พริกขี้หนูเผ็ด (ตอนที่ 4)
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 4 เสียงผู้การยังคุยอยู่ในห้อง และผมได้ยินเสียงเขาชวนคุณพี่ไปรับประทานอาหารกลางวันกับเขา เสียงคุณพี่ปฏิเสธว่ายังมีธุระอื่นอยู่ สักครู่ผมเห็นเขาเดินออกมาจากห้อง เขาเดินผ่านผมไป หันมามอง แล้วทำท่าเลี่ยงไปห่าง ๆ คล้ายกลัวผม ก่อนที่จะเดินหัวเราะอย่างล้อเลียนลงบันไดไป กัณหาหัวเราะคิกออกมาเบา ๆ ผมหันไปมองหล่อน ไม่รู้ว่าหล่อนขันอะไร หล่อนมองผม แล้วก้มหน้าจัดของในลิ้นชักโต๊ะของหล่อนอยู่ คุณพี่ออกมาจากห้อง หันมาพูดกับกัณหาและผมว่า ยังไม่ไปกินข้าวอีกหรือ กัณหาตอบว่ากำลังไป ส่วนผมนั้นได้แต่พูดว่ายังไม่หิว... ก็จะหิวได้ยังไง ยี่สิบบาทสุดท้ายนั่นหมดไปแล้ว คุณนายเดินลงบันไดไป ผมทำเป็นเดินไปที่หน้าต่าง มองไปที่ถนนข้างล่าง ผู้การร่างใหญ่คนนั้นกำลังเดินงุ่นง่านอยู่ที่ทางเดินริมถนน เขาหันมาพูดอะไรกับคุณพี่ซึ่งเดินลงไปพบเข้าพอดี ผมเห็นคุณพี่โบกไม้โบกมือ แล้วก็เดินแยกไป ปล่อยให้ผู้การคนนั้นยืนอยู่คนเดียว ผมหดศีรษะเข้ามา เดินมานั่งที่เก้าอี้ใกล้กับโต๊ะทำงานของกัณหา ควักบุหรี่ออกมาสูบ กัณหาปิดกุญแจลิ้นชักโต๊ะ แล้วก็หันมามองผม หล่อนทำท่าลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งก็เดินลงบันไดไป ทิ้งให้ผมนั่งอยู่คนเดียว ผมเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่บนสำนักงานนั้น ไขน้ำในก๊อกมาดิ่มกลั้วคอแห้ง และให้ทันเข้าไปถ่วงน้ำหนักในท้องบ้างเล็กน้อย แล้วก็ออกมานั่งอยู่เก้าอี้ข้าง ๆ โต๊ะทำงานของกัณหา คิดจะออกเดินเล่นแถวใกล้ ๆ เพื่อให้มันบรรเทาความหิวลงบ้าง แต่มาคิดดูว่า ยิ่งเดินท่ามันจะยิ่งหิว จึงนั่งปล่อยสติอารมณ์ให้มันเพลิดเพลินไปกับอะไรต่ออะไรจะดีกว่า แต่การที่ปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอยไปไหนต่อไหนในขณะที่ท้องร้องนั้น มันเป็นของไม่ง่ายที่จะทำได้ ไม่เชื่อท่านก็ลองทำดู แต่สำหรับผม การอดเช่นนี้ เคยเสียแล้ว เสียงฝีเท้าย่ำเบา ๆ ขึ้นบันไดมา ผมหันไปดู กัณหานั่นเอง หล่อนเดินขึ้นมาช้า ๆ เร็วจริงคุณ ผมร้องทักออกไป มองดูนาฬิกายี่ห้อเก่า ๆ ที่มีอยู่ที่ข้อมือ ไม่ถึงห้านาที คุณทานอาหารยังงี้ทุกวันน่ะหรือ ฉันยังไม่ได้รับประทาน หล่อนตอบเมื่อเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ของหล่อน อ้าว ! ผมอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ อีตาผู้การคนนั้นจะให้ฉันขับรถไปส่งที่กองให้ได้ ฉันต้องบอกว่ารถเสีย เลยไม่ได้ไปทานที่ไหน คุณอย่าเล่นยังงี้บ่อย ๆ นะ ผมเล่นอะไร ? ผมเลิกคิ้ว ตอนที่คุณรีบร้อนลงบันไดไปนั่น ฉันชะโงกหน้าออกไปดูที่หน้าต่าง ฉันเห็นตอนที่คุณส่งเงินให้คนขับรถของผู้การ แล้วเขาก็ขับรถออกไป ฉันนั่งอยู่ที่นี่ ไม่เคยได้ยินว่าผู้การสั่งอะไรคุณถึงคนรถของแก ระวังคุณพี่รู้เข้าจะเกิดเรื่อง
หล่อนทำตาขึง แต่ผมรู้ว่า ในใจหล่อนไม่ได้คิดอย่างสายตาที่แกล้งทำ ผมนิ่ง ไม่พูด ฉันเลยไปไหนไม่ได้ ต้องสั่งให้ร้านข้าง ๆ นี่เขาเอาอาหารขึ้นมาส่ง หล่อนพูดต่อไป หล่อนพูดขาดคำก็มีคนเดินขึ้นบันได ถือถาดใส่อาหารขึ้นมาด้วย ในถาดมีชามก๋วยเตี๋ยวทั้งแห้งและน้ำวางอยู่สี่ชาม และมีถ้วยน้ำแข็งสองถ้วย ผมมองดูหล่อน กัณหาพูดออกมาด้วยเสียงค่อนข้างจะตื่นเต้นว่า ตายจริง เอามาเสียใหญ่ ฉันจะกินยังไงเข้าไปหมด ผมน่ะถามไอ้มามันแล้ว ชายคนที่ยกอาหารขึ้นมาพูด ว่าอย่างละสองหรือ มันบอกว่า คุณสั่งมันที่หนึ่ง สั่งผมอีกที่หนึ่ง ก็ต้องเอามาอย่างนี้ งั้นผมเอากลับไปเสียที่หนึ่งนะครับ กัณหามองมาทางผม หล่อนพูดว่า ไม่ต้องหรอก นายทา ทิ้งไว้นั่นแหละ คุณดนัย ทานก๋วยเตี๋ยวได้ไหมคะ ประโยคหลัง หล่อนพูดกับผม ผมยังไม่หิว ผมพูดออกมาทันที ถ้ายังงั้น นายทาลงบัญชีของฉันไว้ทั้งสองที่แล้วกัน หล่อนพูดเสียงผิดปกติ ผมมองเห็นรอยยิ้มของหล่อน แล้วนายทาเอาไปกินเสียเองเถอะ เดี๋ยวเถ้าแก่จะว่าเอา บัญชีของฉันคงไม่ค่อยเท่าไรกระมังเดือนนี้ คุณไม่ค่อยได้ทานที่ร้านเดือนนี้ คงไม่เท่าไหร่หรอกครับ นายทาพูด อ้อ นายทา หล่อนพูด ขณะที่เขากำลังจะยกถาดใส่ก๋วยเตี๋ยวสองชามกลับคืนไป เรามีคนงานที่นี่เพิ่มขึ้นอีกคนแล้วนะ คุณดนัยที่นั่งอยู่นี่ หล่อนชี้มาทางผม บอกเถ้าแก่ด้วย บางทีคุณดนัยอาจไม่ไปกินที่อื่น บางวันก็คงจะลงบัญชีประจำเดือนอีกคนหนึ่งเหมือนกัน ครับ นายทารับคำเหมือนเป็นเรื่องปกติ เมื่อเหลือบมาดูผมแว่บหนึ่ง แล้วทำท่าจะเดินลงบันไดไปพร้อมกับถาดใส่ก๋วยเตี๋ยวสองชามนั่น เดี๋ยวก่อน ผมร้องออกไป นายทาชะงัก หันมามองผม ทิ้งก๋วยเตี๋ยวสองชามนั่นไว้ที่นี่ก็ได้ ไม่มีใครเอา ฉันเอาเอง ผมรีบพูด แล้วลงบัญชีของฉันไว้ ไม่ต้องลงบัญชีคุณกัณหา นายทากลับมาวางถาดลงบนโต๊ะ แล้วพูดว่า ดีเหมือนกันครับ ผมจะได้ไม่ต้องทนกระเดือกลงไปอีกสองชาม คุณชื่ออะไรนะครับ ผมฟังไม่ถนัดเมื่อกี้นี้ ผมจะได้จดชื่อถูก ผมสะกดชื่อให้เขาฟัง นายทาพยักหน้าหงึก ๆ อย่างเข้าใจ ก่อนที่จะลงบันไดไปมือเปล่า ผมมองดูกัณหา