ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" (ตอนที่ 9)
ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 9
เผยโฉมหัวหน้าคณะรัฐประหาร
ตัวจริงที่เป็นหัวหน้าคณะรัฐประหารที่แท้จริงก็ก้าวออกมาสู่สายตาประชาชนเต็มตัว ท่านผู้นั้นคือ ท่านจอมพล แปลก พิบูลสงคราม หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า จอมพล ป. ก็ได้รับเชิญขึ้นมานั่งบนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หลังจากที่ต้องก้าวลงจากตำแหน่งหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และได้เข้าไปลิ้มรสคุกตะรางในข้อหาหนัก ฐานเป็นอาชญากรสงครามเสียหลายเดือน กว่าจะได้รับการปล่อยตัวออกมา
เมื่อท่านจอมพล ป. ขึ้นนั่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง คณะรัฐประหารก็เข้ามาควบคุมสถานการณ์บ้านเมืองเต็มที่ ตามที่ควรจะเป็น เพิ่งจะมารู้สึกเอาตอนเกือบจะเข้าไคล คณะรัฐมนตรีของท่านจอมพลแปลก พิบูลสงคราม จึงประกอบไปด้วยบุคคลในคณะรัฐประหารเป็นส่วนใหญ่ รัฐมนตรีในกระทรวงสำคัญ ๆ ก็เป็นบุคคลในคณะรัฐประหาร หรือไม่ก็ต้องเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดคณะรัฐประหาร
พันเอก เผ่า ศรียานนท์ เข้ามามีตำแหน่งในกรมตำรวจ ในระดับผู้ช่วยอธิบดี ขณะนั้นตัวอธิบดีกรมตำรวจจะเป็นใคร ผมก็จำไม่ถนัด ตอนนั้นไม่ได้เอาใจใส่กับใครในกรม ฯ จะเป็นพระรามอินทรา หรือพระพิจารณ์พลกิจ ก็ไม่แน่ แต่ที่จำได้แน่ ๆ ก็คือ ตอนนั้น ท่านปรมาจารย์ของผม สมัยที่ผมยังเป็นนักเรียนนายร้อยอยู่ จะเป็นอาจารย์สอนวิชากฎหมายให้พวกผมมาสามปีรวด คือ ท่านคุณหลวงโชติชนาภิบาล ยศของท่านตอนนั้น ผมก็จำไม่ได้อีก ท่านมีตำแหน่งเป็น หัวหน้ากองวิชาการกรมตำรวจอยู่
พันเอก เผ่า ฯ เมื่อเข้ามาเป็นผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจนั้น ก็ได้เข้าศึกษาวิชาการตำรวจจากท่านผู้นี้ในขั้นต้นเหมือนกัน ในระยะแรก ๆ ที่เข้ามาใหม่ ๆ ส่วนผมยังคงประจำกองกำกับการ 2 ตำรวจสันติบาลอยู่อย่างเดิม
พรรคพวกที่เคยอยู่กองตรวจสันติบาลด้วยกันสมัยสงคราม ถูกย้ายออกภูธรกันเป็นแถว ผู้กำกับเยื้อนไปอยู่นครปฐม พันศักดิ์ไปอยู่สมุทร สาคร เมืองที่พ่อเคยเป็นเจ้าเมืองอยู่ ไอ้เทียน กับชูลิต มือต่อยคนที่ร้านกิ่งแก้ว จูงมือกันไปอยู่หาดใหญ่ สงขลาโน่น แตกสานซ่านเซ็นไปกันทั้งพวง เป็นการย้ายยกกระบิมือปืนเสรีไทยไปทีเดียว กองตรวจนครบาลตั้งขึ้นมาใหม่ มีพันตำรวจตรีคนใหม่ ชื่อจำไม่ได้ มาเป็นผู้กำกับการ สารวัตรทั้งสามแผนกก็เป็นคนใหม่มาอยู่แทน ผมจำไม่ได้ว่าเป็นใครบ้าง
ผมก็ไม่ทราบว่า ทำไมตัวผมจึงได้อยู่ที่เก่าเพียงคนเดียวได้ แต่ก็ไม่มีตำแหน่งอะไร ยังคงเป็นประจำกองกำกับการ 2 อยู่อย่างนั้น รับงานเท่าที่นายจะสั่ง เป็นงานจร แล้วแต่จะสั่งให้ทำอะไร ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ก็ดีไปอย่าง ที่ได้มีเวลาว่างไปสนุกสนานเฮฮากับเพื่อนที่สโมสรสหมิตรไปวัน ๆ ที่โต๊ะบิลเลียดทุกเย็น จนไปได้แชมป์สนุ้กเกอร์ ประเภทไม่มีแต้มต่อของสโมสร เป็นที่ฮือฮากันมากในปีที่ผมเป็นแชมป์ เพราะตำแหน่งนี้เขาก็มีคนรับตำแหน่งวนเวียนกันอยู่ทุกปีเพียงสองสามคน ไม่เคยมีใครอื่นแหวกวงเข้าไปได้ เพราะสองสามคนนั่นฝีมือเขาเยี่ยม เป็นประเภทแนวหน้าของสโมสรจริง ๆ ผมหลุดเข้าไปชิงเอาตำแหน่งแชมป์สนุ้กเกอร์มาจากกลุ่มนี้ได้ยังไงก็ไม่รู้ แล้วก็ครองตำแหน่งอยู่ได้เพียงปีเดียว เจ้าเก่าเขาก็มาชิงเอาไปอีก
เจ้าเก่าสมัยนั้นมีชื่อดัง ๆ ทั้งนั้น คือ หลี ชิมตระกูล หนึ่ง ชวน หโยดม หนึ่ง และ สมาน สิทธิวานิช อีกหนึ่ง ทั้งสามคนนี่เขาวนเวียนชิงตำแหน่งกันทุกปี
Create Date : 22 มกราคม 2553 |
Last Update : 22 มกราคม 2553 2:38:04 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1235 Pageviews. |
|
|
|