จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
19 มีนาคม 2553
 
All Blogs
 
ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" (ตอนที่ 45)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 45

หน่วยสืบราชการลับในไทย

สมัยนั้น อเมริกันมาตั้งหน่วยสืบราชการลับของเขาอยู่ในเมืองไทยอย่างเงียบ ๆ เขามาหาข่าวของเขาอันเกี่ยวกับผลประโยชน์ของเขาในภาคนี้

อเมริกันไม่มีเมืองขึ้นอยู่แถวนี้แล้วก็จริง ในสมัยหลังสงคราม แต่เขามีผลประโยชน์บางอย่างอยู่แถบนี้

รัสเซียมีอำนาจมากขึ้นในด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เข้าคุมเขมร เวียดนาม และลาว อยู่อย่างเต็มมือ รัสเซียไม่คำนึงถึงข้อตกลงอะไรทั้งสิ้นในที่ประชุมสหประชาชาติ อยากจะทำอะไรก็ทำ ในอันที่จะเป็นผลประโยชน์ของตัว ผิดกับฝ่ายตะวันตกและค่ายประชาธิปไตยทั้งหลาย ที่ยังเคารพต่อมติสหประชาชาติอย่างแน่นแฟ้น ต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเรื่อยไป

เขาไม่ได้นึกถึงคำพังเพยที่ว่าไว้ว่า
“ สงคราม การเมือง ความรัก ไม่มีคำว่า สุภาพบุรุษ ”

เอาความไปฟ้องสหประชาชาติ หรือทุกประเทศประณามกันไปซิ ประณามกันได้ ก็ประณามกันไป ฉันเฉยลูกเดียว เดินหน้าเข้ายึดครองประเทศเล็กประเทศน้อย สร้างฐานทางการเมืองของฉันเรื่อย ๆ ไป ก็ไม่เห็นมีใครจะทำอะไรได้

อเมริกันเข้ามาตั้งหน่วยสืบราชการลับอย่างนี้อยู่หลายแห่ง โดยเฉพาะในกรุงเทพ ฯ สมัยนั้นก็มีอยู่หน้าสนามกีฬาแห่งชาติ เขาตั้งบริษัทการค้าขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือเมืองไทยในทางเศรษฐกิจและการค้า หลักการของบริษัทนี้เขียนไว้อย่างนั้น บริษัทนี้ชื่อว่า “ ซีซัปพลาย ” ภาษาอังกฤษเขียนว่า “ SEA Supply ” แปลว่า ช่วยเหลือประเทศทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ คำว่า SEA ย่อมาจาก Southeast Asia แปลว่า ตะวันออกเฉียงใต้

บริษัทนี้ นอกจากจะมีสินค้าต่าง ๆ แล้ว ยังมีเครื่องมือจารกรรมอยู่ครบถ้วนที่สามารถจะหาข่าวในทางการเมืองและการทหารของฝ่ายรัสเซียได้ หน่วยนี้ขึ้นตรงกับสถานทูตอเมริกันในประเทศไทย

ผมรู้ถึงงานอันนี้ของเขา แต่ผมไม่ได้โวยวายอะไรให้ใครรู้ ทั้ง ๆ ที่เป็นหน้าที่ของผมโดยตรง ผมอยากจะดูว่า อเมริกันจะเล่นอะไรต่อ

ผมมีแผนงานของผม และมีคนที่มีประสิทธิภาพพอที่จะเอาความรู้ของอเมริกันออกมาให้ผมได้

วันหนึ่ง อุปทูตรัสเซียขอเข้าพบผมที่ทำงานของผม ผมให้เขาเข้าพบ อุปทูตคนนี้พูดไทยคล่อง ไม่ต้องใช้ล่ามแปล พอ เข้ามานั่งลงตรงหน้าผม เขาก็ถามทันทีว่า

“ สันติบาลไปวางเครื่องดักฟังโทรศัพท์ของเขาหรือเปล่า ”

นั่นเป็นการถามลองเชิงของนักสืบด้วยกัน เขาเพียงแต่ต้องการมาบอกผมเท่านั้นว่า เวลานี้เขารู้แล้วว่า โทรศัพท์ที่สถานทูตของเขาโดนแอบดักฟัง และเขารู้ว่าเป็นฝีมือใคร ที่ไม่ใช่ฝ่ายไทย

ผมทำเซ่อ บอกว่า เดี๋ยวจะให้นายตำรวจของผมไปดู

ผมก็ส่งนายตำรวจ หัวหน้าหน่วยงานของผมชื่อ ร้อยตำรวจโท สัจจา จันทนะเสวี ไปกับอุปทูตคนนั้น ให้ไปถ่ายรูปมาว่า เขาเกาะสายโทรศัพท์ยังไง

