จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
1 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
13 ปีกับบุรุษเหล็กแห่งเอเชีย (ตอนที่ 26)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 26

ภาคผนวก

สาเหตุที่ต้องมีภาคผนวกนี้ก็เพราะบรรดาแฟน ๆ ของผม (แฟนอ่านนะครับ) โทรศัพท์มาพูดคุยกับผมหลายคน ทราบว่าเรื่อง “ ๑๓ ปีกับบุรุษเหล็กแห่งเอเชีย ” นี้จะจบในวันสองวันนี้ ยังไม่อยากให้จบ เพราะยังขาดเรื่องราวสำคัญ ๆ อีกสองสามเรื่อง อยากจะทราบ

คุณ ๆ พวกนั้นจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมมากกว่าผมเสียอีก ต่อว่ามา ว่าผมยังไม่ได้เขียนเรื่องที่เกี่ยวกับการเดินทางขึ้นไปเอาตัว พล ฯ สนั่น ใจเผื่อแผ่ และเรื่องฆาตกรรมทางการเมืองอีกหลายราย ไม่กล้าเขียนออกมา

ไอ้กล้าน่ะก็กล้าอยู่หรอกครับ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องอะไรกับผม เพราะผมไม่ได้ทำกับมือของผมเอง จะเล่าได้ยังไงถูก

อีกประการหนึ่ง เมื่อตอนที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นนั้น ผมอยู่ประเทศอังกฤษ รัฐบาลส่งตัวผมไปอบรมวิชาการสืบสวนการเมืองอยู่ที่สก็อตแลนด์ยาร์ด และหน่วยตำรวจอังกฤษ ผมได้ข่าวเหตุที่เกิดขึ้นที่นั่น ผมพอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร

มันไม่ใช่เรื่องที่ผมควรจะคุย จะให้ผมเขียนลงไปได้ยังไง

เรื่อง พล ฯ สนั่น ใจเผื่อแผ่ ผมพอจะเขียนให้ สนุกดีอยู่หรอก

ความผิดที่ถูกกล่าวหาของ พล ฯ สนั่น นั้น ผมรู้ว่าเขาต้องหาเรื่องฆ่าคุณ อารี ลีวีระ เจ้าของและ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ พิมพ์ไทย สยามนิกร

เรื่องนี้ผมขอยืนยันได้ว่า เขาทำไปโดยพลการ ไม่ใช่เรื่องความต้องการทางการเมืองของผู้ใหญ่

ผมไม่ทราบเหตุผลของเขา และไม่ต้องการที่จะทราบ

เขาจึงต้องรับโทษทัณฑ์ของบ้านเมือง ผมเองก็ไม่ชอบใจในการกระทำของเขา เพราะผมรู้ดีว่ามันจะต้องทำความยุ่งยากให้กับผู้ใหญ่มากทีเดียวในขณะนั้น และมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของอวสานของรัฐบาลชุดนั้น

เขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของผมก็จริง ในฐานะที่ผมเป็นรองผู้บังคับการตำรวจสันติบาล ผมต้องรับผิดชอบในการที่จะต้องจัดการเรื่องราวให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามตัวบทกฎหมาย ผมอยากจะทำ แต่ก็ไม่ทำ ก็เพราะมันมีเหตุผลส่วนตัวอย่างอื่น

เราอย่ามารับรู้ถึงเหตุผลอันนั้นกันเลย อ่านเรื่องสนุก ๆ ในเหตุการณ์เมื่อผมเดินทางขึ้นเหนือ เพื่อไปเอาตัวพลสนั่น ฯ มาดีกว่า

เมื่อเกิดเรื่องขึ้นใหม่ ๆ ตอนนั้นผมกำลังทำงานเกี่ยวกับการแสวงหาข่าว อย่างที่ได้เล่าไว้ในตอนก่อนหน้านี้ ผมมีหน่วยวิทยุของผมอยู่ในรัฐฉาน หรือที่เรียกกันว่า ชานเสตท เป็นเขตของไทยใหญ่ แต่ถูกยึดครองโดยทหารจีนคณะก๊กมินตั๋ง ซึ่งได้ให้ความร่มมือกับสันติบาลไทย โดยการประชุมร่วมกันที่ไทเป

ขณะนั้นเรายังมีความสัมพันธ์ทางการทูตอยู่กับรัฐบาลก๊กมินตั๋ง และร่วมมือในการหาข่าวด้วยกัน

