จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
15 กันยายน 2553
 
All Blogs
 
เหล็กละลาย (ตอนที่ 32)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 32

ดนตรีห้าชิ้นซึ่งเล่นอยู่บนเวทีแคบ ๆ ส่งเสียงดัง เพราะสถานที่ค่อนข้างจะปิด ไม่มีทางให้เสียงออกไปทางไหน ฟลอร์เล็ก ๆ จึงดูแคบด้วยคู่เต้นรำที่ออกไปวาดลวดลายกันจนเต็มฟลอร์

เรานั่งอยู่วิสกี้ยังไม่ทันหมดถ้วย เพลงก็หยุด ไฟเปิดสว่าง แล้วมีประกาศว่า ต่อไปนี้จะเป็นการแสดงบนเวที

รายการแสดงที่นี่ ส่วนมากเป็นการแสดงระบำเปลื้องผ้า มีกายกรรม
สลับเพียงสองสามรายการ นอกนั้นพวกระบำเปลื้องผ้าก็ออกมาแสดงกันด้วยลีลาต่าง ๆ กัน ไม่ซ้ำแบบ แต่ละคนล้วนแต่พันธุ์เนื้อนมไข่ทั้งนั้น ของเขาไม่แน่จริงก็คงไม่เอาออกมาอวดคนดู

ผู้หญิงคนหนึ่งออกมาพร้อมกับหม้อเล็ก ๆ ใส่กำยานจุดไฟหอมกรุ่น ดนตรีทำเพลงทำนองเพลงจีนกลาย ๆ หล่อนเยื้องย่างตามจังหวะเพลงอยู่กลางฟลอร์ แล้ววางหม้อกำยานนั้นลงบนฟลอร์ แล้วก็ร่ายรำไปในทำนองบูชาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์อไรสักอย่าง ซึ่งสมมุติเอาว่าอยู่ตรงหน้าหม้อกำยานนั้น ลีลาของหล่อนอ่อนช้อนแบบตะวันออก ผิดกับพวกเต้นระบำคนอื่น ๆ แล้วหล่อนก็ค่อย ๆ เปลื้องผ้าออกทีละชิ้นตามลีลาและจังหวะเพลงอย่างมีศิลปะจนสุดท้าย เหลือแค่ผ้าสามเหลี่ยมผืนเล็ก ๆ ผืนเดียวปิดอยู่ตรงส่วนสำคัญส่วนล่างของร่างกาย แล้วหล่อนก็ยืนแอ่นกายอยู่ตรงหน้าหม้อกำยานนั้น ร่างกายส่วนบนเปลือยเปล่า แขนทั้งสองข้างอ้ากางออก แสงไปสลับสีส่องวูบวาบไปที่ร่างของหล่อน เสียงเพลงหยุดลงอย่างกระแทกกระทั้น แล้วหล่อนก็ก้มศีรษะลงมาคารวะคนดู เป็นอันหมดรายการของหล่อน

“ อีนี่เข้าที ของมันน่าดูดี ” ไอ้อ้วนปรารภออกมา

“ กูจ้องอยู่เหมือนกัน เดี๋ยวกูจะถามบ๋อยดูว่า เรียกมาคุยได้ไหม ” ผมว่า พลางส่ายตาหาบ๋อยที่อยู่ใกล้ ๆ แล้วกระดกนิ้วเรียกเขาให้เข้ามาหา

“ ต้องการอะไร เมอร์สิเออร์ ” บ๋อยเข้ามาโค้งถาม

“ ผู้หญิงที่เต้นรำเมื่อกี้นี้ จะเชิญมาคุยด้วยได้ไหม ” ผมถาม

“ คนไหน เมอร์สิเออร์ ”

“ คนที่เต้นระบำกำยาน เพิ่งจะออกไปเดี๋ยวนี้ ”

“ อ๋อ ได้สิ เมอร์สิเออร์ เดี๋ยวผมจะไปบอกหล่อนให้ ”

เขาหายไปสักครู่ก็กลับมาบอกว่า เดี๋ยวหล่อนจะออกมานั่งด้วย ขอเวลาเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวหน่อยสักห้านาที การแสดงดำเนินออกไปอีกสองสามรายการ แม่คนนั้นก็เดินมาที่โต๊ะของเรา

ในเครื่องแบบนอกเวที หล่อนสวยกว่าเมื่ออยู่บนเวทีเยอะ ส่วนโค้งส่วนเว้าเหมือนกับเอากาวมาทาทาบไว้กับร่าง ตั้งแต่ส่วนหน้าอกลงมาจนถึงสะโพก ทีท่าที่ย่างกายเข้ามาเหมือนออกมาจากหนังสือแฟชั่น