คุณสัจจากลับมาพร้อมกับรูปถ่ายและอุปทูตผู้มาแจ้งเหตุคนนั้น ผมดูรูปถ่ายแล้วก็เห็นว่าเป็นการดักฟังโทรศัพท์อย่างอ่อนปัญญาที่สุด ผู้ที่ทำงานนี้ใช้สายโทรศัพท์สอดเข้าไปในท่อน้ำ แล้วต่อท่อน้ำนั้นเลื้อยขึ้นไปตามเสาไฟฟ้า ขึ้นไปเกาะกับสายโทรศัพท์ที่เดินเข้าไปในสถานทูตรัสเชียเอาดื้อ ๆ ไม่มีการดัดแปลงให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม เป็นวิธีการของคนอ่อนปัญญาในงานประเภทนี้

ผมมองดูรูปแล้วมองหน้าอุปทูตคนนั้น ส่งรูปให้เขาดู
“ คุณคงไม่คิดว่า มือขนาดผมจะทำอย่างนี้ นี่มันเป็นเรื่องของเด็กเล่นขายของ ”

เขาหัวเราะ ถามออกมาว่า “ คุณคิดว่า จะเป็นใคร ”

“ ผมรู้ดีว่า คุณก็รู้ว่าเป็นใคร ” ผมตอบเขาไป “ ที่คุณมาหาผมนี่ก็เพื่อที่จะฟ้องผมใช่ไหม ว่าคุณถูกดักฟังโทรศัพท์ โดยฝีมือของใครที่คุณรู้อยู่เต็มอกแล้วพวกนั้น ”

เขาหัวเราะ ลุกขึ้นยกมือไหว้คารวะแบบไทยอย่างไม่เคอะเขิน นี่แหละมือชั้นเยี่ยมของหน่วยจารกรรมของรัสเซียละ เขาบอกลาผมทันทีด้วยไหว้นั้น

ผมยกหูโทรศัพท์ต่อไปที่หน่วยงานของผม ให้เขาต่อโทรศัพท์เรียกหัวหน้าหน่วยงานในสถานทูตอเมริกันมาพบผมเดี๋ยวนี้

ผมรออยู่เพียงครึ่งชั่วโมง อเมริกันคนหนึ่งก็มาพบผมที่ห้องทำงาน ผมยังไม่รู้จักว่าเขาชื่ออะไร เขาวางนามบัตรให้ผมดู เมื่อได้รับอนุญาตให้เขาเข้ามา นามบัตรนั้นพิมพ์ชื่อไว้ว่า

มิสเตอร์ เปอร์รี่ ฟิลลิปส์
เจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกัน กรุงเทพ ฯ

เขาถามผมว่า เรียกเขามาทำไม

ผมเชิญเขานั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน แล้วส่งรูปถ่ายที่ถ่ายมาได้นั้นให้เขาดู

เขารับมันไปดู พิจารณาอยู่นาน แล้วเงยหน้าขึ้นถามผมว่า ให้เขาดูรูปนี้ทำไม

“ นั่นเป็นรูปถ่ายของการดักฟังโทรศัพท์ที่แย่มาก ” ผมตอบเขา
“ เมื่อกี้นี้ อุปทูตรัสเซียมาพบผม เขามาแจ้งว่า เขาถูกดักฟังโทรศัพท์ โดยมีคนใช้สายโทรศัพท์ไต่ขึ้นไปเกาะสายโทรศัพท์ของเขาอย่างดื้อ ๆ ยังงั้น คุณดูรูปนั่นซิ ”

เขาพิจารณาดูรูปนั้นอีกนาน จนผมต้องชี้ให้เขาดูว่า สายมันเดินมาจากทางไหน และไต่ขึ้นไปเกาะสายโทรศัพท์ของสถานทูตรัสเชียตรงไหน เขามองตามที่ผมชี้ แล้วเงยหน้ามองผมเป็นการตั้งคำถาม

“ พวกคุณไปทำอย่างนี้ไว้หรือเปล่า ” ผมถามแทนคำตอบ

เขาสั่นหน้าช้า ๆ “ ผมไม่ทราบว่าใครทำ ”

