|
ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" (ตอนที่ 45)
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 45
หน่วยสืบราชการลับในไทย สมัยนั้น อเมริกันมาตั้งหน่วยสืบราชการลับของเขาอยู่ในเมืองไทยอย่างเงียบ ๆ เขามาหาข่าวของเขาอันเกี่ยวกับผลประโยชน์ของเขาในภาคนี้ อเมริกันไม่มีเมืองขึ้นอยู่แถวนี้แล้วก็จริง ในสมัยหลังสงคราม แต่เขามีผลประโยชน์บางอย่างอยู่แถบนี้ รัสเซียมีอำนาจมากขึ้นในด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าคุมเขมร เวียดนาม และลาว อยู่อย่างเต็มมือ รัสเซียไม่คำนึงถึงข้อตกลงอะไรทั้งสิ้นในที่ประชุมสหประชาชาติ อยากจะทำอะไรก็ทำ ในอันที่จะเป็นผลประโยชน์ของตัว ผิดกับฝ่ายตะวันตกและค่ายประชาธิปไตยทั้งหลาย ที่ยังเคารพต่อมติสหประชาชาติอย่างแน่นแฟ้น ต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเรื่อยไป เขาไม่ได้นึกถึงคำพังเพยที่ว่าไว้ว่า สงคราม การเมือง ความรัก ไม่มีคำว่า สุภาพบุรุษ เอาความไปฟ้องสหประชาชาติ หรือทุกประเทศประณามกันไปซิ ประณามกันได้ ก็ประณามกันไป ฉันเฉยลูกเดียว เดินหน้าเข้ายึดครองประเทศเล็กประเทศน้อย สร้างฐานทางการเมืองของฉันเรื่อย ๆ ไป ก็ไม่เห็นมีใครจะทำอะไรได้ อเมริกันเข้ามาตั้งหน่วยสืบราชการลับอย่างนี้อยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะในกรุงเทพ ฯ สมัยนั้นก็มีอยู่หน้าสนามกีฬาแห่งชาติ เขาตั้งบริษัทการค้าขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือเมืองไทยในทางเศรษฐกิจและการค้า หลักการของบริษัทนี้เขียนไว้อย่างนั้น บริษัทนี้ชื่อว่า ซีซัปพลาย ภาษาอังกฤษเขียนว่า SEA Supply แปลว่า ช่วยเหลือประเทศทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ คำว่า SEA ย่อมาจาก Southeast Asia แปลว่า ตะวันออกเฉียงใต้
บริษัทนี้ นอกจากจะมีสินค้าต่าง ๆ แล้ว ยังมีเครื่องมือจารกรรมอยู่ครบถ้วนที่สามารถจะหาข่าวในทางการเมืองและการทหารของฝ่ายรัสเซียได้ หน่วยนี้ขึ้นตรงกับสถานทูตอเมริกันในประเทศไทย ผมรู้ถึงงานอันนี้ของเขา แต่ผมไม่ได้โวยวายอะไรให้ใครรู้ ทั้ง ๆ ที่เป็นหน้าที่ของผมโดยตรง ผมอยากจะดูว่า อเมริกันจะเล่นอะไรต่อ
