จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2553
 
10 เมษายน 2553
 
All Blogs
 
ชัยชนะและความพ่ายแพ้ของ "บุรุษเหล็กแห่งเอเชีย" (ตอนที่ 65)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 65

ทลายแหล่งแบงก์ปลอม

วันหนึ่ง เรื่องก็เกิดขึ้น เมื่อมีคนเอาธนบัตรปลอม ใบละร้อยบาท ออกมาใช้กันเกร่อตามสถานเริงรมย์หลายแห่ง เจ้าของสถานที่เหล่านั้นก็พากันไปแจ้งความกับตำรวจ ข่าวนี้แพร่ออกมาในหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์ พาดหัวข่าวกันคึกโครม เป็นข่าวใหญ่ประจำวันที่ประชาชนให้ความสนใจ และระวังระไวกันเรื่องนี้ กลัวว่าจะไปเจอเอาใบละร้อยปลอมเข้ากับตัวเอง

ที่สำคัญก็คือ หนังสือพิมพ์ในเครือของท่านแม่ทัพ เป็นหนังสือพิมพ์ที่ระบายข่าวอย่างครื้นเครงว่า ต้นตอของธนบัตรปลอมที่ระบาดอยู่ในเมืองไทยคือ ธนาคารใหญ่ซึ่งมีประธานกรรมการชื่อ พลตำรวจเอก เผ่า ศรียานนท์

ผมถูกเรียกตัวเข้าวังปารุสกวันทันที เมื่อข่าวนี้แพร่หลายไป และประชาชนชักจะเชื่อว่าข่าวนั้นเป็นจริง ถึงขนาดพูดกันทั่วไปว่า เดี๋ยวนี้ตำรวจเขาค้าธนบัตรปลอมกันแล้ว

“ มึงไปหาข่าวทีวะ มันยังไงกัน ทำไมเรื่องมันถึงมาลงเอาที่กูได้ ”

ทางธนาคารใหญ่ก็เต้นกับข่าวนี้ อยู่ดี ๆ ฐานะทางธนาคารก็มั่นคง การหมุนเวียนดีอยู่แล้ว ถือได้ว่าเป็นธนาคารที่ทีหลักฐานมั่นคงที่สุดของประเทศไทย ชื่อเสียงดี ไม่จำเป็นอะไรที่จะไปค้าธนบัตรปลอม ผู้จัดการใหญ่และคณะกรรมการธนาคารยอมที่จะให้ค่าใช้จ่ายในการสืบสวนหาต้นตอของเรื่องนี้อย่างไม่อั้น
ผมรับงานนี้ด้วยคำสั่งของท่านประธานกรรมการธนาคารกรุงเทพ ซึ่งเป็นทั้งอธิบดีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ที่มีหน้าที่จะต้องสะสางข่าวนี้ให้กระจ่าง

ผมเริ่มงานขั้นแรกด้วยการส่งนายตำรวจมือดีของผมออกไปหาข่าวในตลาดการเงินก่อน ได้ข่าวเบื้องต้นว่า ที่มาของธรบัตรปลอมรุ่นนั้นมาจากฮ่องกง ต้นตอของเรื่องอยู่ที่นั่น ผมส่งนายตำรวจมือดีคนนั้นออกเดินทางไปฮ่องกง พร้อมกับคนในหน่วยสืบสวนพิเศษทางด้านจีนไปร่วมด้วยคนหนึ่ง เผื่อจะต้องใช้ภาษาจีนที่นั่น ทั้งสองคนไปในรูปของพ่อค้าที่ไปแสวงหาลู่ทางทำมาหากินที่นั่น

ข่าวชิ้นแรกที่ผมได้รับทางวิทยุลับของผม เป็นข่าวที่นับว่าเป็นข่าวดี เขาไปพบแหล่งที่ทำธนบัตรปลอมรายนี้เข้าให้ คณะที่ทำธนบัตรปลอมคณะนั้น กำลังต้องการคนที่จะมาร่วมทุนในงานนี้ และเขาส่งรูปถ่ายสถานที่ทำธนบัตรปลอม พร้อมทั้งแท่นพิมพ์และบล็อกพิมพ์ธนบัตรในละร้อยนี้มาให้ดูด้วย

สถานที่ใช้ทำงานนี้เป็นห้องแคบ ๆ มีแท่นพิมพ์ขนาดย่อมอยู่แท่นหนึ่ง และมีบล็อกพิมพ์แกะเป็นรูปธนบัตรใบละร้อยบาทของเราได้ใกล้เคียง

ผมรายงานเรื่องนี้ขึ้นไปถึงท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือที่จริง ตัวท่านอธิบดีกรมตำรวจนั่นเอง พร้อมทั้งขอเบิกเงินสองหมื่นบาทมาเพื่อให้คนของผมเอาไปร่วมทุนกับคณะผู้ทำงานพิมพ์ธนบัตรปลอมนี้ด้วย

กระทรวงมหาดไทยได้ตั้งคณะกรรมการการปราบปรามธนบัตรปลอมนี้ขึ้นคณะหนึ่ง เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการคลัง ทั้งหมดประมาณสิบกว่าท่าน เรื่องราวของผมถูกส่งเข้าคณะกรรมการคณะนี้ ซึ่งมีท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ชื่อ พลเอก ประภาส จารุเสถียร เป็นประธานกรรมการ

กรรมการคณะนี้เรียกประชุมทันที เมื่อเรื่องของผมขึ้นไปถึง และให้ผมเข้าไปชี้แจงกับคณะกรรมการในวันประชุม เพื่อพิจารณาเรื่องนี้ รัฐบาลถือเป็นเรื่องใหญ่

ผมเข้าพบคณะกรรมการในวันประชุม พร้อมทั้งหลักฐานการสืบสวนต่าง ๆ ที่ผมทำมา ในที่ประชุมไม่มีท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ท่านไม่ยอมยุ่งด้วย เพราะธนาคารที่ท่านเป็นประธานกรรมการ ถูกกล่าวหาว่าเป็นต้นตอของเรื่องนี้

ในที่ประชุม ผมถูกท่านประธานกรรมการคณะกรรมการปราบปรามธนบัตรปลอมซักถามอย่างหนัก รายงานการสืบสวนและรูปถ่ายสถานที่ พร้อมทั้งแท่นพิมพ์และบล็อก ทุกอย่างถูกส่งเข้าที่ประชุม และท่านประธาน ฯ กำลังพิจารณาอยู่ ท่านพิจารณารูปถ่ายและอ่านรายงานของผมที่ขอเงินสองหมื่นบาท เพื่อเอาไปให้คนของผมเข้าร่วมทุน เพื่อจะเข้าถึงวงใน และวางแผนที่จะทำลายล้าง โดยขอความร่วมมือกับตำรวจฮ่องกงเข้าจับกุมในสุดท้ายด้วย

ท่านประธานกรรมการ ฯ พิจารณารูปถ่ายและรายงานของผมอยู่พักใหญ่ ก็โยนรายงานและรูปถ่ายประกอบราบงานของผมไปกลางโต๊ะประชุม พูดเสียงกร้าว ๆ ออกมาว่า

“ เหลวไหล ไม่เข้าท่า ห้องที่ใช้ทำงานกับไอ้แท่นพิมพ์ขนาดเท่านี้ มันจะมาทำธนบัตรได้ยังไง ผมไปเห็นมาแล้ว สถานที่เขาใหญ่โตกว้างขวาง มีแท่นพิมพ์ใหญ่กว่านี่หลายเท่า ไอ้ขนาดห้องแค่นี้ แท่นพิมพ์แค่นี้ มันจะใช้ธนบัตรได้ยังไง คุณไปเอาอะไรมาให้ผมดู แล้วยังจะมาเบิกเงิน เชอะ ”

ประโยคหลังท่านพูดกับผม พร้อมกับจ้องตาวาว

ที่ประชุมทั้งคณะนิ่งเงียบกริบ เสียงนั้นน่ากลัว มันดังลั่นห้องประชุม

ผมต้องพูดเอง

“ ท่านครับ ที่ท่านไปเห็นมานั้น มันเป็นสถานที่พิมพ์ธนบัตรตัวจริง ของโทมัส เดอ ลารู ใช่ไหมครับ นั่นเขาเป็นบริษัทที่รับพิมพ์ธนบัตรแท้ ๆ ให้หลายประเทศ เขาก็ต้องมีสถานที่ใหญ่โตกว้างขวาง และใช้แท่นพิมพ์ขนาดยักษ์ ในรูปนั่นมันเป็นสถานที่ใช้พิมพ์ธนบัตรปลอมครับ แท่นพิมพ์มันต้องเล็กและสถานที่มันต้องคับแคบอย่างนี้ คนทำงานก็ไม่กี่คน เมื่อตำรวจมา มันจะได้หนีได้ง่าย ๆ สถานที่ก็ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ครับ มันผิดกับโรงพิมพ์ โทมัส เดอ ลารู นั่นครับ ”