“ ถ้ายังงั้น ผมก็จะสืบให้ได้ว่าใครทำ ” ผมพูด มองหน้าเขา “ ใครก็ตาม จะมาทำอย่างนี้ในบ้านเมืองผมโดยผมไม่รู้ไม่ได้ และผมคิดว่า เรื่องนี้สืบไม่ยาก และผมจะได้บอกให้ทางสถานทูตรัสเชียเขาทราบ เดี๋ยวเขาจะหาว่าทางผมทำ และทำด้วยฝีมืออ่อนหัดอย่างนี้ ”

เขาทำท่ากระสับกระส่าย แล้วพูดว่า “ เดี๋ยวก่อน ขอผมสอบถามก่อน ”

ผมชี้ไปที่เครื่องโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของผมเครื่องหนึ่งในหลายเครื่องที่วางอยู่
“ โทร ฯ ไปถามเดี๋ยวนี้เลยก็ได้ ”

เขาลุกขึ้น “ ผมออกไปโทร ฯ ข้างนอกดีกว่า โปรดรอสักครู่ ไม่เกินสิบนาที ” เขาเดินออกจากห้องไป

ผมรู้ดีว่า เขาไม่กล้าโทร ฯ เครื่องในห้อง และต่อหน้าผมหรอก เขาจะต้องออกไปโทร ฯ ของเขาเอง

ผมนั่งเซ็นงานของผมอยู่ครู่ใหญ่ เขาก็กลับมา นั่งลงพูดกับผมด้วยเสียงที่ไม่มีความเย่อหยิ่งอย่างตอนแรก

“ โปรดหยุดการสืบสวนของคุณไว้ก่อน และโปรดส่งคนไปช่วยรื้อถอนอะไรต่ออะไรที่นั่นให้ด้วย ขอบคุณมากครับที่เอาใจใส่กับเรา ”

นั่นเป็นการยอมรับในตัว ผมพูดกับเขาว่า

“ ทีหลัง ถ้าคุณจะทำอะไรอย่างนี้อีก ก็โปรดมาปรึกษาผมก่อน มันเป็นหน้าที่ของผมที่จะดูแลไม่ให้มีการละเมิดสิทธิ ไม่ว่าของใคร ในบ้านเมืองของผม คราวนี้ผมจะไม่ต่อเรื่องให้ยาวไปกว่านี้อีก ”

“ ขอบคุณมากครับ ” เขายื่นมือมาให้ผมสัมผัส “ เราจะทำตามคำสั่งของคุณ ”
ผมยื่นมือออกไปสัมผัสกับเขา เป็นการรับการลากลับ

ผมเรียกคุณสัจจามา สั่งให้เอาคนของเราไปรื้อถอนพวกเหล่านั้นออก แล้วเอามาเก็บไว้ที่ห้องสัมภาระของเรา

ผมพอใจที่ได้สั่งสอนไอ้กันด้วยวิธีเหมือนกับตบหน้ามันเบา ๆ อย่างนี้ พวกนี้เขาคิดว่าเราโง่กว่าเขาเสมอ ไม่ว่าในกิจการใด และมันกชอบอะไรรุ่มร่ามอย่างนี้บ่อย ๆ ในพื้นที่อื่นที่มันคิดว่า เจ้าของพื้นที่นั่นโง่กว่า

ตกบ่าย ผมก็ถูกเจ้านายเรียกเข้าพบ
“ เฮ้ย ไอ้กันมันมาหากู มันว่ามันอยากจะร่วมทำงานด้านสืบสวนกับมึง ” ท่านว่า เมื่อนั่งคุยกันเรียบร้อย

“ แล้วท่านตอบมันไปยังไงครับ ” ผมถาม

“ กูว่า กูจะถามมึงก่อน ”

ผมนึกในใจว่า ก็ยังดีที่คิดจะถามผมก่อน ไม่ยักตอบตกลงมันไปทันที เหมือนผู้ใหญ่บางคน

ที่ผมว่ายังงั้นก็เพราะผมเคยพบเคยเห็นผู้ใหญ่ที่คุมกิจการสำคัญบางคน เวลาพูดกับฝรั่ง โดยเฉพาะกับไอ้พวกที่คอยหาโอกาสเอาเปรียบ มักจะ เยส-เยส กับมัน ทั้งๆ ที่ฟังมันไม่รู้เรื่องว่ามันพูดว่าอะไร ภาษาฝรั่งไม่กระดิกหู ก็เยสเข้าไว้ก่อน เอาไว้ถามล่ามทีหลัง ไอ้หรั่งก็นึกว่าฟังออกและตอบตกลงเรียบร้อย มันก็เดินงานของมัน ทั้ง ๆ ที่มันมีแต่ทางได้เปรียบ

