จับปูดำ ขยำปูนา (บทที่ 12 ตอนที่ 1)
ผมวางหูโทรศัพท์เข้าที่ เดินกลับมาที่โต๊ะ แม่ต๊อยนั่งรออยู่ที่นั่นแล้ว หล่อนยิ้มแย้มเมื่อเห็นผม
พี่หายไปหลายวัน หล่อนพูดเมื่อผมนั่งลง หายไปไหนมาพี่ ตั้งแต่วันที่ออกไปกับเพื่อนคนนั้น
คุณอุทิศเขาชวนไปเที่ยวบ้านนอก ผมตอบไป ไปค้างเสียสองวัน
หล่อนไม่ได้สะดุ้งสะเทือนอะไรกับชื่อนี้ แถมยังหันมาถามผมว่า
อุทิศไหนคะ คงไม่ใช่อุทิศตันอะไรนั่นที่เป็นนายแบ๊งค์ใหญ่นะพี่
คนนั้นแหละ ผมพูด คอยจับอาการของหล่อนอยู่ เขายังบอกว่า เขารู้จักต๊อยดี
หล่อนเลิกคิ้วสูง ทำตาโต
รู้จักต๊อย เอาอีกแล้ว วันนั้น เพื่อนพี่มาด้วยกันนั่นใช่ไหมคะที่ชื่ออุทิศ
แม่คนนี้เล่นละครเก่งถึงบทจริง ๆ ผมไม่ตอบ หล่อนกลับเป็นฝ่ายพูด
สนุกไหม พี่ คงสนุกละซี ถึงได้ลืมต๊อยสนิท
ผมเรียกสติกลับมาได้ทันทั้ง ๆ ที่กำลังหงุดหงิด อยากตบ ผมดัดเสียงเป็นเหมือนกัน
ถ้าลืม จะรีบมาหาทำไม กลับมาถึงตอนหัวค่ำ ก็รีบมาหาต๊อยนี่แหละ
ปากหวานน่ะพี่นะ หล่อนค้อนประกอบคำพูด แล้วไอ้เก๋ละ แอบไปหามันมาก่อนหรือเปล่า ถึงได้มาดึกยังงี้
ไม่ได้ไปเถลไถลที่ไหนเลย ต๊อย เก๋จะสำคัญกว่าต๊อยได้ยังไง ผมต้องชมตัวเองว่าพูดได้ทันการณ์ดี คืนนี้ ต๊อยต้องไปกับพี่ เมนคงหมดแล้ว
หล่อนจับแขนผมบีบเบา ๆ ค่ะ ต๊อยจะไปกับพี่ คิดถึงออก
คุณดูเอาก็แล้วกันว่าแม่คนนี้คล่องแค่ไหน ที่ผู้การเยี่ยมบอกว่าแม่คนนี้ไม่ใช่คนของแก ผมชักจะไม่เชื่อ แม่ต๊อยนี่ต้องเป็นคนร้องเพลง จับปูดำ ขยำปูนา ทุกครั้ง แล้วไอ้ที่รับคำจะไปกับผมคืนนี้ง่าย ๆ นี่ ดูมันจะมีอะไร ๆ อยู่เบื้องหลัง ผมยังนึกถึงคำพูดของแม่เก๋ที่แม่ต๊อยบอกว่า ให้รีบ ๆ ไปเยี่ยมผมเสียเดี๋ยวจะไม่ทันนั้นน่ะ มันยังก้องอยู่ในรูหูผม วันนี้แม่ต๊อยไม่ได้พูดถึงเรื่องการเจ็บป่วยของผมเลย เหมือนกับไม่รู้ว่าได้มีอะไรเกิดขึ้นกับผม งานนี้สนุกแน่ หล่อนเล่นบทของหล่อน ผมก็มีบทของผมเล่นเหมือนกัน แต่มันคนละเรื่อง เพลงของต๊อยหมดหรือยังล่ะ ไปได้หรือยัง ผมชวน ไปก็ได้ แต่ให้ต๊อยไปคุยกับแฟน ๆ เดี๋ยว แล้วเข้าห้องน้ำหน่อยได้ไหมพี่ หล่อนบีบแขนผมเบา ๆ
ผมพยักหน้า หล่อนก็ผละออกไป สักครู่ก็กลับมาหาผม หนีบกระเป๋าถือมาด้วย ยืนมองดูผม ผมลุกขึ้นเดินนำออกไปที่ประตูออกและเปิดประตูให้หล่อนก้าวออกไปก่อน ไอ้ทองตามมาด้วยติด ๆ ผมให้ไอ้ทองเอารถกลับไปบ้าน รอผมอยู่ที่นั่น มันทำท่ารีรอครู่หนึ่งพอจับสายตาผมได้ มันก็เข้าใจ เดินไปขึ้นนั่งรถจี๊ปขับออกไปทันที
