|
จับปูดำ ขยำปูนา (บทที่ 7 ตอนที่ 1)
จากบ้านแม่ต๊อย ผมใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เข้าสุขุมวิทซอย ๔๒ ที่อยู่ของแม่เก๋เป็นแฟลตสูงห้าชั้น จอดรถที่ตรงข้างทางขึ้นแล้ว ผมก็หันมาถามแม่เก๋ว่า
อยู่กันกี่คนนะเก๋ รู้สึกว่าจะเป็นแฟลตที่ใหญ่โต
เก๋ อยู่คนเดียวค่ะ พี่ แม่เก๋ตอบ ยังไม่ก้าวลงจากรถ เพื่อนที่มันมาอาศัยเมื่อคืนนี้ มันกลับหรือยังก็ไม่รู้
ถ้าเขายังไม่กลับ เก๋ จะทำยังไง ผมถาม
นั่นซี พี่ มันกำลังหลงแฟนมันอยู่ด้วย
ลองไปถามคนดูแลเขาก่อนก็แล้วกัน ผมลงจากรถนำแม่เก๋เข้าไปข้างใน
เด็กหนุ่มคนที่ดูแลแฟลตเงยหน้าขึ้นมองแม่เก๋ ยิ้มให้อย่างคุ้นเคย แล้วก้มลงหยิบกุญแจดอกหนึ่งออกมาจากเก๊ะตรงหน้าส่งให้แม่เก๋
เพื่อนพี่เขาฝากกุญแจไว้ให้ เขาออกไปเมื่อตอนสิบเอ็ดโมงนี่แหละพี่
ขอบใจจ้ะ แม่เก๋กล่าวขอบใจ รับกุญแจจากเด็กหนุ่มคนนั้นแล้วหันมามองผม
งั้นพี่กลับละนะ ผมพูด จะไปหาที่งีบสักหน่อย หลังอาหารกลางวันพี่ต้องพักผ่อนซักนิด ก่อนที่จะไปทำงานอื่น
บ้านพี่อยู่ถึงไหนคะ หล่อนถาม จะถามไปเรื่อย ๆ หรือยังไงก็ไม่รู้
ประตูน้ำ ผมบอกไปยังงั้น
ไปอีกตั้งไกล หล่อนพูดทิ้งไว้แค่นั้น มองดูผมนิ่งอยู่ นัยน์ตาแม่เก๋ยิ่งสวยขึ้นอีกตอนนี้ ทิ้งปัญหาไว้ให้ผมคิดว่าหล่อนเพียงแต่รำพึงหรือเป็นห่วง หรือว่าจะให้ผมทายใจเอาเอง
นั่นนะซี ผมลัดคิวทันที ให้พี่นอนพักที่นี่ซักครู่ก็แล้วกันนะ เก๋
แล้วผมก็คว้าข้อศอกแม่เก๋ดึงเบา ๆ ไปที่ลิฟต์ที่อยู่ข้าง ๆ กดปุ่มเรียกลิฟต์ พอดีมีลิฟต์ว่างที่จอดอยู่ข้างล่างเปิดออก ผมก็ตึงแม่เก๋ก้าวเข้าไป
ชั้นไหนละ เก๋ ผมถาม
แม่เก๋กดปุ่มเลขสี่ ประตูลิฟต์ปิด แล้วมันก็พาเราเลื่อนขึ้นไปช้า ๆ หยุดอยู่ที่ชั้นสี่ ประตูเปิด แม่เก๋เดินนำหน้าไป ผมก็ต้องตามไป
ถึงห้อง ๔๔๑ หล่อนก็เปิดกระเป๋าถือ เอากุญแจออกมาไขประตู เปิดดันเข้าไป แล้วยืนมองผมนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเดินเจ้าห้อง ผมก็ต้องตามเข้าไปอีก และไม่ลืมที่จะปิดประตูให้ตามหน้าที่
แม่เก๋โยนกระเป๋าถือลงบนเตียงนอนขนาดกว้าง ตรงปลายเตียงมีกระจกบานใหญ่และโต๊ะแต่งตัวทันสมัย เป็นห้องที่ค่อนข้างจะกะทัดรัด เครื่องแต่งห้องอยู่ในขั้นดี มีเก้าอี้โต๊ะรับแขกวางอยู่ที่มุมห้อง และมีตู้เย็นเล็ก ๆ อยู่ทางอีกมุมห้อง บรรยากาศในห้องน่ารักน่าอยู่