เรื่องอย่างนี้มีบ่อย ๆ ครับ ผมได้ยินมากับหูหลายครั้ง แต่มันไม่ใช่เรื่องของผมที่จะไปค้านเขา ผมก็นิ่งไว้

เจ้านายของผมไม่เป็นคนอย่างนั้น ยังเรียกมาถาม ก่อนที่จะตอบมัน

ผมก็เล่าเรื่องที่มันไปดักฟังโทรศัพท์รัสเซียโดยไม่บอกให้เรารู้ ให้ท่านทราบ และผมได้ทำยังไงกับมันในวันนั้น นี่มันกลับแอบมาพบท่าน คงจะเพื่อให้ “ เยส ” กับมัน เหมือนคนอื่น จะได้ใช้อำนาจของท่านมาบังคับผมเอาตามสบายของมัน

“ ผมว่า ท่านให้มันมาพบผมที่ทำงานดีกว่าครับ ” ผมตอบท่านไป “ ผมจะได้พูดจากับมันให้รู้เรื่องจะดีกว่า ”

“ เออ ก็ดี ถ้างั้น กูจะให้เขาบอก ให้มันไปพบมึง ” ท่านเห็นด้วย

คุณดูพวกไอ้กันมันก็แล้วกัน มันคิดว่าเราเป็นยังไง มันจะหาทางบีบบังคับเราอย่างง่าย ๆ โดยใช้คำสั่งของนายมันทำอย่างนี้มาหลายแห่งแล้ว ถึงได้มาตั้งหน่วยสืบงานลับได้ง่าย ๆ อย่างบริษัทซีซัปพลายที่หน้าสนามกีฬาตอนนั้น ไม่ใครก็ใครคนหนึ่งต้องไปเยสกับมันไว้ ทั้ง ๆ ที่ฟังมันพูดไม่รู้เรื่อง ผมคิดเอาเองละผมว่ามันน่าจะใช่

ไอ้กันไม่ได้มาพบกับผมอีกเลย ผมก็คิดว่ามันคงจะไม่กล้ามาพบ หลังจากที่โดนตอกหน้าไปวันนั้น ขนาดเบา ๆ

งานดักฟังโทรศัพท์ของผมนั้น ผมก็ทำอยู่ตอนนั้น และทำอย่างไม่มีใครจับได้ ผมเอาวิธีที่ผมเรียนรู้มาจากอังกฤษมาใช้ ผมมีเครื่องมือสำหรับใช้ในการนี้พอที่จะทำงานอย่างนี้ได้อย่างได้ผล เวลาที่โทรศัพท์ของฝ่ายที่ผมต้องการดักฟังดังขึ้น ผมต้องรู้และได้ฟังการพูดจาระหว่างเขาได้เหมือนเครื่องของคนทั้งสองฝ่ายมี่พูดกันนั้น อยู่ในห้องผม

ทำยังไงหรือครับ ... ขอโทษ บอกไม่ได้ มันเป็นวิชาการที่ต้องหวงห้าม และทางหน่วยสืบสวนสมัยนี้เขาอาจจะใช้กันอยู่ก็ได้ เพราะมันเป็นวิชาการที่ไม่ล้ำลึกอะไรนัก ถ้าได้ศึกษาอย่างลึกซึ้งก็ทำได้ โดยเฉพาะสำหรับนักเลงที่ทำงานด้านนี้มาอย่างโชกโชน

ไอ้กันหายไป มันไม่หายไปอย่างยอมแพ้ มันเดินเรื่องของมันต่อไปอีก

วันหนึ่ง ผมมาที่ทำงาน แล้วเดินหลบคนอื่นไปทางด้านหลังตึก เพราะไม่อยากพบคนที่มาคอยดักพบ ผมขึ้นบันไดหลัง เดินผ่านห้องทำงานของกองกำกับการ 3 ของผม ผมหันไปมองทางห้องนั้น จากบันไดทางขึ้นที่กำลังเดินขึ้นไป ผมก็เห็นฝรั่งหัวแดงคนหนึ่งนั่งอยู่ในห้องทำงานนั้น ผมหยุดมองดูก็เห็นว่าเป็นฝรั่งจริง ๆ

ลักษณะที่เขานั่งอยู่ ไม่ใช่ลักษณะของคนมาพบใครในห้องนั้น เขามีโต๊ะทำงานของเขาเอง และกำลังนั่งขีดเขียนอะไรอยู่คนเดียวง่วนอยู่

