จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
22 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
จับปูดำ ขยำปูนา บทที่ 1 ตอนที่ 3

ผมเค้นมือลงไปอีก ปืนยังคงจ่ออยู่ที่สมองของไอ้นั่น ผมหันไปดูรอบ ๆ ห้อง

เสียงใครคนหนึ่งหัวเราะออกมาดัง ๆ ทางปลายเท้าของผม แล้วก็มีเสียงพูดว่า
“ พอแล้ว คุณยอดทวน ปล่อยมือเสียเถอะ ”

ผมหันไปทางเสียงนั้น บุรุษนายหนึ่งในเครื่องแต่งกายสากล ยืนพิงโต๊ะซึ่งมีลักษณะเป็นโต๊ะทำงานอยู่ เขามองดูผม รอยหัวเราะยังระบายอยู่บนใบหน้า เขาคือ พันเอก เยี่ยม วีรพล หัวหน้าหน่วย ๔๐๔ ของ กรป. ผมรู้จักตัวเขาดี เพราะเขาเป็นเพื่อนกับผู้การของผม

ผมคลายมืออกจากลำคอผู้ที่นอนอยู่เบื้องล่างของผม แล้วค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน เหน็บปืนเข้าเอว แล้วผมก็โค้งเป็นการทำความเคารพให้กับเขา
พันเอก เยี่ยม หัวเราะร่วน พูดว่า
“ รู้จักกับคุณอัมพร เสียก่อน ” เขาพยักหน้าไปทางบุรุษที่เพิ่งจะลุกขึ้นมายืนคลำลำคอป้อยอยู่ข้าง ๆ ผม พร้อมกับบิดคออยู่ไปมา “ เรือเอก อัมพร กิตติมา และโน่น ร้อยเอก สนิท ทวนทอง ”

คนที่ชื่อ ร้อยเอก สนิท ก้าวมาจากบานประตูที่ปิดตรงทางที่ผมก้าวเข้ามาครั้งแรก เขาตรงมาหาผม แล้วทั้งสองคนก็ยื่นมือมาให้ผมจับตามลำดับชื่อที่ถูกแนะนำ

“ ร้อยตำรวจโท ยอดทวน ธงไทย ” พันเอก เยี่ยม พูดกับคนทั้งสอง ผายมือมาทางผม “ ไม่ต้องแนะนำก็ได้กระมัง เป็นไรบ้าง คุณอัมพร ”
เรือเอก อัมพร ยังบิดคออยู่ไปมา เขาพูดว่า

“ ถ้าผู้การเปิดไฟช้าไปอีกหน่อย ผมคงหายใจไม่ออก ผมกำลังตกอยู่ในสภาพที่ช่วยตัวเองไม่ได้เลยครับ ถ้าเป็นการต่อสู้จริง ผมก็ซีโร่ ” เขาพูดแบบทหารเรือ ซึ่งหมายความว่าหมดท่า

“ ผมขอโทษ ” ผมหันไปก้มศีรษะขอขมา

“ ไม่เป็นไร มันเป็นส่วนหนึ่งของงานตามคำสั่งของผู้การเท่านั้นเอง ” เรือเอก อัมพร พูดยิ้ม ๆ “ ผมขอชมด้วยความจริงใจว่า คุณเป็นนักต่อสู้ที่มีฝีมือดีคนหนึ่ง ” แล้วเขาก็หันไปทางพันเอก เยี่ยม ก้มศีรษะพูดว่า “ ผมกับคุณสนิทขออนุญาตกลับ ผมทั้งสองหมดหน้าที่แล้วใช่ไหมครับ ”

“ เชิญได้ ” พันเอก เยี่ยม พยักหน้ากับคนทั้งสอง

“ นั่งซิ คุณยอดทวน ” เขาพูดกับผม พร้อมกับเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งที่เก้าอี้เบื้องหลังโต๊ะตัวนั้น “ ทั้งหมดนี้เป็นการทดสอบสมรรถภาพในทางไหวพริบการต่อสู้ของคุณเท่านั้น ”

ผมนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าท่าน ไม่พูด

พันเอก เยี่ยม กวาดสายตาไปทั่วใบหน้าของผม แล้วพูดต่อไปว่า
“ ผู้การของคุณเขาคุยนักคุยหนาว่า ลูกน้องของเขาคนนี้มือดีนัก ผมก็เลยต้องทดสอบดูสักหน่อย คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่าคุณถูกทดสอบ ”

