|
พริกขี้หนูเผ็ด (ตอนที่ 3)
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 3
บทที่ ๒ ผมรู้จักลู่ทางดีอยู่แล้ว จึงไม่ต้องการคนนำทาง ผมเข้าไปในห้องนั้น และหยิบหูโทรศัพท์ที่วางอยู่นอกเครื่องขึ้นแนบหู ร้อง ฮัลโล ลงไป เสียงคุณนายดังขึ้นมาทันที ดนัยเรอะ ครับ ผมเอง หน้าที่ของคุณเพียงแต่ยื่นคำร้องที่ฉันเซ็นชื่อไว้เรียบร้อยแล้วเท่านั้น เข้าใจไหม ไม่ต้องมีปัญหาอะไรอีก แต่คุณพี่สั่งให้ผมรอคำสั่งของศาลด้วยไม่ใช่หรือครับ ไม่ต้องรอฟังแล้ว ฉันให้คุณธรรมนูญเขารอฟังแทน ยื่นแล้วคุณก็กลับสำนักงานได้ ฉันมีงานให้คุณทำอีก คุณพี่แน่ใจแล้วหรือว่า จะไม่มีอะไรเสียหายเกิดขึ้นภายหลัง ผมพูด ไม่มีอะไรหรอกน่ะ คุณคิดว่ามันจะมีอะไร เราเป็นแต่เพียงคนประกันเท่านั้น ถ้าจำเลยหลบหนี คุณพี่จะต้องเสียเงินแสนบาท ผมพูด เอาเถอะน่ะ คนที่จะเสียเงินไม่ใช่ฉันหรอก
คุณพี่หมายความว่า มีคนที่จะยอมเสียเงินแทนอยู่แล้ว ยังงั้นหรือครับ เรื่องนั้น คุณวางใจได้ คุณพี่ให้ผมทราบได้ไหมครับว่า ใครเป็นคนคนนั้น คุณจะรู้ไปทำไม ไม่ใช่หน้าที่ของคุณ หมายความว่า คุณพี่ไม่ต้องการฟังคำแนะนำของผมในเรื่องนี้
ฉันเคยปฏิบัติอย่างนี้มามากแล้ว โดยไม่ต้องการคำแนะนำจากใคร คุณยื่นคำร้องแล้วก็กลับสำนักงาน ฉันยังมีงานอื่นที่จะให้คุณทำอีก เท่านั้นแหละ
คุณนายวางหูค่อนข้างแรง ผมจึงต้องวางหู แล้วออกจากห้องนั้นมา ผมเข้าไปยื่นคำร้องขอประกัน และเอาโฉนดที่อยู่ในซองออกมายื่นให้พนักงานศาล เรียบร้อยแล้วก็ออกมา
ขณะที่เดินผ่านธรรมนูญ ทนายผู้นั้น เขาหัวเราะเบา ๆ พูดกับผมว่า ยื่นเรียบร้อยแล้วหรือ คุณดนัย
ผมบอกเขาว่าเรียบร้อยแล้ว หันไปมองคนสวยที่ชื่อ ยุพดี นั้น หล่อนมองผมด้วยสายตาเย้ยหยัน ผมหันหลังเดินลงมาที่รถ
ผมจอดรถที่ว่างหน้าสำนักงาน แล้วก็ขึ้นมาบนสำนักงาน ส่งกุญแจรถคืนให้กัณหา ได้ยินเสียงหัวเราะห้าว ๆ ของใครคนหนึ่งในห้องคุณนายนายจ้างของผม ผมจึงชะงักเท้าอยู่ตรงหน้าห้องนั้น ไม่ก้าวเข้าไป
กัณหาพูดกับผมว่า คุณพี่ให้คุณเข้าไปหาได้ เมื่อมาถึง
ผมชี้นิ้วเข้าไปในห้อง แล้วเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม หล่อนจึงพูดว่า
ผู้บังคับการ เพื่อนคุณพี่ ไม่เป็นไหรอก เข้าไปเถอะ ผมเคาะบังตาประตูเบา ๆ เมื่อได้ยินเสียงคุณนายร้องเชิญ จึงเปิดเข้าไป คุณนายพูดขึ้น เมื่อเห็นว่า ผู้ที่เข้ามาคือผม ยื่นแล้วเรียบร้อย ? ครับ ผมรับคำ คุณพี่มีอะไรที่จะให้ผมทำอีก ก่อนที่คุณนายจะทันได้พูดอะไร ชายร่างใหญ่ที่นั่งครึ่งเอนอย่างสบายอยู่บนเก้าอี้นวมข้าง ๆ โต๊ะทำงาน ก็พูดขึ้นว่า ลูกน้องใหม่ของคุณหรือนี่ คุณนายพยักหน้า แล้วพูดกับผมว่า รู้จักพระภูมิเจ้าที่ไว้เสียหน่อยซิ คุณดนัย พันตำรวจเอก พิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจท้องที่ของเรานี่ แล้วคุณนายก็หันไปพูดกับผู้บังคับการคนนั้น พ่อนี่เขาชื่อ ดนัย นามสกุล บริการ เพิ่งมาสมัครงานเมื่อวานนี้ ธรรมศาสตร์บัณฑิต ทนายความชั้นดีทีเดียวนะ เขาน่ะ ผมหันไปยกมือไหว้พันตำรวจเอกพิทักษ์ เขาก้มหัวแทนการยกมือรับไหว้ แล้วส่งเสียงหัวเราะห้าว ๆ ออกมา พร้อมกับพูดกลั้วหัวเราะออกมาด้วยว่า หน้าตาเข้าทีดีนี่ หน่วยก้านก็ดูจะดี แต่เสียทีกะหร่องไปหน่อย ตัวเล็กนิดเดียวเท่าลูกแมวเท่านี้ จะทนงานคุณไหวเรอะ ผมยืนมองเขาเต็มนัยน์ตาตอนนี้ เขาเป็นคนรูปร่างใหญ่โต แม้ว่ากำลังนั่งในท่าสบายอย่างนั้น ขาของเขาก็ยื่นออกมายาวเหยียด แสดงให้เห็นว่า ความสูงของร่างกายเขาคงไม่ต่ำกว่าหกฟุต ไหล่กว้าง ใบหน้าสี่เหลี่ยม ผมที่ดำสนิทและหวีไว้เรียบร้อยนั้น ต้องเป็นผมที่ถูกย้อมไว้อย่างดี เพราะว่ามันมีสีดำเกินกว่าที่จะเป็นไปโดยธรรมชาติ และอายุของเขา ผมกะเอาว่าคงจะต้องอยู่ในปลายของปีสี่สิบ ใบหน้าแสดงว่าเป็นคนอารมณ์ดี แต่เสียงที่พูดออกจะดังกร้าวตามแบบฉบับของตำรวจที่เคยชินอยู่กับการพูดจากับผู้ต้องหาทั่ว ๆ ไป เขาแต่งกายนอกเครื่องแบบด้วยเครื่องแบบสากลที่เรียบร้อย แต่ท่าทางนี้แต่งตัวอย่างไรก็ดูออกว่าเป็นตำรวจ
คุณนายพูดขึ้นว่า คุณพิทักษ์ละก้อ พูดจาเกรงใจเด็กบ้าง อย่าไปถือเลย ดนัย ประโยคหลังนี่ คุณนายพูดกับผม แกชอบหลอกเย้าคนเล่นอย่างนี้ ไม่ได้หมายความอะไรจริงจังหรอก
ตาเขียวเชียว ไอ้หนู ผู้บังคับการคนนั้นพูดขึ้นอีก ล้อเล่นหน่อย ไม่ได้หรือวะ ผมไม่พูดตอบ หันไปทางคุณนาย พูดว่า คุณพี่มีอะไรให้ผมทำอีกไม่ทราบ ที่บ้านตามนามบัตรนี้ คุณนายพูด พร้อมกับส่งนามบัตรแผ่นหนึ่งให้ เขาติดต่อมาให้เราจัดการในเรื่องการเลี้ยงงานแต่งงาน คุณไปจัดการเรื่องสั่งอาหารที่เหลาสำหรับแขกสองร้อยคน และติดต่อขอเช่าเต๊นท์ที่กองทัพเรือ และสอบถามความต้องการของเจ้าของงานในร้องอื่น ๆ แล้วมาบอกพี่ว่า เขาต้องการอะไรพิเศษนอกเหนือไปจากนี้ ผมรับนามบัตรนั้นมาอ่าน มันมีชื่อของใครคนหนึ่งที่ผมไม่รู้จัก แต่สถานที่ที่ปรากฏในนามบัตรนั้น ผมรู้จัก ผมถามว่า คุณพี่จะให้ผมไปยังไง แล้วค่าพาหนะเท่าไหร่ เมื่อวานนี้ ฉันให้เงินล่วงหน้าคุณไปแล้วถึงห้าวันยังไงล่ะ ออกไปก่อนซิ ที่นี่เขาเบิกค่าพาหนะกันอาทิตย์ละครั้ง ผมมีเงินเหลืออยู่อีกยี่สิบบาทเท่านั้นเอง อะไรกัน ใช้เงินเปลืองนัก ผมต้องใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นหลายอย่าง และใช้หนี้เขาไปบ้างด้วย แล้วคุณจะอยู่ได้ยังไงอีกสี่วันด้วยเงินยี่สิบบาทนั่น คุณจะคิดขอยืมอีกน่ะ ไม่สำเร็จแน่ละ ผมอยู่ได้ และไม่ได้ตั้งใจที่ขอยืมอะไรล่วงหน้าอีก เสียงของผมห้วน ฉันก็จ่ายค่าพาหนะก่อนจบอาทิตย์ไม่ได้ เพราะบัญชีมันจะยุ่ง ถ้ายังงั้น ผมจะเดินไป อาจจะช้าหน่อย คุณพี่จะรอผมได้หรือ ถ้าคุณมาหลังเที่ยงก็คอยพบฉันตอนบ่าย หลังเวลาอาหาร แต่นี่ก็เพิ่งสามโมงครึ่งเท่านั้น คงจะทันน่ะ ผมกลับออกมา ทีนี้ก็พอจะรู้แล้วว่า ทำไมกัณหาจึงให้ยืมรถไปเมื่อเช้านี้ ผมเดินผ่านโต๊ะที่กัณหานั่งอยู่ หล่อนเงยหน้าขึ้นมองผม พูดว่า ขอบคุณมาก สำหรับรถเมื่อเช้านี้ ผมเพิ่งเข้าใจ ผมเดินผ่านหล่อนไป หล่อนเรียกไล่หลังมา คุณดนัยคะ ผมหยุดชะงักหันกลับมา หล่อนส่งกุญแจรถที่ผมเพิ่งจะคืนให้เมื่อกี้นี้มาตรงหน้า ผมยิ้ม และสั่นหน้า พูดว่า ขอบคุณมาก แต่มันออกจะรบกวนคุณมากไป เอาไปเถอะค่ะ หล่อนพูด ฉันยังไม่ต้องการใช้มัน จนถึงเที่ยง ผมยิ้ม แล้วหันหลัง จะเดินลงบันไดไป คุณดนัย เสียงหล่อนเรียกมาอีก คราวนี้น้ำเสียงหนักแน่น ผมหันไปดู หล่อนยังคงชูกุญแจอยู่อย่างนั้น สายตาที่มองผมมีแววเห็นใจ หล่อนพูดว่า คุณจะเดินไป กว่าจะเสร็จเรื่องก็เกินบ่ายแน่ ๆ ผมมองดูสายตาหล่อน หล่อนยิ้ม ผมค่อย ๆ ก้าวเข้ามารับกุญแจรถไปจากมือหล่อน พร้อมกับพูดขอบใจ ผมเสียเวลาไปร่วมสองชั่วโมงครึ่ง กว่าจะขับรถตระเวนไปตามที่ต่าง ๆ ตามที่คุณนายสั่ง และกว่าจะติดต่อจัดการเรื่องราวต่าง ๆ และพบกับเจ้าของงาน ไต่ถามอะไรต่ออะไรให้เรียบร้อย ผมกลับมาถึงสำนักงานเกือบเที่ยง หากเดินไปจริง ๆ ก็น่ากลัวจะถึงสี่โมงเย็น กว่าจะได้กลับถึงที่ทำงาน ผมส่งกุญแจรถคืนให้กัณหา เสียงหัวเราะห้าว ๆ ของผู้บังคับการตำรวจคนนั้นยังดังอยู่ในห้องคุณนาย ผมเข้าไปรายงานผลของการติดต่อให้คุณนายทราบ เร็วดีนี่ ดนัย เหนื่อยไหม คุณนายพูด ผมเกือบบอกไปแล้วว่า ผมไปยังไง แต่ไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นเรื่องดี จึงเงียบไว้ และเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องรายงาน ไอ้หนูคล่องแคล่วดีนี่ คุณลินจง พ.ต.อ. พิทักษ์ พูดขึ้น ว่าง ๆ ขอยืมไปเป็นคนเดินรายงานให้ผมหน่อยซี ได้ไหม ยังงี้เป็นตำรวจภารโรงดีนัก พูดจบก็หัวเราะ ฮ่า ฮ่า ออกมาลั่นห้อง ผู้การไม่มีงานทำหรือครับที่กองบังคับการ ผมหันไปพูดกับเขา เห็นจมอยู่ที่นี่ตั้งแต่สามโมงจนเดี๋ยวนี้ อ้าว ! ไอ้หนู เสือกแล้วไง ผู้การพูด หัวเราะ ฮ่า ฮ่า แล้วมันหนักกบาลอะไรลื้อวะ กบาลผมน่ะ ไม่หนักหรอกครับ ผู้การ ผมพูด อย่าลืมว่าผมเป็นราษฎรเสียภาษี และภาษีที่ผมเสียไปนั้น ส่วนหนึ่งเขาเอาไปใช้เป็นเงินเดือนของผู้การ จะว่าผมเป็นนายจ้างผู้การก็ไม่ผิดนัก ดนัย คุณพี่เรียกออกมา ไอ้หนูพูดจาหลักแหลม ผู้การว่า อั๊วเป็นลูกจ้างลื้อก็จริง แต่ทว่า... เขาพูดลากเสียงช้า ๆ เป็นลูกจ้างชนิดที่อาจเตะนายจ้างได้ ยิ่งนายจ้างตัวเท่าลูกหมาอย่างลื้อนี่ ทีเดียวก็ชัก ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า คุณพิทักษ์ คุณพี่หันไปเรียกผู้การคนนั้น ลองดูเป็นไงครับ ผมพูดยิ้ม ๆ ผู้การลุกพรวดขึ้นมาจากเก้าอี้นั่ง เขาทำท่าปรี่เข้ามาหาผม แล้วหยุดอยู่ตรงหน้า ผมต้องแหงนหน้าขึ้นมองเพื่อที่จะสบสายตาเขาถนัด ถ้าเขาเหวี่ยงอะไรมาจริง ๆ ก็คงแย่เหมือนกัน แต่เขาหยุดแล้วหัวเราะ และพูดว่า ไอ้หมอนี่ไม่กลัวแข้ง มันแน่ ยืนนิ่งไม่ขยับถอย ไม่ปิดป้องเสียด้วย ไปได้ ไปให้พ้น เขาโบกมือไล่ ผมยืนนิ่ง ไม่ขยับ ออกไปได้แล้ว ดนัย เสียงคุณพี่พูด ตอนนี้ยังไม่มีอะไร ผมหันไปมองดูคุณนาย หันไปมองผู้การคนนั้น แล้วจึงหันหลังเดินออกมา ผมออกมาข้างนอกห้อง กัณหาไม่ได้สบตาผม หล่อนคงได้ยินเสียงที่พูดกันในห้องเมื่อกี้เหมือนกัน ผมดูนาฬิกาเห็นอีกไม่กี่นาทีจะเที่ยง นึกถึงเวลาอาหาร คิดว่าจะไปหาอาหารกินจะดีกว่า เสียงผู้การคนนั้นยังหัวเราะลั่นอยู่ในห้อง ไม่รู้แกช่างขำอะไรของแกเสียจริง ๆ นึกถึงอาหารและได้ยินสียงผู้การตำรวจปากเสียคนนั้น ผมก็เดินลงบันไดไป ลงมาถึงข้างล่าง ผมกวาดสายตาไปทั้งสองฟากถนน ผมไม่ต้องเสียเวลาส่ายตาหามากมายอะไร เพราะรถอย่างนั้นจะต้องจอดในที่จอดที่ไม่มีใครกล้าจอด คนขับอยู่ในเครื่องแบบตำรวจ เขานั่งเอาแขนข้างซ้ายพาดออกมากับขอบกระจกที่เลื่อนลง ผมจึงเห็นบั้งสิบโทของเขาได้ชัดเจน รถคันนั้นเป็นรถเก๋งสีดำขนาดกลาง ผมเดินเข้าไปที่รถคันนั้น สิบตำรวจโทผู้นั้นกำลังเพลินกับหนังสือพิมพ์ที่เขากางอ่านอยู่ ผมเข้าไปแตะที่แขนเบา ๆ เขาละสายตาจากหนังสือพิมพ์ขึ้นมามองอย่างแปลกใจ รถผู้การพิทักษ์ใช่ไหมครับ ผมถาม ใช่ เขาตอบห้วนแบบตำรวจ ผมล้วงเอาใบละยี่สิบที่มีอยู่ใบเดียวออกมาส่งให้เขา และพูดว่า ผู้การให้คุณไปหาอาหารรับประทานได้ และไม่ต้องกลับมารับท่าน ให้เลยไปคอยที่กองเลย ท่านจะรับอาหารกับคุณนาย แล้วจะไปที่กองเอง สิบโทผู้นั้นรับเงินไปจากมือผม แล้วก็ปิดหนังสือพิมพ์ วางไว้บนเบาะข้างตัว สตาร์ทเครื่องยนต์ เผ่นผึงออกไปโดยไม่รั้งรอสอบถามอะไร ผมยืนดูจนรถคันนั้นเลี้ยวทางแยกไปแล้ว จึงเดินกลับขึ้นมาบนสำนักงาน ทนหิวเอา
Create Date : 21 พฤษภาคม 2553 |
Last Update : 21 พฤษภาคม 2553 23:56:03 น. |
|
3 comments
|
Counter : 947 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ก้นกะลา วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:3:44:09 น. |
|
|
|
โดย: วันนี้ไม่อยากบอกชื่อ IP: 114.128.43.237 วันที่: 22 พฤษภาคม 2553 เวลา:18:42:13 น. |
|
|
|
| |
|
|
มีเรื่องใหม่ให้อ่านแล้ว หลังจากที่รอมาหลายวัน..
ขอบคุณมากๆ..