อัศวินคือใคร ... ตอนที่ 4
อัศวินคือใคร สำคัญอย่างไร ?
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ ใช้นามปากกาครั้งนี้ว่า อัศวินเก่า จาก ต่วยตูน เล่มที่ ๑๒ ปีที่ ๑๗ (พ.ศ. ๒๕๓๑)
ตอนที่ 4
หลังรัฐประหารใหม่ ๆ ปีพ.ศ. ๒๔๙๐ ยังไม่มีอัศวิน มีการปราบขบถบ่อย ๆ หนัก ๆ หลายครั้ง ที่เรียกว่า ถึงขนาดยิงกันก็มี เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๙๒ ขบถวังหลวง เมื่อ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๙๒
อัศวินเกิดหลังจากนั้น
แล้วก็มาการปราบขบถที่กองสัญญาณ ถนนวิทยุ เมื่อ ๒๙ มิถุนายน ๒๔๙๔ ครั้งนั้น มีการสูญเสียครั้งใหญ่มากมายกว่าทุกครั้ง หน้าที่อย่างพวกผมก็ต้องออกไปไล่ยิงกับเขาทั้งสองครั้ง ความละเอียดก็จะไม่เขียนอีก โปรดไปหาอ่านเอาเองในหนังสือที่ผมเขียนแล้วหลาย ๆ ตอนนั้น
ผลงานที่ออกมาเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ รัฐบาลปราบปรามพวกคิดการยึดอำนาจนั้นได้ ปฏิวัติไม่สำเร็จก็เป็นขบถไป ไล่ตามจับกันอีกเป็นเดือนเป็นปี จึงได้ตัวมาขึ้นศาล
การได้อำนาจมาด้วยการยึดอำนาจ ก็ต้องถูกคณะอื่นเขาก่อการยึดอำนาจเอาบ้าง สู้ได้ก็รักษาอำนาจไว้ได้ สู้ไม่ได้ก็เผ่นไป ก็เท่านั้น การเมืองไทย จะเอาอะไรกันนักหนา
หลังจากการปราบปรามทางการเมืองเรียบร้อยลงในปี พ.ศ. ๒๔๙๔ ก็ได้อยู่กันอย่างสงบหลายปี พวกผมเหล่าอัศวินที่เข้าทำงานปราบปรามทางการเมืองสองครั้งนั้น ก็ได้รับการประดับเพชรที่หัวแหวน ให้ดูโก้ขึ้นอีกหน่อย เรียกกันว่า "อัศวินแหวนเพชร" นั่นแหละครับ
ที่เจ้านายท่านให้เพชรมาประดับที่หัวแหวนนั้น ก็เห็นจะเป็นเพราะว่า ไม่รู้จะให้อะไรไอ้พวกนี้มันดี ยิงกับผู้ร้ายมาก็หลายรายแล้ว แถมยังต้องมาเข้าแนวยิงกับพวกคิดก่อการปฏิวัติ ที่ยกกำลังมายึดอำนาจการปกครองกันอีก ถึงสองครั้งสองครา ที่เรียกว่าเป็นรายการใหญ่ ที่เป็นรายการย่อย ๆ ก็มีอีกหลายรายการ ในระหว่างที่รัฐบาลท่านจอมพล ป. ปกครองประเทศอยู่นั้น ไม่รู้ว่าอะไรต่ออะไร ทั้ง ๆ ที่งานประจำตามตำแหน่งหน้าที่ของแต่ละคนก็มีอยู่ เต็มมือ
เมื่อมีการปฏิวัติทีไร ก็ต้องไปออกแรงกับเขาอีก คงเป็นเพราะเหตุนี้ เจ้านายท่านเห็นใจ เลยหาเพชรมาใส่ที่หัวแหวนให้เป็นกำลังใจ จะขึ้นเงินเดือนให้หลาย ๆ ขั้นก็ติดที่งบประมาณแผ่นดิน
พวกที่ออกรบในแนวเมื่อคราวปราบขบถปี พ.ศ. ๒๔๙๔ ซี่งเป็นครั้งใหญ่ที่สุดนั้น ก็เอาชีวิตแทบจะไม่รอดอยู่แล้ว ทางคณะกรรมการกรมตำรวจเขาว่า น่าจะให้ซักสี่ขั้น แต่ระเบียบทางกรมมันทำไม่ได้ เพราะถ้าจะเอาสี่ขั้นก็ต้องลงไปนอนในโลง คือต้องถึงขั้นเสียชีวิต ได้อย่างมากก็สามขั้น นั่นก็ต้องนอนโรงพยาบาลขนาดสาหัส
พวกผมก็ได้กันมาแค่สองขั้น ก็ไม่ว่าอะไร
นายเขาบอกว่า พวกมึงเอากันไปแค่นี้ก่อนเถอะวะ จะไปว่าอะไรได้ แล้วท่านก็ให้เพชรมาวางที่หัวแหวนอัศวินที่ท่านให้มานั่น
เพชรที่ให้มาเป็นเพชรขนาดสิบสตางค์เม็ดเล็ก ๆ ต่อมาใครที่มีเงินหน่อย ก็ไปหาเพชรที่โตขึ้น มาประดับกันเอาเอง ผมไม่มีสตางค์ ก็ไม่ได้ไปเพิ่มกับเขา
การเป็นอัศวินยังต้องทำอะไรได้อีกหลายอย่าง
เมื่อกรมตำรวจออกหนังสือขนาดแม๊กกาซีนเล่มใหญ่ประจำเดือน ชื่อว่า อาชญากรรม เจ้านายท่านก็สั่งมาว่า มึงไปทำ ผมก็ต้องไปทำ เรื่องนี้ปฏิเสธไม่ได้ ผมต้องเป็นบรรณาธิการเอง ทั้ง ๆ ที่งานทางสันติบาลก็ล้มมืออยู่แล้ว เมื่อรับงานมาแล้วก็ต้องทำให้ได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยทำหนังสือพิมพ์มาก่อน
ครั้งนั้น ผมต้องไปเชิญ คุณลมูล อติพยัคฆ์ นักหนังสือพิมพ์ใหญ่มาช่วยทำ เขาก็มาทั้ง ๆ ที่เขามีงานหนังสือพิมพ์ของเขาอยู่แล้ว ทีนี้พอแกมาทำ แกก็บังคับให้ผมต้องเขียนเรื่องลงในหนังสือด้วย ไม่งั้นแกไม่ทำให้ นั่นแหละ ผมก็ต้องตั้งตัวเป็นนักเขียนอีก
เรื่อง นักสืบพราน จึงถือกำเนิดมาตอนนั้น ในหนังสืออาชญากรรม นี่ก็เป็นงานของอัศวินอีกงานหนึ่ง
Create Date : 11 พฤศจิกายน 2554 |
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2554 18:07:15 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1116 Pageviews. |
|
|
|
| |