ท่านประธาน ฯ นั่งนิ่งเงียบอยู่ครู่ใหญ่ แล้วกราดมือไปที่พวกกรรมการอีกหลายคนที่นั่งสลอนอยู่รอบโต๊ะ พร้อมกับส่งเสียงดังออกมาว่า

“ คุณ ๆ พวกนี้ นั่งนิ่งเป็นเบื้ออยู่ได้ยังไง ไม่ออกความเห็นให้ผมก่อน ปล่อยให้ไอ้เด็กเมื่อวานซืนมันฉีกหน้าผมกลางที่ประชุมได้ยังงี้ ฮะ ”

ว่าแล้วท่านประธาน ฯ ก็ก้มลงเขียนอะไรแกรก ๆ บนแผ่นกระดาษรายงานและใบเบิกเงินที่ผมแนบมาด้วยนั้น โยนมาให้ผม

“ เอ้า เอาไป ”

ผมรับปึกกระดาษรายงานของผมมา บนแผ่นกระดาษเบิกเงินนั้น มีคำสั่งอนุมัติเรื่องเงินที่ผมขอเบิกอยู่ด้วย ผมลุกขึ้นโค้งท่านประธาน ฯ

“ ขอบพระคุณครับ ผมหมดเรื่องแล้ว ผมกลับได้หรือยังครับ ”

“ ไปได้ ” ท่านประธาน ฯ โบกมือไล่

ผมก็ได้เงินสองหมื่นมาให้คนของผมเดินทางไปฮ่องกง ไปร่วมลงทุนกับคณะค้าธนบัตรปลอมรายนี้ เข้าไปถึงแก่นวงในของพวกนี้เลย จากนั้น ผมก็ได้รายชื่อและที่อยู่ของคณะบุคคลพวกนี้ครบถ้วน นัดหมายติดต่อไปทางเจ้าหน้าที่ทางฮ่องกง โดยผ่านทางสถานทูตอังกฤษว่า ผมจะเดินทางไปพบหัวหน้าตำรวจที่ฮ่องกงด้วยตัวเอง

ผมไปฮ่องกงตามวันนัด เข้าพบหัวหน้าตำรวจฮ่องกงทันที เขามีตำแหน่งเป็นผู้กำกับการตำรวจที่นั่น ใหญ่ที่สุดในฮ่องกงแล้ว การเดินทางครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของบริษัท โทมัส เดอ ลารู ที่ถูกส่งมาจากสำนักงานใหญ่ร่วมเดินทางไปด้วย เขาสนใจมากกับรายงานที่ได้รับ

ผมพูดกับผู้กำกับการตำรวจคนนั้นถึงเรื่องนี้ เขาทำหน้าวางท่าหยิ่ง ๆ เอากับผม แล้วว่า

“ ที่ฮ่องกงนี้ จะมีใครมาตั้งโรงพิมพ์ธนบัตรปลอม ไม่ว่าของประเทศไหน ไม่ได้ ผมไม่เชื่อว่ารายงานของคุณจะเป็นจริง ”

ได้รับการต้อนรับแบบนี้ ผมก็ไม่พูดด้วย ลาออกมาจากที่นั่นทันที

รุ่งขึ้น ผมก็ออกทำงาน ไปกับคนของผมที่ทำงานมาแต่ต้น ไปพบกับตำรวจท้องที่ที่โรงพิมพ์นั้นตั้งอยู่ ขอความร่วมมือกับตำรวจชั้นหัวหน้าของสถานีตำรวจแห่งนั้น ออกไปจับขบวนการธนบัตรปลอมรายนี้ด้วยกัน ทางท้องที่ให้ความร่วมมือด้วยดี ไม่ยักต้องฟังคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาชั้นสูง เขาส่งคนออกไปด้วยกับผม แล้วเราก็เข้าจับกุมตรวจค้นได้ทั้งแท่นพิมพ์ จำนวนธนบัตรที่พิมพ์แล้ว เครื่องมือที่ใช้ประกอบความผิดก็ได้มาหมด ได้ผู้ต้องหาสี่คน ทางท้องที่ควบคุมตัวไว้ สอบสวนเอง เสร็จงานแล้ว ผมก็เดินทางกลับ ไม่ได้เข้าพบผู้กำกับการคนนั้นอีก

