จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 
18 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" (ตอนที่ 77)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 77

ชีวิตใหม่ในสวิส ฯ

คุณเมธีหาตึกได้หลังหนึ่ง เป็นแฟลตชั้นดี ซึ่งเคยเป็นตึกของเจ้านายรัสเซียองค์หนึ่งมาซื้อไว้ตอนที่ต้องหนีจากรัสเซียมาในสมัยปฏิวัติ ตึกหลังนี้ถูกแบ่งเป็นอพาร์ตเมนต์เป็นชั้น ๆ มีทั้งหมดแปดชั้น เป็นตึกสูงใหญ่กว้างขวาง ชื่อตึก “ เมซองรัวยาล ” (Maison Royale) แปลว่า “ บ้านราชา ” ลักษณะเป็นตึกโบราณ มีศิลปะแบบรัสเซียสวยงาม

คุณเมธีเจรจาซื้อได้ห้องชุดที่มีสี่ห้องนอน อยู่ชั้นที่เจ็ด ราคาไม่ค่อยแพง พอสู้ได้ เจ้านายก็ตกลงซื้อไว้

ชั้นที่เจ็ดนั่น ราคาติดเป็นเงินไทยก็ประมาณล้านกว่าบาท ผมเป็นคนถือกระเป๋าเงินตอนนั้น ก็พอจะรู้ราคา

ส่วนพวกผมนั้นต้องไปเช่าโรงแรมเล็ก ๆ ที่อยู่ข้างหลังตึกนี้ อยู่กันสองคน ต้องอยู่ใกล้ ๆ กัน จะได้ไปมาหาสู่กันง่าย

พี่ดมเดินทางมาอยู่แล้วเมื่อได้ตึกชั้นเจ็ดนั้น ผมสองคนยังอยู่อย่างคนโสด ทางบ้านยังไม่มาทั้งคู่ ทางผมนั้นปัญหาแยะ จะเดินทางมาอยู่ด้วยไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เงินมันไม่มี

ผมกับพันศักดิ์นอนโรงแรมแล้วก็กินข้าวกลางวัน เย็นที่ตึก พี่ดมเป็นแม่ครัวเอง และพาคนใช้มาอยู่กับท่านแล้วที่ตึก เมซองรัวยาล นั่น อีกสองคน คือหญิงคน ชายคน

ตึกหลังเบ้อเริ่มหลังนี้มันดูโก้ใหญ่ ราคาทั้งตึกคงเป็นหลายสิบล้าน คนที่มาเยี่ยมระยะหลัง ๆ มีพวกหนังสือพิมพ์ มาเห็นตึกนี้เข้าก็เอาไปเขียนว่าท่านรัฐมนตรีเผ่า ฯ มาซื้อตึกแปดชั้นใหญ่โต ราคาเป็นสิบ ๆ ล้าน คงจะขนเงินจากเมืองไทยมาหลายร้อยล้าน ผมอ่านข่าวแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ ทั้งตึกก็เป็นเจ้าของเพียงครึ่งชั้นเท่านั้น เอาไปเขียนกันเป็นตุเป็นตะ จะถามเราสักหน่อยก่อนเขียนก็ไม่ได้ ว่าอะไรเป็นอะไร

แต่ถ้าถามก่อนเขียนก็ไม่ใช่นักหนังสือพิมพ์ ต้องเขียนให้มันยุ่ง ๆ เข้าไว้ ยิ่งเป็นคนตกอับหมดอำนาจวาสนาด้วยแล้ว ยิ่งเขียนให้มันสนุกไปใหญ่

ได้ที่อยู่เป็นเรื่องเป็นราวแล้วก็ได้อยู่อย่างสบาย ๆ เสียที มีเวลานั่งคิดนอนคิดว่า จะทำอะไรกันต่อไป ยังไม่รู้ว่าอนาคตจะไปทางไหน และจะต้องใช้ชีวิตอยู่ต่างแดนนี้อีกนานเท่าไร


จอมพล ป. เผ่น !

มาได้ข่าวทีหลังว่า ในวันที่เกิดเรื่องปฏิวัตินั้น ท่านจอมพล ป. ไม่ได้เข้าไปพบหัวหน้าคณะปฏิวัติตามคำประกาศเชิญ ท่านออกจากทำเนียบก็ขึ้นรถหลบหนีไปทางทิศตะวันออกทันที โดยเลียบฝั่งทะเล มุ่งหน้าไปทางเมืองชล ฯ จะไปพักพิงที่สัตหีบ ที่นั่นลูกชายของท่านเป็นผู้บังคับการทหารเรือฝ่ายนาวิกโยธิน อยู่ที่หน่วยนาวิกโยธินสัตหีบ ชื่อ พลเรือตรี ประสงค์ พิบูลสงคราม

ผบ. นาวิกโยธินผู้นี้เป็นเพื่อนร่วมชั้นของผมเมื่ออยู่โรงเรียนสวนกุหลาบ ไปยังไงมายังไง ถึงได้เป็น ผบ. นาวิกโยธินที่สัตหีบได้ ผมก็ไม่ทราบ

ท่านจอมพล ป. ไปตั้งหลักที่นั่นกับลูกชาย เปิดวิทยุฟัง ท่านมีนายตำรวจประจำตัวท่านติดตามไปด้วย นายตำรวจผู้นั้น ชื่อ พันตำรวจโท ชุมพล โลหะชาละ ผู้กำกับกอง 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล นายตำรวจผู้นี้ ผมส่งไปเป็นนายตำรวจติดตามท่านจอมพล ป. ให้มีหน้าที่อารักขาท่านจอมพล ป. โดยเฉพาะ โดยตำแหน่งเขาก็เป็นผู้บังคับการกองกำลังของตำรวจสันติบาลอยู่ด้วย เป็นหน้าที่ของกอง 4 โดยตรง

