผมต้องรับภาระหนีบติดตัวอยู่นั้น นอกจากปืนแล้วก็ยังมีเงินเป็นฟ่อน ๆ อยู่ด้วย พอกินเสร็จท่านเจ้าของกระเป๋าก็จะให้คิดเงิน แล้วก็จะพยักหน้ามาทางผม

“ เฮ้ย.. จ่าย ”

ผมก็เปิดกระเป๋าเอาเงินออกมาจ่าย เป็นยังงี้ไปทุกแห่ง นอกเสียจากตามบ้านของเพื่อนฝูงในขบวนรัฐประหารด้วยกัน ซึ่งตามที่นั้น ๆ มีเหล้ายาปลาปิ้งพร้อมอยู่แล้ว

แถว ๆ สะพานแดงบางซื่อนั้น มีกองพันทหารราบอยู่หลายกองพัน กองพันที่ 7 มีผู้บังคับการกองพันชื่อ พันโทถนอม กิตติขจร ท่านผู้นี้เคยเป็นอาจารย์สอนวิชาแผนที่ให้รุ่นผมในสมัย อยู่โรงเรียนนายร้อย ฯ

นายทหารสำคัญในขบวนการรัฐประหารก็ยังมี พันโท ประภาส จารุเสถียร พันตรีกฤษณ์ สีวะรา พันโทละม้าย อุทยานานนท์ ที่มีสมญาระหว่างเพื่อนฝูงว่า “ไอ้ตาแดง” เพราะมีนัยน์ตาสีแดงอยู่เสมอด้วยฤทธิ์สุรา คนที่คุมทหารถือปืนไม่มีลูกเลื่อนไปจับท่านปรีดี ฯ นั่นแหละ

บ้านต่าง ๆ ของท่านพวกนี้นี่แหละที่ผมต้องตะเวนตามท่านเจ้าของรถจี๊ปสีแดงคันนั้นไปตลอด ถ้าไปหมดฤทธิ์เอาที่บ้านเทเวศร์ ผมก็ต้องหาที่นอนเอาเองที่ห้องใดห้องหนึ่ง แล้วก็จะมีคนเอามุ้งมากางกันยุงให้เองตามคำสั่งของพี่ดม ชื่อนี้พวกผมเรียกกันจนติดปาก เรียก “คุณหญิงอุดมลักษณ์” มันยาวไป

ร้านอาหารที่ชอบที่สุดก็คือ ร้านแถว ๆ ราชวงศ์ ไม่เลือกร้าน ชอบใจร้านไหนก็เข้าไปนั่งจมที่นั่นเป็นชั่วโมง ๆ ก่อนที่จะกลับบ้านเทเวศร์ หมดฤทธิ์ที่นั่น

ในคราวนั้น ผมต้องติดตัวท่านผู้ช่วย ฯ ไปถึงสามวันสามคืน โดยไม่ได้กลับบ้าน

เช้าของวันใหม่ ท่านผู้ช่วย ฯ ตื่นลงมากินอาหารเช้า ก็เห็นผมที่ตื่นนั่งคอยอยู่ก่อนแล้ว

“ เฮ้ย มึงไม่ได้กลับบ้านมากี่วันแล้ววะ ” เป็นคำถามที่ออกมาจากปากอย่างไม่น่าจะถาม

“ สามวันแล้วครับ ” ผมตอบไป

“ เดี๋ยวเมียเขาด่าตายห่า” ท่านว่ายังงั้น

ผมไม่ว่าอะไร อาหารเช้ากำลังถูกนำมาตั้ง

“ เฮ้ย รีบกินข้าวเสีย แล้วกลับไปได้ ” ท่านเข้านั่งโต๊ะ เรียกผม “ อีกสองวันมาหากู ไปพักเสียมั่ง ส่งกระเป๋ามาให้กู ”

