จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
3 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
ทางเสือผ่าน (ตอนที่ 14)

ทางเสือผ่าน โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 14

กลุ่มม้าทั้งสิบตัวควบฝ่าแสงแดดยามบ่าย เรื่อยมาตามริมคันนา ทิวไม้ของหมู่บ้านปรากฏให้เห็นอยู่ลิบ ๆ โน่น ทวน ทองรุ่ง ชักผ้าเร่งขึ้นไปถึงม้าตัวนำ

“ พ่อ ที่เห็นนั่น หมู่บ้านชายเมือง ใช่ไหมพ่อ ”

เสือฝ้ายพยักหน้า

“ ใช่ ใกล้แดนมเหศวรเข้ามาแล้ว พ่อว่า ไอ้ช้วยต้องพักอยู่ที่นี่ มันจะไปไหนไม่ได้ไกลกว่านี่ ”

“ พ่อรู้จักผู้ใหญ่บ้านที่นี่หรือเปล่า ”

“ เมื่อก่อน ผู้ใหญ่ม้วนอยู่ที่นี่ พ่อยังไม่แน่ใจว่าเขาจะยังอยู่หรือเปล่า เดี๋ยวก็รู้ ”

ทวนชักม้ากลับเข้าไปรวมกับขบวนทางท้าย เขาร้องสั่ง

“ เตรียมตัวให้พร้อม ข้างหน้านั่น ยังไม่รู้จะมีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนเตรียมอาวุธพร้อม ”

ม้าทั้งขบวนควบเข้าสู่หมู่บ้านนั้น ขยายแถวเป็นปีกกา โอบล้อมม้าตัวนำ มุ่งหน้าเข้าไปยังทิวไม้ที่ค่อย ๆ เขยิบใกล้เข้ามาตามฝีเท้าม้าที่ควบเข้าไปหา

ฝูงคนทั้งชายหญิงยืนออกันอยู่ที่ริมชายไม้หมู่บ้าน ต่างส่งเสียงซักถามกัน จับความได้ว่าต่างยังไม่รู้ว่าเป็นขบวนม้าของใคร เมื่อม้าทั้งขบวนเข้ามาถึงชายหมู่บ้าน ต่างก็หลีกทางให้ขบวนผ่านเข้าไป

เสือฝ้ายหยุดม้าที่ลานกว้างหน้าบ้านหลังหนึ่ง โดดลงจากหลังม้า มือข้างหนึ่งถือสายบังเหียน จูงม้าก้าวช้า ๆ เข้าไปยังบ้านหลังนั้น พลพรรคที่ขยายแถวอยู่เบื้องหลังต่างสลัดปืนที่สะพายไหล่อยู่ลงมาไว้ในมือข้างที่ว่างจากบังเหียนด้วยความชำนาญ

ชายคนหนึ่งก้าวออกมาจากใต้ถุนบ้านหลังนั้น เดินยิ้มร่า กระพุ่มมือไหว้เข้ามาหา

“ พี่ฝ้าย ” เขาร้องทัก “ มายังไง ไม่มีวี่แวว ทำไมไม่ส่งคนมาบอกก่อนล่ะ ”

เสือยกมือรับไหว้

“ เออ ม้วน ยังอยู่สบายดีอยู่หรือ ”

“ ก็ดีอยู่พี่ฝ้าย นี่จะไปทางไหนล่ะ ถึงได้ผ่านมาที่นี่ ”

“ ไม่ไปไหนหรอก ก็มุ่งมาที่นี่แหละ ”

“ อ้าว งั้นก็พักม้าเสียก่อนซี พี่ฝ้าย ” ผู้ใหญ่บ้านหัวเราะชอบใจ “ ไม่รีบร้อนไปไหนก้อ ”

ทวน ทองรุ่ง จูงม้าเข้ามาใกล้ เขายืนเคียงข้างผู้พ่อเฉยอยู่

“ นั่นใครล่ะ พี่ฝ้าย ” ผู้ใหญ่พยักมาทางทวน

“ ไอ้ทวน ลูกข้า ” เสือตอบ “ เอ็งคงไม่เคยเห็นมัน มันไม่เคยมาทางนี้ ”

