พริกขี้หนูเผ็ด (ตอนที่ 36)
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 36
ผมก้าวลงจากรถด้วยใจสั่น ๆ
แสงไฟรถของนายถมยังเปิดสว่าง ผมเห็นไอ้ตัวโตนั่นก้าวเท้าเด้งจากรถเข้ามาหาผม เมื่อเท้าผมถึงดิน
นายถมหันขวับ เหล็กยาวในมือเขาฟาดตวัดกลับเข้าที่ใบหน้าไอ้เสือนั่นเต็มรัก เสียงดังโพละ มันถลาไปเหมือนนกปีกหัก ลงไปกองอยู่บนพื้นถนน ไอ้คนที่เปิดประตูด้านขวา ลงมาพุ่งตัวเข้าหานายถม ในมือมีวัตถุสีดำมะเมื่อม ปลายลำกล้องโผล่ออกมา
นายถมก้าวเข้ามาอย่างรวดเร็ว ตวัดท่อนเหล็กในมือเสยเข้าไปที่ข้อมือที่กุมปืนนั่น เสียงปืนดังปัง พร้อมทั้งตัวปืนหลุดกระเด็นหวือไปในอากาศ นายถมเล่นลูกติดตามประชิดตัวเข้าไป เขาฟาดท่อนเหล็กนั้น ป่ายซ้ายป่ายขวาไปที่ตัวไอ้เสือนั่นไม่ยั้ง ซ้ายขวา-ซ้ายขวา ติดตามร่างของมันที่เซ ไม่เป็นระเบียบติดเข้าไป เท้าของเขาไม่อยู่เปล่า ยันโครมเข้าที่ร่างไอ้นั่นที่กำลังเซแซ่ด ๆ ลงไปกองกับพื้นอีกคน
ลูกติดตามของนายถมยังมีอีก ขณะที่ร่างไอ้คนนั้นลงกระทบพื้นถนน เท้าของนายถมก็กระทืบลงบนยอดอก ไอ้เสือนั่นเลยหลับสนิท นิ่งอยู่ที่ตรงที่มันลงไปนอนนั่นเอง
ไอ้ตัวโตกำลังจะโงนเงนขึ้นมา นายถมหันไปเห็น เขาสาวเท้าพรวดเดียวถึงตัวมัน ท่อนเหล็กนั้นก็ประเคนลงไปเต็มรักที่หัวของมันที่ยันโด่ขึ้นมา คราวนี้มันก็ลงไปนอนแผ่อยู่ที่เดิม นิ่งไปอีกคน
ไอ้คนที่ยังเพิ่งจะเปิดประตูทางด้านซ้าย ออกมายกมือพาดอยู่บนหลังคารถ ในมือมันมีปืนกระบอกเล็ก ๆ ถืออยู่ นายถมก้มตัวลงบังตัวรถ พร้อมกับตะโกนมาทางผม
หลบไปหลังรถ ไปเร็ว ๆ
ผมเผ่นพรวดเดียวไปตามคำสั่งของเขา ไปแอบบังอยู่ข้างรถอีกคันหนึ่งได้เร็วยังไงก็ไม่รู้ ฝีมือนายถมนี่น่าดู ทั้งหมดที่เขาแสดงนั้นมันรวดเร็วจนผมยืนนิ่งตะลึงดูเขาจนลืมตัว มีเขาคนเดียวเหมือนมีสักสิบมือ
ผมยังไม่ได้ยินเสียงปืน หรือเสียงอะไรจากที่ตรงนั้น
แอบมองผ่านกระจกรถของนายถมไป ผมก็เห็นเขากำลังก้มตัวลงบังตัวถังรถคันนั้น แล้วนอนตัวราบกับพื้น มองลอดไปใต้ท้องรถ ผมเดาเอาว่า เขาคงจะแอบมองเท้าของไอ้คนที่อยู่อีกด้านหนึ่ง แล้วผมก็เห็นเขาค่อย ๆ คลานช้า ๆ ไปทางด้านหน้ารถ
ผมแอบมองดูการเคลื่อนไหวของนายถมด้วยความตื่นเต้นเหมือนดูหนัง นายถมคนนี้ไม่เบาทีเดียว ผมว่าเขาเป็นตำรวจ ไอ้ที่เขาออกมานานแล้วนั้น ท่าจะไม่ใช่