ผมมีแผนงานของผม และมีคนที่มีประสิทธิภาพพอที่จะเอาความรู้ของอเมริกันออกมาให้ผมได้ วันหนึ่ง อุปทูตรัสเซียขอเข้าพบผมที่ทำงานของผม ผมให้เขาเข้าพบ อุปทูตคนนี้พูดไทยคล่อง ไม่ต้องใช้ล่ามแปล พอ เข้ามานั่งลงตรงหน้าผม เขาก็ถามทันทีว่า สันติบาลไปวางเครื่องดักฟังโทรศัพท์ของเขาหรือเปล่า นั่นเป็นการถามลองเชิงของนักสืบด้วยกัน เขาเพียงแต่ต้องการมาบอกผมเท่านั้นว่า เวลานี้เขารู้แล้วว่า โทรศัพท์ที่สถานทูตของเขาโดนแอบดักฟัง และเขารู้ว่าเป็นฝีมือใคร ที่ไม่ใช่ฝ่ายไทย ผมทำเซ่อ บอกว่า เดี๋ยวจะให้นายตำรวจของผมไปดู ผมก็ส่งนายตำรวจ หัวหน้าหน่วยงานของผมชื่อ ร้อยตำรวจโท สัจจา จันทนะเสวี ไปกับอุปทูตคนนั้น ให้ไปถ่ายรูปมาว่า เขาเกาะสายโทรศัพท์ยังไง คุณสัจจากลับมาพร้อมกับรูปถ่ายและอุปทูตผู้มาแจ้งเหตุคนนั้น ผมดูรูปถ่ายแล้วก็เห็นว่าเป็นการดักฟังโทรศัพท์อย่างอ่อนปัญญาที่สุด ผู้ที่ทำงานนี้ใช้สายโทรศัพท์สอดเข้าไปในท่อน้ำ แล้วต่อท่อน้ำนั้นเลื้อยขึ้นไปตามเสาไฟฟ้า ขึ้นไปเกาะกับสายโทรศัพท์ที่เดินเข้าไปในสถานทูตรัสเชียเอาดื้อ ๆ ไม่มีการดัดแปลงให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม เป็นวิธีการของคนอ่อนปัญญาในงานประเภทนี้ ผมมองดูรูปแล้วมองหน้าอุปทูตคนนั้น ส่งรูปให้เขาดู คุณคงไม่คิดว่า มือขนาดผมจะทำอย่างนี้ นี่มันเป็นเรื่องของเด็กเล่นขายของ เขาหัวเราะ ถามออกมาว่า คุณคิดว่า จะเป็นใคร ผมรู้ดีว่า คุณก็รู้ว่าเป็นใคร ผมตอบเขาไป ที่คุณมาหาผมนี่ก็เพื่อที่จะฟ้องผมใช่ไหม ว่าคุณถูกดักฟังโทรศัพท์ โดยฝีมือของใครที่คุณรู้อยู่เต็มอกแล้วพวกนั้น เขาหัวเราะ ลุกขึ้นยกมือไหว้คารวะแบบไทยอย่างไม่เคอะเขิน นี่แหละมือชั้นเยี่ยมของหน่วยจารกรรมของรัสเซียละ เขาบอกลาผมทันทีด้วยไหว้นั้น ผมยกหูโทรศัพท์ต่อไปที่หน่วยงานของผม ให้เขาต่อโทรศัพท์เรียกหัวหน้าหน่วยงานในสถานทูตอเมริกันมาพบผมเดี๋ยวนี้ ผมรออยู่เพียงครึ่งชั่วโมง อเมริกันคนหนึ่งก็มาพบผมที่ห้องทำงาน ผมยังไม่รู้จักว่าเขาชื่ออะไร เขาวางนามบัตรให้ผมดู เมื่อได้รับอนุญาตให้เขาเข้ามา นามบัตรนั้นพิมพ์ชื่อไว้ว่า
