ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" (ตอนที่ 62)
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 62
ผลลัพธ์จากการเป็น สุภาพบุรุษ ทางการเมือง ผมได้เขียนไว้ข้างต้นแล้วว่า สงคราม การเมือง ความรัก ไม่มีคำว่า สุภาพบุรุษ
ในสนามการต่อสู้ทั้งสามประการนี้ คนที่เอาความเป็นสุภาพบุรุษออกมาใช้ ก็ต้องประสบกับความพ่ายแพ้อย่างยับเยินทุกคน
ดูเอาก็แล้วกันครับ แม้ในสมัยนี้ คนที่เล่นการเมืองอย่างสุภาพบุรุษนั้น ต้องประสบกับผลลัพธ์อย่างไร สัญญาสุภาพบุรุษย่อมไม่มีผลตอบแทนที่ส่งประโยชน์กับผู้ที่ใช้ความเป็นสุภาพบุรุษ มีแต่จะพ่ายแพ้อย่างยับเยินในบั้นปลาย
ฝ่ายตรงข้ามจะใช้ความเป็นสุภาพบุรุษของอีกฝ่ายหนึ่งเป็นประตูที่จะรุกรานเข้ามาในทุกวิถีทาง อย่างไม่คำนึงถึงหลักเกณฑ์อะไรทั้งสิ้น อาศัยช่องโหว่ที่เปิดให้ด้วยคำว่า สุภาพบุรุษ ของอีกฝ่ายหนึ่ง เป็นหนทางรุกเข้ามายึดครองสถานการณ์อย่างสะดวกสบาย
เหตุการณ์ทางการเมืองได้แสดงให้เราเห็นแล้วว่า การใช้ความดื้อด้านในทางการเมืองนั้น ส่งผลในทางได้เปรียบให้แก่ผู้ใช้ความดื้อด้านอย่างไร
รัสเซียเดินทัพเข้ายึดครองอัฟกานิสถานอย่างหน้าตาเฉย เข้าไปตั้งฐานทัพอยู่ในประเทศนั้น และทำการเข่นฆ่าประชาชนเจ้าของประเทศที่ต่อสู้เพื่อประเทศชาติของตนล้มตายเป็นว่าเล่น ใครจะประณาม ด่าว่าอย่างไร ก็มาสน ญวนยกทัพเข้ายึดครองกัมพูชา ลาว หน้าตาเฉยเหมือนกัน โดยไม่ต้องให้เหตุผลของการกระทำนั้น ทั้งที่เห็น ๆ กันอยู่ว่า มันเป็นการรุกรานอย่างชัด ๆ ที่กระทำต่อประเทศที่กำลังน้อยกว่า ใครจะประณาม ก็ไม่สนใจ หรือแสดงความอ่อนไหวออกมา ตั้งหน้าตั้งตาขยายการยึดครองออกไป เพื่อประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว และยังทำท่าจะคืบขยายการยึดครองออกไปยังประเทศข้างเคียงอีกด้วย ทางด้านองค์การสหประชาชาติ ก็เข้าชื่อกันประณามการกระทำของรัสเซีย และเวียดนามไป สองประเทศก็วางเฉย ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น นี่แหละคือการเมืองและการสงคราม
กฎบัตรสหประชาชาติที่วางก็เหมือนกับของเล่นที่ประเทศที่กระทำตนเป็นสุภาพบุรุษ รับนับถือกันไป กติกาอย่างนี้เขาวางไว้สำหรับพวกที่บำเพ็ญตนเป็นสุภาพบุรุษ ยอมรับอยู่พวกเดียว อเมริกันก็เถอะ ที่ว่าเป็นฝ่ายที่ยอมรับกฎบัตรสหประชาชาติ เป็นตัวอย่างของประเทศที่เป็นประชาธิปไตย เมื่อถึงครามจำเป็น ก็เข้ายึดครองอเมริกาใต้หลายประเทศ
เมื่อโซเวียตรัสเซียเข้าไปยุ่งในคิวบาซึ่งอยู่ปลายแหลมอเมริกาใต้ อเมริกันก็ต้องเข้ายึดครองอเมริกาใต้ ส่วนที่อยู่ใกล้แหลมตอนเหนือคิวบาไว้ก่อน ก่อนที่อิทธิพลของฝ่ายโซเวียตจะข้ามจากคิวบามาเข้ายึดครอง เพราะถ้าโซเวียตตั้งรากฐานได้ในอเมริกาใต้ ก็เท่ากับเอามีดมาจ่อคอหอยอเมริกัน รัสเซียนั้นเสียท่าอเมริกันมาแล้วแต่หนหลัง เมื่อยังเป็นประเทศที่ปกครองด้วยมหากษัตริย์ในราชวงศ์พระเจ้าซาร์ เมื่อทางรัสเซียบอกขาย