เงื่อนไขการปฎิวัติ (ตอนที่ 18)
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 18
ผมมาถึงวัดธาตุทอง ลัดเลาะเข้าไปหลังวัด มีถนนแคบ ๆ ตัดไปที่บ้านรับรองหลังนั้น เมื่อมาถึง ผมลงจากรถเข้าไปตามตัวพี่ม้าย ก็ได้ความจากเด็กที่นั่นว่า พี่ม้ายออกจากบ้านไปแล้วกับไอ้จิ๋ว ไอ้จิ๋วมารับลงเรือไปแล้ว บ้านรับรองนั้นอยู่ริมคลองพระโขนง
สมัยนั้น วัดธาตุทองยังไม่ใหญ่โตหรูหราอย่างทุกวันนี้ สภาพยังเป็นป่ารกบริเวณหลังวัด มีคลองพระโขนงตัดผ่านออกไปทางแม่น้ำได้ไอ้จิ๋วก็คือ พันโท โกศล อ่อนสุวรรณ มันแอบมารับพี่ม้ายไปก่อนหน้าผมแล้ว ผมออกจากที่นั่นก็บึ่งมาบ้านที่ซอยประสานมิตร ผมมาเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวที่นั่น เพราะจะเข้าสนามรบก็ต้องอยู่ในเครื่องแบบ ผมเอาเครื่องแบบซุกไว้ใต้เบาะที่นั่งที่ผมจะนั่งด้านหลัง ทั้งหมวก แล้วผมก็ออกจากบ้านด้วยแท็กซี่คันนั้นอีก ก็ต้องผ่านด่านตรวจที่สี่แยกราชประสงค์อีกเที่ยวหนึ่ง ยอดแท็กซีคนนั้นพาผมพาผมผ่านด่านเดิมกลับไปได้อีก โดยอ้างง่าย ๆ ว่า รับผมมาจากซ่องในซอยนานาใต้ เมาหลับมาไม่รู้เรื่อง ก็ไม่ทราบว่าผ่านมาได้ยังไง ด่านทหารเรือตรงนั้น ทำไมถึงไม่สงสัยว่า ชั่วระยะเวลาไม่ถึงชั่วโมง มีแท็กซี่พาคนเมาไม่ได้สติผ่านเข้าผ่านออกมาได้สองหน หรืออาจจะเป็นเพราะผู้รักษาด่านไม่เป็นคนช่างสังเกต หรือไม่ยังงั้นก็เปลี่ยนคนประจำด่านในระยะนั้น แต่ยังไง ๆ ก็ต้องเรียกว่าเป็นความเฮงของผม ถ้าโดนจับได้และค้นพบปืนที่ผมซุกไว้ใต้ขา ทั้งเครื่องแบบที่ใต้เบาะด้วยแล้ว ก็ไม่ทราบว่าชะตากรรมของผมจะเป็นยังไง ผมรอดมาถึงบ้านพี่ม้ายอีกที ก็พบพี่ม้ายแต่งตัวโก้อยู่ในเครื่องแบบแล้ว เสธ. จิ๋วนั่งอยู่ข้าง ๆ เขารู้ว่าเขาตัดหน้าผมไปชั่วเดี๋ยวเดียว
คณะทั้งหมดซึ่งมีอยู่ไม่กี่คน ฝ่ายคุมกำลังส่วนใหญ่ไม่มีอยู่ในที่นั้น มีแต่ตัวผู้บังคับกองพันสองสามคน มีข่าวจากฝ่ายหาข่าวบอกมาว่า ฝ่ายรัฐบาลยึดกรมโฆษณาการกลับคืนได้แล้ว กรมโฆษณาการก็คือกรมประชาสัมพันธ์เดี๋ยวนี้ อยู่ที่เดียวกันนั่นแหละ พวกกบฏถอนร่นเข้าไปที่วังหลวง จับได้สองสามคนที่นั่น ฝ่ายคณะต่อต้านกบฏจึงยกกันออกจากบ้านพี่ม้าย แยกกันไปคุมกำลังมุ่งหน้าไปที่วังหลวง ผมแยกกับนายที่นั่น เพราะต้องรีบกลับไปที่กองซึ่งผมสั่งกำลังเตรียมพร้อมไว้ก่อนที่จะไปรับพี่ม้าย ผมบึ่งจี๊ปของผมมาที่กองตรวจทันที ที่หน้ากองเงียบสนิท ไม่มีวี่แววของใครอยู่เลย ผมชักเอะใจ ทำไมกำลังของผมซึ่งสั่งไว้ให้รอจึงหายไปไหนหมด เหลืออยู่แต่จ่ากองร้อยอยู่แถวนั้น มีตำรวจอีกสองสามคนเดินอยู่ด้วย พอผมจอดรถโดดลงมา เขาก็วิ่งเข้ามาหาผม จ่ากองร้อยพูดขึ้นอย่างตกใจว่า อ้าว ไหนไอ้ต่วนมันว่า สารวัตรหนีไปแล้วไงล่ะ ไอ้ต่วนเป็นชื่อของคนขับรถประจำคัวผม ซึ่งผมทิ้งบัตรประจำตัวและเอกสารต่าง ๆ ของผมไว้ให้ก่อนที่จะฝ่าแนวทหารเรือไปรับพี่ม้าย มันเล่นผมเสียแล้ว จ่ายังพูดต่อว่า