แพงไหม เก๋ ค่าเช่า ผมถามด้วยความสนใจ
ไม่แพงหรอกพี่ เดือนละสามพันเท่านั้น
หล่อนตอบพร้อมกับทิ้งตัวลงบนที่นอนบนเตียง
ถามให้พี่หน่อยได้ไหมวันหลัง ว่ายังมีห้องเหลืออยู่อีกไหม ผมก็พูดไปยังงั้นอีก
พี่จะมาอยู่ที่นี่หรือคะ
ผมนั่งลงข้าง ๆ หล่อน จับมือมากุมไว้พลางพูดว่า
ก็คิดว่ายังงั้น จะได้มาอยู่ใกล้ ๆ เก๋
หล่อนมองดูผมด้วยหางตา
อื่อ-อื้อ พี่ต๊อยจะได้มาแหกอกเก๋นะซี เมื่อกี้ก็ยังสั่งแล้วสั่งอีก
เขาก็พูดไปยังงั้น เขาไม่ได้รักไม่ได้หลงพี่จริง ๆ หรอก ผมพูดไปมือก็ลูบไล้มือแม่เก๋ไป เก๋นี่มือน่ารักนะ
ไวยังกะปรอทอย่างพี่ต๊อยว่าจริง ๆ ด้วย หล่อนพูด แต่ไม่ดึงมือออกจากการลูบไล้ของผม
ตรงข้าม พี่เป็นผู้ชายที่เชื่องช้าที่สุด แต่เมื่อชอบใคร รักใครแล้ว มันก็เป็นไปเอง หัวใจมันบอกให้ทำอะไรก็ทำด้วยความจริงใจ แล้วผมก็จุ๊บหล่อนเบา ๆ ที่แก้ม เป็นการเน้นคำพูด
พี่จะพักผ่อนก็นอนซีคะ เก๋จะอาบน้ำ หล่อนดึงมือออก ลุกขึ้นจากเตียง
ผมเอนตัวลงที่พนักเตียง ถอดรองเท้าออก มองดูหล่อนเดินไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้า หยิบเอาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ออกมาพาดบ่า เดินเข้าห้องน้ำซึ่งอยู่ข้าง ๆ กระจกแต่งตัวปลายตีนเตียง
ผมถอดเสื้อปลดกางเกงออกจากตัว เหลือแต่กางเกงใน ระหว่างที่หล่อนหายเข้าไปในห้องน้ำ แล้วลงนอนราบกับที่นอนแล้วหลับตา สักครู่ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิด ผมทำเป็นนอนหงายนิ่งหลับตาอยู่ยังงั้น เสียงเท้าย่องมาเบา ๆ มาข้าง ๆ เตียงทางด้านที่ผมนอนอยู่ กลิ่นหอม ๆ โชยเข้าจมูก ผมลืมตาขึ้น ใบหน้าของแม่เก๋กำลังชะโงกเข้ามาดูผมพอดี
ผมรั้งร่างที่อยู่ในชุดกระโจมอกด้วยผ้าเช็ดตัวอยู่นั่นลงมาหาตัว ดึงผ้าเช็ดตัวผืนนั้นหลุดออก โยนไปที่เก้าอี้ข้าง ๆ เตียง แล้วปากของผมก็บดลงไปบนปากแม่เก๋ แขนรัดตัวไว้ หล่อนดิ้นไม่หลุด แม่เก๋ไม่ได้พยายามที่จะดันตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุมของผม เพียงแต่ดิ้นน้อย ๆ พอเป็นพิธี แต่ลิ้นของหล่อนควานขวักไขว้อยู่กับลิ้นของผมเหมือนกัน พักใหญ่หล่อนก็ถอนปากออกแล้วครางออกมา จับไม่ได้ว่าเป็นเสียงอะไร