อลาสก้า ให้ในราคาถูก ๆ เพราะเห็นว่าเป็นดินแดนที่ทำประโยชน์อะไรไม่ได้แล้ว มีแต่น้ำแข็งเต็มไปหมด อยู่ถึงขั้วโลกเหนือ อเมริการับซื้อไว้ด้วยความมีสายตายาวทันที อเมริกันจึงมีส่วนหนึ่งที่นับว่าเป็นของอเมริกา ไว้จ่อคอหอยโซเวียตอย่างใกล้ชิด โซเวียตหายใจไม่สะดวกอึดอัดอยู่จนบัดนี้ อเมริกายังไปสร้างฐานทัพเอาไว้ที่นั่นเพิ่มเติมเข้าไปอีก อเมริกาเป็นประเทศเศรษฐี ใช้เงินบันดาลพลิกแผ่นดิน อลาสก้า ที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งสุดลูกหูลูกตา ให้เป็นที่ตั้งฐานทัพได้อย่างสบาย ๆ การแข่งขันกันในทางการสร้างอำนาจของอภิมหาประเทศทั้งสองนี้ เป็นไปอย่างไปต้องคำนึงถึงกฎบัตรกฏเกณฑ์อะไรทั้งนั้น คำว่า สุภาพบุรุษ ไม่มีในความคิดของทั้งสองประเทศนี้ เมื่อถึงคราวที่จะต้องรักษาผลประโยชน์และความมั่นคงของประเทศ ต่างก็จ้องที่จะเข้ายึดครองประเทศที่ด้อยกว่าเมื่อมีโอกาส เพื่อรักษาความเป็นต่อในทางการเมืองและทางสงครามไว้ สัจธรรมข้อนี้ใช้ได้กับการปกครองประเทศเหมือนกัน รัฐบาลไหนทำตัวเป็นสุภาพบุรุษในทางการเมืองอย่างไม่มีขอบเขต ก็ย่อมต้องเสียท่าฝ่ายตรงกันข้ามเข้าสักวันหนึ่ง ไม่ถือเอาความเป็นสุภาพบุรุษในทางการเมืองมาเป็นข้อยึดถือ รัฐบาลสมัยนั้น ซึ่งเป็นตอนระหว่างปี 2497 2498 2499 กำลังดำเนินนโยบายต่อต้านคอมมิวนิสต์เต็มเหวี่ยง ในทุกรูปแบบ ก็ไม่ถือในเรื่องเป็นสุภาพบุรุษเหมือนกัน ใช้วิธีการทำลาย ล้างคอมมิวนิสต์ เช่นเดียวกับที่คอมมิวนิสต์กระทำกับประชาชน แม้แต่ของตนเอง ด้วยการทำลายล้าง
รัสเซียนั้นกว่าจะเป็นคอมมิวนิสต์เต็มตัว ปกครองประเทศด้วยคณะบุคคลเต็มอำนาจในบัดนี้ ก็ได้เข่นฆ่าบุคคลในราชวงศ์พระเจ้าซาร์มาแล้วเป็นพัน ๆ คน รวมทั้งบุคคลในฝ่ายตรงข้ามด้วย นับศพไม่ถ้วน
ในขณะที่ฝ่ายประเทศประชาธิปไตยยังงุ่มง่ามอยู่กับการเป็นสุภาพบุรุษ และค่อย ๆ ถูกคอมมิวนิสต์กลืนทั้งชีวิต ผู้คน และดินแดน ขยายอิทธิพลกว้างออกไปทุกก้าวที่ย่างเข้าไป โดยไม่คำนึงถึงกฏเกณฑ์ที่ตนเองร่วมสร้างเอาไว้ในสหประชาชาติ แต่เป็นการสร้างให้คนอื่นยึดถือฝ่ายเดียว ฉวยโอกาสจากการเป็นสุภาพบุรุษของอีกฝ่ายเข้ายึดครอง รุกรานสนุกมือ
ประเทศไทย ในระหว่างปีที่กล่าวนั้น กำลังอยู่ในสภาพที่โดนรุ่มล้อมด้วยฝ่ายคอมมิวนิสต์ ไม่เฉพาะในจังหวัดชายแดนใกล้กับประเทศที่เปลี่ยนไปปกครองด้วยคอมมิวนิสต์เท่านั้น
ในเมืองกรุงเอง ก็มีการเคลื่อนไหวที่จะแทรกแซงของฝ่ายคอมมิวนิสต์อย่างมากมาย
รายงานต่าง ๆ เหล่านี้มาถึงมือผมทุกระยะ และก็ได้ส่งขึ้นไปเบื้องบนให้รับทราบ ทั้งวางแผนการป้องกันปราบปรามหยุดยั้งไว้ให้ปฏิบัติด้วย จนในที่สุด ทางรัฐบาลก็ตกลงใจที่จะใช้วิธีการเดียวกันกับที่คอมมิวนิสต์ใช้ คือทำลายและกวาดล้าง
Create Date : 08 เมษายน 2553 |
|
5 comments |
Last Update : 8 เมษายน 2553 2:28:23 น. |
Counter : 1223 Pageviews. |
|
|
|
ขอบคุณมากๆ..ที่นำมาให้อ่าน..