จับปูดำ ขยำปูนา (บทที่ 8 ตอนที่ 1)
เจ้าหล่อนนั่งอยู่กับถ้วยน้ำอัดลมถ้วยหนึ่ง กางหนังสือเล่มเล็ก ๆ อยู่บนหน้าตัก ก้มหน้าอ่าน
ผมค่อย ๆ เดินเข้าไปหา พอผมเลื่อนเก้าอี้ข้าง ๆ หล่อน จะนั่ง หล่อนก็เงยหน้าขึ้นจากหนังสือมองดูผมนิ่ง ผมนั่งลงแล้วยิ้มให้หล่อนอย่างที่ผมมั่นใจแล้วว่าเป็นรอยยิ้มที่เก๋ที่สุดของผม แล้วผมก็พูดเบา ๆ ว่า
มาคอยใครครับ ถ้าผมรับใช้ได้ก็ยืนดีจะรับใช้ พวกเราสมาชิกที่นี่ถือว่าเป็นหน้าที่ที่จะต้องต้อนรับแขกของเพื่อนสมาชิกทุกคนที่มาถึงบ้านของเรา
ทีนี้เจ้าหล่อนยิ้ม เป็นยิ้มที่หยาดเยิ้มด้วยริมฝีปากที่เต็มอิ่มของหล่อน
คอยคุณสุชาติค่ะ
อ๋อ คุณสุชาติ เจ้าของคอก วรวิมล ใช่ไหมครับ ผมรู้จักคนที่หล่อนเอ่ยชื่อออกมา
ค่ะ หล่อนตอบสั้นแค่นั้น
ปกติ เขาเคยมาที่นี่ตอนหกโมงเย็น ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู นี่จวนจะทุ่มอยู่แล้ว น่าจะมานานแล้ว ไม่เป็นไรครับ ผมจะนั่งคุยเป็นเพื่อนก็ได้ ระหว่างที่คุณยังคอยเขาอยู่ นั่งคนเดียวไม่ดีหรอกครับ บ๋อยที่นี่มันจะเข้าใจเป็นอย่างอื่น
เป็นอย่างอื่น หล่อนทวนคำ คุณหมายความว่าอย่างไรคะ
คือยังงี้ คุณอย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผมยกมือประกอบคำพูด เคยมีผู้หญิงคนอื่นขึ้นมานั่งเล่นบนสโมสร โดยคิดว่าเป็นสถานที่ที่ใคร ๆ ก็มานั่งเล่นได้ เพราะเรามีร้านอาหารด้วย พวกกรรมการเขามาพบเข้า เขาสอบถามได้ความว่าไม่ใช่สมาชิกและไม่ใช่แขกของสมาชิก เขาก็เล่นงานบ๋อยและยามถึงขนาดปลดออก ผมก็เลยต้องมาต้อนรับเสียก่อน ก่อนที่บ๋อยหรือยามนั่นจะมาพูดจาไม่ดีกับคุณ
หล่อนมองหน้าผมนิ่งสักครู่ก็ยิ้ม
ขอบคุณค่ะ จะเป็นการรบกวนคุณเปล่า ๆ
ไม่หรอกครับ ไม่เป็นการรบกวนแต่อย่างใด ตรงข้าม ผมกลับรู้สึกเป็นเกียรติที่คุณไม่รังเกียจที่จะให้ผมทำหน้าที่ของผมในฐานะที่ผมเป็นสมาชิกคนหนึ่งของที่นี่ และถ้าคุณจะกรุณาให้ผมทราบชื่อของคุณด้วยก็จะเป็นการให้เกียรติแก่ผมเป็นอย่างสูง
เจ้าหล่อนหัวเราะเบา ๆ ด้วยเสียงของระฆังเงิน
แหม อย่าให้ถึงขนาดนั้นเลยค่ะ ดิฉันชื่อ ศุภวรรณ ค่ะ
ชื่อเพราะ คนสวยอย่างนี้ก็ควรชื่อเพราะอย่างนี้ ผมว่า คุณ ... เอ้อ... เป็นอะไรกับคุณสุชาติหรือเปล่าครับ เพราะถ้าเป็น เอ้อ ... ผมทิ้งคำพูดไว้แค่นั้น นึกไม่ออกว่าจะพูดออกมาตรง ๆ ดีหรือไม่ดี