แล้วพูดว่า ขอบคุณมากที่ช่วยแก้ปัญหาให้ผมอีกครั้ง กัณหามาพูด หล่อนก้มหน้าทำธุระกับก๋วยเตี๋ยวของหล่อน เหมือนไม่ได้ยินคำที่ผมพูด ว่าแต่บัญชีที่ลงไว้นี่น่ะ เขาไปเก็บสิ้นเดือนจริงนะคุณ ผมพูดกับหล่อน ถ้าเก็บก่อนหน้านั้นก็เสร็จ ผมยังถังแตกอยู่อีกหลายวัน ยังชำระไม่ได้แน่ หล่อนมองผม ไม่พูดตามเดิม แต่บนใบหน้าของหล่อนมีรอยยิ้ม ผู้หญิงคนนี้พูดด้วยสายตาเก่งจริง ๆ ก๋วยเตี๋ยวสองชามทำให้อะไร ๆ ค่อยแจ่มใสขึ้น ผมดื่มน้ำปิดท้ายกลั้วคอ แล้วควักบุหรี่ออกมาจุดสูบ ผมไม่ได้ส่งบุหรี่ให้หล่อน เพราะไม่ชอบเห็นผู้หญิงสูบบุหรี่ และดูหล่อนก็ไม่มีท่าทีที่จะสนใจกับบุหรี่ ถึงแม้ว่าจะอิ่มพร้อม ๆ กับผม หล่อนจัดแจงยกถาดที่ใส่ชามที่ใช้แล้วนั้น ไปวางไว้ตรงมุมห้อง รอคนมาเก็บ แล้วก็หายเข้าไปในห้องน้ำ คงจะไปตบแต่งใบหน้าตามธรรมดาของผู้หญิงทั้งหลาย เมื่อเสร็จจากอาหาร หล่อนพริ้มเพราออกมาจากห้องน้ำด้วยการแต่งหน้าทาปากเรียบร้อย ผมจึงพูดขึ้นว่า ผมตั้งใจจะออกจากที่นี่เมื่อครบห้าวัน นี่เห็นจะต้องทนอยู่ต่อเสียแล้ว หล่อนนั่งลงที่เก้าอี้ของหล่อน มองผม สายตานั้นตั้งคำถามอย่างเคย
อีตาผู้การนี่เป็นใครนะครับ ผมถาม
คุณพี่ไม่ได้บอกคุณแล้วหรอกหรือ หล่อนพูด
คุณพี่น่ะบอกแล้วว่า แกเป็นผู้บังคับการตำรวจท้องที่เรานี่ แต่ผมอยากรู้ว่า แกมีความสำคัญอย่างไรทางด้านคุณพี่ เป็นญาติอะไรกันหรือเปล่า ผมหยุดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อไปว่า ผมไม่อยากจะรู้เอาไปประดับสติปัญญาอะไรนักหรอก แต่ในฐานะที่ต้องทนอยู่ต่อไปอีก เจอแกบ่อย ๆ ก็ไม่ค่อยดีเหมือนกัน
คุณอยู่ ๆ ไปก็จะรู้เอง หล่อนพูด
คุณอยู่ที่นี่มานานเท่าไรแล้ว ผมถาม
ปีกว่า ๆ ได้กระมังคะ
ถ้างั้น คุณก็รู้จักอีตาผู้การคนนี้มานานแล้วซี
หล่อนพยักหน้าน้อย ๆ
แกคงไม่ใช่ญาติอะไรกับคุณพี่ ผมพูดต่อ เป็นคำถามไปด้วยในตัว
หล่อนยิ้ม ไม่ตอบ
คุณพี่มีพี่ชายหรือเปล่า ผมถาม
หล่อนหัวเราะคิกออกมาเบา ๆ สามีคุณพี่เป็นนายทหาร เสียชีวิตเมื่อสงครามโลกครั้งที่แล้วนี่เอง ทางเมืองเหนือ สามีคุณพี่เป็นนักเรียนนายร้อยรุ่นเดียวกับผู้การคนนี้
ถ้างั้นผมรู้แล้ว นึกแล้วไม่ผิด
หล่อนมองผม ยิ้มอย่างไม่ต้องกาคำชี้แจงที่ว่า รู้แล้วนั้น รู้ว่ายังไง แกมาติดคุณพี่อยู่นานแล้วหรือยังไง ผมสาวเรื่องต่อ ตั้งแต่ฉันมาอยู่ที่นี่ ก็เห็นแกมาอยู่แล้วบ่อย ๆ คุณน่ะ มีอะไรกับคุณพี่หรือเปล่า ถ้าจะนับกันจริง ๆ ดิฉันก็เป็นหลานห่าง ๆ แล้วทำไมคุณถึงไม่เรียก คุณน้า คุณป้า หรือคุณอา คุณน้าชอบให้เรียก คุณพี่ หล่อนพูดยิ้ม ๆ ผมชักจะหนักใจเสียแล้ว หล่อนมองผมด้วยสายตามีเครื่องหมายคำถามอันนั้น ผมพูดต่อไป ผมหมายถึงว่า จะอยู่ไม่ได้นานถึงห้าวัน ถ้าอีตาผู้การคนนี้แกมาที่นี่ทุก ๆ วัน