“ ผมรู้ตอนที่ผมเข้ามาในนี้แล้ว ตอนที่ผมนอนนิ่งฟังเหตุการณ์อยู่ที่ตรงนั้น ” ผมชี้ไปที่พื้นที่ผมนอนแนบพื้นอยู่ตอนแรก “ เพราะลักษณะการมันชวนให้ผมเข้าใจไปอย่างนั้น ผู้ที่มีเจตนาร้ายกับผมจริง ๆ คงไม่จำเป็นต้องดับไฟมืด เขาอาจกำจัดผมได้ทั้ง ๆ ไฟสว่าง และมันง่ายกว่าที่จะดับไฟเล่นงานผม ลักษณะนี้มันเป็นลักษณะของการเล่นอะไรสักอย่างของคนขี้เล่น และเพราะผมทราบและสงสัยว่ามันจะเป็นเช่นนั้น คุณอัมพร จึงไม่เจ็บอะไรมาก ”

พันเอก เยี่ยม ยิ้ม “ ผมเสียพนันผู้การของคุณ ผมต้องเลี้ยงโต๊ะจีนเขาโต๊ะหนึ่ง ”

ผมนิ่ง ไม่พูด

“ คุณผ่านการทดสอบของผมมาได้ถึงสองครั้ง ” เขาพูดต่อไปเมื่อเห็นผมไม่พูด “ ครั้งที่หนึ่ง ที่บ้านผู้หญิงคนนั้น ผู้ที่เข้าไปในบ้านนั้น และเข้าไปทำร้ายคุณขณะกำลังนอนอยู่กับผู้หญิงคือคนของผม เขาเคยเป็นจ่าทหารเรือนาวิกโยธินชื่อ สิงห์ และเป็นนักยูโดสายดำในหน่วย น.ย. ๔ ผมส่งเขาไปทดสอบคุณในเช้ามืดวันนี้ เมื่อเรารู้ว่าคุณอยู่ที่นั่น และกำลังสบาย เวลานี้เขาอยู่ที่ไหน ”

“ ผมส่งเขาไว้ที่โรงพักท้องที่ ” ผมตอบไป

“ เขาบาดเจ็บมากหรือเปล่า ”

“ ผมคิดว่าคงจะไม่มาก ผมประเคนเขาด้วยท่อนไฟฉายครั้งเดียว แล้วก็ทำให้เขาหลับลงไปอีกครั้งด้วยการเตะที่ปลายคาง ในขณะที่ผมสงสัยว่าเขาขยับตัวจะสปริงขึ้นมาเล่นงานผมอีก เท่านั้นเองครับ ก่อนที่ผมจะพาเขาไปที่โรงพัก ”

พันเอก เยี่ยม ผงกศีรษะอย่างพอใจ ทั้งผลการทดสอบของเขา และทั้งทราบว่าคนของเขาไม่ได้บุบสลายอะไรมาก

“ ถ้าคุณไม่ผ่านการทดสอบครั้งแรก ผมก็จะได้รับเลี้ยงจากผู้การของคุณ ” เขาพูดต่อไป “ ผู้การของคุณคงจะภูมิใจในลูกน้องของเขาคนนี้มากทีเดียวเมื่อเขารู้เรื่องนี้ และดูเขามั่นใจเหลือเกินในการที่ให้ผมไปทิ้งคำสั่งไว้สารวัตรท้องที่ เพราะเขาเชื่อว่าคุณจะต้องไปที่นั่นเมื่อเสร็จธุระกุบคนของผม เขาใช้คำว่าเสร็จธุระจริง ๆ เป็นอันว่าผมเป็นฝ่ายแพ้ ”

เขาหยุดพูด คงจะคอยฟังว่าผมจะว่ายังไง

ผมนิ่ง

พันเอกเยี่ยมหัวเราะเบา ๆ มองดูผมนิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงพูดว่า

“ คุณไม่อยากรู้บ้างหรือว่า ทั้งหมดนี้มันเป็นไปเพื่ออะไร ”

“ ผมเชื่อว่า เดี๋ยวผมก็จะต้องรู้เอง ” ผมพูดเสียงเรื่อย ๆ

เขายิ้มน้อย ๆ อีกครั้งก่อนที่จะเอื้อมมือไปยังแฟ้มที่วางอยู่ข้าง ๆ ตัว มันเป็นสิ่งเดียวที่วางอยู่บนโต๊ะตัวนั้น เขาหยิบมันออกมาพลิก ดึงเอาเอกสารข้างในออกมาพิจารณาพร้อมกับพูดว่า