ผมเดินขึ้นห้องทำงานของผม เรียกผู้กำกับกอง 3 ขึ้นมาพบ
ผมถามผู้กำกับการกอง 3 เมื่อเขาขึ้นมาพบผม ว่าใครให้ไอ้ฝรั่งนั่นมานั่งทำงานในห้องนั้น และมันมาจากไหน

ผู้กำกับการกอง 3 บอกผมว่า ไอ้หรั่งนั่นเป็นอเมริกัน มาจากหน่วยสืบสวนงานลับของอเมริกัน มันเพิ่งมานั่งเมื่อวานนี้

ผมถามว่าใครให้มันเข้ามานั่ง เขาบอกว่าผู้บังคับการอนุญาตให้มันเข้าไปนั่งในห้องนั้น

ผมสั่งเขาว่า “ ให้มันออกไปเดี๋ยวนี้ ”

เขากลับลงไป สักครู่ตัวไอ้กันคนนั้นก็เข้ามาพบผม

เขานั่งลงตรงเก้าอี้ตรงหน้าผม โดยไม่ต้องเชิญ ส่งภาษาทันที
“ ยูสั่งให้ไอออกจากห้องทำงานข้างล่างหรือ ”

“ เออ ” ผมตอบมันไป “ และออกไปเดี๋ยวนี้ ”

“ ไอเข้ามาอยู่เพราะผู้บังคับการที่นี่อนุญาตนะ ” มันเถียง

“ ผู้บังคับการอนุญาตให้เข้า ไอสั่งให้ออกไป ” ผมตวาดใส่มัน “ และยูต้องขนของออกไปเดี๋ยวนี้ ไม่ยังงั้น ไอจะให้ตำรวจของไอ ไปเอาของยูโยนออกไปเอง - ไปได้ ” ผมไล่มัน

มันเดินออกไปจากห้องอย่างยโส ผลักบังตาออกไปแรง ๆ

ครู่เดียว ท่านผู้บังคับการของผมก็เดินเข้ามาในห้อง ท่านเป็นนายตำรวจรุ่นพี่ของผมสามรุ่น ตอนที่ท่านเดินออกจากประตูโรงเรียนนายร้อยทหารบกนั้น ผมเดินเข้า เรียกว่าสวนกันที่หน้าประตูโรงเรียน

“ คุณสั่งให้ไอ้หรั่งมันออกไปจากที่นี้หรือ คุณพุฒ ”
“ ครับ ผมสั่งเอง ”

“ ทำไมล่ะ ” ท่านทำหน้าไม่ดีเอากับผม
“ ผู้การก็เคยไปศึกษาเรื่องนี้มาจากอังกฤษ ” ผมว่า “ มันเคยให้ท่านเข้าไปในที่ทำงานราชการลับของมันไหมครับ ”
“ แต่นี่ ท่านอธิบดีสั่งมานะ คุณ ” ผู้บังคับการตอบ “ ท่านเรียกผมไปสั่งเอง ให้อนุญาตให้มันเข้ามานั่งในกอง 3 เผื่อว่ามีอะไรเร่งด่วน จะได้ติดต่อมันได้ทันการ ”

“ ไม่มีที่ไหนในโลกนี้หรอกครับ ที่เขาอนุญาตให้คนต่างชาติเข้าไปนั่งในห้องทำงานของหน่วยราชการลับของเขา ” ผมว่าไป “ ผมให้มันออกไปจากที่นี่ เพราะมันผิดหลักการ ท่านอธิบดีสั่งเข้า ผมสั่งออกเอง เพราะที่นี่มีแต่ผู้การกับผมที่รับผิดชอบ ผมต้องขอขัดคำสั่ง ผมรับผิดชอบเอง ”

“ ตามใจคุณ ” ท่านผู้บังคับการของผมพูดแค่นั้นก็ออกไปจากห้อง

ตกบ่ายวันนั้น ผมก็ถูกเรียกให้เข้าไปพบท่านอธิบดีที่วังปารุสกวันทันทีที่ได้รับโทรศัพท์

ผมไปถึงวังปารุสกวัน ไอ้หรั่ง หัวหน้าหน่วยซีซัปพลาย นั่งอยู่กับท่านแล้วที่เก้าอี้รับแขกในห้องทำงานของท่าน

ผมเดินเข้าไปโค้ง ไม่ทันจะนั่ง
“ เฮ้ย มึงไล่มันออกจากสันติบาลทำไม มึง ” เสียงตวาดแว้ดออกมาจากท่านอธิบดีทันที “ มึงเก่งกว่าฝรั่งมากนักเหรอวะ ”

ผมนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้า ตรงข้ามไอ้กันหัวหน้าหน่วยคนนั้น มันมองผมอย่างเย้ย ๆ
“ ถ้าเป็นที่อเมริกา มันคงเก่งกว่าผม แต่ในเมืองไทย ผมต้องเก่งกว่ามันครับ ” ผมพูด จ้องตานาย ไม่กลัว

“ เดี๋ยวผมจะพูดกับมันต่อหน้าท่าน ท่านให้ใครไปเรียกคุณสิทธิมาเป็นล่ามหน่อยซีครับ ผมจะพูดกับมัน แล้วให้คุณสิทธิแปลให้ท่านฟัง คำต่อคำ แล้วท่านจะทราบว่าอะไรเป็นอะไร ”

คุณสิทธิ ในที่นี้ก็คือ นาวาอากาศเอก สิทธิ เศวตศิลา หัวหน้ากองในกรมประมวล ฯ ตอนนั้น ที่ทำงานของกองนี้อยู่ที่ตึกติด ๆ กันกับวังปารุสกวันนั่นเอง ทางด้านถนนราชดำเนิน

รออยู่เดี๋ยวเดียว คุณสิทธิ ล่ามบรรดาศักดิ์ก็เข้ามานั่งลงข้าง ๆ ผม เขาหันมองไปมา ไม่รู้ว่าเรียกเขามาทำไม ผมเลือกคุณสิทธิเป็นล่ามก็เพราะ เขาเป็นนักเรียนอเมริกา แปลความให้ไอ้กันฟังคงจะซาบซึ้งดีกว่าคนอื่น

ผมเริ่มเรื่องโดยบอกให้คุณสิทธิรู้ว่า ผมจะพูดกับไอ้กันคนนี้ และให้เขาแปลคำพูดระหว่างมันกับผมเป็นภาษาไทยให้ท่านอธิบดีฟัง คำต่อคำ ผมต้องการให้ท่านได้รับรู้อย่างชัดเจนเป็นคำ ๆ เข้าใจแล้ว ผมก็เริ่มพูดกับมัน

“ ลื้อได้รับอนุญาตจากใคร ให้เข้าไปนั่งในห้องทำงานของสันติบาล ”

มันชี้ไปที่ตัวท่าน ยิ้มอย่างเย้ย ๆ “ นายของยูนี่ไง ”

“ อั๊วจะส่งคนของอั๊วสักคนไปอเมริกา แล้วให้ไปนั่งในห้องทำงานของ ซี.ไอ.เอ. ของลื้อมั่งได้ไหม ”

ทีนี้มันนิ่ง หาคำตอบไม่ถูก

“ ได้ไหมล่ะ ” ผมย้ำ “ ลื้อส่งของลื้อมาคน อั๊วส่งมาคน เป็นการแลกเปลี่ยนข่าวคราวกัน ลื้อส่งมากี่คนก็ได้ แล้วให้อั๊วส่งไปเท่า ๆ กันดีไหม ”

มันนิ่งอีก คงจะควานหาคำตอบอยู่ เพราะมันไม่รู้ตัวว่า จะมาเจอเอาคำถามยังงี้

ผมหันไปทางท่าน
“ เห็นไหมครับ มันไม่ยอมตอบ ไม่มีที่ไหนในโลกนี้หรอกครับ ที่ใครเขาจะอนุญาตให้คนต่างชาติเข้าไปนั่งในห้องหรือสำนักงานสืบงานลับของเขา คนไม่ใช่เครื่องจักร มันเปลี่ยนจิตใจได้ตามกระแสสิ่งแวดล้อม ก็พวกมัน ไอ้กันนี่แหละ ที่หนีเข้าไปรัสเซียมากี่คนแล้ว ไอ้ฝ่ายโน้นก็หนีมาฝ่ายนี้ก็มี แล้วมันก็เอาความลับไปขายอีกฝ่าย หาเงินเข้ากระเป๋า ราคาข่าวนี่มันแพง ไม่มีใครเขาให้คนนอกเข้าไปวุ่นในที่ทำงานของเขาหรอกครับ ”

ทีนี้ท่านอธิบดีนั่งนิ่ง พยักหน้าหงึก ๆ

“ ถามคุณสิทธิเขาดูก็ได้ ” ผมว่าต่อ “ เขาก็อยู่ในวงการนี้มานาน เขาทราบดี ”

