จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
23 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
จับปูดำ ขยำปูนา บทที่ 1 ตอนที่ 4

“ ผมมีงานให้คุณทำพอดี ” เขาพูดต่อไป พลางยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งที่เขาล้วงมันออกมาจากไหนผมก็ไม่ทันเห็น ส่งมาให้ผม “ คุณรู้จักคนคนนี้ไหม ”

ในกระดาษแผ่นนั้นไม่มีข้อความอะไร นอกจากชื่อคนชื่อเดียว อ่านออกว่า ‘ อุทิศ ตันผลานุสนธิ์ ’

“ ผมเคยได้ยินชื่อ ” ผมพูด “ ทราบแต่ว่าเป็นพ่อค้าใหญ่และนายธนาคารใหญ่ ไม่เคยรู้จักเขาเป็นส่วนตัวหรอกครับ ”

“ ดีแล้ว ” เขาพูดพลางดึงเอากระดาษแผ่นนั้นกลับคืนไป “ คุณจำชื่อนี้ไว้ให้ดี เขาเป็นผู้ที่มีอิทธิพลคนหนึ่ง ทั้งในวงการค้าและวงการเมืองขณะนี้ คุณคงเคยได้ยินและได้เห็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์มาบ้างแล้วว่า เขาเป็นผู้บริจาคเงินครั้งละมาก ๆ เป็นการกุศลให้แก่องค์การกุศลต่าง ๆ รวมทั้งช่วยเหลือราชการในกรณีพิเศษ และมีความสนิทชิดชอบกับบุคคลสำคัญ ๆ ในวงการเมืองของเรา จนแทบจะกล่าวได้ว่าเขารู้ความเคลื่อนไหวในทางการเมืองของเราอยู่ทุกขณะ ซึ่งในบางครั้งออกจะมากเกินไป ”

เขาหยุดระบายลมหายใจ คล้ายกับจะระบายความรู้สึกข้างในออกมาด้วย พลางม้วนริมฝีปากเล่นก่อนที่จะพูดต่อไปว่า

“ ผมไม่ค่อยจะชอบนักในเรื่องนี้ ในฐานะที่ผมมีหน้าที่รักษาความปลอดภัยของชาติ นายอุทิศคนนี้เป็นคนจีน คุณอาจจะรู้ได้จากชื่อสกุลของเขา เขาได้รับสัญชาติไทยจากการโอนสัญชาติเพราะได้ช่วยเหลือทางการ และกระทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองเรามาช้านาน มีผู้หลักผู้ใหญ่ของเราช่วยเหลือให้การแปลงชาติเป็นไปได้โดยเรียบร้อยอยู่ด้วย ”

เขาหยุดอีกนิดหนึ่ง แล้วพูดต่อไปช้า ๆ ว่า

“ ผมได้รับรายงานจากแหล่งข่าวของเราแห่งหนึ่งว่า เขามีเบื้องหลังที่ไม่ค่อยจะดีนัก คือเป็นผู้ที่ออกทุนสนับสนุนองค์การคอมมูนิสต์ในประเทศไทยอยู่อย่างลับ ๆ ข่าวนี้ไม่มีอะไรเป็นหลักฐานยืนยัน นอกจากเขาจะรายงานมาว่า มันเป็นข่าวที่หลุดออกมาเองจากภายในกระบวนการ ซึ่งมันเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้เท่า ๆ กัน นายอุทิศอาจถูกพ่อค้าด้วยกันอิจฉาริษยาเขากุข่าวนี้ขึ้นมาเพื่อทำลายเขาก็ได้ และในอีกหนึ่งมันก็อาจจะเป็นความจริง และข่าวประเภทนี้ซึ่งเกิดกับบุคคลชั้นนี้ ย่อมเป็นข่าวที่เราจะวางเฉยไม่ได้ มันเกี่ยวกับความปลอดภัยของบ้านเมืองโดยตรง คุณยอดทวน ”

เขาเรียกชื่อผมแล้วนิ่ง สายตาของเขาจับผมเขม็ง ก่อนที่จะพูดออกมาว่า

“ ผมต้องการให้คุณไปควานมาให้ได้ความว่า เขามีเบื้องหลังเป็นผู้ออกทุนสนับสนุนองค์การคอมมูนิสต์จริงหรือไม่ ถ้ามีหลักฐาน ให้นำหลักฐานทุกชิ้นมาให้ผม ”

“ ถ้าไม่มีหลักฐานเลยเล่าครับ ” ผมถามออกมาด้วยความเคยชิน

“ คุณหมายความว่ายังไง ถ้าไม่มีหลักฐานมันก็แสดงว่าเขาบริสุทธิ์ ” เขาพูด แต่นัยน์ตาที่จ้องดูผมอยู่นั้นบอกว่า ต้องการฟังอะไรจากผมต่อไปอีก