แกอาจจะมาอีกวันนี้ หล่อนพูด มองผม ไม่เคยมีใครกล้าแกล้งแกอย่างที่คุณทำเมื่อกี้นี้
คุณหมายความว่า แกจะกลับมาเอาเรื่องกับผมงั้นหรือ
คุณไม่กลัวหรือ เล่นยังงั้นกับตำรวจ หล่อนถาม
แกจะมาทำอะไรผมได้ การกระทำของผมไม่ผิดกฎหมายอะไร
แกเป็นคนเอาแต่ใจอยู่ ฉันก็เดาไม่ออกเหมือนกันว่า แกจะมาทำอะไรกับคุณบ้าง เสียงของหล่อนแสดงความห่วงใยในที
เมื่อกี้คุณว่า ไม่เคยมีใครกล้าแกล้งแกอย่างที่ผมทำ หมายความว่า เคยมีคนเจอแกรวนเอาอย่างผมบ้างแล้ว ยังงั้นหรือ เขาไม่กล้าทำอะไรแก
คนที่ทำงานที่นี่ก่อนหน้าคุณ โดนแกล้อหนัก ๆ แทบทุกคน ทนไม่ไหว ลาออกไปก็มี
ถ้ายังงั้น ผมก็เห็นจะต้องอยู่ที่นี่ต่อไปให้นานที่สุดที่จะนานได้
หล่อนถามผมด้วยสายตาคู่นั้นอีก
ผมชอบล้อเล่นกับคนอย่างนี้ ผมพูด ผมจะอยู่ดูแกว่า จะถึงขนาดไหน
ตอนนั้น ผมคิดว่าแกเป็นยังงี้กับผมคนเดียว ลงแกเล่นยังงี้กับทุกคนก็ไม่น่ากลัวอะไร ผมชอบ เพราะผมก็มีวิธีเล่นกับแกเหมือนกัน
คุณมีวิธีเล่นที่เสี่ยงอันตรายมากไปสักหน่อย เสียงของหล่อนบอกถึงการตำหนิ
ผมไม่เห็นว่ามันจะเสี่ยงตรงไหน แกเล่นกับผมได้ ผมก็เล่นกับแกได้ ตำรวจก็คนเหมือน ๆ เรา ไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหน
หล่อนเหลือบมองผมแว่บหนึ่ง ไม่พูดอะไร
ผมดูนาฬิกาที่ข้อมือ มันบอกเวลาบ่ายโมงกว่านิดหน่อย แล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจ มองดูคนรับใช้ประจำร้านอาหารขึ้นมาเก็บถาดกับชามที่ใช้แล้ว ผมคงจะพึ่งการลงบัญชีนี้ได้ต่อไปอีก สำหรับอาหารมื้อกลางวันอีกห้าวัน นึกเสียดายเงินยี่สิบบาทที่ส่งให้คนรถผู้การคนนั้นเหมือนกัน แต่เมื่อนึกถึงได้ทำอะไรที่สมใจแล้วก็ไม่น่าเสียดายเท่าใดนัก หันไปมองดูกัณหา
ผู้หญิงคนนี้ฉลาดเกินกว่าท่าทางเฉย ๆ ของหล่อนมากนัก ดูหล่อนออกจะรอบรู้อะไรมากไปสักหน่อย แต่ทำเป็นไม่เอาใจใส่อะไรเสียยังงั้น ผมชักจะชอบ โดยเฉพาะนัยน์ตาที่เป็นปริศนาคู่นั้น แล้วก็ต้องบอกตัวเองว่า อย่าคิดอะไรให้มันเกินไป อนาคตของเจ้ายังไม่แจ่มใสนัก
Create Date : 22 พฤษภาคม 2553 |
Last Update : 24 พฤษภาคม 2553 4:04:12 น. |
|
1 comments
|
Counter : 840 Pageviews. |
|
|
|
รออ่านตอนต่อไป...ขอบคุณมาก..