ดิฉันไม่ได้เป็น .. เอ้อ.. ของคุณสุชาติหรอกค่ะ หล่อนหัวเราะเบา ๆ อีก ดิฉันทำงานอยู่กับเขา
เป็นเลขา ? ผมซักต่อ ชักสนุก แม่คนนี้ขี้เล่นเหมือนกัน
จะเรียกว่าเป็นเลขาก็ได้ค่ะ ดิฉันมีหน้าที่ดูแลทุกอย่างในออฟฟิศให้เขา รวมทั้งพิมพ์หนังสือด้วย เวลาที่คนพิมพ์เขาไม่อยู่
อ๋อ ... เท่ากับเป็นแม่บ้านที่ออฟฟิศ ตกลงผมจะนั่งคุยอยู่ก่อน จนกว่าคุณสุชาติจะมานะครับ
ดิฉันจะปฏิเสธความหวังดีของคุณได้อย่างไร หล่อนเอียงคอพองามขณะพูด ผู้หญิงคนนี้เสน่ห์พราวไปทั้งตัว ผมว่าผมชักจะชอบหล่อนเสียแล้ว ก็ไม่รู้ว่า นอกจากจะเป็นแม่บ้านที่ออฟฟิศแล้ว หล่อนจะเป็นอะไร ๆ กับคุณสุชาติอีกด้วยหรือเปล่า
คุณมาที่นี่บ่อยหรือคะ ทีนี้หล่อนเป็นฝ่ายชวนคุย
ครับ ที่นี่เหมือนบ้านผม ไม่เกินหกโมงเย็นผมต้องอยู่ที่นี่
ยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย เอาเปรียบจัง หล่อนทำตาโต ท่านี้ก็สวยอีก
ผมชื่อยอดทวน เป็นตำรวจยศร้อยตำรวจโท อายุสามสิบกว่าเข้าไปแล้ว ลูกเมียยังไม่มี ยังเป็นโสดเต็มตัว พยายามเกี้ยวผู้หญิงจะเอามาเป็นเมียก็ไม่สำเร็จซักที ถ้าคุณจะกรุณา ... เอ๊ย.. ขอโทษ
ถามนิดเดียว พูดเสียยาว หล่อนหัวเราะชอบใจ นี่หรือคะที่ว่าพูดไม่เป็น ท่าทางเจ้าชู้ออก
ผมก็ไม่รู้ว่าต่อหน้าคุณ มันพูดออกมาได้ยังไง... ออฟฟิศอยู่ที่ไหนครับ
หล่อนเปิดกระเป๋าถือ ดึงเอานามบัตรขนาดกะทัดรัดออกมาใบหนึ่งส่งให้ผม ผมรับมาอ่าน ในนามบัตรนั้นพิมพ์ด้วยตัวอักษรสีเขียวสวย
ศุภวรรณ ศรีสุภาพ บริษัทอโนดาต ๕๘๘ ถนนศรีอยุธยา โทรศัพท์ ๒๘๒๐๐๑๒
ผมเก็บนามบัตรนั้นเข้ากระเป๋าเสื้อชั้นบน
ถ้าผมจะโทร ฯ ไปคุยด้วยคงจะไม่รังเกียจ เวลาผมเหงา ๆ อยากได้เพื่อนคุย อนุญาตให้ผมเรียกไปนะครับ
ที่นั่นเป็นที่ติดต่อการค้านี่คะ ใครก็โทร ฯ ไปก็ได้
เลิกงานกี่โมงครับ
ไม่แน่หรอกค่ะ บางทีก็ห้าโมงเย็น แต่ถ้าวันไหนมีงานยุ่ง ๆ ก็อาจถึงทุ่มหนึ่ง
กลางวันคงออกไปไหนไม่ได้ ผมถามให้มันเข้าเรื่องของผม
"เรามีเวลาหยุดพักทานอาหารกลางวัน ตั้งแต่เที่ยงถึงบ่ายโมงครึ่งค่ะ คุณศุภวรรณไม่ตอบ นั่งยิ้มมองดูผมเฉยอยู่
ผมอ่านเอาว่า นั่นเป็นคำตอบอยู่ในตัวแล้ว แปลว่า ก็ลองดูซิ จะให้ตอบออกมาได้ยังไง