ผมเกือบลืมเชิญหล่อนนั่ง ปล่อยให้ยืนยิ้มอยู่ตั้งนาน ถึงได้สติเชิญ

หล่อนชื่อลิลลี่ ชื่อของเราก็ปองปอง ปู๊ดปู๊ด ไปตามเรื่อง หล่อนพยายามที่จะออกเสียงเรียกชื่อของเราให้ถูกเท่าไรก็ไม่สำเร็จ ก็เลยต้องเรียก ปองปอง ส่วนผมนั้น หล่อนว่า ปู๊ดปู๊ด มันไม่น่าเรียกเลย ตั้งชื่อผมเสียใหม่ว่า ปิแอร์

ทำไมมันมาตรงกับชื่อที่ผมตั้งให้ตัวเองกับแม่เวโรนิคเข้าให้ได้ก็ไม่ทราบ
บุพเพสันนิวาสเสียก็ไม่รู้

หล่อนไม่สั่งแชมเปญอย่างที่ควรจะสั่ง กลับถามว่าเราดื่มอะไร ของเรามันวิสกี้ออกเดอะร็อคเสียแล้วตอนนั้น หล่อนจึงออกเดอะร็อคไปด้วย

“ คนเป็นคนญี่ปุ่นหรือคะ ” หล่อนเริ่มสนทนา

เป็นยังงั้นไปเสียทุกที ไม่ว่าบ้านไหนเมืองไหนในเมืองฝรั่ง มันรู้จักกันแต่ญี่ปุ่นถ้าเห็นผิวเหลือง ๆ

ผมสั่นหน้า

“ พม่า อินโดนีเซีย ยังงั้น ” หล่อนเดาสุ่มออกมา “ หรือว่าคนจีน ”

ผมสั่นหน้าอีก มองหล่อนเฉยอยู่

“ บอกหน่อยซีว่า พวกคุณมาจากไหน ” หล่อนพูดยิ้ม ๆ

“ ยังไม่อยากบอก คุยกันไปนาน ๆ เดี๋ยวเธอก็รู้เอง ” ผมว่า “ เต้นรำกันดีกว่า ” ตอนนั้นการแสดงจบแล้ว ไปบนเวทีเริ่มหรี่ เห็นแต่แสงสลัว ๆ
หล่อนเต้นรำเก่งไม่มีที่ติ ก้าวเปะปะยังไง หล่อนก็ตามได้ทุกก้าว บางทีหล่อนอาจจะคิดว่าเป็นสเต็ปที่ผมคิดค้นขึ้นมาใหม่ ๆ ก็ได้ ที่ผมออกไปเต้นก็เพราะอยากเต้นให้เป็นเรื่องเท่านั้น คือว่าเหมือนกับการอ่านเอาเรื่อง เมื่อครั้งยังเรียนหนังสืออยู่

เต้นไปคุยไปนั่นแหละครับ ผมก็เลยได้รู้ว่า หล่อนเป็นชาวปารีเซียนแท้ ๆ เกิดที่ใจกลางกรุงปารีส มีแม่เป็นคนจีน พ่อเป็นฝรั่งเศส หล่อนจึงได้ชอบแสดงระบำแบบชาวตะวันออก อย่างที่แสดงบนเวทีเมื่อกี้นี้ แม่เป็นคนสอนให้

เมื่อกลับมาที่นั่ง หล่อนหันไปคุยกับไอ้ปองปองว่า

“ คุณสองคนเป็นคนชาติไหนกันแน่ ปิแอร์เขาไม่ยอมบอกฉัน ”

ปองปองนั่งนิ่ง ก็มันจะไม่นิ่งยังไง เพราะมันฟังไม่รู้เรื่อง ภาษาฝรั่งเศสมันกระดิกหูเสียที่ไหน

ลิลลี่ค้อนขวับ แล้วหันมามองผม

“ ฉันบอกแล้วว่า เดี๋ยวจะบอก ” ผมพูดกับหล่อน “ อยากรู้เร็ว ๆ ทำไม ”

“ เฮ้ย มันว่าอะไรวะ ” ไอ้ปองปองถามผม “ กูเห็นมันหันมาพูดกับกูเมื่อกี้นี้ ”

“ มันถามว่า มึงกับกู เป็นคนชาติอะไร ”

“ ทำไมมันไม่ถามมึง มาส่งภาษาอะไรกับกู กูจะฟังออกได้อย่างไร ”

“ มันถามกูแล้ว กุยังไม่บอก ”

“ พูดอะไรกันน่ะ ” ทีนี้แม่ลิลลี่ถามขึ้นมาบ้าง

“ เขาชมว่าเธอสวย รูปร่างน่ากิน ” ผมว่าไปนั่น

แม่ลิลลี่ยิ้มแก้มปริ เอามือแตะแก้มไอ้ปองปองเบา ๆ “ แมร์ซี ปองปอง ”
แล้วหล่อนก็ชวนมันออกไปเต้นรำ ทั้งคู่ก็พากันออกไปกลางฟลอร์