“ แฟ้มนี้บรรจุประวัติของคุณโดยละเอียด ผมได้มันมาจากผู้การของคุณ ผมจะอ่านให้คุณฟัง ถ้ามีอะไรที่ผิดไปจากความจริง ผมต้องการให้คุณท้วงติงขึ้นได้ทันที เพื่อความไม่ผิดพลาด เพราะบางครั้งผู้สืบประวัติอาจจะตกแต่งต่อเติมเอาเองก็ได้ ผมไม่ต้องการให้มีความผิดพลาดอยู่ในงานของผม แม้มันจะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ”

เขาเงยหน้าขึ้นจากแฟ้ม มองหน้าผมเพื่อจะย้ำความหมายคำพูดของผม

ผมรับคำว่า ‘ครับ’

เขาก้มหน้าอ่านข้อความในเอกสารจากแฟ้มนั้น

มันเริ่มจากวันเดือนปีเกิดของผมมาทีเดียว ซึ่งตรงเผงแม้แต่เวลาตกฟาก ผมก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนให้เวลานั้นไว้กับผู้สืบประวัติตลอดชีวิตในปฐมวัยของผม ซึ่งเต็มไปด้วยความเกะกะเกเรจนแทบจะไม่พ้นตะราง มาจนถึงประวัติการเรียนของผมเป็นขั้น ๆ มาจนถึงขั้นสำเร็จจากโรงเรียนนายร้อยทหารบก ซึ่งตอนนั้นพวกผมถูกไปฝากเรียนไว้ที่นั่น

“ เป็นนายตำรวจที่หัวแข็ง ” พันเอกเยี่ยมอ่านตอนหนึ่ง “ แต่มีเหตุผลของตัวเอง เกะกะระรานแต่โดยเฉพาะกับมิจฉาชีพทั่วไป สุภาพอ่อนโยนกับบุคคลธรรมดา ครั้งหนึ่งเคยจับนักเลงในท้องที่มากักขังไว้จำนวนมาก และใช้วิธีซึ่งไม่เคยปรากฏในกฎหมายทั้งหลาย ทำให้แก๊งนักเลงนั้นแตกสลายไป ได้ผลทางราชการแต่ผิดวินัย ไม่ได้เลื่อนขั้นและงดบำเหน็จราชการ ”

เขาหยุดอ่าน เงยหน้าขึ้นมองผมแวบหนึ่ง เห็นผมนิ่ง เขาจึงอ่านต่อ

“ จากนั้นถูกแต่งตั้งให้ไปอยู่จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นการดัดนิสัย ที่นั่นเจ้าของประวัติได้ทำการปราบปรามพวกทุจริตทั้งหลายด้วยวิธีการอันอยู่นอกกฎหมายตามนิสัยเดิม ครั้งหนึ่งได้ดึงเอาตัวราษฎรคนหนึ่ง ซึ่งเป็นนักเลงมิจฉาชีพออกมาจากร้านบิลเลียดกลางตลาด มาชกต่อยด้วยความสมัครใจที่จะวิวาทกันทั้งสองฝ่าย เมื่อได้รับยังความปราชัยให้ราษฎรผู้นั้นแล้ว เจ้าของประวัติได้จับราษฎรผู้นั้นผูกมัดแล้วตัวเองขึ้นขี่ม้าลากราษฎรผู้นั้นไปทางถนนตลอดทางที่นำไปสถานีตำรวจ เรื่องนี้ปรากฏว่าราษฎรผู้นั้นไม่ได้ทำการร้องทุกข์ ทางกรมทราบเรื่องด้วยรายงานของด้านอื่น เห็นว่าเป็นการปราบปรามที่ได้ผล และไม่ได้มีผู้เสียหายโดยตรงร้องเรียนขึ้นมา จึงได้เก็บเรื่องไว้ แต่เจ้าของประวัติได้ถูกงดบำเหน็จความชอบประจำปีเช่นเคย ”

เขาเงยหน้าขึ้นมองผมอีกครั้ง

ผมนิ่ง

เขาอ่านต่อไป
ข้อความในตอนต่อไปนั้นเป็นตอนที่ผมถูกแต่งตั้งกลับมาอยู่นครบาล ในวันที่เท่าใดเดือนใดปีใด และได้เข้าร่วมงานใต้ดินสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา

“ เจ้าของประวัติได้ปฏิบัติงานใต้ดินในหน่วยกำลังล้างและประวัติในการทำลายหน่วยของกองทหารญี่ปุ่นในจังหวัดต่าง ๆ หลายแห่ง เมื่อสงครามเลิก ได้ถูกแต่งตั้งเข้าประจำในกองตำรวจสันติบาล ดำรงยศร้อยตำรวจโท ขณะที่ประจำการอยู่ที่กองตำรวจสันติบาล ได้ปฏิบัติงานสำคัญสำเร็จได้ผลตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาในเรื่อง การติดตามตัวมหาสมพรซึ่งถูกองค์การคอมมูนิสต์ลักตัวพาไปเพื่อที่จะทำผลงานของหน่วยต่อต้านปราบปรามคอมมูนิสต์ แต่ในการปฏิบัติงานครั้งนั้น เจ้าของประวัติได้ก่อให้เกิดผลเสียแก่การสืบสวน ด้วยการปล่อยให้คนร้ายซึ่งเชื่อว่าเป็นบุคคลชั้นหัวหน้า ไม่ต่ำกว่าสองคนให้หลบหนีไปได้ แต่เรื่อซึ่งเป็นพาหนะที่กลุ่มคนร้ายใช้ในการหลบหนีนั้น ได้เกิดระเบิดขึ้นกลางแม่น้ำโขง เชื่อว่าคนบนเรือลำนั้นต้องเสียชีวิตทั้งหมด ความเห็นของผู้บังคับบัญชาชั้นสูงเชื่อกันว่า น่าจะเป็นด้วยความตั้งใจของเจ้าของประวัติในอันที่จะให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นขึ้น แต่ไม่มีอะไรเป็นเครื่องยืนยัน เจ้าของประวิติได้ถูกงดบำเหน็จความชอบประจำปีในปีนั้นอีกครั้ง ”

เขาเงยหน้าขึ้นมองผมอีก คราวนี้นานหน่อย

ผมนิ่ง แต่นัยน์ตาผมหลบไปดูเสียที่ฝาผนังเบื้องหลังของเขา แล้วกวาดขึ้นไปบนเพดาน

“ แต่ทางกรมก็ตอบแทนความชอบด้วยการจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้เป็นค่าทดแทนในการที่เจ้าของประวัติต้องสูญเสียรถส่วนตัวไปคันหนึ่งในการปฏิบัติงานครั้งนั้น ”

ผมเอาเงินนั้นมาซื้อจี๊ปคันใหม่ที่ผมใช้อยู่ทุกวันนี้

“ สรุปประวัติ ” พันเอกเยี่ยมอ่านต่อไป “ นิสัย – มีนิสัยรุกรานและพยาบาทเงียบ ๆ ปฏิบัติงานโดยหวังผลประการเดียว โดยไม่คำนึงถึงวิธีการปฏิบัติและแง่กฎหมาย แต่มีการป้องกันตัวจากความผิดโดยอาศัยหลักการเผชิญกับความจริง ชอบการเสี่ยงที่หมิ่นเหม่ด้วยการใช้ไหวพริบ ”

“ ประเดี๋ยวก่อนครับ ” ผมพูดออกมาตอนนี้

พันเอกเยี่ยมละสายตาจากหน้ากระดาษขึ้นมามองผม

“ คุณมีอะไรที่จะท้วงตอนนี้งั้นหรือ ”

“ เปล่าครับ แต่ผมไม่รู้ว่ามันจริงหรือเปล่าที่เขาว่าถึงนิสัยของผม ”

“ ไม่มีใครที่จะรู้นิสัยของตัวเองจริง ๆ ” เขาพูด ก้มหน้าลงมองกระดาษตรงหน้า “ เราต้องให้คนอื่นเขาบอกเราเรื่องนี้ ฟังต่อไป ไอ้นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่คุณจะต้องท้วงอีก เพราะเขาสรุปเอาให้เป็นหน้าที่ของผู้บังคับบัญชาของคุณพิจารณา ผู้เขียนรายงานประวัติเขาเขียนไว้ว่า บุคคลผู้นี้จะไม่ก้าวหน้าในราชการตำรวจ แต่จะเป็นประโยชน์อย่างมากแก่ราชการตำรวจเอง คุณเข้าใจความหมายของมันไหม ” เขาเงยหน้าขึ้นมาถาม