ผู้ใหญ่บ้านมองดูทวนด้วยสายตาชื่นชม

“ แอบไปมีลูกไว้ที่ไหนนี่ พี่ฝ้าย โตใหญ่สมนักเลง ”

เสือฝ้ายหันไปสั่งให้พลพรรคทั้งหมดลงจากหลังม้า

“ พักผ่อนกันเสียก่อนที่นี่โว้ย จัดการผูกม้าตามใจชอบ แล้วมารวมกันที่ลานนี่ ”

เสือเดินตามผู้ใหญ่บ้านเข้าไปที่ใต้ถุนบ้านหลังนั้น ขยับซองปืนพกที่คาดเอวอยู่ให้กระชับมั่น ทวน ทองรุ่ง เดินตามพ่อไปติด ๆ นั่งลงข้าง ๆ พ่อ ที่นั่งร้านใต้ถุนนั้น เมื่อผู้ใหญ่บ้านม้วนเชื้อเชิญให้นั่งพลางหันไปสั่งคนที่ยืนดูอยู่ใกล้ ๆ ให้เอาน้ำมาเลี้ยง

“ มีคนแปลกปลอมมาพักที่นี่มั่งไหมล่ะ ม้วน เสือฝ้ายเอ่ยขึ้นเมื่อนั่งเรียบร้อย

“ ก็มีอยู่คนเดียว คนของพี่ฝ้ายไงล่ะ มันเพิ่งมาถึงเมื่อเช้านี้เอง ”
ผู้ใหญ่ตอบ

“ ไอ้ช้วย ใช่ไหม ”

“ นั่นแหละ พี่ฝ้าย มันบอกว่ามันมีธุระจะไปเมืองกาญจน์ ฯ มาขอพักสักคืน มันก็ไม่ยักบอกว่าพี่ฝ้ายจะตามหลังมา ”

“ มันจะบอกได้ยังไง ” เสือคำรามออกมา “ แล้วเดี๋ยวนี้มันอยู่ไหน ”

“ อยู่บ้านไอ้ยอด ต่อจากนี่ไปสามหลัง ” ผู้ใหญ่ชี้ไปทางข้างหลัง พลางหันไปมอง “ อ้าว นั่นไง มันกำลังวิ่งออกไปโน่น ”

ร่างของชายคนหนึ่งวิ่งออกไปจากบ้านหลังหนึ่ง ไกลออกไปสองสามหลัง

ทวน ทองรุ่ง เผ่นลงมาจากที่นั่ง วิ่งตามร่างชายคนนั้นไปอย่างว่องไว เขาเร่งฝีเท้าไล่ติดตามคนที่กำลังวิ่งมุ่งลัดเลาะไปตามเสาเรือนที่เรียงรายอยู่ เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นอยู่หลายคน แตกกลุ่มเมื่อคนคนนั้นวิ่งฝ่าออกไป ทวน ทองรุ่ง กวดฝีเท้าตามไปติด ๆ

“ หยุด ไอ้ช้วย ” เขาตะโกนไล่หลัง

ผู้ที่ถูกไล่เร่งฝีเท้าต่อไปอีก โดยไม่ได้หันมามองทางหลัง ทวนกวดกระชั้นเข้าไป เบื้องหลังของเขามีพลพรรควิ่งตามมาอีกหลายคน ระยะห่างระหว่างคนหนีกับอีกฝ่าย ไล่กระชั้นชิดเข้ามาเมื่อจะออกสู่ท้องทุ่ง

“ ไอ้ช้วย หยุดนะ ม่ายงั้นกูจะยิง ” ทวนตะโกนไล่หลังไปอีก เมื่อฝ่ายหนีกำลังจะออกสู่ท้องทุ่ง

ฝ่ายหนีไม่ได้เอาใจใส่กับคำขู่ ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งต่อไป

ทวนดึงปืนออกจากเอว เขาหยุดวิ่ง ลั่นกระสุนเปรี้ยงออกไป ฝุ่นบนผืนดินข้าง ๆ เท้าคนหนีกระจุยเป็นควันด้วยแรงกระสุน คนวิ่งหนีหยุดวิ่ง หัวคะมำลงพื้นนาตรงหน้า นั่งยันร่างมองดูฝ่ายไล่ที่มาถึงตัวพอดี