มิสเตอร์ เปอร์รี่ ฟิลลิปส์ เจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกัน กรุงเทพ ฯ เขาถามผมว่า เรียกเขามาทำไม ผมเชิญเขานั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน แล้วส่งรูปถ่ายที่ถ่ายมาได้นั้นให้เขาดู เขารับมันไปดู พิจารณาอยู่นาน แล้วเงยหน้าขึ้นถามผมว่า ให้เขาดูรูปนี้ทำไม นั่นเป็นรูปถ่ายของการดักฟังโทรศัพท์ที่แย่มาก ผมตอบเขา เมื่อกี้นี้ อุปทูตรัสเซียมาพบผม เขามาแจ้งว่า เขาถูกดักฟังโทรศัพท์ โดยมีคนใช้สายโทรศัพท์ไต่ขึ้นไปเกาะสายโทรศัพท์ของเขาอย่างดื้อ ๆ ยังงั้น คุณดูรูปนั่นซิ เขาพิจารณาดูรูปนั้นอีกนาน จนผมต้องชี้ให้เขาดูว่า สายมันเดินมาจากทางไหน และไต่ขึ้นไปเกาะสายโทรศัพท์ของสถานทูตรัสเชียตรงไหน เขามองตามที่ผมชี้ แล้วเงยหน้ามองผมเป็นการตั้งคำถาม พวกคุณไปทำอย่างนี้ไว้หรือเปล่า ผมถามแทนคำตอบ เขาสั่นหน้าช้า ๆ ผมไม่ทราบว่าใครทำ ถ้ายังงั้น ผมก็จะสืบให้ได้ว่าใครทำ ผมพูด มองหน้าเขา ใครก็ตาม จะมาทำอย่างนี้ในบ้านเมืองผมโดยผมไม่รู้ไม่ได้ และผมคิดว่า เรื่องนี้สืบไม่ยาก และผมจะได้บอกให้ทางสถานทูตรัสเชียเขาทราบ เดี๋ยวเขาจะหาว่าทางผมทำ และทำด้วยฝีมืออ่อนหัดอย่างนี้ เขาทำท่ากระสับกระส่าย แล้วพูดว่า เดี๋ยวก่อน ขอผมสอบถามก่อน ผมชี้ไปที่เครื่องโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของผมเครื่องหนึ่งในหลายเครื่องที่วางอยู่ โทร ฯ ไปถามเดี๋ยวนี้เลยก็ได้ เขาลุกขึ้น ผมออกไปโทร ฯ ข้างนอกดีกว่า โปรดรอสักครู่ ไม่เกินสิบนาที เขาเดินออกจากห้องไป ผมรู้ดีว่า เขาไม่กล้าโทร ฯ เครื่องในห้อง และต่อหน้าผมหรอก เขาจะต้องออกไปโทร ฯ ของเขาเอง ผมนั่งเซ็นงานของผมอยู่ครู่ใหญ่ เขาก็กลับมา นั่งลงพูดกับผมด้วยเสียงที่ไม่มีความเย่อหยิ่งอย่างตอนแรก โปรดหยุดการสืบสวนของคุณไว้ก่อน และโปรดส่งคนไปช่วยรื้อถอนอะไรต่ออะไรที่นั่นให้ด้วย ขอบคุณมากครับที่เอาใจใส่กับเรา นั่นเป็นการยอมรับในตัว ผมพูดกับเขาว่า
ทีหลัง ถ้าคุณจะทำอะไรอย่างนี้อีก ก็โปรดมาปรึกษาผมก่อน มันเป็นหน้าที่ของผมที่จะดูแลไม่ให้มีการละเมิดสิทธิ ไม่ว่าของใคร ในบ้านเมืองของผม คราวนี้ผมจะไม่ต่อเรื่องให้ยาวไปกว่านี้อีก ขอบคุณมากครับ เขายื่นมือมาให้ผมสัมผัส เราจะทำตามคำสั่งของคุณ ผมยื่นมือออกไปสัมผัสกับเขา เป็นการรับการลากลับ ผมเรียกคุณสัจจามา สั่งให้เอาคนของเราไปรื้อถอนพวกเหล่านั้นออก แล้วเอามาเก็บไว้ที่ห้องสัมภาระของเรา