ผมมองเขาด้วยสายตาที่ว่างเปล่า

พันเอกเยี่ยมหัวเราะ แล้วว่า

“ เขาหมายความว่า คุณยิ่งทำงานมาก ยิ่งมีความผิดมาก งานของคุณได้ผลแก่ทางราชการ แต่ทางกรมไม่อาจที่จะปูนบำเหน็จคุณได้ เพราะมันผิดวินัยข้อบังคับและกฎหมาย ผลดีเกิดขึ้นแก่ราชการ แต่ตัวคุณเองก็ย่ำอยู่แค่นี้ เพราะความชอบกับความผิดมันลบล้างกันทุกที เข้าใจหรือยัง ”

ผมบอกเขาว่าผมเข้าใจแล้ว

พันเอกเยี่ยมเปิดแฟ้ม พร้อมกับพูดว่า

“ นี่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมผมจึงให้คุณมาพบ ผมอ่านประวัติของคุณแล้วเมื่อตอนที่ผมคุณกับผู้การของคุณเรื่องต้องการตัวนายร้อยตำรวจสักคนหนึ่งที่จะทำงานกับผม ผู้การของคุณเขาส่งแฟ้มนี้มาให้ผมดู แล้วบอกผมว่าคนที่ผมต้องการคือเจ้าของประวัติในแฟ้มนี้ ” เขาตบแฟ้มข้าง ๆ ตัว “ เขาว่าคุณอยู่ในราชการตำรวจก็ไม่มีทางเจริญ เขาเสียดายแทนคุณ และเขาอยากให้คุณมาก้าวหน้าอยู่กับผม ผมอ่านประวัติของคุณดูแล้วก็คิดว่าเหมาะ เพราะงานของผมไม่ต้องการคำนึงถึงแง่กฎหมาย ผมบอกผู้การของคุณว่า ถ้าประวัติในนี้เป็นความจริง คุณก็มีคุณสมบัติจากที่ผมต้องการ งานในหน่วยของผมต้องการบุคคลที่มีนิสัยอย่างคุณ มันเป็นงานที่ผู้ปฎิบัติจำต้องเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายอยู่เสมอ ความจริงงานราชการลับที่ไหน ๆ ก็ต้องเป็นอย่างนั้นทั้งนั้น แต่การทำงานของคุณมันเสี่ยงยิ่งกว่าของคนอื่น คุณทำเกินไปจนเฉียดตะรางมากไปหน่อย แต่ดีอยู่ที่ตรงกลบเกลื่อนร่องรอยจนจับผิดไม่ได้ ซึ่งคุณสมบัติอันนี้แหละที่ผมยังขาดอยู่ในบรรดาคนของผม ผมบอกผู้การของคุณว่า ผมอยากทดสอบคุณดูก่อนว่าตรงกับข้อความในประวัตินี้หรือไม่ เขายินดีและท้าพนันกับผมว่า คุณจะต้องผ่านการทดสอบของผม เราวางเดิมพันกันด้วยโต๊ะจีนหนึ่งโต๊ะ เขาเลือกภัตตาคารไว้เสร็จและรอรับเลี้ยงจากผม แล้วผมก็แพ้พนันเขาจริง ๆ ผู้การของคุณคนนี้เขาเชื่อมือลูกน้องของเขาจริง ๆ ผมยินดีที่จะได้คุณมาร่วมงานด้วย แต่ข้อสำคัญตัวคุณจะคิดยังไง ”

เขามองดูผมนิ่ง คอยฟังคำพูดของผม

ผมเกาหัวอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี แล้วก็พูดออกมาว่า

“ ผมไม่ค่อยจะเลือกงานนักหรอกครับ ถ้ามันเป็นงานที่ชอบ แต่ ...”

ผมก็ไม่รู้อีกแหละว่าผมใส่คำว่า ‘แต่’ ไว้ต่อท้ายทำไม เลยต่อไม่ถูก ขาดอยู่แค่นั้น

“ ผมก็คิดยังงั้น ” พันเอกเยี่ยมพูด “ ดูจากประวัติแล้วคุณไม่ค่อยจะได้อยู่ที่ไหนนาน ๆ แล้วคุณว่าแต่อะไร ”

“ นั่นซีครับ ” ผมไม่รู้จะพูดอะไรที่ดีกว่านั้น “ เห็นจะเป็นเพราะยังไม่อยากจะตกลงใจอะไรง่าย ๆ กระมังครับ ”

พันเอกเยี่ยมหัวเราะ

“ ก็เป็นอันว่าตกลง ” เขารวบรัดเอาเฉย ๆ

ผมเกาหัวทั้ง ๆ ที่ไม่ได้คันอะไร




Create Date : 22 กรกฎาคม 2552
Last Update : 23 กรกฎาคม 2552 1:35:55 น. 0 comments
Counter : 719 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.