ผมได้ข่าวที่หลังว่า ทางท้องที่เขาสอบสวนผู้ต้องหาขึ้นศาล ลงโทษถึงขั้นเนรเทศออกนอกฮ่องกง คนของผมที่ไปร่วมเป็นพยานด้วย กลับมารายงานให้ทราบ ผมก็รวบรวมรายงานส่งขึ้นเบื้องบนไป เป็นอันหมดภาระ

แต่มันไม่ยักหมด วันหนึ่ง เจ้านายเรียกตัวเข้าพบ บอกว่า

“ เฮ้ย มึงไปทำอะไรไว้ที่ฮ่องกงวะ ทางโน้นเขาติดต่อผ่านทางสถานทูตอังกฤษมา ให้ส่งตัวมึงไปฮ่องกง ทางตำรวจที่นั่นเขาอยากพบมึง เขาระบุชื่อมาด้วย ”

“ ก็เรื่องธนบัตรปลอมรายนั้นไงครับ ” ผมตอบท่าน

“ ทำไมวะ มันต้องการพบมึงอีกทำไม ก็เรื่องมันจบไปแล้วไม่ใช่หรอ รายงานของมึงบอกว่า ศาลฮ่องกงตัดสินไปแล้ว เนรเทศไอ้สี่คนนั่นไปแล้วไงวะ ”

“ นั่นซีครับ เขาต้องการพบผมอีกทำไมก็ไม่ทราบ ”

“ มึงจะไปมั้ยล่ะ ”

“ ก็ต้องไป ” ผมว่า “ ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่า มันมีอะไรข้องใจอยู่อีก ”

“ ตามใจมึง ”

ผมได้ทราบมาก่อนไปว่า ทางฮ่องกงที่เขาต้องการตัวผมนั้นก็เพราะ เขาอยากได้รายละเอียดในการสืบสวนทั้งหมดที่เราได้มา และคงจะมีอยู่ในมืออีก ทางสถานทูตอังกฤษที่ผมไปสอบถาม เขาบอกให้รู้

งานนี้จะมีเจ้าหน้าที่ของ โทมัส เดอ ลารู ไปร่วมประชุมด้วย ทาง
บริษัทเขาอยากได้รายละเอียดนี้เหมือนกัน เจ้าหน้าที่คนเก่าเดินทางมาเมืองไทย และเข้าพบท่านอธิบดี ฯ ในวันต่อมา ขอร่วมเดินทางไปพร้อมกับผมด้วย ทางเขาจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด

ท่านอธิบดี ฯ มีหนังสือส่วนตัวไปถึงผู้กำกับการตำรวจฮ่องกง ให้ผมถือไปด้วย หนังสือนั้นมีข้อความขอโทษขอโพยที่เราได้เข้าไปทำงานในบ้านเขาด้วย แต่มันเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนสถานการณ์ของเราโดยตรงที่จำเป็นต้องทำ ท่านให้ผมถือหนังสือนี้ไปให้ผู้กำกับการคนนั้น พร้อมทั้งบอกไปด้วยว่า ได้สั่งให้ผมส่งรายงานรายละเอียดของการสืบสวนคดีนี้ ที่ได้ทำไป ให้ทางเขาทั้งหมด ตามที่เขาต้องการ

เรื่องที่ต้องส่งรายงานทั้งหมดให้เขานี่ ที่ผมต้องคิดหนัก เพราะถ้าทำอย่างนั้น ทางเขาก็จะได้ชื่อและที่อยู่ตัวบุคคลที่เราใช้ทำงานนี้ทั้งหมด คนพวกนี้มีถิ่นที่อยู่ในฮ่องกง จะต้องเดือดร้อนแน่นอน ตำรวจฮ่องกง และอีตาผู้กำกับ ฯ ยโสคนนั้น มันต้องไม่เอาไว้แน่ ๆ

ผมจะต้องหาวิธีบ่ายเบี่ยงเรื่องนี้ให้ได้ แต่ยังไง ๆ ก็ต้องไป ไปเล่นเชิงกับตำรวจฝรั่งดูสักที และรู้สึกว่า คนยโสแบบนี้ เล่นด้วยไม่ยาก

ผมออกจากเมืองไทยไปฮ่องกงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ โทมัส เดอ ลารู คนนั้น ถึงฮ่องกง เข้าพักในโรงแรมชั้นหนึ่งของฮ่องกง ทางโทมัส
เดอ ลารู เขาจัดให้เสร็จ แถมยังมีผู้จัดการธนาคารกรุงเทพ สาขาฮ่องกง มาต้อนรับถึงสนามบิน ช่วยกันรับผิดชอบความเป็นอยู่ของผมในฮ่องกงด้วยอีก

