จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
3 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
สู่ลาว ... ตอนที่ 15

สู่ลาว ... ราชอาณาจักรแห่งความไม่แน่นอน
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ประพันธ์ เมื่อปี พ.ศ. 2527

เหตุการณ์เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2507 – 2512

ตอนที่ 15

คนที่ไม่ยุ่งกับใครเลยก็คือ นายพลอ้วน ใครจะทำยังไงกับใครไม่รู้ด้วย ฉันก็อยู่ของฉันสบาย ๆ ไม่เอาเรื่องกับใคร แล้วก็ไม่มีใครไปตอแยแกเสียด้วย คนลาวชอบและนับถือมาก

บางคืน ผมเห็นท่านนายพลอ้วนออกมาหาข้าวต้มหน้าโรงหนังกิน เดินมาคนเดียว ไม่มีใครติดตาม แต่งตัวนุ่งกางเกงขาสั้นสีขาว สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาวตัวเดียว เดินส่ายพุงอยู่คนเดียวหน้าโรงหนัง ผมเห็น ผมก็เข้าไปทักว่า มาทำไมคนเดียวอย่างนี้

“ มาหาข้าวต้มกิน มันฮ้อน นอนบ่หลับ ”
ท่านนายพลตอบ แล้วก็หัวเราะ อั้ก ๆ พุงกระเพื่อม

เมื่อเขายิงกันเสร็จสงบแล้ว ผมกลับมาร้านซึ่งกลับไม่มีอะไรมากระทบกระเทือน

พ่อประชาหัวเราะชอบใจที่ผมอพยพไปเจอะลูกระเบิดเอง คุณสีมาลานั้น พ่อประชาเขาส่งข้ามฟากไปแล้ว ไม่แน่ใจเหมือนกัน

ผมก็ชวนเขาไปกินข้าว มัวแต่ผจญภัยอยู่ ไม่ได้กินข้าวกลางวัน ทางในเมืองก็ไม่มีร้านอาหารที่ไหนเปิดขาย ไม่มีใครยอมเสี่ยง

ผมขับรถคันที่ถูกยิงจนปรุคันนั้น ไปกินข้าวในตลาดกับพ่อประชา อิ่มหมีพีมันดีแล้วก็ขับรถกลับร้าน

ยังไม่ทันถึงร้าน มองไปข้างหน้าที่ร้าน ก็เห็นทหารแต่งเครื่องแบบสี่-ห้าคน กำลังจับกลุ่มกันอยู่ที่หน้าร้าน มีอาวุธปืนครบมือทั้งหมดทุกคน ทหารพวกนั้นกำลังเดินพิจารณาประตูร้านอยู่

ผมจอดรถ ลงจากรถแล้วเราก็เดินเข้าไปหาทหารกลุ่มนั้น ถามเขาว่า มาหาใคร

“ ไผเป็นเจ้าของบ้านนี่ ” ทหารคนหนึ่งติดยศนายสิบตรีคนเดียวในกลุ่ม ถามเรา

ประชาก็ชี้ที่ตัวเขา

“ เปิดประตูบ้านหน่อย จะเข้าไปตรวจเบิ่ง ” สิบตรีผู้นั้นพูด

ประชาก็เอาลูกกุญแจมาไข เปิดประตูเข้าไป แล้วเชิญนายสิบตรีผู้นั้น
สิบตรีผู้นั้นไม่ยอมเข้าร้าน เขาชี้ไปที่ประตูอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นที่แขวนป้าย ‘สีมาลา’ อยู่เหนือประตู

ร้านนี้เป็นร้านสองคูหา ถ้าหันหน้าเข้าร้าน ทางซ้ายมือก็เป็นที่จัดไว้สำหรับที่เสริมสวยของร้านสีมาลา ป้ายร้านติดอยู่เหนือประตูนั้น ส่วนทางเข้า-ออกปกติของเรา อยู่ประตูด้านขวา ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้ว จะมีบันไดขึ้นไปชั้นบนได้