“ มิได้ ” ผมพูด ชักจะรู้ ๆ ความต้องการของเขา “ ผมหมายถึงว่า หากผมไปพบไปเห็นอะไรมาที่เชื่อได้ว่าเขามีการกระทำเช่นว่านั้นจริง แต่ผมไม่สามารถที่จะเอาอะไรมาเสนอให้เป็นหลักฐานได้ คนขนาดนั้นผมไม่ค่อยจะแน่ใจว่าเขาจะทิ้งหลักฐานอะไรไว้ให้ใครจับได้ ”

พันเอกเยี่ยมยิ้มที่มุมปาก

“ ตอนนี้แหละที่ทำไมผมจึงต้องการตัวคุณ คุณมีวิธีปฏิบัติการของคุณอยู่แล้วโดยผมไม่ต้องสั่งการ และคุณไม่จำเป็นต้องรายงานผม พิจารณาเอาเองว่าคุณควรจะทำอย่างไร ”

คราวนี้ผมเป็นฝ่ายม้วนริมฝีปากเล่นบ้าง พลางมองดูเขาแวบหนึ่งแล้วก็เกาศีรษะทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้สึกคันอีกครั้ง

ผมได้ยินเสียงเขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่เขาจะพูดว่า

“ แต่คุณต้องระวังตัวเอาเอง ถ้าพลาด คุณจะต้องรับเคราะห์โดยไม่มีใครช่วยได้ นี่แหละมันเป็นจุดสำคัญที่ผมต้องการตัวคุณ ”

ผมนั่งนิ่ง ที่นิ่งก็เพราะยังบอกตัวเองไม่ถูกว่า ไอ้งานชิ้นนี้มันถูกใจหรือเปล่า ผมไม่ชอบคอมมูนิสต์ และผมก็ไม่ชอบที่จะให้ใครซึ่งเป็นพ่อค้าใหญ่มีอิทธิพลมาทำอย่างนั้นกับบ้านเมืองของผม แต่ทำไมผู้การเยี่ยมจึงต้องเจาะจงเอาตัวผมมาทำงานชิ้นนี้ การที่จะให้ใครสืบว่าใครมีการกระทำที่สนับสนุนคอมมูนิสต์ หรือมีการกระทำเป็นคอมมูนิสต์เสียเองนั้น มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเจาะจงเอาตัวคนนั้นคนนี้มาทำงานสืบสวนชนิดนั้น ใครก็ได้ที่เป็นตำรวจหรือมีหน้าที่ในการนี้โดยเฉพาะก็ย่อมที่จะใช้ให้ทำได้ ผมนั่งนิ่งก็เพราะคิดถึงเรื่องนี้อยู่นั่นเอง ผสมอยู่ด้วยกับเรื่องที่ยังบอกตัวเองไม่ถูกนั้น

เหมือนกับพันเอกเยี่ยมเดาความคิดของผมออก เขาพูดออกมาว่า

“ ความจริงไอ้เรื่องนี้ผมจะใช้ใครไปทำก็ได้ เพราะดู ๆ มันก็เป็นเรื่องหญ้าปากคอกของนักสืบสวนทั้งหลาย แต่ไอ้ที่ผมต้องคัดเลือกตัวบุคคลด้วยวิธีการที่คุณโดนมาแล้วนี้ ก็เพราะว่าคนของผมคนหนึ่งที่ใช้ไปทำงานชิ้นนี้ เมื่อสักอาทิตย์หนึ่งมาได้นี้ ไปพลาดท่าเสียทีหรือจะยังไงก็ยังไม่แน่ ได้กลายเป็นศพขึ้นอืดอยู่ที่ชายทะเลที่ชะอำโดยที่ผมยังไม่ทันได้รับรายงานอะไรจากเขาเลยสักชิ้นเดียว ”

พันเอกเยี่ยมหยุดพูดอยู่นาน ปล่อยให้คำพูดนั้นเข้าไปวิ่งปรูดปราดอยู่ในสมองที่เป็นที่ใช้ความคิดของผมอยู่ ด้วยเวลาอันที่เขาคงจะเห็นว่าเพียงพอแล้ว เขาจึงพูดต่อไปว่า

“ คนของผมคนนั้นนับว่าเป็นคนที่มีฝีมือในขั้นดีมาก เขาชื่อร้อยตำรวจเอก เชิด ทรงพลัง เป็นคนที่เพิ่งจะเรียกเข้ามาอยู่ในหน่วยของผมนี้ได้เพียงไม่ถึงสองเดือน แกเป็นคนที่มีไหวพริบในการต่อสู้ดีมากคนหนึ่ง จากการฝึกหัดอบรมจากหน่วยของเรา ผมมอบงานชิ้นนี้ให้แกเป็นชิ้นแรกหลังจากแกผ่านการอบรมมาแล้ว ผมคิดว่าจะให้มันเป็นงานขั้นทดลองของแก ไม่นึกว่ามันจะเป็นงานที่จะนำแกไปสู่ความตาย ผมนึกไม่ถึงจริง ๆ ”