ท่านจอมพล ป. ไปเปิดวิทยุฟังอยู่ที่สัตหีบ ท่านได้ยินเขาเชิญให้ไปปรับความเข้าใจเหมือนกัน ท่านพูดกับผู้ที่นั่งฟังวิทยุด้วยกันว่า

“ เดี๋ยวเหอะ มาร์ชตำรวจคงขึ้น คอยฟังกันดีกว่า เผ่า ฯ เอาแน่ ”

แต่มาร์ชตำรวจก็ไม่ดังสักที กลับกลายเป็นประกาศคณะปฏิวัติดังออกมาว่า “ พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงมหาดไทยและอธิบดีกรมตำรวจได้เข้าพบทำความเข้าใจกับหัวหน้าคณะรัฐประหารแล้วที่หอประชุมกองทัพบก ”

ท่านจอมพล ป. ก็อยู่ไม่ได้ ผิดความคาดหมายอย่างจัง ท่านเลยต้องออกจากที่นั่นไป ขืนอยู่ก็ไม่แน่ว่า ทางคณะปฏิวัติจะเอาอย่างไรกับท่าน และลงบุคคลทั้งสองได้พบกันอย่างนี้ ก็ไม่รู้ว่าเขาจะตกลงกันได้แค่ไหน ท่านเองก็ได้วางหมากไว้กับบุคคลทั้งสองนี้มามาก

เผ่นดีกว่า !

ท่านจอมพล ป. ใช้พาหนะของนาวิกโยธินที่นั่น อพยพออกไปทางชายแดนด้านนั้น ข้ามแดนเข้าไปในแดนเขมร ท่านเคยช่วยสีหนุไว้แล้ว ตอนที่หนีฝรั่งเศสมาพึ่งไทย ผมเป็นคนไปรับมาจากชายแดนมาไว้ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์คราวนั้น เมื่อปี พ.ศ. 2500 นั้น สีหนุครองเขมรอยู่ คงจะเป็นที่พักพิงได้ดีกว่าที่จะอยู่ในเมืองไทย

ผู้กำกับชุมพล ฯ ทำหน้าที่ของเขาอย่างสมหน้าที่ เขาติดตามขบวนท่านจอมพล ป. ไปส่งจนถึงชายแดน ข้ามชายแดนเข้าไปในเขมรโดยสวัสดิภาพแล้ว ตัวเขาจึงกลับเข้าเมืองไทย หมดหน้าที่แล้วก็กลับกรุงเทพ ฯ มารายงานตัวกับคณะปฏิวัติ

งานอารักขาบุคคลสำคัญตามคำสั่งจบลงแล้ว กลับเข้ากรมกอง รายงานตัวเข้าที่ตั้งเดิม ไม่มีใครตอแยอะไรกับเขา เขาคงทำหน้าที่ผู้กำกับกอง 4 อย่างปกติ

คณะรัฐประหารกลับชมเชยเขา ในฐานะที่ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ตามที่ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา และให้เขาเข้าทำหน้าที่ตามเดิม แถมยังปูนบำเหน็จให้อีกสองขั้น เนื่องจากเป็นผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่เข้มแข็ง สมกับที่ผู้บังคับบัญชาไว้วางใจ รักษาความปลอดภัยให้ผู้ใหญ่ที่ตนได้รับคำสั่งให้ไปอารักขาสำเร็จตามหน้าที่

เขาเจริญเติบโตในหน้าที่ราชการอยู่กรมตำรวจจนถึงตำแหน่งสุดยอดของกรม ได้เป็นอธิบดีกรมตำรวจในยศ พลตำรวจเอก และเกษียณอายุราชการไปบนตำแหน่งนี้

เป็นบุคคลอีกคนหนึ่งที่ท่านับถือในความจริงใจและรักหน้าที่อย่างเคร่งครัด หาได้ยาก

ท่านอธิบดีเผ่า ฯ และพวกผมได้รับทราบข่าวนี้เมื่ออยู่ที่เจนีวา เราก็ชมเชยน้ำใจเขา และรู้สึกภาคภูมิใจไปกับเขาด้วย

ไม่เหมือนกับบุคคลอีกหลาย ๆ คนที่ เมื่อเราพ่ายแพ้ไปอย่างสุภาพบุรุษ กลับหันมาเหยียบย่ำเราอย่างเจ็บแสบ ทั้ง ๆ ที่เมื่อท่านอธิบดีเผ่า ฯ ยังอยู่ในอำนาจ เขาเหล่านั้นก็ได้เข้ามาพักพิงภายใต้ร่มใบบุญ เป็นใหญ่เป็นโตด้วยบารมีของท่าน ที่เขาเข้ามาอาศัยพักพิง




Create Date : 18 เมษายน 2553
Last Update : 18 เมษายน 2553 2:57:20 น. 3 comments
Counter : 1209 Pageviews.

 


โดย: ก้นกะลา วันที่: 18 เมษายน 2553 เวลา:3:22:02 น.  

 


โดย: thanitsita วันที่: 18 เมษายน 2553 เวลา:11:58:32 น.  

 
สมชื่อเรื่อง บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย จริงๆ


โดย: บักบุญเถิง IP: 180.8.5.227, 203.146.217.35 วันที่: 19 เมษายน 2553 เวลา:12:14:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.