“ ลุกขึ้น ไอ้ช้วย ” ทวงจ้องปืนตรงขมองคนนั่ง

คนที่นั่งยันพื้นอยู่เหลือบตาขึ้นมองปากลำกล้องปืน แล้วสะบัดสายตามาที่นัยน์ตาคนจ่อปืน

“ เก่งจริง อย่าใช้ปืนซี ไอ้ทวน ”

“ เอาเหอะ ” ทวนขยับปืนในมือ “ เอ็งลุกขึ้นมาก่อน แล้วค่อยพูดกัน ”

ช้วยค่อย ๆ ยันกายขึ้นช้า ๆ สายตาจับจ้องนัยน์ตาทวนเขม็ง แต่สายตาคู่นั้น ไม่ยอมปล่อยโอกาสให้เขาหาช่องที่จะแก้ไขอะไรได้ ทวนก้าวเท้าแอบ เบี่ยงเปิดทางให้

“ ไป เดินไปข้างหน้าข้า ไป ” เขาออกคำสั่ง “ กลับไปหาพ่อเสียดี ๆ ”

ช้วยก้าวเดินผ่านไปอย่างช้า ๆ สายตาคอยจ้องหาจังหวะที่จะเปิดให้ แต่ไม่มี จึงต้องเดินช้า ๆ ผ่านกลับไปทางเดิมที่วิ่งออกมา

“ เออ ไอ้ช้วย ” เสือฝ้ายทักขึ้น เมื่อสมุนเก่าเข้ามายืนอยู่ตรหน้า
“ สบายดีหรือมึง ”

ช้วยรู้ว่าเสียงทักนั้นไม่ใช่เสียงทักธรรมดา ยืนนิ่งอยู่ตรงหน้า ไม่ตอบคำถามนั้น

“ มึงทำกูสวยมากนะ ไอ้ช้วย ” เสือฝ้ายพูดต่อ

“ ฉันไปทำอะไรให้ล่ะ พี่ฝ้าย ” ช้วยพูดท่าซื่อ ๆ

เสือหัวเราะลั่น

“ เออ เอ็งทำหน้าซื่อดี เอ็งไม่ได้ทำอะไร แล้วเอ็งหนีมาที่นี่ทำไม ”

“ ฉันไม่ได้หนี ฉันมาเยี่ยมพี่ม้วนเขาไม่ได้หรือไง ”

“ แล้วเอ็งไปหลอกไอ้เฟี้ยมมันไว้ว่ายังไง ” เสือฝ้ายพูดเสียงเหี้ยม
“ เอ็งพาพวกไหนไปปล้นบ้านตากลับ เอ็งทำทำไม หรือว่าไม่ได้ทำอีก ”

ช้วยยืนนิ่งครู่หนึ่ง พูดว่า

“ ใครว่าฉันเป็นคนทำ ฉันจะไปเอาพวกที่ไหนมาทำได้ ”

“ ไอ้ลูกหมา ” เสือคำรามออกมา “ เอ็งมันไม่น่าอยู่เป็นคนต่อไป เอ็งก็รู้แล้วไม่ใช่หรือว่า ข้าจะทำยังไงกับคนที่ทรยศกับข้า ”

“ หึ ” ช้วยเน้นเสียงออกมา “ พี่ฝ้ายก็ได้แต่ฆ่าคนที่ไม่มีอาวุธ ”

เสือกระโดดจากที่นั่ง ทวนเข้าขวางไว้

“ ฉันเอง พ่อ ” เขาหันไปทางช้วย “ เอ็งจะเลือกเอาทางไหน ข้าเอง ไม่ต้องถึงพ่อ ”

ช้วยหัวเราะหึ ๆ อีก

“ ไอ้ทวน เอ็งมันไม่พอมือข้าหรอก ”

ทวนหัวเราะ ใจเย็น

“ ก็อยากจะลองดู ไอ้ช้วย มือขนาดมึงไม่ต้องถึงมือพ่อ ”

“ พ่อเอ็งก็ได้แต่ใช้ปืน กล้าสู้กับข้าตัวต่อตัวไหมล่ะ อะไรก็ได้ ”