ผมพอใจที่ได้สั่งสอนไอ้กันด้วยวิธีเหมือนกับตบหน้ามันเบา ๆ อย่างนี้ พวกนี้เขาคิดว่าเราโง่กว่าเขาเสมอ ไม่ว่าในกิจการใด และมันกชอบอะไรรุ่มร่ามอย่างนี้บ่อย ๆ ในพื้นที่อื่นที่มันคิดว่า เจ้าของพื้นที่นั่นโง่กว่า ตกบ่าย ผมก็ถูกเจ้านายเรียกเข้าพบ เฮ้ย ไอ้กันมันมาหากู มันว่ามันอยากจะร่วมทำงานด้านสืบสวนกับมึง ท่านว่า เมื่อนั่งคุยกันเรียบร้อย แล้วท่านตอบมันไปยังไงครับ ผมถาม กูว่า กูจะถามมึงก่อน ผมนึกในใจว่า ก็ยังดีที่คิดจะถามผมก่อน ไม่ยักตอบตกลงมันไปทันที เหมือนผู้ใหญ่บางคน ที่ผมว่ายังงั้นก็เพราะผมเคยพบเคยเห็นผู้ใหญ่ที่คุมกิจการสำคัญบางคน เวลาพูดกับฝรั่ง โดยเฉพาะกับไอ้พวกที่คอยหาโอกาสเอาเปรียบ มักจะ เยส-เยส กับมัน ทั้งๆ ที่ฟังมันไม่รู้เรื่องว่ามันพูดว่าอะไร ภาษาฝรั่งไม่กระดิกหู ก็เยสเข้าไว้ก่อน เอาไว้ถามล่ามทีหลัง ไอ้หรั่งก็นึกว่าฟังออกและตอบตกลงเรียบร้อย มันก็เดินงานของมัน ทั้ง ๆ ที่มันมีแต่ทางได้เปรียบ
เรื่องอย่างนี้มีบ่อย ๆ ครับ ผมได้ยินมากับหูหลายครั้ง แต่มันไม่ใช่เรื่องของผมที่จะไปค้านเขา ผมก็นิ่งไว้ เจ้านายของผมไม่เป็นคนอย่างนั้น ยังเรียกมาถาม ก่อนที่จะตอบมัน ผมก็เล่าเรื่องที่มันไปดักฟังโทรศัพท์รัสเซียโดยไม่บอกให้เรารู้ ให้ท่านทราบ และผมได้ทำยังไงกับมันในวันนั้น นี่มันกลับแอบมาพบท่าน คงจะเพื่อให้ เยส กับมัน เหมือนคนอื่น จะได้ใช้อำนาจของท่านมาบังคับผมเอาตามสบายของมัน ผมว่า ท่านให้มันมาพบผมที่ทำงานดีกว่าครับ ผมตอบท่านไป ผมจะได้พูดจากับมันให้รู้เรื่องจะดีกว่า เออ ก็ดี ถ้างั้น กูจะให้เขาบอก ให้มันไปพบมึง ท่านเห็นด้วย คุณดูพวกไอ้กันมันก็แล้วกัน มันคิดว่าเราเป็นยังไง มันจะหาทางบีบบังคับเราอย่างง่าย ๆ โดยใช้คำสั่งของนายมันทำอย่างนี้มาหลายแห่งแล้ว ถึงได้มาตั้งหน่วยสืบงานลับได้ง่าย ๆ อย่างบริษัทซีซัปพลายที่หน้าสนามกีฬาตอนนั้น ไม่ใครก็ใครคนหนึ่งต้องไปเยสกับมันไว้ ทั้ง ๆ ที่ฟังมันพูดไม่รู้เรื่อง ผมคิดเอาเองละผมว่ามันน่าจะใช่ ไอ้กันไม่ได้มาพบกับผมอีกเลย ผมก็คิดว่ามันคงจะไม่กล้ามาพบ หลังจากที่โดนตอกหน้าไปวันนั้น ขนาดเบา ๆ งานดักฟังโทรศัพท์ของผมนั้น ผมก็ทำอยู่ตอนนั้น และทำอย่างไม่มีใครจับได้ ผมเอาวิธีที่ผมเรียนรู้มาจากอังกฤษมาใช้ ผมมีเครื่องมือสำหรับใช้ในการนี้พอที่จะทำงานอย่างนี้ได้อย่างได้ผล เวลาที่โทรศัพท์ของฝ่ายที่ผมต้องการดักฟังดังขึ้น ผมต้องรู้และได้ฟังการพูดจาระหว่างเขาได้เหมือนเครื่องของคนทั้งสองฝ่ายมี่พูดกันนั้น อยู่ในห้องผม ทำยังไงหรือครับ ... ขอโทษ บอกไม่ได้ มันเป็นวิชาการที่ต้องหวงห้าม และทางหน่วยสืบสวนสมัยนี้เขาอาจจะใช้กันอยู่ก็ได้ เพราะมันเป็นวิชาการที่ไม่ล้ำลึกอะไรนัก ถ้าได้ศึกษาอย่างลึกซึ้งก็ทำได้ โดยเฉพาะสำหรับนักเลงที่ทำงานด้านนี้มาอย่างโชกโชน ไอ้กันหายไป มันไม่หายไปอย่างยอมแพ้ มันเดินเรื่องของมันต่อไปอีก วันหนึ่ง ผมมาที่ทำงาน แล้วเดินหลบคนอื่นไปทางด้านหลังตึก เพราะไม่อยากพบคนที่มาคอยดักพบ ผมขึ้นบันไดหลัง เดินผ่านห้องทำงานของกองกำกับการ 3 ของผม ผมหันไปมองทางห้องนั้น จากบันไดทางขึ้นที่กำลังเดินขึ้นไป ผมก็เห็นฝรั่งหัวแดงคนหนึ่งนั่งอยู่ในห้องทำงานนั้น ผมหยุดมองดูก็เห็นว่าเป็นฝรั่งจริง ๆ
ลักษณะที่เขานั่งอยู่ ไม่ใช่ลักษณะของคนมาพบใครในห้องนั้น เขามีโต๊ะทำงานของเขาเอง และกำลังนั่งขีดเขียนอะไรอยู่คนเดียวง่วนอยู่
ผมเดินขึ้นห้องทำงานของผม เรียกผู้กำกับกอง 3 ขึ้นมาพบ ผมถามผู้กำกับการกอง 3 เมื่อเขาขึ้นมาพบผม ว่าใครให้ไอ้ฝรั่งนั่นมานั่งทำงานในห้องนั้น และมันมาจากไหน ผู้กำกับการกอง 3 บอกผมว่า ไอ้หรั่งนั่นเป็นอเมริกัน มาจากหน่วยสืบสวนงานลับของอเมริกัน มันเพิ่งมานั่งเมื่อวานนี้
ผมถามว่าใครให้มันเข้ามานั่ง เขาบอกว่าผู้บังคับการอนุญาตให้มันเข้าไปนั่งในห้องนั้น ผมสั่งเขาว่า ให้มันออกไปเดี๋ยวนี้ เขากลับลงไป สักครู่ตัวไอ้กันคนนั้นก็เข้ามาพบผม เขานั่งลงตรงเก้าอี้ตรงหน้าผม โดยไม่ต้องเชิญ ส่งภาษาทันที ยูสั่งให้ไอออกจากห้องทำงานข้างล่างหรือ เออ ผมตอบมันไป และออกไปเดี๋ยวนี้ ไอเข้ามาอยู่เพราะผู้บังคับการที่นี่อนุญาตนะ มันเถียง ผู้บังคับการอนุญาตให้เข้า ไอสั่งให้ออกไป ผมตวาดใส่มัน และยูต้องขนของออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่ยังงั้น ไอจะให้ตำรวจของไอ ไปเอาของยูโยนออกไปเอง - ไปได้ ผมไล่มัน
มันเดินออกไปจากห้องอย่างยโส ผลักบังตาออกไปแรง ๆ ครู่เดียว ท่านผู้บังคับการของผมก็เดินเข้ามาในห้อง ท่านเป็นนายตำรวจรุ่นพี่ของผมสามรุ่น ตอนที่ท่านเดินออกจากประตูโรงเรียนนายร้อยทหารบกนั้น ผมเดินเข้า เรียกว่าสวนกันที่หน้าประตูโรงเรียน คุณสั่งให้ไอ้หรั่งมันออกไปจากที่นี้หรือ คุณพุฒ ครับ ผมสั่งเอง