อกของหล่อนบดอยู่กับอกของผม เค้าคลึงเบียดแน่นเต็มหน้าอก นุ่มนวลยวบยาบ แขนทั้งสองข้างเกาะนิ่งแน่นอยู่กับไหล่ของผม ใบหน้าซบนิ่งอยู่ที่ซอกคอ หยุดดิ้น
ผมพลิกร่างของหล่อนหงายขึ้น ฝังจมูกลงไปบนหน้าอก เสียงครางไม่เป็นส่ำก็ครวญครางออกมาอีก มือทั้งสองข้างของหล่อนขยุ้มอยู่บนเส้นผมของผม อารมณ์ของหล่อนกระเจิงแล้ว
ผมสลัดกางเกงในออกไปทางปลายเท้า ลงดาบขั้นสุดท้ายเปรี้ยงลงไป ร่างของแม่เก๋ก็แอ่นรับ มือจิกผมบนหัวของผมแน่นเกร็ง พร้อมกับส่งเสียงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
บทพิศวาสของแม่เก๋ไม่เบาหรอก ทั้งตอบโต้ถอยรับเหมือนคนเจนสนามจนกว่าเราจะอ่อนเพลียเมื่อย แรงเกมที่ร่วมกันเล่นนี้ก็เดินไปถึงสามยก หล่อนเป็นฝ่ายปลุกระดม ไม่ใช่ผม แล้วผมมันก็เป็นคนขี้ตามใจคนโดยเฉพาะสำหรับผู้หญิง ถ้าผมไม่ห้ามไว้เสียก่อนก็คงต้องเพียบยิ่งกว่านี้ เห็นสวย ๆ ติ๋ม ๆ ยังงี้ บนเตียงหล่อนเหลือร้าย
ผมหลับไปนานเท่าไรก็ไม่ทราบ รู้สึกตัวตื่นขึ้นเพราะผ้าเย็น ๆ ที่ลูบไล้ใบหน้าอยู่ ลืมตาขึ้นก็เห็นใบหน้าของแม่เก๋ยิ้มอยู่ตรงหน้า หล่อนกำลังลูบไล้ใบหน้าของผมด้วยผ้าเย็นกลิ่นหอมอยู่ พอผมลืมตาหล่อนก็ก้มลงจูบผมที่ริมปากเบา ๆ
ฟื้นแล้วหรือ พี่ สลบไสลไปเชียว เมื่อคืนคงไม่ได้นอนจริง ๆ แหละ
ผมดึงร่างของหล่อนลงมากอด หล่อนยังอยู่ในชุดผ้าเช็คตัวคลุมร่าง พึมพำอยู่กับอกผมว่า
พี่ต๊อยรู้เข้าจะว่ายังไง อย่าให้เขามาแหกอกเก๋นะพี่ พี่นี่น่าหวงจริง ๆ ด้วย
คนอย่างพี่ ไม่เคยเป็นสมบัติของใคร ผมตบไหล่ที่ซบอยู่กับอกเบา ๆ พี่รักที่จะมอบให้ใคร พี่ก็มอบให้ และถ้าใครมารังแกคนที่พี่รับผิดชอบ คนคนนั้นก็ต้องเป็นคนที่เคราะห์ร้ายที่สุดในโลก
พี่รับผิดชอบเก๋ด้วยหรือเปล่าจ๊ะ หล่อนกระซิบอยู่บนอก
เก๋อยากให้พี่รับผิดชอบหรือเปล่าล่ะ
เก๋ก็บอกไม่ถูก เก๋ชอบพี่ เก๋ก็ยังไม่รู้ว่าทำไมเก๋จึงชอบพี่ และเก๋ไม่เคยยุ่งกับใคร จริง ๆ นะ พี่ หล่อนเงยหน้าขึ้นมาจ้องผมเป็นการยืนยันคำพูด
นัยน์ตาแม่คนนี้ยืนยันคำพูดได้จริง ๆ ผมก็ยังไม่แน่ใจว่า หล่อนจะเป็นนักแสดงอีกคนหรือเปล่า แต่เรือนร่างของหล่อนและช่องทางไม่ได้แสดงว่าหล่อนได้ถูกผ่านมามากมาย แต่บทตอบรับนี่ซีเหลือร้าย ยิ่งกว่าคนเจนเวทีหลาย ๆ คน