คุณสิทธิหัวเราะหึ ๆ “ จริงของคุณพุฒเขาครับท่าน ” เขาพูดสั้น ๆ แค่นั้น

ผมหันไปทางไอ้กัน
“ ทีนี้ลื้อก็เข้าใจแล้วซินะ ว่าทำไมอั๊วถึงไล่คนของลื้อออกไปจากที่ทำงานของอั๊ว ถ้าลื้ออยากได้ข่าวอะไรจากเมืองไทย ลื้ออย่ามาทำอะไรรุ่มร่ามในบ้านเมืองอั๊วอีก ทีนี้อั๊วจะส่งเข้าคุกแน่ ๆ จำได้ไหมล่ะที่คนของลื้อไปดักฟังโทรศัพท์สถานทูตรัสเชียอย่างโง่ ๆ คราวนั้นน่ะ อั๊วเตือนลื้อไปทีแล้ว ยังเอาอีก พวกอั๊วไม่โง่อย่างพวกลื้อหรอก อยากรู้อะไรเอาเครื่องมือมาให้อั๊ว อั๊วจะจัดการให้เอง แล้วลื้อก็มาถามอั๊วว่าอยากจะรู้อะไร อั๊วให้ได้ อั๊วก็จะให้ อะไรที่มันเป็นเรื่องที่ลับยิ่งยวดของอั๊ว ก็เสียใจที่ให้ไม่ได้ พูดกันตรง ๆ อย่างนี้ดีกว่า ถ้ารักจะคบกัน ”

มันนิ่ง หน้าระโหย ไม่พูด สีหน้าเยาะเย้ยของมันสลดลง

“ อั๊วจะเปิดโอกาสให้ลื้อทำงานร่วมกับอั๊วอีกครั้ง เรื่องโทรศัพท์รัสเซีย อั๊วจะให้โอกาสลื้อให้เข้านั่งในห้องทำงานของอั๊ว มีเครื่องโทรศัพท์ให้ฟังเครื่องหนึ่ง โทรศัพท์ของรัสเซียดังเมื่อไหร่ ไอ้เครื่องนั้นก็จะดังด้วย ลื้อเข้าใจหรือยัง ”

มองหน้าผมทีนี้ อย่างไม่เชื่อคำพูด

ผมพยักหน้า เน้นคำพูด
“ จะให้ผมไปเมื่อไหร่ ” มันถาม
“ พรุ่งนี้ก็ได้ แต่เรายังต้องมีข้อตกลงอะไรกันอีก เอาไว้คุณค่อยคุยกับผมเมื่อพบกัน ”

“ ควรจะเป็นข้อตกลงที่ผมยอมรับได้ ” มันยังข้องใจ
“ แน่นอน ผมไม่เคยเอาเปรียบใคร ” ผมตอบมันไปหนักแน่น

“ ถ้างั้น ผมลาก่อน พรุ่งนี้ผมจะไปพบคุณที่ที่ทำงานของคุณ เก้าโมงเช้าดีไหม ”
“ ดี ” ผมตอบแค่นั้น
มันก็ลากลับไป ท่าที่หยิ่ง ๆ ของมันไม่เหลืออยู่อีก

“ มึงจะเล่นอะไรกับมันอีกวะ ” เจ้านายถามผม “ ไหนว่าไม่ให้มันเข้าไปยุ่มย่ามในนั้นไง ”
“ ผมมีเรื่องที่จะทดสอบมัน ให้มันรู้สึกอีกครับ ” ผมตอบท่าน
“ มันจะได้รู้ว่า เราไม่ได้โง่กว่ามัน และมันนั่นแหละจะไล่เราไม่ทัน ”

“ ตามใจมึง ” เจ้านายพูดออกมา “ กูไม่ยุ่งกับมึงละ ”

นี่ไง เจ้านายของผม ก็คงจะไป “ เยส ” กับมันมาโดยไม่ปรึกษาผม พอมันขออะไร ฟังไม่รู้เรื่องก็ “ เยส ”มันไป

ไอ้พวกนี้มันคอยฉวยโอกาสพูดกับผู้ใหญ่ ๆ ของเราตอนที่กำลังได้ที่ และไม่มีล่ามอยู่แถวนั้น พวกนี้มันคอยหาโอกาสอย่างนี้ทั้งนั้น โดยเฉพาะพวกทำงานลับ ๆ กรรมวิธีของมันลึกซึ้งนักเรื่องนี้ แล้วพวกผู้ใหญ่ของเราหลายท่าน ภาษาอังกฤษกระดิกหูเสียเมื่อไหร่ มีบางคนที่เคยไปเมืองนอกมาก็พอจะฟังรู้ แต่ส่วนมากมักจะต้องมีคนคอยแปลให้ แต่กระนั้น บางครั้งไม่อยากให้เด็กมันรู้ว่าฟังภาษาฝรั่งไม่ออก ก็ทำคุยส่งเดชไป “ เยส ” เอาไว้ก่อน ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร

มีแยะครับ ผมไม่ได้เขียนส่งเดช ถามพวกที่มีนายประเภทนี้ดูเอาเองเถอะ เขาคงจะตอบได้

สำหรับเจ้านายของผม ท่านบุรุษเหล็ก ฯ ท่านนี้ ผมยืนยันได้ว่า เรื่องภาษาฝรั่งนั้นแย่มากจริง ๆ ถึงได้ตั้งกองการต่างประเทศขึ้นมาในกรมตำรวจ ก็เพื่อให้มีล่ามในเวลาต้องการ และได้อาศัยหาข่าวคราวทางวิชาการของต่างประเทศได้

ที่กองนี้ ไม่ใช่จะมีแต่เจ้าหน้าที่ทางอังกฤษ ฝ่ายฝรั่งเศส เยอรมันก็มี รวมทั้งภาษาจีน ญี่ปุ่น และภาษาต่างประเทศทางด้านเอเชียอีกหลายภาษาด้วย เรียกว่า มีครบทุกภาษาที่เกี่ยวพันกับงานรอบตัวของกรมตำรวจ เจ้าหน้าที่ในกองนี้มีหลายคน




Create Date : 19 มีนาคม 2553
Last Update : 19 มีนาคม 2553 3:14:39 น. 3 comments
Counter : 1321 Pageviews.

 
ขอบคุณมาก..


โดย: ก้นกะลา วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:5:31:06 น.  

 
ผมเคยอ่านประวัติของพล.ต.อ เผ่า ในนิตรสารเกี่ยวกับ อาชกรรม เขา พูดถึง พ.ต.อ พุฒ คุณ อรรณพ คุณ พันศักดิ์ เหมือนกับว่าเป็นคนโหดร้ายหน้ากลัว ผมก็เลยอยากอ่านประวัติ ท่านอัศวิน ทั้งสามคนผมก็พยายามค้นหาเผอิญผมเพิ่งมาเจอ ประวัติของ คุณพุฒ เเละมาเจอที่ท่านเอามาลงผมเพิ่งมาเจอประมาณตอนที่ 25 เเล้วก็เลยติดใจ ที่ผมเคยอ่านในนิตยสารเล่มหนึ่งผมจำได้ว่าตอนท่านอัศวิน ไปจับ พ.ต.อ บรรจงศักดิ์ ชีพเป็นสุขเเละเกิดปะทะกัน พ.ต.อ บรรจงศักดิ์ เสียชีวิตในขณะที่โกนหนวดผมจำได้ว่าร.ต.อ อรรณพ เป็นคนไปจับกุมเหตุการณ์ครั้งนั่นท่านเผ่า โกรธมากแต่ผมก็ไม่ได้อ่านประติดประต่อเพราะตอนนั้นยังเป็นวัยรุ่นไม่ค่อยมีตังค์ซื้อมาอ่านเรียนหนังสืออยู่ด้วย รู้สึกว่ายุคนั้นน่ากลัวจริงๆๆเเต่ พอมาอ่านของท่านธารน้อยเเล้วรูสึกดีขึ้นมาเยอะ อันที่จริงผมยังอายุไม่ถึง ห้าสิบแต่ชอบอ่านประวัติ บุคลสำคัญครับยิ่งมาอ่านประวัติของพ.ต.อ พุฒ เเล้วยิ่งชอบท่านเป็นนักเขียนที่ใช้อารมณ์ได้ดีจริงๆ ทำให้ผู้อ่านเหมือนอยูในสถานการณ์นั้น จริง เอาหละครับรบกวนเเค่นี้ครับขอบ คุณครับ


โดย: ศรชัย IP: 114.128.211.125 วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:7:53:23 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ ที่เข้าไปบอกเรื่องเครื่องสำอางค์ ตัวดิฉันเองถ้าวันไหนแต่หน้า ก็จะล้างหน้าจนเกลี้ยงเสมอ และไม่ค่อยเป็นสิวค่ะ เพราะทราบเรื่องนี้มานานมากแล้วเหมือนกัน แต่พวกเครื่องบำรุงผิวก็จะเปลี่ยนไปตามสภาพอากาศค่ะ เพราะอยุ่เมืองหนาว คิดว่าแต่ละตัวก็เหมาะกันไปคนละแบบนะค่ะ...ขอบคุณมากนะค่ะ


โดย: chadapha วันที่: 19 มีนาคม 2553 เวลา:12:58:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.