มันว่า สารวัตรฝากของไว้กับมันหมด ก่อนที่จะหนีไป มันยังเอามาให้พวกเราดู แล้วกำลังไปไหนหมด ผมถาม หมวดสมบุญคุมไปแล้วครับ เขาตอบหน้าตาตื่น หมวดสมบุญคือรองสารวัตรคนหนึ่งของผม ผมมองหาไอ้ต่วน ยังไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน ประเดี๋ยวเดียวมันก็ค่อย ๆ ย่องมาหาผม ยืนตัวงออยู่ตรงหน้า อ้อ มึงปล่อยข่าวว่ากูหนียังงั้นเรอะ ผมจับคอเสื้อมันถาม ผมเห็นสารวัตรมอบอะไรต่ออะไรให้ผมหมด ผมก็คิดว่าสารวัตรไปแล้ว มันตอบเสียงสั่น ๆ เออดี มึงดี ผมเขย่าคอเสื้อมัน
มึงดี นี่แนะ ผมเตะมันพลั่กเข้าให้เต็มเหนี่ยว มันลงไปคลุกฝุ่น เอาไปขัง ผมสั่งไปที่จ่ากองร้อย
ไอ้ต่วนยอดคนรถของผมโดนจ่ากองร้อยดึงเอาตัวไปเข้าห้องขังตามคำสั่ง
ผมขึ้นรถออกมาบึ่งไปที่บ้านพี่ม้ายอีกที ที่นั่นมีพี่ม้ายยังอยู่กับเจ้านายเพียงสองคน นอกนั้นแยกย้ายกันไปหมดแล้วได้ความว่าที่ยังอยู่เพียงสองคนก็เพื่อรอผม เพราะพรรคพวกให้คอยผมอยู่เพื่อรอกำลังของผม ซึ่งอาจจะยังไม่รู้ว่าจะให้ไปทางไหน ทั้งสองคนพอเห็นผมเข้าก็อุทานออกมาว่า
อ้าว ไหนเขาว่าหนีไปเข้ากับพวกนั้นแล้วไงล่ะ
ผมหัวเราะ
ไอ้คนออกข่าว ผมเตะพับไปแล้วครับ ตอนนี้มันกำลังเอนหลังในห้องขัง ใครล่ะ ทั้งคู่ถามพร้อม ๆ กัน คนรถผมเองครับ ผมฝากบัตรประจำตัวและเอกสารต่าง ๆ ของผมไว้กับมัน ก่อนที่จะไปบ้านพี่ม้าย มันก็เลยว่าผมหนีไปแล้ว ฝากข้าวของทั้งหมดให้มันไว้ ไปแต่ตัว ทั้งสองคนหัวเราะ ถามต่อ แล้วกำลังของลื้อล่ะ
รองสารวัตรของผมนำไปที่วังหลวงแล้วครับ
เออ แล้วไป ถ้างั้นก็ลงมือเขียนแถลงการณ์ของรัฐบาลเสียเลย พรรคพวกเขาลงความเห็นกันว่าให้ลื้อเขียนคำแถลงการณ์ เขาว่าลื้อมันนักประพันธ์ สำนวนดี
ผมก็เลยตกที่นั่งเป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์อีกตำแหน่งหนึ่ง โต้แย้งอะไรไม่ได้ ผมก็นั่งลงคว้าปากกาที่วางเตรียมไว้ให้มา แล้วนั่งเขียนแถลงการณ์สด ๆ ร้อน ๆ ตรงนั้น
ข้อความในแถลงการณ์ไม่ยาวอะไรนัก เพียงหน้ากระดาษกว่า ๆ ผมชักนิยายว่าพวกกบฏที่ยกกำลังกันมานั้นก็เพื่อยึดอำนาจและแก้ไขเรื่องกรณีสวรรคต เพราะขณะนั้นมีการสอบสวนกรณีสวรรคตกันอยู่ และมีผู้ที่ต้องหาหลายคนที่พาดพิงถึง รวมทั้งตัวท่านปรีดีด้วยถูกหาว่าเป็นผู้วางแผน บัดนี้ฝ่ายรัฐบาลได้ตอบโต้ฝ่ายกบฏ ยึดกรมโฆษณาการคืนได้แล้ว และกำลังส่วนใหญ่จะเข้ายึดวังหลวงซึ่งฝ่ายกบฏเข้าไปยึดเป็นกองอำนวยการอยู่ เพื่อที่จะต่อรองกับฝ่าย รัฐบาล เพราะเชื่อแน่ว่าฝ่ายรัฐบาลคงไม่กล้ายิงเข้าไปที่นั่น อาจจะทำให้ทรัพย์สินข้างในซึ่งมีค่ามากมายเสียหายได้
ผมเขียนอะไรต่อมิอะไรเข้าไป ส่งให้ทั้งสองคนอ่านแล้ว ท่านก็ว่าเข้าท่าดี เอาไปออกอากาศได้เลย แลวก็ยกกันออกมาจากบ้านพี่ ม้าย มุ่งหน้าไปกรมโฆษณาการทันที
Create Date : 09 พฤษภาคม 2553 |
Last Update : 9 พฤษภาคม 2553 22:15:33 น. |
|
1 comments
|
Counter : 837 Pageviews. |
|
|
|