ประตูที่เปิดให้ เป็นประตูที่เราเข้า-ออกปกตินั้น

ประชาก็ส่งภาษาลาวบอกว่า เข้าทางนี้ก็ได้

สิบตรีคนนั้นสั่นหัว บอกประชาให้เปิดประตูทางที่มีป้ายสีมาลาแขวนอยู่

“ ข้อยได้รับคำสั่งให้มาค้นร้าน สีมาลา สายลับส่งข่าวมาว่า ที่ร้านนี้มีการส้องสุมพวกกรมประสานงานหลายคนอยู่ " เขาพูดจาขึงขัง “ เจ้าต้องเปิดประตูร้านสีมาลา ”

ประชาจึงต้องเดินเข้าไปที่ร้าน ทางประตูที่เปิด แล้วเข้าไปถอดกลอนทางสีมาลา เปิดออกกว้างให้ ทหารกลุ่มนั้นเข้าไป

สิบตรีผู้นั้นนำขบวนเข้าไปในร้านสีมาลา เดินดูทั่วร้านที่เกะกะไปด้วยเครื่องสำหรับเสริมสวย เขาพาพลพรรคของเขาเดินตรงเข้าไปหลังร้าน ทางด้านที่เป็นครัว ทางด้านขวาก็ไม่แวะ เดินตรงไปทางซีกซ้ายของหลังร้านซีกเดียว เลยไปจนถึงหลังสุด ไม่พบอะไร เขาก็เดินกลับมา ออกมาหน้าร้าน

พ่อประชาก็เชิญให้เข้าไปด้านขวา เพราะมีบันไดขึ้นไปชั้นบน จะไปตรวจค้นเสียให้สิ้นสงสัย

เขาก็สั่นหัวอีก

“ พอแล้ว ข้อยได้รับคำสั่งให้มาตรวจค้นร้านสีมาลาที่เดียว สุมาเด๊อ อ้าย ”

ว่าแล้ว เขาก็ยกมือขึ้นตะเบ๊ะ แล้วก็พาพลพรรคกลับไป เดินกันเป็นแถว

การที่เราเคยอบรมสั่งสอนวิชาการให้พวกตำรวจ อย่างที่เล่ามาข้างต้นนั่นเอง จึงทำให้ฝ่ายทหารสงสัยว่า จะมีกำลังตำรวจแอบซ่อนอยู่ในร้านสีมาลา เขาจึงส่งกำลังมาค้น

แต่อีตอนที่ค้นเฉพาะแต่ส่วนที่เป็นร้านสีมาลาเท่านั้นนี่ซีที่มันแปลก เขาไม่สนใจห้องอีกด้านหนึ่งซึ่งมีบันไดขึ้นไปชั้นบน ส่วนนั้นมันไม่ใช่ร้านสีมาลา เพราะไม่มีป้ายสีมาลาติดไว้

นี่แหละทหารลาว เขาปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ทำนอกเหนือคำสั่ง จะเรียกว่าวินัยเคร่งครัด หรืออะไรก็ตามแต่ ก็ไม่ทราบว่า ถ้าเป็นทหารไทย และได้รับคำสั่งมาอย่างนั้น จะปฏิบัติอย่างทหารลาวนี่หรือเปล่า

ผมกับประชายังงงอยู่กับการปฏิบัติของเขา แต่เราก็ประมาทไม่ได้ เผื่อว่าเขาได้รับคำสั่งให้หวนกลับมาค้นอีกที จะไม่สนุกเอา

ผมบอกให้ประชาไปรายงานเรื่องนี้กับนายพลอ้วนทราบเสียจะดีกว่า เผื่อว่ายังไง ๆ มันไม่ชอบมาพากลขึ้นทีหลัง จะได้ไม่ยุ่ง เอาอะไรแน่ไม่ได้ว่า เขาจะไม่กลับมากันด้วยคำสั่งอันใหม่อีก