ผมเข้านั่งโต๊ะ ส่งกระเป๋าที่หนีบติดตัวอยู่ตลอดเวลาใบนั้นให้

“ เงินเหลือเท่าไหร่วะ ” ท่านรับกระเป๋า พลางถาม

“ บางเต็มทีแล้วครับ ” ผมตอบ

“ มึงเม้มกูบ้างหรือเปล่า ” คำถามติดมา

ผมวางช้อนที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากลง

“ เม้มไปไหนได้ล่ะ ” เสียงตอบของผมชักจะหนัก ๆ

“ อ้าว ไอ้นี่ ” เสียงท่านผู้ช่วย ฯ ดัง นัยน์ตาวาว “ ล้อเล่นหน่อย ทำโกรธ เดี๋ยวพ่อด่า .. ” ปลายเท้าใต้โต๊ะตวัดมาสะกิดหน้าแข้งผม ถ้าไม่ติดขาโต๊ะคงจะเจ็บ

“ รีบ ๆ กินซะ แล้วไปได้ เดี๋ยวกูเตะเอาจริง ๆ ” นัยน์ตาคู้นั้นยังวาวใส่ผมอยู่ “ อีกสองวันมาหากู อย่าให้ผิดวันนะมึง ”

ผมไม่ว่าอะไร กินข้าวเสร็จก็วางช้อน ลุกขึ้นโค้ง ลาออกมาจากโต๊ะ เดินไปใส่รองเท้า คว้าหมวกมา จะเดินลงจากบ้าน

“ เฮ้ย แล้วมึงจะไปยังไง ” เสียงดัง ๆ ถามมา

“ รถข้างนอกพอมีมั้งครับ เรียกแท็กซี่เอาก็ได้ ” ผมหันมาตอบ

“ เฮ้ย ไอ้ธรรม ” เสียงท่านผู้ช่วย ฯ ตะโกนลั่นบ้าน ไอ้ธรรมเป็นชื่อของคนขับรถ มียศเป็นสิบโททหาร

ไอ้ธรรมวิ่งเข้ามารับคำสั่งทันทีที่เสียงดังออกไป

“ เอารถไปส่งไอ้นี่มัน ” ท่านสั่ง ชี้มาทางผม

จี๊ปสีแดงคันนั้นก็ปราดมาที่หน้าบันไดทันที ผมได้รถคันนั้นมาส่งถึงบ้านที่ซอยประสานมิตร ซึ่งเป็นบ้านหลังแรกที่ผมมีเป็นหลักแหล่งของผม

เมียผมไม่ได้ตกอกตกใจกับการหายตัวของผมไปเฉย ๆ สามวัน เขาเพียงแต่ถามว่าหายไปไหนมา ผมก็เล่าให้เขาฟังถึงเรื่องที่ถูกบุคคลสำคัญของคณะรัฐประหารเรียกตัวเอาไปด้วยวิธีการอันแหวกแนวอย่างว่า แล้วก็ต้องติดตัวกันไปสามวันสามคืน น้ำท่าไม่ได้อาบ จะอาบได้ยังไง ไม่มีอะไรเปลี่ยน เสื้อเครื่องแบบที่สวมอยู่นั้น ถอดออกมากระพือ แร้งมันจะลงมาคาบเอาไปน่ะซิ

พบกันครั้งสำคัญ ก่อนที่จะติดตัวกันไปสิบสามปี ก็เป็นอย่างนี้

นั่นเป็นจุดแรกที่เปลี่ยนวิถีทางชีวิตของผมอย่างคาดไม่ถึง

ผมกลับไปที่ทำงานของผมที่สันติบาลกอง 2 ไปรายงานตัวกับท่านผู้กำกับการประจวบ ฯ ถึงการที่ผมหายไปสามวัน ท่านรับทราบด้วยอารมณ์ดี และบอกว่าท่านรู้แล้วว่าผมไปอยู่ที่ไหน ท่านได้ทราบจากพวกหน่วยสอบสวนคดีกบฏแล้วว่า ผมถูกเรียกตัวขึ้นรถของท่านผู้ช่วย ฯ เผ่า ฯ ไปยังไง ทางสันติบาลเขาตัดผมออกไปจากกองแล้ว ท่านถามผมว่า ผมจะนั่งที่กอง ฯ อีกไหม