ทางสถานทูตติดต่อมาว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงนัดประชุมในตอนเช้าในอีกสองวัน เขาให้ผมพักผ่อนให้สบายเสียก่อนที่จะเข้าประชุม ผมก็ได้พักผ่อนหย่อนใจกับบรรยากาศอันสนุกสนานของฮ่องกงสองวัน ด้วยการต้อนรับของเจ้าหน้าที่ ที่ทางผู้จัดการธนาคารกรุงเทพที่ฮ่องกง ส่งมาดูแล

ตอนเช้าของวันก่อนที่จะถีงวันนัดประชุม ผมก็ชวนเจ้าหน้าที่ของโทมัส เดอ ลารู ให้ไปพบอีตาผู้กำกับการตำรวจยโสคนนั้นด้วยกัน ก่อนที่จะถึงวันประชุม เพื่อพูดจาอธิบายอะไรต่ออะไรให้รู้ก่อนที่จะเข้าประชุมจริง จะได้ไม่เสียเวลาในการประชุมมากนัก และผมก็อยากจะลองใช้ลูกเล่นกับอีตาผู้กำกับ ฯ ยโสขี้แอ๊คคนนั้น

ผมไปที่กองกำกับการพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของโทมัส ฯ ตอนเช้าวันนั้น เข้าพบผู้กำกับ ฯ ตำรวจที่ห้องทำงานของเขา พอเข้าห้องนั่งเรียบร้อย เขาก็ถามขึ้นว่า

“ ยังไม่ถึงวันนัด รีบมาพบทำไม ”

" อยากจะมาพูดอะไรให้ทราบก่อนที่จะเข้าประชุมจริงวันพรุ่งนี้ ” ผมพูดกับเขาอย่างสุภาพ “ จะได้เข้าใจรายละเอียดบางอย่างที่บางทีท่านอาจอยากจะรู้ ”

“ ก็ไม่มีอะไรที่อยากรู้ ” เขาตอบสวนมาทันที วางท่ามองผมอย่างเหยียด ๆ อีตาคนนี้ แกคงจะเคยวางท่าอย่างนี้มาเสียจนเคยกับลูกน้องที่เป็นตำรวจฮ่องกงเมืองขึ้น

“ ถ้ายังงั้นผมก็กลับ ” ผมวางท่า ถามไปมั่ง

เขาพยักหน้าโดยไม่พูด

ผมก็ลุกขึ้นโดยไม่ได้ล่ำลา เดินออกจากห้องทันทีเหมือนไม่มีความสำคัญอะไร

มาถึงโรงแรมที่พัก ผมก็จัดกระเป๋า ให้พนักงานโรงแรมจองเครื่องบินกลับเมืองไทยในวันนั้นทันที บังเอิญมีเครื่องจะออกตอนบ่ายวันนั้น ผมก็ให้จองที่นั่งเที่ยวบินนั้น

ถึงเวลา ผมก็ออกจากโรง แรมไปสนามบิน ฝากหนังสือที่ท่านอธิบดีมาถึงผู้กำกับการคนนั้นไว้ที่เจ้าหน้าที่ของ โทมัส เดอ ลารู ให้เขาเอาไว้ให้อีตาผู้กำกับ ฯ คนนั้นในที่ประชุมในวันพรุ่งนี้ ส่วนเอกสารต่าง ๆ ที่เป็นรายละเอียดและหลักฐานต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมเอาติดตัวกลับเมืองไทย ไม่ฝากไว้ให้

“ อ้าว ทำไมถึงรีบกลับ แล้วพรุ่งนี้จะประชุมกันยังไง ” เจ้าหน้าที่โทมัส ฯ ถามผม

“ ก็เขาให้ผมกลับได้แล้ว เขาไม่ต้องหารพบผมอีก คุณก็ได้ยินเขาพูดเมื่อสักครู่แล้ว ”

“ เขาให้คุณกลับจากที่ทำงานของเขาไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ให้กลับเมืองไทยได้ ”

“ ก็ไม่รู้ ” ผมว่า “ เขาบอกว่า เขาไม่มีอะไรที่เขาอยากรู้จากผมอีกแล้ว เขาพูดยังงั้น คุณก็ได้ยินแล้ว ผมมีงานทางเมืองไทยอีกมาก จะมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ทำไม ”