ผมชักสงสัยว่า ไอ้ปองปองมันจะเต้นรำยังไง ตั้งแต่คบกันมา ผมยังไม่เคยเห็นมันเต้นรำ เวลาออกเที่ยวด้วยกันเมื่อยังอยู่เมืองไทย ก็เห้นแต่มันนั่งกินเหล้า จะเต้นก็ต่อเมื่อออกแขกออกเหรื่อในงาน

ประเดี๋ยวเดียว ทั้งคู่ก็จูงกันออกมาจากฟลอร์ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แล้วแม่ลิลลี่ก็จูงมือผมเข้าไปในฟลอร์ คงจะอยากเต้นรำถึงขนาด พอดีเพลงเปลี่ยนเป็นจังหวะสโลว์ เพลงทำคะแนนเสียด้วย

บนฟลอร์ที่มีไฟสลัวยังงั้น ถ้าตั้งหน้าตั้งตาจะวาดลวดลายอย่างเดียว มันก็น่าจะไปเดินเล่นตามชายหาดดีกว่า

เต้นไปคุยไป ภาษาฝรั่งเศสของผมก็ชักจะแตกฉาน ถึงขั้นชวนไปนอนเอาดื้อ ๆ ถ้าเป็นหญิงไทย ไม่โดนด่าก็โดนตบ แต่ผู้หญิงฝรั่งไม่ยังงั้น เขาถือว่าเป็นการให้เกียรติ ยกย่องว่าเขาเป็นคนน่าอภิรมย์ด้วย แต่ว่าจะเออออห่อหมกด้วยหรือไม่นั้น อีกเรื่องหนึ่ง

ผมพาหล่อนออกมาจากฟลอร์ เพราะเบื่อเต้น พอมาถึงโต๊ะ ผมก็เรียกบ๋อยมาคิดสตังค์

ลิลลี่ถามว่า ทำไมรีบกลับ ไม่อยู่ดูหล่อนเต้นระบำในรอบสองอีกหรือ อีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลาโชว์รอบสองแล้ว หล่อนจะแสดงชุดใหม่ ไม่ซ้ำ

ผมบอกว่า ผมขี้เกียจอยู่ เวลามีน้อย จะได้ไปหาผู้หญิงที่อื่นคุยต่อ วันหลังจะมาหาใหม่

หล่อนหัวเราะเบา ๆ “ อยู่ถึงตอนเลิกซิ แล้วฉันจะให้คำตอบ ”

ผมสั่นหน้า “ ไม่เอา ฉันเคยถูกหลอกยังงี้มามากแล้ว ”

ผมจ่ายเงินสด ทิปบ๋อยเรียบร้อยแล้ว ขยับจะเดินออกไป หล่อนก็แตะที่แขนผม แล้วว่า

“ รอเดี๋ยว ถ้ายังงั้น ”

ผมก็นั่งลง ไอ้ปองปองลงนั่งใหม่อย่างงง ๆ “ มึงเล่นอะไรกันวะ ” มันว่า

แม่ลิลลี่กลับออกมาอีกที คราวนี้หล่อนยัดอะไรก็ไม่รู้ใส่มือผม ผมแบออกดู มันเป็นลูกกุญแจดอกหนึ่ง และมีเศษกระดาษอีกแผ่นหนึ่งแผ่นเล็ก ๆ

“ บ้านฉันอยู่ที่เขียนไว้ในกระดาษนั้น ” หล่อนกระซิบผมเบา ๆ “ กุญแจดอกนี้เป็นกุญแจห้องของฉัน คุณต้องไปถึงที่นั่นก่อนตีสาม ไม่งั้นฉันเข้าบ้านไม่ได้ ปองปองให้เขาไปนอนที่อื่น ” พูดแล้วหล่อนก็ผละไป ไม่รอให้ผมพูดอะไรต่อ

ผมมองดูกุญแจในมือ แล้วอ่านอักษรที่เขียนไว้ในเศษกระดาษนั้นอย่างงง ๆ อีก

“ เสร็จมึงละซีทีนี้ ” ไอ้ปองปองว่า “ มึงไม่ต้องแปล กูก็รู้ ”

ผมยัดกระดาษและกุญแจลงกระเป๋า ดึงไอ้ปองปองออกมาข้างนอก รับเสื้อโอเวอร์โคท์จากพนักงานที่เก็บรักษาไว้ แล้วก็ชวนมันออกมาคอยหาแท็กซี่





Create Date : 15 กันยายน 2553
Last Update : 15 กันยายน 2553 0:33:54 น. 0 comments
Counter : 696 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.