กลุ่มเสือหลายคนถลันเข้ามาที่ช้วย ช้วยล้มลง ก้นกระแทกโดยไม่รู้ว่าโดนอะไร

“ ลงท้ายก็หมาหมู่ ” ช้วยนั่งลูบปากที่มีเลือดไหลปรี่ออกมา “ สมุนเสือฝ้าย เชอะ ”

ทวนเข้าไปกั้นหมู่เสือนั้นให้ถอยออกไป

“ ช้วย... ข้าเอง เอ็งเลือกมา จะเอารูปไหน มีด ปืน หรือมือเปล่า ”

ช้วยยันกายลุกขึ้นช้า ๆ มือยังลูบอยู่ที่แผลที่ริมปาก

“ มือเปล่าก่อนเป็นยังไง ว่าแต่ว่า ถ้าข้าชนะเอ็ง แล้วจะปล่อยตัวข้าไปไหมล่ะ ”

ทวนหันไปมองเสือฝ้าย เสือส่ายตาไปมา ตกลงใจไม่ได้

“ เออ ” ทวนสะบัดหน้ามาทางช้วย “ ข้าตอบแทนพ่อก็ได้ ”

ช้วยหัวเราะ พูดปนเสียงหัวเราะออกมาว่า

“ เอายังงี้ก็แล้วกัน ถ้าคำพูดของเอ็งเชื่อได้จริง ๆ ให้พี่ฝ้ายเขารับคำออกมาหน่อย ”

“ ไอ้ทวนมันลูกข้า ” เสียงเสือฝ้ายลั่นออกมา “ มันพูดก็เหมือนข้าพูด ”

ช้วยหัวเราะอีก ย่างเท้าช้า ๆ เข้ามาหาทวน พลางพูดว่า

“ ถ้ายังงั้นก็ได้ ”

ยังไม่ทันที่ทวนจะระวังตัว ตีนข้างหนึ่งของช้วยก็ตวัดเข้าที่ชายโครงดังสนั่น ร่างของทวนเซไปตามแรงเตะ ช้วยตามติดเข้ามา ยกตีนอีกข้างหนึ่งขึ้นรับร่างของทวนที่กำลังซวนไปทางนั้นเสียงดังหนักแน่น ทวนทรุดลงไปกระแทกพื้นดิน ช้วยก้าวประชิดเข้าไป

แต่ร่างของทวนพลิกกลับก่อนที่ตีนข้างหนึ่งของช้วยจะกระทืบลงไปโดน แล้วก็เด้งตัวขึ้นมาในจังหวะเดียวกันกัน เหวี่ยงหน้าแข้งซ้ายขวาสลับกันไปเข้าที่ชายโครง ซ้ายขวา ซ้ายขวา สองสามตลบ ร่างของช้วยซวนเซตามแรงตีน ด้วยแรงเตะที่หนักหน่วงนั้น ล้มลงไปกองอยู่กับพื้นดิน

ทวนยืนค้ำร่างของช้วยที่บิดตัวด้วยความเจ็บปวดอยู่กับพื้นดิน

ช้วยบิดตัวอยู่สองสามตลบก็ผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เสือกมือข้างหนึ่งเข้าที่ลำตัวของทวน ในทันทีในจังหวะเดียวกันกับที่ทวนเอี้ยวตัวหลบได้ทันควัน มือข้างนั้นมีมีดปลายแหลมคมขาววับอยู่ในกำมือที่เสือกพรวดเข้ามานั้น

“ เฮ้ย ” เสียงเสือฝ้ายร้องขึ้น “ ไอ้ช้วย มึงไอ้ชาติหมา ”

สมุนเสือกรูเข้ามา ทวนยกมือ กันสมุนเสือออกไป

“ ปล่อยมัน ข้าจะลองดูฝีมือมันทางมีด ”

ใครคนหนึ่งโยนมีดมาให้ ทวนเขี่ยมีดเล่มนั้นที่ตกกับพื้นดินออกไป เขาก้าวย่างเข้าไปหาช้วยซึ่งยืนถือมีดจังก้าอยู่ตรงหน้า