ผมรู้สึกถูกสะกิดที่สีข้างเบา ๆ หันไปดู บ๋อยคนหนึ่งกำลังสะกิดสีข้างผมอยู่ กระซิบที่หูผมเบา ๆ ว่า
ที่โต๊ะเก่าเขาให้ผมมาตาม เขาว่าคุยนานเกินไปแล้ว
ผมหันไปทางประตูที่จะออกไปข้างนอก ไอ้เพื่อนผมคนหนึ่งกำลังยื่นหน้าเข้ามามอง กวักมือเรียก ถ้าผมไม่ออกไป พวกมันต้องแห่กันเข้ามาแน่ ผมรู้ใจไอ้พวกนี้ ผมลุกขึ้นพูดว่า
ผมเห็นจะต้องลาละครับ มีคนให้มาตาม อยากจะเชิญคุณไปนั่งด้วยกันที่โต๊ะผม แต่ว่าคงจะไม่เป็นการสมควร และประเดี๋ยวคุณสุชาติก็คงจะมา แกคงจะไม่ผิดเวลามากนัก เราคงจะได้พบกันอีก ถ้ามีอะไรไม่เหมาะเกิดขึ้นที่นี่ก็บอกผมได้
หล่อนกระพุ่มมือไหว้ผม เมื่อผมโค้งศีรษะให้ ผู้หญิงที่แต่งตัวทันสมัยรัดรูปและสวยอย่างนี้ ไม่น่าจะไหว้ได้สวยงามอย่างนี้
พอผมหย่อนก้นลงนั่ง ก็ได้ยินไอ้คนหนึ่งต่อว่า
ไอ้ยอดทรยศ ให้มันไปเชิญมา มันกลับไปนั่งคุยสบายใจ ไอ้นี่ตัดช่องน้อยตาพอตัว
กูเชิญเขาแล้ว เขาไม่มา แล้วมึงจะให้กูทำยังไง ผมแก้ตัวของผมไปดุ่ย ๆ เขามาคอยสมาชิกคนอื่นอยู่ กูก็เลยนั่งเป็นเพื่อนไม่ให้เขาเหงา กูทำหน้าที่สุภาพบุรุษ ไม่เหมือนพวกมึง
มึงนัดกับเสี่ยตั้งเขา มันว่า เขานั่งคอยมึงอยู่นี่ ดันผ่าไปเอ้อระเหยอยู่กับผู้หญิง นี่ยังไม่ถึงเดือนสิบสอง ทำไมมันถึงกระสันเร็วยังงี้วะ
ชวนเขาไปกินข้างด้วยกันก็ได้นี่ครับ เสี่ยตั้งพูด
เขามาคอยคุณสุชาติ เอาช้างมาฉุดก็ไปไม่ได้ ผมว่า
เสี่ยตั้งหัวเราะ แล้วพูดว่า
งั้นเราไปกันเถอะครับ เชิญทุก ๆ คน
สั่งอะไรมากินกันที่นี่ดีกว่า ผมไม่ยอมลุก ที่นี่ก็อาหารร้อยแปด จะต้องไปที่อื่นทำไม เหล้ายาก็มีพร้อมมีอยู่แล้ว
จริงของมัน ไอ้คนหนึ่งพูด กินนี้นี่แหละเสี่ย ผมขึ้เกียจลุกเหมือนกัน
ตามใจถ้ายังงั้น เสี่ยตั้งนั่ง กินเสร็จแล้วไปหาที่นั่งฟังเพลงกันต่อ ผมเลี้ยงไม่อั้น หิ้วอีหนูก็ยังได้
เอาใจไอ้ยอดมันหรือไง ไอ้คนนั้นพูด ผมไม่ว่างเสียด้วยคืนนี้ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า มีงาน
ผมก็ไม่ว่าง ไอ้อีกคนพูดบ้าง เสี่ยไปกับไอ้ยอดมันสองคนก็แล้วกัน เผื่อกูด้วยนะโว้ย ยังไง ๆ หนึ่งเดียวก็พอ
ถ้างั้นเราไปที่อื่นกันไม่ดีหรือ คุณยอด เสี่ยตั้งหันมาทางผม แล้วจะได้เลยไปหาอีหนูต่อ
กินที่นี่แหละน่า ผมว่า เดี๋ยวค่อยไปต่อ เผื่อไอ้พวกนี้มันจะเปลี่ยนใจ