ทำไมล่ะ ท่านทำหน้าไม่ดีเอากับผม ผู้การก็เคยไปศึกษาเรื่องนี้มาจากอังกฤษ ผมว่า มันเคยให้ท่านเข้าไปในที่ทำงานราชการลับของมันไหมครับ แต่นี่ ท่านอธิบดีสั่งมานะ คุณ ผู้บังคับการตอบ ท่านเรียกผมไปสั่งเอง ให้อนุญาตให้มันเข้ามานั่งในกอง 3 เผื่อว่ามีอะไรเร่งด่วน จะได้ติดต่อมันได้ทันการ ไม่มีที่ไหนในโลกนี้หรอกครับ ที่เขาอนุญาตให้คนต่างชาติเข้าไปนั่งในห้องทำงานของหน่วยราชการลับของเขา ผมว่าไป ผมให้มันออกไปจากที่นี่ เพราะมันผิดหลักการ ท่านอธิบดีสั่งเข้า ผมสั่งออกเอง เพราะที่นี่มีแต่ผู้การกับผมที่รับผิดชอบ ผมต้องขอขัดคำสั่ง ผมรับผิดชอบเอง ตามใจคุณ ท่านผู้บังคับการของผมพูดแค่นั้นก็ออกไปจากห้อง ตกบ่ายวันนั้น ผมก็ถูกเรียกให้เข้าไปพบท่านอธิบดีที่วังปารุสกวันทันทีที่ได้รับโทรศัพท์ ผมไปถึงวังปารุสกวัน ไอ้หรั่ง หัวหน้าหน่วยซีซัปพลาย นั่งอยู่กับท่านแล้วที่เก้าอี้รับแขกในห้องทำงานของท่าน
ผมเดินเข้าไปโค้ง ไม่ทันจะนั่ง เฮ้ย มึงไล่มันออกจากสันติบาลทำไม มึง เสียงตวาดแว้ดออกมาจากท่านอธิบดีทันที มึงเก่งกว่าฝรั่งมากนักเหรอวะ ผมนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้า ตรงข้ามไอ้กันหัวหน้าหน่วยคนนั้น มันมองผมอย่างเย้ย ๆ ถ้าเป็นที่อเมริกา มันคงเก่งกว่าผม แต่ในเมืองไทย ผมต้องเก่งกว่ามันครับ ผมพูด จ้องตานาย ไม่กลัว เดี๋ยวผมจะพูดกับมันต่อหน้าท่าน ท่านให้ใครไปเรียกคุณสิทธิมาเป็นล่ามหน่อยซีครับ ผมจะพูดกับมัน แล้วให้คุณสิทธิแปลให้ท่านฟัง คำต่อคำ แล้วท่านจะทราบว่าอะไรเป็นอะไร คุณสิทธิ ในที่นี้ก็คือ นาวาอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา หัวหน้ากองในกรมประมวล ฯ ตอนนั้น ที่ทำงานของกองนี้อยู่ที่ตึกติด ๆ กันกับวังปารุสกวันนั่นเอง ทางด้านถนนราชดำเนิน
รออยู่เดี๋ยวเดียว คุณสิทธิ ล่ามบรรดาศักดิ์ก็เข้ามานั่งลงข้าง ๆ ผม เขาหันมองไปมา ไม่รู้ว่าเรียกเขามาทำไม ผมเลือกคุณสิทธิเป็นล่ามก็เพราะ เขาเป็นนักเรียนอเมริกา แปลความให้ไอ้กันฟังคงจะซาบซึ้งดีกว่าคนอื่น ผมเริ่มเรื่องโดยบอกให้คุณสิทธิรู้ว่า ผมจะพูดกับไอ้กันคนนี้ และให้เขาแปลคำพูดระหว่างมันกับผมเป็นภาษาไทยให้ท่านอธิบดีฟัง คำต่อคำ ผมต้องการให้ท่านได้รับรู้อย่างชัดเจนเป็นคำ ๆ เข้าใจแล้ว ผมก็เริ่มพูดกับมัน ลื้อได้รับอนุญาตจากใคร ให้เข้าไปนั่งในห้องทำงานของสันติบาล มันชี้ไปที่ตัวท่าน ยิ้มอย่างเย้ย ๆ นายของยูนี่ไง อั๊วจะส่งคนของอั๊วสักคนไปอเมริกา แล้วให้ไปนั่งในห้องทำงานของ ซี.ไอ.เอ. ของลื้อมั่งได้ไหม ทีนี้มันนิ่ง หาคำตอบไม่ถูก ได้ไหมล่ะ ผมย้ำ ลื้อส่งของลื้อมาคน อั๊วส่งมาคน เป็นการแลกเปลี่ยนข่าวคราวกัน ลื้อส่งมากี่คนก็ได้ แล้วให้อั๊วส่งไปเท่า ๆ กันดีไหม มันนิ่งอีก คงจะควานหาคำตอบอยู่ เพราะมันไม่รู้ตัวว่า จะมาเจอเอาคำถามยังงี้ ผมหันไปทางท่าน เห็นไหมครับ มันไม่ยอมตอบ ไม่มีที่ไหนในโลกนี้หรอกครับ ที่ใครเขาจะอนุญาตให้คนต่างชาติเข้าไปนั่งในห้องหรือสำนักงานสืบงานลับของเขา คนไม่ใช่เครื่องจักร มันเปลี่ยนจิตใจได้ตามกระแสสิ่งแวดล้อม ก็พวกมัน ไอ้กันนี่แหละ ที่หนีเข้าไปรัสเซียมากี่คนแล้ว ไอ้ฝ่ายโน้นก็หนีมาฝ่ายนี้ก็มี แล้วมันก็เอาความลับไปขายอีกฝ่าย หาเงินเข้ากระเป๋า ราคาข่าวนี่มันแพง ไม่มีใครเขาให้คนนอกเข้าไปวุ่นในที่ทำงานของเขาหรอกครับ ทีนี้ท่านอธิบดีนั่งนิ่ง พยักหน้าหงึก ๆ ถามคุณสิทธิเขาดูก็ได้ ผมว่าต่อ เขาก็อยู่ในวงการนี้มานาน เขาทราบดี คุณสิทธิหัวเราะหึ ๆ จริงของคุณพุฒเขาครับท่าน เขาพูดสั้น ๆ แค่นั้น ผมหันไปทางไอ้กัน ทีนี้ลื้อก็เข้าใจแล้วซินะ ว่าทำไมอั๊วถึงไล่คนของลื้อออกไปจากที่ทำงานของอั๊ว ถ้าลื้ออยากได้ข่าวอะไรจากเมืองไทย ลื้ออย่ามาทำอะไรรุ่มร่ามในบ้านเมืองอั๊วอีก ทีนี้อั๊วจะส่งเข้าคุกแน่ ๆ จำได้ไหมล่ะที่คนของลื้อไปดักฟังโทรศัพท์สถานทูตรัสเชียอย่างโง่ ๆ คราวนั้นน่ะ อั๊วเตือนลื้อไปทีแล้ว ยังเอาอีก พวกอั๊วไม่โง่อย่างพวกลื้อหรอก อยากรู้อะไรเอาเครื่องมือมาให้อั๊ว อั๊วจะจัดการให้เอง แล้วลื้อก็มาถามอั๊วว่าอยากจะรู้อะไร อั๊วให้ได้ อั๊วก็จะให้ อะไรที่มันเป็นเรื่องที่ลับยิ่งยวดของอั๊ว ก็เสียใจที่ให้ไม่ได้ พูดกันตรง ๆ อย่างนี้ดีกว่า ถ้ารักจะคบกัน มันนิ่ง หน้าระโหย ไม่พูด สีหน้าเยาะเย้ยของมันสลดลง อั๊วจะเปิดโอกาสให้ลื้อทำงานร่วมกับอั๊วอีกครั้ง เรื่องโทรศัพท์รัสเซีย อั๊วจะให้โอกาสลื้อให้เข้านั่งในห้องทำงานของอั๊ว มีเครื่องโทรศัพท์ให้ฟังเครื่องหนึ่ง โทรศัพท์ของรัสเซียดังเมื่อไหร่ ไอ้เครื่องนั้นก็จะดังด้วย ลื้อเข้าใจหรือยัง มองหน้าผมทีนี้ อย่างไม่เชื่อคำพูด ผมพยักหน้า เน้นคำพูด จะให้ผมไปเมื่อไหร่ มันถาม พรุ่งนี้ก็ได้ แต่เรายังต้องมีข้อตกลงอะไรกันอีก เอาไว้คุณค่อยคุยกับผมเมื่อพบกัน ควรจะเป็นข้อตกลงที่ผมยอมรับได้ มันยังข้องใจ แน่นอน ผมไม่เคยเอาเปรียบใคร ผมตอบมันไปหนักแน่น