ประชาขับรถออกไป สักครู่ก็รับเอาตัว พันโท สุเทพ พี่ชายเขานั่งรถไปด้วย แต่งเครื่องแบบมาครบถ้วน เขาคงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ พันโท สุเทพ ฟังแล้ว เพราะพอลงมาจากรถ ผู้พันสุเทพก็พูดว่า

“ ไอ้พวกนั้นมันมายุ่งกับพี่พุฒเหรอ แม่งมันมาอีก ผมจะเตะมันให้ดู ” เสียงขึงขัง “ เปิดประตูร้าน นั่งกินเหล้าตั้งโต๊ะมันที่หน้าร้านนี่แหละครับ ผมจะอยู่ด้วย ”

ประชาก็ออกรถไปหาเหล้าและกับแกล้มมา แล้วเราก็ตั้งโต๊ะกินเหล้ากันที่หน้าร้านนั่นสามคน

ชาวบ้านแถวนั้นยังปิดประตูเงียบ คงจะอพยพข้ามฟากกันไปหมดแล้ว เพราะทางด้านหลังบ้านผม เดินเข้าไปอีกไม่กี่สิบเมตรก็ถึงริมฝั่งโขง มีถนนเลียบริมโขงขนานไปกับฝั่งแม่น้ำ เดินลงไปทางตลิ่ง เดินข้ามฟากไปก็ยังได้ และที่ตรงนั้น มีเรือคอยรับข้ามฟากไปมาอยู่เสมอ ตรงข้ามเป็นอำเภอศรีเชียงใหม่ของจังหวัดหนองคาย

ที่ศรีเชียงใหม่นี้ ประชามีลูกน้องอยู่คนหนึ่ง เป็นจ่านายสิบตำรวจ ชื่อ จ.ส.ต. มุข นามสกุลอะไร ผมก็ลืมไปเสียแล้ว รูปร่างใหญ่โต มีหนวดครึ้ม เขาข้ามฟากมาเยี่ยมเยียนลูกพี่เขาบ่อย ๆ หลังจากวันนั้นเพียงวันเดียว เขาก็ข้ามฟากมาแต่เช้า มาถามเหตุการณ์

พันโทสุเทพ อยู่กับเราจนค่ำ หมดเหล้าไปหลายขวด เขาชอบแม่โขง เราก็ต้องกินแม่โขงเป็นเพื่อน ได้เวลา เห็นไม่มีอะไรแล้ว เขาก็ลากลับ บอกว่าจะส่งทหารของเขามาอยู่ด้วยเอาไหม เราไม่อยากให้ยุ่งยากถึงขนาดนั้นก็เลยปฏิเสธไป

คืนนั้น ผมปรึกษากับประชาว่า เราควรจะไปสถานทูตดีกว่า ปิดร้านเสีย เพราะไม่มีใครอยู่แล้ว ไปกินเหล้ากินข้าวกับท่านทูตแล้ว เลยถือโอกาสเล่นไพ่กับท่านทูตเสียเลยเห็นจะเหมาะกว่า

เห็นชอบกันดีแล้วก็ปิดร้านแน่นหนา บึ่งรถไปสถานทูต ท่านทูตชอบใจได้เพื่อนเล่นไพ่ คืนนั้น ผมกับประชาเลยได้อาศัยบารมีท่านทูตทั้งคืน นั่งเล่นไพ่กับท่านทูตจนถึงเช้า อาศัยข้าวเช้าเสียอีกมื้อด้วย




Create Date : 03 กันยายน 2554
Last Update : 3 กันยายน 2554 3:01:33 น. 4 comments
Counter : 1003 Pageviews.

 
ติดตามอ่านตลอดจ้ะ..


โดย: ก้นกะลา วันที่: 3 กันยายน 2554 เวลา:19:09:17 น.  

 
โปรดติด


โดย: hengheng99 วันที่: 3 กันยายน 2554 เวลา:19:51:54 น.  

 


โดย: หลิว (เพชรพญานาค ) วันที่: 6 ตุลาคม 2554 เวลา:15:39:55 น.  

 


โดย: เฮียตี๋น้อย วันที่: 18 ตุลาคม 2554 เวลา:2:43:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.