13 ปีกับบุรุษเหล็กแห่งเอเชีย (ตอนที่ 11)
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 11
ผมขับรถจี๊ปประจำตำแหน่งของผมเอง เอาตำรวจที่ยังเหลืออยู่สองสามคนนั้นขึ้นรถไปด้วย ผมตรงไปที่บ้าน พี่ม้าย ที่ ร.พัน ๙ บางซื่อ เพื่อดูว่า พี่ม้าย มาถึงแล้วหรือยัง ที่นั่น ผมพบเจ้านายกับนายทหารชั้นคุมกำลังสำคัญ ๆ หลายคนอยู่พร้อมหน้า พี่ม้ายนั่งยิ้มเผล่ แต่งเครื่องแบบเรียบร้อยแล้ว พันศักดิ์ก็อยู่ที่นั่นด้วย ผมเพิ่งพบมันครั้งแรกในคืนนั้น ท่านคงเรียกมันมาด้วย เขาว่ามึงหนีไปเข้ากับพวกโน้นแล้ว เจ้านายผมทักเป็นคำแรก คนรถมึงบอก ผมเตะมันเสียอานเมื่อกี้นี้เอง ตอนนี้มันเอนหลังอยู่ในกรงเรียบร้อย
ผมรายงานแล้วเล่าเรื่องที่ผมไปผจญมาตอนที่ไปตามพี่ม้ายตามคำสั่ง ไอ้จิ๋วมันเอาเรือไปรับผม พี่ม้ายบอก ไอ้จิ๋ว ก็คือ โกศล อ่อนสุวรรณ ตอนนั้นยศอะไรจำไม่ได้ เขาอยู่ที่นั่นด้วยเวลานั้น เวลานี้ กำลังของเรายึดกรมโฆษณาการคืนได้แล้ว เจ้านายเล่าเหตุการณ์ให้ผมฟัง กำลังฝ่ายเขามีไม่มากเท่าไร ไอ้พวกที่ไปตั้งด่านตรวจมึงอยู่เขาเรียกกลับหน่วยหมดแล้ว ขณะนี้กำลังส่วนใหญ่ของเขาถอยไปยึดอยู่ในวังหลวง กองรักษาการณ์ของทหารในวังหลวงถูกยึด ฝ่ายเขาควบคุมอยู่ กำลังยานเกราะของเรากำลังล้อมวังหลวงอยู่ ใครคนหนึ่งซึ่งคุมกำลังรถรบเสริมขึ้น ผมไม่รู้จักเขา เราจะเข้ายึดวังหลวงกันได้อย่างไร เจ้านายพูด ถ้ายิงกัน อะไรต่อมิอะไรในวังมิพังหมดหรือ กำลังปรึกษากันว่าจะทำยังไงดี กำลังทางด้านอื่นมีอีกไหมครับ ผมถาม ที่อื่นก็ไม่มีอะไรที่ถูกยึด กำลังของเขาใช้แต่ทหารเรือบางส่วน บางหน่วยไม่เอาด้วยเขาก็เรียกเข้าที่ตั้งปกติหมดแล้ว เหลืออยู่แต่ที่กองเรือยุทธการที่ท่าช้างวังหลวง แต่ก็ยังนิ่งเฉยอยู่ ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร ฝ่ายเราได้เปรียบขณะนี้ ถ้ายังงั้น ก็ไม่จำเป็นจะต้องเข้าตีด้วยกำลังกระมังครับ ผมออกความเห็นไป ล้อมเอาไว้เฉย ๆ เดี๋ยวก็เหี่ยวไปเอง จะอยู่ได้นานซักเท่าไร ทุกคนนิ่งไปครู่ใหญ่ เจ้านายจึงพูดขึ้น เข้าที ล้อมไว้ให้แน่น เดี๋ยวก็เหี่ยวไปเองอย่างมันว่า แต่ทีนี้ถ้าเขายิงออกมาล่ะ ก็ดูอาวุธที่ใช้ยิงออกมาซิครับ แต่ผมว่า ในนั้นคงไม่มีอาวุธหนัก ถึงมีก็ใช้ไม่ได้ อย่างเก่งก็จะมีแต่ปืน ค. ถ้ายิงหนาแน่น เราก็เคลื่อนกำลังอาวุธเบาเข้าทางประตูเข้า ประตูพวกนี้ ผมว่ารถถังขนาดใหญ่เข้าชนก็พัง ประตูพังพอซ่อมได้ ปืนรถถังอย่ายิงก็แล้วกัน