เขาส่ายหน้าไปมาช้า ๆ ประกอบคำพูด ก่อนที่จะพูดต่อไปว่า

“ แต่ก็นั่นแหละ ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าแกจะตายเพราะงานหรือด้วยเหตุอื่น เพราะแกกลายเป็นศพไปเสียก่อนที่ผมจะได้ทันรับรายงานอะไรจากแก ผมเดาอะไรไม่ออก และเรื่องอย่างนั้นเราจะเดาเอาเฉย ๆ ไม่ได้ มันต้องหาสาเหตุที่แท้จริงให้พบ และนั่นเป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องค้นหาให้จนได้ เรื่องนี้อยู่นอกเรื่องที่ผมจะใช้คุณ หน้าที่ของคุณก็เพียงแต่สืบเบื้องหลังของนายอุทิศผู้นี้เท่านั้น ผมบอกเรื่องนี้ให้คุณรู้ก็เพื่อที่จะได้เข้าใจว่า ทำไมผมจึงต้องเลือกตัวบุคคลสำหรับงานชิ้นนี้ เพราะว่าผมได้ใช้คนหนึ่งไปโดยไม่ได้เลือกเฟ้นโดยนึกไม่ถึง แล้วคนคนนั้นกลับกลายเป็นศพไปโดยไม่รู้สาเหตุ มันจึงเป็นเรื่องที่คุณจะต้องรู้เพื่อที่จะได้ระวังตัวให้ดี หรือหากว่าคุณกลัวจะเป็นศพไปอีกคนหนึ่ง คุณจะถอนตัวไม่รับงานนี้ก็ได้ ผมบังคับคุณไม่ได้ ”

หูของผมกำลังผึ่งอยู่แล้วตั้งแต่ได้รับฟังคำพูดประโยคแรกของเขา และผมกำลังเข้าใจดีอยู่ทีเดียวว่าทำไมเขาจึงต้องเจาะจงเลือกตัวบุคคลด้วยวิธีการที่ผมโดนมาแล้วหยก ๆ นี้ พอได้ยินประโยคหลังนี่เข้า ผมก็เหลือบตาขึ้นมองดูเขาทันทีด้วยความเคยชิน

สายตาแวบเดียวของผมนั้น ทำให้เขายิ้มออกมาพร้อมกับพูดว่า

“ อย่าเพิ่งด่วนเข้าใจคำพูดของผมว่าเป็นการสบประมาทคุณ ในงานเช่นนี้เราต้องพูดกันตรงไปตรงมา และผมไม่ต้องการใช้คนโดยไม่ให้เขาเข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริงเสียก่อน ผมต้องการความเต็มใจในการทำงานชิ้นที่เขาได้รับมอบหมาย ก็เป็นอันว่าคุณเข้าใจดีแล้ว คุณเริ่มงานของคุณได้แต่บัดนี้เลยทีเดียว ”

ผมชักจะเชื่อว่าพันเอกเยี่ยมผู้นี้เป็นผู้บังคับบัญชาที่อ่านหัวใจคนจากสายตาได้ดีคนหนึ่ง ผมพูดว่า

“ ผมอยากได้ความรู้เกี่ยวกับร้อยเอก เชิด สักเล็กน้อย หากผู้การพอจะให้ผมได้ ”

พันเอกเยี่ยมยิ้มชอบใจ เขาเปิดลิ้นชักดึงเอาแฟ้มออกมาแฟ้มหนึ่ง ยื่นส่งให้ผม

ที่หน้าแฟ้มนั้นเขียนไว้ว่า ร้อยเอก เชิด ทรงพลัง ตอนมุมข้างบนด้านซ้ายของแฟ้มมีตัวหนังสือแดงเขียนไว้ว่า ‘ ลับที่สุด ’ และที่หน้าแฟ้มนั้นมีเส้นสีแดงเส้นใหญ่ขีดทแยงมุมเป็นกากบาทจากมุมถึงมุมทั้งสี่มุม มันเป็นสัญลักษณ์ที่รู้กันว่า แฟ้มนี้ไม่ใช้แล้ว

ผมเปิดแฟ้มนั้นออกอ่าน




Create Date : 23 กรกฎาคม 2552
Last Update : 23 กรกฎาคม 2552 1:44:54 น. 0 comments
Counter : 1019 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.