ยอดทวนไม่เคยเชื่อใครง่าย ๆ และยิ่งคนนั้นเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว ยิ่งเชื่อยาก พี่คงไม่เชื่อเก๋หรอก หล่อนพูดยังกับเดาใจผมออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ เห็นเก๋ง่าย ๆ อย่างนี้ เก๋ไม่เคยง่ายกับใคร รู้จักเก๋นาน ๆ เข้า พี่ก็จะเห็นเอง แต่ว่าพี่จะยังรู้จักเก๋อีกนานเท่าไร เก๋ก็ไม่กล้าเดา พี่ต๊อยเขาว่าพี่ไวยังกะปรอท จริงของเขาด้วย เก๋เคยทำงานที่ไหนหรือเปล่าจ๊ะ ผมเปลี่ยนเรื่องให้มันหายเครียด ชักจะจนมุม เก๋ร้องเพลงอยู่สองแห่งค่ะ หล่อนเงยหน้าขึ้นตอบผม นัยน์ตาของหล่อนมีน้ำใส ๆ เอ่ออยู่ มันส่งประกายสั่นระริกอยู่ในนั้น ตอนหัวค่ำ ตั้งแต่ทุ่มนึงถึงสามทุ่ม เก๋ร้องอยู่ที่โรมา หลังจากสามทุ่ม เก๋ก็ต้องไปร้องที่อะพอลโลจนถึงสองยาม ถ้าวันศุกร์-วันเสาร์ ก็เลิกเอาตีหนึ่ง ไอ้โรมา กับอะพอลโลนี่มันอยู่ที่ไหน
โรมาก็อยู่ปลายถนนราชดำเนินไงละ พี่ คนละด้านกับพี่ต๊อยเค้า อะพอลโลก็อยู่แถว ๆ บางรักหน้าไปรษณีย์กลาง
โอ้โฮ ! ห่างกันคนละทิศ ผมต้องอุทายออกมา ขับรถเมื่อยแย่
เก๋ไม่มีรถขับหรอก พี่ ยังเก็บเงินไม่ได้ เพิ่งจะทำงานอย่างนี้ไม่กี่เดือน มีแท็กซี่ประจำจ้ะ
ค่าแท็กซี่กินหมด คงจะได้เดือนละเป็นหมื่นละซีงั้น ผมถามเรื่อยเปื่อยให้มันไปเสียอีกเรื่อง
สองแห่งก็ได้รวมแล้วหมื่นห้า ค่ารถเขาขอเดือนละสามพัน เขาไม่ได้คอย ถึงเวลา เขาก็มารับมาส่ง ตอนว่างเขาก็ไปหาเงินของเขา เป็นคนดีพี่ มีลูกมีเมียแล้ว พูดจาเรียบร้อย เก๋ถึงไว้ใจเขา
ผมโอบไหล่หล่อนไว้เฉยอยู่ คิดอะไรของผมอยู่ในใจเงียบ ๆ
แล้วเมื่อไร พี่จะมาพบเก๋อีกคะ หล่อนเคยหน้าขึ้นมองผม คืนนี้ พี่ต๊อยเขาก็คงเอาตัวพี่ไว้อีก
ผมหัวเราะหึ ๆ เสียยังงั้น ไม่รู้จะตอบว่ายังไง
เก๋อยากจะบอกอะไรพี่สักอย่าง หล่อนพูดขึ้นอีก หลังจากนิ่งเงียบกันไปนาน ใบหน้ายังซุกอบยู่บนอกผม แต่มันรู้สึกยังไงก็ไม่รู้ พูดไม่ค่อยออก
รู้สึกว่าจะท้องแล้วหรือยังไง ผมพูดหัวเราะเบา ๆ
บ้าน่ะซี แม่เก๋ทุบอั้กลงบนอกผมจนสะดุ้ง
แล้วจะบอกไหมล่ะ อยากจะบอกอะไรก็บอกออกมา พี่คอยฟังอยุ่ แม่เก๋นิ่งเงียบไปอีกครู่ใหญ่ มือลูบไล้เล่นอยู่บนแผ่นอกของผม พูดเบา ๆ ออกมาว่า