พอเรื่องของพลสนั่น ฯ เกิดขึ้น ผมก็ได้รับการขอร้องจากเพื่อนร่วมงานด้วยกัน ให้ช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ที ทั้งที่ผมหมั่นไส้เขาอยู่ ผมก็ต้องช่วย

ผมส่งตัวพลสนั่น ฯ ขึ้นไปในรัฐฉาน ทำงานอยู่ในหน่วยวิทยุของผมที่นั่น โดยเริ่มแรกให้ไปอยู่กับหน่วยสันติบาลพิเศษของผมที่ลำปาง แล้วจัดให้ทางจีนเขาจัดพาหนะพาตัวพลสนั่น ฯเข้ารัฐฉาน ทางจีนเขามีสนามบินของเขาที่นั่น เขารับจัดการให้

แต่ไอ้เสือทำท่าไม่ยอมไป แต่ลงท้ายก็ต้องยอมไป เพราะอะไรอย่าให้ผมเล่าเลย เอาเป็นรู้แต่เพียงว่าตอนนั้นการทำงานของผมใช้ความเฉียบขาด ผมจำเป็นต้องทำอย่างนั้น เพราะงานแต่ละอย่างของผมมันเป็นงานที่ไม่มีใครเขารับทำกัน และเจ้านายก็ชอบโยนมาให้ผมรับ ถ้าผมไม่รับมันก็ต้องตกลงมาแตก

คนใต้บังคับบัญชาของผม เมื่อไปทำอะไรไม่เข้าท่าเข้า ก็จะต้องโดนลงโทษไม่หนักก็เบา ตามเหตุผลของความไม่เข้าท่านั้น ๆ ผมไม่ยอมให้มีการต่อรอง สั่งไปไหนต้องไป ไม่ยังงั้นก็...

ลงท้ายเขายอมไป แต่ก็ไม่วายถามว่า ไปแล้วเมื่อไรจะได้กลับ

“ จะกลับก็ตอนที่อั๊วสั่งให้กลับ ” ผมตอบไปแค่นั้น

พอพลสนั่น ๆ เดินทางออกไปไม่กี่วัน หนังสือพิมพ์ก็ลงข่าวกันเกรียวกราวเรื่องฆาตกรรมที่พลสนั่น ฯ ทำลงไป หนังสือพิมพ์ที่อาละวาดเอากับตำรวจมากกว่าเพื่อนก็คือ สารเสรี และไนรายวัน สารเสรีนั้นก้อ คุณลมูล อติพยัคฆ์

คนหลังนี่แหละเป็นตัวแสบมากกว่าเพื่อน ซัดผมไม่เว้นแต่ละวัน เรื่องส่งตัวพลสนั่น ฯ ออกนอกประเทศ ด้วยการรู้เห็นเป็นใจให้หลบหนีคดี

หนังสือพิมพ์ทั้งสองฉบับนี้ รู้ ๆ กันอยู่ว่าเจ้าของที่แท้จริงคือ จอมพล สฤษดิ์ ฯ มีสารวัตรทหารคุมความปลอดภัยอยู่ที่โรงพิมพ์ตลอด ๒๔ ชั่วโมง ผมรู้เพราะผมแอบดักฟังโทรศัพท์เขาสั่งการกัน

เพิ่งจะบอกกันเดี๋ยวนี้แหละว่า ผมแอบทำอะไรไว้

เจ้านายโดนท่านจอมพล ป. เรียกตัวไปพบ ถามถึงเรื่องนี้ ท่านก็ต้องเรียกผม

“ ใครให้ไอ้นั่นมันหนีไป ” ท่านถาม

“ ผมเองครับ ” ผมรับเสียเอง ไม่ซัดเพื่อน เพราะถ้าซัดออกไป ก็ยุ่งกันใหญ่

“ เรื่องอะไรของมึงล่ะ มึงมาเกี่ยวข้องกับมันยังไง ”

“ ผมต้องเกี่ยว เพราะถ้าผมไม่เข้ามาเกี่ยว เรื่องมันก็ต้องยุ่งมาถึงท่าน ”

“ กูไปยุ่งด้วยยังไง ”

“ ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกรมตำรวจ เรื่องยังงี้ท่านจะปฏิเสธใครต่อใครเขาได้ยังไงว่า ท่านไม่ทราบ โดยเฉพาะกับพวกหนังสือพิมพ์ ”

ท่านนิ่งไปครู่ใหญ่ แล้วถอนหายใจเฮือก

“ แล้วมึงเอามันไปไว้ที่ไหน ”