ผมก็ตอบท่านไปตามตรงว่า ท่านผู้ช่วย ฯ ให้ผมกลับมาพักผ่อนสองวัน วันมะรืนนี้ผมก็ต้องไปพบท่านอีก

“ ตำแหน่งของคุณมันลอย ๆ อยู่แล้ว ” ท่านผู้กำกับว่า “ ไปไหนก็ไปเถอะ ไม่ต้องห่วงทางนี้ ”

ก็เป็นอันว่าทางสันติบาลเขาไม่แยแสกับผมแล้ว และทางท่านผู้ช่วย ฯ เผ่า ฯ ผมก็ยังไม่รู้ว่าท่านจะเอายังไงกับผม และจะให้ไปติดตัวอีกนานเท่าใด ทำไปทำมาจะเป็นเจ้าไม่มีศาลเอา แต่ผมไม่มีอะไรที่จะกังวล อะไรก็ได้อยู่แล้วสำหรับผม ตอนนั้นผมได้ร้อยตำรวจเอกแล้วหมาด ๆ ความจริงก็ไม่ได้แยแสอะไรนักกับยศถาบรรดาศักดิ์

ครบสองวัน ผมก็ไปหาท่านผู้ช่วย ฯ ตามคำสั่ง วิธีตามหาตัวท่านผู้ช่วย ฯ ก็ต้องถามไปทางบ้านเทเวศร์ก่อน ถ้าทางนั้นไม่รู้เรื่อง ก็ต้องออกตะเวนไปตามหน่วยทหารที่ว่าไว้ข้างต้น ต้องพบไม่ที่ใดก็ต้องที่หนึ่งในหน่วยนั้น ๆ

ผมไม่ต้องตะเวนไปไหน ท่านผู้ช่วย ฯ เผ่า ฯ อยู่ที่บ้านเทเวศร์เช้าวันนั้น ผมไปถึงที่นั่นตั้งแต่แปดโมงเช้า ท่านผู้ช่วย ฯ ตื่นลงมาพอดีที่ผมย่างเข้าไป ผมก็เลยได้รายงานตัวที่โต๊ะอาหารเช้าพอดีและก็ได้ทราบว่า วันที่ผมไปพักผ่อนนั้น ท่านได้เรียกตัวนายตำรวจรุ่นเดียวกับน้องชายคุณหญิงมาอยู่เวรติดตามแทน ท่านไล่เวรติดตามคนนั้นกลับเมื่อผมเข้าไปรายงานตัวเรียบร้อยแล้ว

“ เล่นข้าวเช้ามาหรือยังวะ ” ท่านถาม ผมตอบไปว่าเรียบร้อยมาจากบ้านแล้ว

“ งั้นนั่งคุยกับกูที่นี่ ” ท่านว่า

ความจริงก็ไม่ได้นั่งคุยอะไรกัน เมื่อผมนั่งที่เก้าอี้ที่โต๊ะกินข้าวนั้น ก็เห็นท่านกินอาหารเช้าอยู่ง่วน ไม่ได้เงยหน้าคุยกับผมเลย จนเสร็จอาหารเช้าก็ลุกขึ้นเรียกรถมาเทียบหน้าบันไดบ้าน พยักหน้าให้ผม แล้วชี้ไปที่กระเป๋าใบใหญ่ที่เวรคนเก่าเขาทิ้งเอาไว้บนโต๊ะ ให้ผมหิ้วตามไปขึ้นรถ ออกรถไปทันที




 

Create Date : 26 มกราคม 2553
1 comments
Last Update : 26 มกราคม 2553 23:20:13 น.
Counter : 1128 Pageviews.

 

God is the way
The Truth
and The Life

when your life need miracal
Ask form him.. Then you will be
impress by its result as I do~!

what is the truth
if u ask me then
I will tell u that
it is GOD

 

โดย: da IP: 124.122.67.223 26 มกราคม 2553 23:45:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.