พี่อย่าโกรธเก๋นะ ที่เก๋จะบอกพี่นี่มันอาจจะทำให้พี่โกรธได้
เอาเหอะ พี่ไม่โกรธใครง่าย ๆ หรอก เก๋น่ารักออกยังงี้ พี่จะโกรธได้ยังไง
ช่างพูดนะ พี่นี่น่ะ
จะบอกพี่แค่นี้เองน่ะหรือ ไม่เห็นจะน่าโกรธ
ไม่ช่าย ... หล่อนทุบอกผมอีกทีเบา ๆ ไม่โกรธเก๋จริง ๆ นะ ถ้าเก๋จะบอกพี่ถึงเรื่องพี่ต๊อย
สาบาน ไม่โกรธ พอใจหรือยังล่ะ
ทีนี้แม่เก๋เงยหน้าขึ้นมองผมเต็มตาแล้วพูดว่า
พี่ต๊อยเขามีแฟนแล้ว แฟนเขาเลี้ยงอยู่ลับ ๆ
อ๋อ ไอ้เสี่ยที่ชื่อตั้งนั่นน่ะเรอะ รู้แล้ว ผมหัวเราะ
ไม่ใช่หรอก เสี่ยตั้งนั่นเป็นเพียงลูกน้องของเสี่ยใหญ่ เศรษฐี พี่เคยได้ยินชื่อ นายอุทิศ ตันผลานุสนธิ์ ไหมล่ะ
ชื่อนี้ทำเอาผมหูผึ่ง ผมต้องชะโงกหน้าขึ้นมองดูหล่อน
พูดอีกทีซิ ชื่ออะไรนะ
นายอุทิศ ตันผลานุสุทธิ์ เจ้าของแบงค์ เจ้าสัวใหญ่คนนั้นไงล่ะ พี่เคยได้ยินชื่อเขาไหมล่ะ
ผมต้องนิ่งอื้ง มันเป็นความรู่ใหม่ที่ผมน่าจะรู้มานานแล้ว นี่เองที่ผู้การเยี่ยมบอกไว้ว่า ผมตามถูกรอยแล้ว ผมคิดว่าไอ้นายวรวิทย์หรือเสี่ยตั้งคนนั้นจะเป็นคนสำคัญของแม่ต๊อยเสียอีก ผมนึกถึงวันที่เขาเข้ามาในซิลเวอร์สตาร์แวบหนึ่งคืนนั้น แล้วกลับออกไป แล้วคืนนั้นผมก็ถูกรถลึกลับคันนั้นตามจนเกิดการตายหมู่ขึ้นบนถนนพหลโยธิน
ลูกน้องเขาแยะนะพี่ แม่เก๋พูดต่อ ใครมายุ่งกับพี่ต๊อยโดนมาหลายคนแล้ว เก๋เป็นห่วง ที่เก็ตัดสินใจบอกพี่ก็เพราะเป็นห่วง เก๋ทำให้พี่ไม่พอใจหรือเปล่าก็ไม่รู้
ผมตบที่ไหล่หล่อนเบา ๆ
ตรงข้าม พี่ขอบใจเก๋มากกว่า เก๋ทำให้พี่ตาสว่างขึ้นอีกเยอะ
ตาผมสว่างขึ้นจริง ๆ ผมคิดถึงไอ้มหาโจรสี่คนที่โดนผมเล่นงานเรียบร้อยไปแล้วนั่น ลำพังฝีมือชั้นธรรมดาคงจะสั่งมันมาจากเมืองจีนไม่ได้ ผมคิดถึงคุณเชิด เขาก็คงจะโดนรูปนี้เหมือนกัน ไอ้เสี่ยตั้งคนนั้นเป็นคนไปรับเขาออกจากบ้านแม่ต๊อย แม่คนนี้ต้องรู้อยู่เต็มอก แต่พูดไม่ออก ระหว่างคนที่รักอย่างผัว กับคนที่เลี้ยงดูอย่างอุดมสมบูรณ์อย่างเจ้าสัวอุทิศ หล่อนก็ต้องเลือกเอาความสุขสมบูรณ์ การชั่งอยู่ระหว่างความรักกับความเป็นอยู่ยังชีพด้วยตัวคนเดียวอย่างหล่อน หล่อนเองก็คงตกอยู่ในความลำบากใจ ความเสียดายอาลัยในการจากไปของร้อยเอกเชิดย่อมมี สำหรับผู้หญิงทุกคนที่มอบหัวใจให้กับผู้ชายของตัว ผมรู้ดีว่าหล่อนต้องรู้ดีถึงการหายไปของคุณเชิด ว่าเป็นการหายไปในทางที่ไม่ดี ตั้งแต่วันนั้น แต่ยังไม่แน่ใจเพราะยังไม่ได้ข่าวที่แน่นอนเท่านั้น