เดี๋ยวข้างในพังหมด ก็เข้าที เอาอย่างที่ไอ้นี่มันว่านะ ท่านหันไปถามพรรคพวกรอบ ๆ ทุกคนเห็นด้วย ทีนี้ถึงตอนร่างแถลงการณ์ไปออกอากาศ ใครจะเขียน ก็คุณพุฒนั่นไง พี่ม้ายบุ้ยส่งมาที่ผม ทุกคนหันมามองผม เอ้า ไอ้พุฒเขียน เจ้านายสั่งการตามคำพูดของพี่ม้ายทันควันเหมือนกัน เขียนยังไงกันครับ แถลงการณ์อะไร จะเอาใจความยังไง ผมถาม เขียนเข้าไปเถอะ ต้องออกอากาศให้ได้ภายในชั่วโมงนี้ ซัดลงไปว่าพวกนี้เขาปฏิวัติเพื่อมุ่งหมายทำลายอะไรและเราจะทำอะไร เขียนเดี๋ยวนี้ แล้วเอามาให้กูอ่าน พวกที่ไม่เกี่ยวข้องไปจัดกำลังดำเนินการตามที่ตกลงกันไว้ได้แล้ว นายทหารที่คุมกำลังต่างพากันทยอยออกไป เอ้า เอาเสียกรุบนึงก่อน พี่ม้ายส่งถ้วยวิสกี้ผสมแล้วให้ผม จะได้เขียนคล่อง ๆ ผมยกมือไหว้แล้วรับแก้วมาเล่นเสียกรุบใหญ่ก่อนที่จะคว้ากระดาษกับปากกามาลงมือเขียน ผมเขียนแถลงการณ์ออกมาได้สองหน้ากระดาษอ้างถึงกรณีสวรรคต และการที่พวกกบฏคิดจะเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นคอมมิวนิสต์ เพื่อล้มล้างคดีนี้ด้วย ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินการสอบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาอยู่ สองเรื่องนี่ก็พอกินแล้ว คนได้ฟังก็เอากับเราแล้ว เขียนเสร็จผมก็ส่งให้ท่านอ่าน ท่านอ่านจบส่งต่อให้พี่ม้ายอ่าน ใช้ได้ พี่ม้ายร้องออกมาเมื่ออ่านจบ เอาไปพิมพ์ แล้วส่งไปกรมโฆษณาการออกอากาศเลย เป็นแถลงการณ์ฉบับที่ ๑ ของรัฐบาล ไอ้ม้ายจัดการทางนี้ให้เรียบร้อย เจ้านายพูดกับพี่ม้าย กูจะไปวังหลวงกับไอ้พวกนี้มัน ท่านชี้มาที่พวกผม แล้วก็ออกจากที่นั่นตรงไปที่บริเวณหน้ากรมโฆษณาการ
เขียนออกมาเป็นวรรคเป็นเวร ลืมบอกไปว่า กรมโฆษณาการนั้นก็คือกรมประชาสัมพันธ์เดี๋ยวนี้นั่นเอง กองอำนวยการปราบกบฏมีอยู่แค่นั้นเองที่ตกลงใจอะไรเบ็ดเสร็จ จนกระทั่งการออกแถลงการณ์
ผมไม่ทราบว่าพวกผู้ใหญ่ในคณะรัฐบาลทำอะไรอยู่ที่ไหนตอนที่ วุ่น ๆ กันอยู่นี้ และมีหน่วยไหนทำอะไรกันนอกเหมือไปจากที่เล่ามาให้ฟังนี้บ้างก็ไม่ทราบ
ใครเป็นผู้อำนวยการในการปราบกบฏครั้งนี้ก็ไม่ทราบอีกเหมือนกัน ที่เห็นเต้นกันอยู่ก็มีแค่นี้ เรียกว่า กระจอก พอ ๆ กันกับฝ่ายกบฏที่ยึดอยู่แต่ในวังหลวง ! ยังจะมีเรื่อง กระจอก เล่าให้ฟังอีกเกี่ยวกับการปราบกบฏครั้งนี้
Create Date : 26 เมษายน 2553 |
Last Update : 26 เมษายน 2553 0:00:33 น. |
|
8 comments
|
Counter : 1917 Pageviews. |
|
|
|