เสี่ยตั้งนั่งลงอีก วันนี้เขาตามใจผมผิดสังเกต ผมก็จะตามใจเขาเหมือนกัน อยากดูว่าเขาจะเล่นอะไรกับผมอีก แต่อีตาผู้การเยี่ยมแกห้ามไว้ ห้ามทำไมก็ไม่รู้ และผมตั้งใจจะชวนเขาไปหาแม่ต๊อยให้ได้ ต่อจากนี้ผมยังมีอะไรที่จะเล่นกับเขา ผมนึกถึงคำของแม่เก๋ได้ และจำได้เรื่องระวังตัวให้ดีนั้น ผมพร้อมอยู่แล้ว
เรานั่งกินอาหารกันไป คุยกันไปด้วยเรื่องไม่เป็นสาระอะไร ผมต้องระวังไม่ให้เหล้ามันเข้าไปทำให้เกิดความประมาท คืนนี้ผมจะต้องระวังตามคำเตือนของแม่เก๋ แต่ผมจะเล่นตามบทของเสี่ยตั้งแล้วแต่เขาจะกำหนด ผมมีบทของผมอยู่แล้วเหมือนกัน
เหล้าหมดไปทั้งขวด และกับแกล้มก็ชักเข้าไปล้นกระเพาะ ผมดูนาฬิกาที่ข้อมือ มันบอกเวลาสี่ทุ่มเกือบจะครึ่งเข้าไปแล้ว เสี่ยตั้งมองผมอยู่แล้ว เขายกนาฬิกาขึ้นมาดูบ้าง แล้วพูดว่า
สี่ทุ่มจะครึ่งแล้ว เราไปกันเถอะ คุณยอด
เฮ้ย ! พวกมึงไม่มีใครเปลี่ยนใจไปกับกูเรอะ ผมหันไปถามพวกเพื่อน ๆ
มึงไปเหอะ ไอ้คนหนึ่งพูดแทนเพื่อน พวกกูมีงานกันทั้งนั้น ไว้วันหลัง
ไอ้พวกนี้บางคนมีลูกมีเมียไปแล้ว มันก็ต้องห่วงบ้าน ไม่เหมือนผม
ผมลุกขึ้นเดินตามเสี่ยตั้งมาที่รถของผม เขาหยุดหันมาพูด
ทิ้งรถไว้ที่นี่ดีกว่า ไปรถผมคันเดียว ขากลับจะมาส่งที่นี่
แล้วอีหนูล่ะ ถ้าเกิดมีมาให้หิ้ว จะทำยังไง ผมว่า
ไม่เป็นไร ก็ไปด้วยกัน ถึงไหนถึงกันวันนี้ ผมไปกับคุณได้ทั้งคืน ผมมีที่พักของผม เราไปนอนด้วยกันที่นั่นก็ได้ จะเอารถไปสองคันทำไมให้มันเกะกะ
ผมไม่ว่าอะไร เดินตามเขาไปรถของเขา ผมขึ้นนั่ง เขาติดเครื่องแล้วหันมาถาม
ไปไหนกันดี จะให้ผมเลือกหรือคุณจะเลือก
ไปซิลเวอร์ สตาร์ ผมบอกเขา
ไปที่อื่นไม่ดีหรือ เขาว่า ที่นั่นไม่เห็นมีอะไร ไปหาโชว์แปลก ๆ ดูกันไม่ดีกว่าหรือ
ผมมีแฟนอยู่ที่นั่น คลับเลิกแล้วจะได้รับเขาไปด้วย
ใครล่ะ นักร้องหรือพาร์ตเนอร์ เขาถาม
นักร้อง เป็นดาราอยู่ที่นั่น
เขามาพูดอะไร เข้าเกียร์พารถออกไป และเขาก็ไม่ซักถามอะไรผมตลอดทางที่ขับรถ ไปถึงที่หมายเขาก็จอดตรงหน้า รอให้ผมลงแล้วก็ล๊อคประตูรถ เดินตามผมเข้าไปในซิลเวอร์สตาร์
Create Date : 20 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 20 สิงหาคม 2552 1:02:52 น. |
|
0 comments
|
Counter : 707 Pageviews. |
|
|
|
| |