ผมมีธุระที่จะต้องเล่นอะไรกับอะไรกับแม่ต๊อยเสียแล้ว ทีแรกคิดจะหลบหล่อน ไม่ไปหาตามที่รับปากไว้ แต่คืนนี้ ผมต้องไป แม่เก๋คนนี้เอาไว้ทีหลัง
พี่ยอดจ๊ะ แม่เก๋เขย่าตัวผมเบา ๆ พี่เป็นอะไรไปน่ะ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกรอด ๆ
ผมต้องเค้นเสียงหัวเราะออกมา แล้วตบไหล่หล่อนเบา ๆ
ขอบใจมากเก๋ พี่ขอบใจเก๋มากจริง ๆ
เสียงพี่น่ากลัวออก แม่เก๋ชะโงกตัวขึ้นมองตาผม พี่จะทำอะไร ระวังตัวให้ดีนะพี่ เก๋เป็นห่วงพี่จริง ๆ พี่อย่าไปยุ่งกับเขาได้ไหม
เสียงของหล่อนแสดงออกถึงความห่วงใยจริง ๆ นัยน์ตาของหล่อนก็บ่งปอกถึงความรู้สึกอันนั้น หล่อนซบหน้าลงกับอกผมอีกแล้วครวญครางออกมาเบา ๆ
เก๋รักพี่แล้วละ ถ้าพี่เป็นอะไรลงไป เก๋จะเสียใจมาก พี่ระวังตัวนะจ๊ะ จะพูดอะไรกับพี่ต๊อยเขา อย่าให้เขารู้ว่าพี่รู้มาจากเก๋ เก๋กลัวเขาค่ะ ที่เก๋บอกพี่ก็เพราะเก๋เป็นห่วงพี่จริง ๆ ที่จะเชื่อเก๋หรือเปล่าก็ไม่รู้
พี่เชื่อเก๋ เพราะมันมีอะไรที่ได้เกิดขึ้นแล้ว บ่งไปทางนั้น
แล้วถ้าเก๋ท้องขึ้นมาจริง ๆ ล่ะ หล่อนรำพึงออกมา พี่เป็นอะไรไป เก๋จะทำยังไง เก๋ไม่เคยปล่อยตัวปล่อยใจกับใครอย่างพี่ เก๋อาจจะท้องจริง ๆ ก็ได้นะพี่ พี่พูดขึ้นมาทำไมก็ไม่รู้ เก๋กลัวแล้วละ กลัวไปหมด
เอาไว้ให้ถึงตอนนั้นเสียก่อนแล้วค่อยพูดกัน ตอนนี้มีธุระเสียแล้ว
ผมค่อย ๆ จับคัวหล่อนพลิกหลีก แล้วลุกขึ้นป่ายเท้าลงจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำ ผมออกจากห้องน้ำ แม่เก๋ก็ยังนั่งในชุดกระโจมอกด้วยผ้าเช็ดตัวอยู่บนเตียง นั่งมองดูผมแต่งตัวอยู่อย่างนั้นจนเสร็จ ผมเหน็บปืนเข้าเอว เดินมาหาหล่อน จุ๊บเบา ๆ ที่ปาก
พี่จะแวะไปหาเก๋ตอนตึก
Create Date : 17 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 17 สิงหาคม 2552 0:40:26 น. |
|
3 comments
|
Counter : 894 Pageviews. |
|
|
|
โดย: พลังชีวิต วันที่: 17 สิงหาคม 2552 เวลา:23:42:25 น. |
|
|
|
โดย: ธารน้อย วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:1:32:02 น. |
|
|
|
| |
|
|
แต่ไม่ใช่ตอนดึกนะ
555 ไม่เกี่ยวเนาะ
แวะมาเจิมให้ค่ะ