ผมขอกุญแจรถกับแม่ต๊อย หล่อนมองดูผมสายตาตั้งคำถาม ผมบอกว่า
พี่จะขับรถให้คืนนี้ ไปบ้านพี่มั่ง ต๊อยจะได้รู้จักไว้ เผื่อกลางวันว่าง ๆ จะไปหาบ้างก็ได้
หล่อนส่งกุญแจรถมาให้อย่างเต็มใจแย้มยิ้ม เป็นคนอื่นก็ตายใจสนิท
ผมบึ่งรถมาที่บ้านปกปิดหลังนั้น กดแตรเป็นสัญญาณครั้งเดียว ประตูก็เปิดให้ผมเอารถเข้าไป
คนที่เปิดประตูคือหมู่เทียมคนเดิมของผม เขากลับมาตามคำสั่งแล้ว พอผมจอดรถเขาก็ขึ้นข้างบน จัดการเปิดห้อง
เงียบจังพี่ แม่ต๊อยก้าวลงจากรถที่ผมเปิดประตูให้ ทำเสียงรำพึงเบา ๆ พี่อยู่คนเดียวหรือจ๊ะ
พี่มันตัวคนเดียว จะมีใครมาอยู่ด้วย ผมดึงแขนหล่อนเบา ๆ พร้อมกับผลักประตูรถเปิด แล้วพาหล่อนเดินขึ้นบ้าน ขึ้นบันไดไปชั้นบน หมู่เทียมเปิดห้องเรียบร้อยแล้ว เขาคอยคำสั่งของผมอยู่ที่หน้าประตูห้อง ผมดึงแขนแม่ต๊อยเข้าไปในห้อง กระซิบคำสั่งกับหมู่เทียมให้เขาคอยอยู่ที่หน้าประตูเมื่อผมปิดประตูห้องแล้ว
แม่ต๊อยเดินไปนั่งที่เก้าอี้รับแขกภายในห้อง เงยหน้ามองดูผม ผมก้าวเข้าไปนั่งตรงหน้าหล่อน ดึงเอากระเป๋าสตางค์ของเสี่ยตั้งที่ผมยึดมาไว้นั้นออกมา ในนั้นมีเงินอยู่ปีกใหญ่ ผมคะเนดูว่าไม่ต่ำกว่าหมื่น เพราะมันเป็นใบละห้าร้อยล้วน ๆ ผมเปิดตามช่องและหลืบต่าง ๆ ในกระเป๋าออกตรวจค้น มีเอกสารหลายแผ่นที่น่าสนใจ และมีนามบัตรของเขาหลายแผ่นซุกอยู่หลืบหนึ่ง ผมค้นต่อ ๆไปแล้วก็พบนามบัตรของนายอุทิศ ตันผลานุสนธิ์ ซุกอยู่ในหมู่นามบัตรของเขา ผมพลิกดูด้านหลัง มีลายมือเขียนเป็นภาษาจีน ผมอ่านไม่ออก ค้นต่อ ๆ ไปอีก ผมก็พบสิ่งที่ผมคิดว่าน่าจะพบ นั่นคือนามบัตรของแม่ต๊อย มีเลขบ้านและหมายเลขโทรศัพท์ แต่ไม่มีข้อความอะไรเขียนไว้ ผมมองหน้าหล่อนแล้วโยนนามบัตรใบนั้นให้ตรงหน้า
แม่ต๊อยหยิบนามบัตรแผ่นนั้นขึ้นมาอ่าน มองหน้าผม สายตาตั้งคำถาม
ไหนว่าไม่รู้จักเสี่ยตั้ง แล้วนามบัตรอันนี้ของเธอเข้ามาอยู่ในกระเป๋าตังค์ของเขาได้ยังไง ผมพูดแล้วนั่งตอยฟังคำตอบ
หล่อนนั่งทำท่างง ๆ มองดูนามบัตรแผ่นนั้น แล้วเงยหน้ามองดูผม พูดว่า
ต๊อยไม่เข้าใจ พี่เอาไอ้นี่มาจากไหน
ผมชูกระเป๋าสตางค์ใบใหญ่ของเสี่ยตั้งให้ดู
จากในกระเป๋าตังค์ใบนี้ต่อหน้าเธอเดี๋ยวนี้ไงล่ะ และกระเป๋าตังค์ใบนี้มันเป็นของเสี่ยตั้ง หรือนายวรวิทย์ วิเศษสุริยอนันต์ ลูกน้องคนโปรดของนายอุทิศ
"แล้วกระเป๋าตังค์นี้ของเขามาอยู่กับพี่ได้ยังไง