“ อยู่ในที่ ๆ ไม่มีใครเอาตัวมันมาได้ครับ นอกจากผม ” ผมตอบ

“ ที่ไหนเล่า ไอ้ห่..” ชักฉุนตอนนี้

“ ท่านจะไปรับรู้ด้วยทำไมเล่าครับ เกิดอะไรขึ้นก็ซัดมาที่ผมก็แล้วกัน ” ผมตอบไป ผมไม่กลัว

“ กูกับมึงนี่ ใครเป็นนาย เป็นลูกน้องกันแน่วะ มึงน่ะ สั่งกูมาหลายเรื่องแล้วน่ะ ”

ผมหัวเราะเสียยังงั้น ก็ไม่รู้จะพูดยังไง

“ แล้วกูจะพูดกับพวกหนังสือพิมพ์เขาว่าอย่างไร ” เจ้านายถาม เสียงอ่อนอกอ่อนใจ

“ ให้เขามาถามผม ผมพูดเอง ” นี่เรียกว่าสั่งอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้

แล้วหนังสือพิมพ์ก็แห่กันมาพบผม

ผมก็บอกเขาไปว่า เวลานี้พลสนั่น ฯ ไปอยู่ในที่ ๆ ผมบอกเขาไม่ได้ เพราะผมใช้เขาไปราชการลับ หนังสือพิมพ์เขาก็แย้งว่า ทำไมเพิ่งจะส่งไป

“ ก้อมันเพิ่งจะมีเหตุที่จะต้องส่งเขาไปตอนนี้ ”

“ ตอนที่เขากำลังมีเรื่องฆ่าคนตายงั้นหรือครับ ” หนังสือพิมพ์แย้งมาอีก

“ ฆ่าใคร ” ผมทำไม่รู้ ตีหน้าตาย

“ ก็เรื่องขึ้นไปยิงคุณหญิงอารี ลีวีระ บนบ้านนั่นยังไงครับ ”
“
อ้าว ผมไม่ทราบ มัวแต่ยุ่งกับงาน ”

เขาพากันหัวเราะครื้นเครง

ต่อมาอีกไม่กี่วัน เจ้านายก็เรียกผมอีก คราวนี้บอกว่า จอมพล ป. โกรธมาก ต้องให้ตำรวจเอาตัวพลสนั่น ฯ มาขึ้นศาลให้ได้ ถ้าไม่งั้นกูก็อยู่ไม่ได้

ผมเรียกพวกหนังสือพิมพ์มาพบ ให้มาคุยกันเรื่องนี้ ตอนนั้นเป็นปลายปี ๒๔๙๙ ราว ๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน จะเข้าธันวาคม ผมลั่นวาจาไปกับเขาว่า ผมจะพาตัวพลสนั่น ฯ มาให้ได้ไม่เกินวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๐๐ เป็นของขวัญปีใหม่

หนังสือพิมพ์ก็ประโคมข่าวกันใหญ่ ถึงวันกำหนดเส้นตายของเรื่องนี้
ผมเริ่มเดินเรื่องของผม ก็พอดีมีเรื่องมาขัดจังหวะ




Create Date : 01 พฤษภาคม 2553
Last Update : 1 พฤษภาคม 2553 4:35:53 น. 3 comments
Counter : 2306 Pageviews.

 
..อ่านทั้ง 3 ตอนแล้ว...

...นี่แสดงว่าท่านผู้เขียนได้เขียนเรื่องนี้ขึ้นก่อน แล้วจึงมีผู้มาให้เขียนเรื่องชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ"บุรุษเหล็กแห่งเอเซีย"ขึ้น เพื่อขยายความ....คิดเอาเองนะไม่รู้คิดถูกหรือเปล่า...

..รออ่านต่อไปเรื่อยๆ...ขอบคุณมากๆ...


โดย: ก้นกะลา วันที่: 1 พฤษภาคม 2553 เวลา:5:55:19 น.  

 
ถูกต้องค่ะ
ขอบคุณที่ยังติดตามอ่าน



โดย: ธารน้อย วันที่: 2 พฤษภาคม 2553 เวลา:0:56:29 น.  

 
ผมเพิ่งเคยได้ยินเรื่อวราวของทวดผม


โดย: ลูกหลานใจเผื่อแผ่ IP: 171.96.185.175 วันที่: 4 มกราคม 2559 เวลา:22:05:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.