ถ้างั้น ผมลาก่อน พรุ่งนี้ผมจะไปพบคุณที่ที่ทำงานของคุณ เก้าโมงเช้าดีไหม ดี ผมตอบแค่นั้น มันก็ลากลับไป ท่าที่หยิ่ง ๆ ของมันไม่เหลืออยู่อีก
มึงจะเล่นอะไรกับมันอีกวะ เจ้านายถามผม ไหนว่าไม่ให้มันเข้าไปยุ่มย่ามในนั้นไง ผมมีเรื่องที่จะทดสอบมัน ให้มันรู้สึกอีกครับ ผมตอบท่าน มันจะได้รู้ว่า เราไม่ได้โง่กว่ามัน และมันนั่นแหละจะไล่เราไม่ทัน
ตามใจมึง เจ้านายพูดออกมา กูไม่ยุ่งกับมึงละ
นี่ไง เจ้านายของผม ก็คงจะไป เยส กับมันมาโดยไม่ปรึกษาผม พอมันขออะไร ฟังไม่รู้เรื่องก็ เยส มันไป
ไอ้พวกนี้มันคอยฉวยโอกาสพูดกับผู้ใหญ่ ๆ ของเราตอนที่กำลังได้ที่ และไม่มีล่ามอยู่แถวนั้น พวกนี้มันคอยหาโอกาสอย่างนี้ทั้งนั้น โดยเฉพาะพวกทำงานลับ ๆ กรรมวิธีของมันลึกซึ้งนักเรื่องนี้ แล้วพวกผู้ใหญ่ของเราหลายท่าน ภาษาอังกฤษกระดิกหูเสียเมื่อไหร่ มีบางคนที่เคยไปเมืองนอกมาก็พอจะฟังรู้ แต่ส่วนมากมักจะต้องมีคนคอยแปลให้ แต่กระนั้น บางครั้งไม่อยากให้เด็กมันรู้ว่าฟังภาษาฝรั่งไม่ออก ก็ทำคุยส่งเดชไป เยส เอาไว้ก่อน ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร
มีแยะครับ ผมไม่ได้เขียนส่งเดช ถามพวกที่มีนายประเภทนี้ดูเอาเองเถอะ เขาคงจะตอบได้
สำหรับเจ้านายของผม ท่านบุรุษเหล็ก ฯ ท่านนี้ ผมยืนยันได้ว่า เรื่องภาษาฝรั่งนั้นแย่มากจริง ๆ ถึงได้ตั้งกองการต่างประเทศขึ้นมาในกรมตำรวจ ก็เพื่อให้มีล่ามในเวลาต้องการ และได้อาศัยหาข่าวคราวทางวิชาการของต่างประเทศได้
ที่กองนี้ ไม่ใช่จะมีแต่เจ้าหน้าที่ทางอังกฤษ ฝ่ายฝรั่งเศส เยอรมันก็มี รวมทั้งภาษาจีน ญี่ปุ่น และภาษาต่างประเทศทางด้านเอเชียอีกหลายภาษาด้วย เรียกว่า มีครบทุกภาษาที่เกี่ยวพันกับงานรอบตัวของกรมตำรวจ เจ้าหน้าที่ในกองนี้มีหลายคน
Create Date : 19 มีนาคม 2553 |
Last Update : 19 มีนาคม 2553 3:14:39 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1321 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ก้นกะลา วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:5:31:06 น. |
|
|
|
โดย: ศรชัย IP: 114.128.211.125 วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:7:53:23 น. |
|
|
|
โดย: chadapha วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:12:58:14 น. |
|
|
|
| |
|
|