เสี่ยตั้งไม่มีตัวตนอยู่ในโลกนี้อีกแล้ว ผมพูด เขาไปสู่ที่ชอบ ที่ชอบแล้ว คนที่จะตามเขาไปก็มีเธอคนหนึ่ง และนายอุทิศของเธออีกคนหนึ่ง แต่เธออาจจะไม่ต้องไปด้วยกับเขาถ้าเธอพูดความจริงกับพี่ พี่ไม่เคยฆ่าผู้หญิง ถึงแม้ผู้หญิงคนนั้นจะได้ทำความเจ็บช้ำน้ำใจให้พี่แค่ไหน แต่ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมรับผิด ทั้ง ๆ ที่จับได้ ก็ไม่แน่ว่าจะได้รับการยกเว้น
ต๊อยไปทำอะไรให้พี่ หล่อนถามเสียงสั่นเครือ กระพริบตามองดูผม
คำพูดประโยคนี้ พี่ได้ยินมาเป็นครั้งที่สอง ผมยิ้ม มองดูหล่อน ครั้งแรกที่บ้านต๊อย เมื่อวันที่พี่ไปนอนอยู่นอกห้อง แล้วมีโทรศัพท์เรียกจากในห้องนอนของต๊อย จากนั้นมาอีกไม่กี่นาที ก็มีคนสองคนเข้ามาทำร้ายพี่ในบ้าน ไอ้สองคนนั่นเป็นศพไป พี่เรียกต๊อยออกมาถาม แล้วต๊อยก็โดนพี่ตบไงล่ะ ลืมเสียแล้วหรือจ๊ะ
ต๊อยบอกพี่แล้วไงว่าต๊อยโทร ฯ ไปหาเพื่อน เรื่องต๊อยลืมบัตรชั่วโมงไว้ที่ที่ทำงาน หล่อนพูด แววตาอ่อนระโหย สายตาแบบนี้แทงทะลุหัวใจเอาได้ง่าย ๆ
แล้วไอ้บ้าสองตัวนั่นมันเข้ามาโดยบังเอิญงั้นละซี ผมเค้นเสียงหัวเราะออกมา พลางกระดกนามบัตรของหล่อนเล่น ไอ้นามบัตรของเธอแผ่นนี้ก็คงจะเดินมาเข้ากระเป๋าของเสี่ยตั้งเองเหมือนหันละซีนะ
ต๊อยไม่รู้ ต๊อยไม่รู้จริง ๆ พี่ แม่ต๊อยยังเล่นตลกต่อ เอาไปสาบานที่ไหนก็ได้ ต๊อยก็ยังงงว่านี่มันอะไรกัน ที่ต๊อยมากับพี่นี่เพราะความรักนะคะพี่
ผมยืนมองดูหล่อนนิ่งอยู่ ผู้หญิงคนนี้ใจแข็งและเล่นละครเก่งถึงบทถึงบาทจริง
แล้วนายอุทิศ นายอุทิศแบงค์ใหญ่ชื่อดังคับฟ้าเวลานี้นั่นล่ะ ไม่รู้จักเหมือนกันรึ ผมถาม
แม่ต๊อยสั่นหน้า
ต๊อยเคยได้ยินแต่ชื่อ ในหนังสือพิมพ์มั่ง คนเขาพูดกันมั่ง ไม่เคยรู้จักตัวจริง
ผมเงื้อฝ่ามือจะสลัดไปที่ใบหน้าหล่อน แม่ต๊อยยกมือขึ้นปิดทั้งสองแก้ม
อย่าทำอะไรต๊อยเลยพี่ ต๊อยกลัวแล้ว ต๊อยกลัวจริง ๆ พาต๊อยกลับบ้านเถอะถ้าพี่หมดรักต๊อยแล้ว
เดี๋ยวก็ได้กลับ ผมว่า แต่ว่าจะกลับได้ก็ต่อเมื่อพี่รู้อะไรต่ออะไรให้ดีกว่านี้ คืนนี้ต๊อยต้องอยู่ที่นี่ นอนที่นี่ ถ้าง่วงมีเตียงให้นอนอยู่แล้ว และถ้าอยากได้อะไรก็ขอเอากับตำรวจที่เขาจะเฝ้าต๊อยอยู่หน้าห้อง พี่จะไปก่อน ไปหาความรู้ต่อ ถ้าพี่เหนื่อยมาแล้วได้ความอะไรมา และมันเป็นความที่ต๊อยรู้แล้วแต่ไม่ยอมพูดกับพี่ ทีนี้ต๊อยก็จะเจ็บ และเจ็บอย่างที่ไม่เคยโดนมาก่อน
Create Date : 22 กันยายน 2552 |
Last Update : 22 กันยายน 2552 22:23:09 น. |
|
1 comments
|
Counter : 786 Pageviews. |
|
|
|
โจ...พลังชีวิต
คลิกเพื่อไปเติมพลังชีวิตจ้า
//powerup.bloggang.com