เขาสั่นหัวช้า ๆ รำพึงออกมาเบา ๆ ว่า

“ โง่จริง ๆ อีตาตำรวจนั่น ผมไม่เคยเห็นใครโง่เท่านี้ ”

ผมจับเครื่องบินออกจากฮ่องกงเที่ยวแรกของบ่ายวันนั้นทันที พร้อมทั้งเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องธนบัตรปลอมรายนั้น ที่มีความสำคัญหลายประการที่ทางฮ่องกงควรจะรู้

คนของผมและคนที่ทำงานให้เราที่เป็นคนฮ่องกงก็ได้อยู่กันเป็นปกติ ผมบอกคนของมให้ไปบอกพวกนั้นว่า ไม่ต้องกลัวอะไร เพราะผมไม่ต้องพบกับอีตานายตำรวจใหญ่ของฮ่องกงอีกแล้ว ทุกคนที่นั่นก็สบายใจ

ผมมารู้เอาตอนที่เจ้าหน้าที่โทมัส เดอ ลารู คนนั้นกลับจากฮ่องกง มาเล่าให้ฟังว่า ตอนเช้าของวันประชุม เมื่ออีตาผู้กำกับ ฯ คนนั้นเปิดหนังสือของท่านอธิบดีกรมตำรวจไทยออกอ่าน เขาก็ถามหาผมในที่ประชุม เจ้าหน้าที่โทมัส ฯ คนนั้นก็บอกว่า ผมได้กลับเมืองไทยไปแล้ว

“ อ้าว ทำไมล่ะ ” อีตานั่นถาม

“ ก็ยูไล่เขากลับ เขาก็กลับ ยูบอกว่า ไม่อยากรู้อะไรจากเขาอีกแล้ว วันนั้น ” เจ้าหน้าที่โทมัส ฯ ตอบไปอย่างหงุดหงิด

อีตาผู้กำกับ ฯ ยโส นั่งอ้าปากค้างอยู่ ไม่ได้รู้อะไรที่ควรจะรู้เลย ในหนังสือนั้น ท่านอธิบดี ฯ คงจะเขียนไปว่า ได้สั่งให้ผมให้ความร่วมมือ มอบเอกสารต่าง ๆ ให้ ที่จะเป็นประโยชน์ทางฝ่ายเขาด้วย

ผมนึกแล้วว่า อีตาผู้กำกับ ฯ ยโสคนนี้ จะต้องวางท่ากับผมด้วยความยโส จึงชวนเจ้าหน้าที่โทมัส ฯ ไปพบก่อนวันประชุมจริง ก็เป็นอย่างที่คิด เขาแสดงความยโสออกมาตามนิสัย มันก็เข้าทางผม ผมก็กลับทันที ถ้าขืนอยู่ต่ออีกวันเดียว คงหลบไม่พ้นแน่ ๆ

เล่นกับคนยโส มันสนุกอย่างนี้

เสร็จเรื่องธนบัตรปลอมแล้ว ทุกฝ่ายก็สบายใจ ข่าวคราวที่ปรากฏอยู่บนหน้ากระดาษหนังสือพิมพ์ในเมืองไทย ที่เอาข่าวมาจากหนังสือพิมพ์ฮ่องกง รายงานรายละเอียดการจับกุมคดีนี้อย่างหมดเปลือก เพราะสถานที่ที่ดำเนินการปลอมนั้น อยู่ห่างจากที่ทำงานของกองกำกับการตำรวจฮ่องกงเพียงไม่ถึงร้อยเมตร

หนังสือพิมพ์ฮ่องกงยังแหย่ไปถึงผู้กำกับการ ฯ คนนั้นว่า ไม่ยักได้กลิ่น ปล่อยให้ตำรวจทางเมืองไทยไปทลายแหล่งนี้ภายใต้จมูกของแกเอง ก็ไม่ทราบว่า อีตาผู้กำกับการ ฯ คนนั้นจะมีความรู้สึกอย่างไร




Create Date : 10 เมษายน 2553
Last Update : 10 เมษายน 2553 23:56:03 น. 2 comments
Counter : 1144 Pageviews.

 
อ่านแล้วนะ..

ขอบคุณมาก..


โดย: ก้นกะลา วันที่: 11 เมษายน 2553 เวลา:15:04:56 น.  

 
อิอิ สะใจจอร์จ ไปลุยถึงข้างบ้านเขาเลย


โดย: บักบุญเถิง IP: 124.157.253.15 วันที่: 14 เมษายน 2553 เวลา:15:23:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.