คนหนึ่งมือเปล่า อีกคนมีมีดชายธงส่งแสงแวววับอยู่ในมือ จี้ปลายแหลมออกมาตรงหน้า ทั้งสองคนเดินก้าวช้า ๆ เป็นวงเวียน จ้องหาจังหวะที่จะเข้าโรมรัน สายตาของทวนจับเขม็งอยู่ที่มือข้างที่ถือมีดนั้น ทั้งคู่ยังอยู่ในท่าที่จ้องหาจังหวะ ย่างก้าวเป็นวงเวียนอยู่ นัยน์ตาจ้องจับกันแน่วแน่ แล้วทวนก็สะดุดตีนตัวเองที่กำลังเยื้องย่างนั้น ร่างของเขาซวนผวาไป

ช้วยเผ่นพรวดถึงตัว เสือกปลายมีดพุ่งเข้ามาร่างของทวนที่กำลังซวนอยู่นั้น

มันเป็นจังหวะที่ทวนแสร้งทำขึ้นอย่างเหมาะเจาะ เขาเอี้ยวตัวหลบปลายมีดนั้นตามท่วงจังหวะได้อย่างสวย ยกเข่าขึ้นรับร่างของช้วยที่ถลาเสียหลักตามปลายมีดมานั้นเข้าเต็มรักที่ชายโครง เสียงดังพลั้ก หนักแน่น เมื่อเข่าข้างนั้นถอนออก ร่างของช้วยก็ลงไปนอนกองอยู่กับพื้น มีดหลุดกระเด็นตกลงพื้นดิน

ทวนใช้ตีนเขี่ยมีดเล่มนั้นออกไปทางหมู่เสือที่ล้อมกลุ่มดูอยู่ เขายืนจังก้าคร่อมร่างของช้วยที่ยังนอนบิดร่างด้วยความเจ็บปวดอยู่ตรงนั้น ทวนใช้ตีนเขี่ยไปที่ร่าง คำรามสำทับลงไป

“ ลุกขึ้น ไอ้ช้วย ไอ้หน้าตัวเมีย ”

ทวนก้มลงไปจิกผมที่หัว ดึงร่างอันหมดแรงของช้วยขึ้นมา ร่างนั้นอ่อนปวกเปียกห้อยอยู่กับมือที่ดึงขึ้นมานั้น ทวนคำรามต่อ

“ เอ็งแพ้ข้าหมดท่าแล้ว ไอ้ช้วย ทีนี้จะให้ข้าทำยังไงกับเอ็ง ถ้าเอ็งชนะ เอ็งจะได้ออกไปจากที่นี่ แต่เอ็งแพ้ ลองพูดมาซิว่า เอ็งจะเอายังไง ”

ช้วยยกมือขึ้นไหว้

“ ปล่อยผมไปเถอะ พี่ทวน ” เสียงพูดนั้นอ่อนระโหย

“ ปล่อยเรอะ ” เสียงเสือฝ้ายดังลั่น “ ไอ้ชาติหมา ปล่อยให้มึงไปคิดทรยศกูอีกงั้นเรอะ ”

เสือฝ้ายลุกขึ้นจากที่นั่ง ก้าวเท้ายาว ๆ เข้ามาหา ในมือถือปืนกระชับ

“ มึงชนะ มึงจะได้ไป แต่เมื่อมึงแพ้ มึงก็จะได้ไปเหมือนกัน ไอ้ช้วย ... ไปเมืองผี ”

คำ ปืนในมือเสือก็จ่อขมับเข้าที่สมองช้วย เสียงปืนลั่นดังเปรี้ยงเดียว เลือดพุ่งกระฉูดออกมาจากรูกระสุนที่เจาะเข้าไปในสมอง ... ทะลักออกมาเป็นลิ่ม ๆ ทวนปล่อยมือ ร่างของช้วยก็พับนิ่งอยู่ตรงนั้น

เสียงไชโยโห่ร้องดังรอบ ๆ ที่สมุนเสือล้อมกันอยู่ ต่างโห่ร้องยินดีกับชัยชนะของทวน

แต่ ... เสียงโห่ร้องที่แทรกเข้ามาจากเบื้องนอกของหมู่บ้านนั้น ดังยิ่งกว่า




Create Date : 03 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2552 1:32:52 น. 0 comments
Counter : 670 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.