ร่างของนายถมหายไปทางขอบด้านหน้ารถ แว้บเดียวผมก็เห็นเขาทะลึ่งพรวดขึ้นมาที่ขอบมุมหน้ารถ ไอ้เสือที่ยังพาดมืออยู่ที่หลังคารถ ยังไม่ทันรู้ว่าอะไรเป็นอะไร นายถมก็ถึงตัวมัน พอมันหันขวับมา ท่อนเหล็กในมือของเขาก็ฟาดโครมลงไปที่มือข้างที่พาดปืนอยู่บนหลังคารถ เสียงมันร้องไม่เป็นภาษา
คราวนี้ไม่มีเสียงปืนลั่น ไอ้ปืนกระบอกนั้นหลุดกลิ้งหลุน ๆ ลงมาจากหลังคา หล่นลงมาทางด้านที่ผมแอบมองดูอยู่
ผมมองไม่เห็นว่านายถมทำอะไรกับมัน เพราะเขาไม่ได้ใช้ท่อนเหล็กนั้นทางด้านเหนือหลังคารถ แต่ผมได้ยินไอ้นั่นร้องจ๊ากมาอีกครั้งแล้วก็เงียบ
สักครู่นายถมก็ค่อย ๆ เดินอ้อมรถมา เขาเดินมาก้มลงดูไอ้สองคนที่ยังนอนนิ่งอยู่บนพื้นถนนนั้น มันยังนอนนิ่งไม่ไหวติ่ง เขาเดินมาที่รถ อ้อมมาทางที่เขานั่ง เขาเห็นผมยืนอยู่ที่นั่น
ขึ้นรถเถอะคุณ เขาพูด อย่าช้าอยู่เลย ขึ้นทางประตูหลังนั่นแหละ
แล้วเขาก็เข้ามาเปิดประตูด้านนั้นขึ้นไปนั่ง
ผมก้าวเข้าไปนั่งตามคำสั่งของเขาเหมือนถูกสะกดจิต มันยังไม่หายตื่นเต้น
นายถมออกรถพรืด ดูเขาจะชำนาญทางเข้าออกของตรอกนี้ดี เขาไม่ได้ถอยหลังรถออก แต่เขาเดินหน้าออกไปทางปากตรอกอีกด้านหนึ่ง ผมเองก็ยังไม่รู้ว่ามันมีทางออกทางนั้น
คุณนอนที่บ้านนี้ไม่ได้หรอกคืนนี้ เขาพูดข้ามหลังมา ไปนอนบ้านผมก็ได้
ไม่แจ้งตำรวจก่อนหรือ ผมถาม
แจ้งทำไมให้มากเรื่อง เขาพูดเสียงห้วน ๆ
ถ้ายังงั้นก็น่าจะถอยไปจดเบอร์รถไว้ก่อน ผมก็อยากได้เบอร์ทะเบียนรถคันนั้นเหมือนกัน
ไม่ต้องหรอก ผมจำเอาไว้แล้ว
เบอร์อะไรล่ะ ผมจะจดเอาไว้สอบทะเบียน พรุ่งนี้
ก ๒ ๒๓๔๕ กาญจนบุรี
ผมดึงปากกาที่กระเป๋าออกมา ล้วงเอากระดาษแผ่นหนึ่งออกมาจดหมายเลขนั้นไว้ ผมว่านายถมคนนี้ต้องเป็นตำรวจแน่ ไ และเขายังคงต้องอยู่ในราชการ มันผิดวิสัยคนเดินดินธรรมดา ตำรวจที่ขับแท็กซี่ในยามว่างราชการมีถมไป และผมว่า เขาก็คงไม่ได้ชื่อนายถมอย่างที่เขาบอก
ผมได้เพื่อนคู่ติดนักบู๊สมใจแล้ว และผมยังคิดไกลต่อไปอีกว่า เขาอาจจะมีงานติดตามอะไรอย่างผม และมันอาจจะเป็นเรื่องเดียวกับผมก็ได้
นายถมพาผมไปที่บ้านของเขา บ้านของเขาอยู่ในตรอกบ้านพานถม เป็นบ้านชั้นเดียว มีห้องนอนสองห้อง ห้องที่ว่างคนนั้น มีที่นอนหมอนมุ้งครบถ้วน เขาให้ผมนอนในห้องนั้น ผมอยากจะถามเขาว่าเป็นห้องนอนของใคร แต่คิดว่าไม่ถามดีกว่า
Create Date : 28 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 28 มิถุนายน 2553 4:42:22 น. |
|
2 comments
|
Counter : 825 Pageviews. |
|
|
|