จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
22 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
พริกขี้หนูเผ็ด (ตอนที่ 4)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 4

เสียงผู้การยังคุยอยู่ในห้อง และผมได้ยินเสียงเขาชวนคุณพี่ไปรับประทานอาหารกลางวันกับเขา เสียงคุณพี่ปฏิเสธว่ายังมีธุระอื่นอยู่ สักครู่ผมเห็นเขาเดินออกมาจากห้อง

เขาเดินผ่านผมไป หันมามอง แล้วทำท่าเลี่ยงไปห่าง ๆ คล้ายกลัวผม ก่อนที่จะเดินหัวเราะอย่างล้อเลียนลงบันไดไป

กัณหาหัวเราะคิกออกมาเบา ๆ ผมหันไปมองหล่อน ไม่รู้ว่าหล่อนขันอะไร หล่อนมองผม แล้วก้มหน้าจัดของในลิ้นชักโต๊ะของหล่อนอยู่

คุณพี่ออกมาจากห้อง หันมาพูดกับกัณหาและผมว่า
“ ยังไม่ไปกินข้าวอีกหรือ ”

กัณหาตอบว่ากำลังไป
ส่วนผมนั้นได้แต่พูดว่ายังไม่หิว...
ก็จะหิวได้ยังไง ยี่สิบบาทสุดท้ายนั่นหมดไปแล้ว

คุณนายเดินลงบันไดไป
ผมทำเป็นเดินไปที่หน้าต่าง มองไปที่ถนนข้างล่าง

ผู้การร่างใหญ่คนนั้นกำลังเดินงุ่นง่านอยู่ที่ทางเดินริมถนน เขาหันมาพูดอะไรกับคุณพี่ซึ่งเดินลงไปพบเข้าพอดี ผมเห็นคุณพี่โบกไม้โบกมือ แล้วก็เดินแยกไป ปล่อยให้ผู้การคนนั้นยืนอยู่คนเดียว ผมหดศีรษะเข้ามา เดินมานั่งที่เก้าอี้ใกล้กับโต๊ะทำงานของกัณหา ควักบุหรี่ออกมาสูบ

กัณหาปิดกุญแจลิ้นชักโต๊ะ แล้วก็หันมามองผม หล่อนทำท่าลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งก็เดินลงบันไดไป ทิ้งให้ผมนั่งอยู่คนเดียว

ผมเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่บนสำนักงานนั้น ไขน้ำในก๊อกมาดิ่มกลั้วคอแห้ง และให้ทันเข้าไปถ่วงน้ำหนักในท้องบ้างเล็กน้อย แล้วก็ออกมานั่งอยู่เก้าอี้ข้าง ๆ โต๊ะทำงานของกัณหา คิดจะออกเดินเล่นแถวใกล้ ๆ เพื่อให้มันบรรเทาความหิวลงบ้าง แต่มาคิดดูว่า ยิ่งเดินท่ามันจะยิ่งหิว จึงนั่งปล่อยสติอารมณ์ให้มันเพลิดเพลินไปกับอะไรต่ออะไรจะดีกว่า แต่การที่ปล่อยอารมณ์ให้ล่องลอยไปไหนต่อไหนในขณะที่ท้องร้องนั้น มันเป็นของไม่ง่ายที่จะทำได้ ไม่เชื่อท่านก็ลองทำดู แต่สำหรับผม การอดเช่นนี้ เคยเสียแล้ว

เสียงฝีเท้าย่ำเบา ๆ ขึ้นบันไดมา ผมหันไปดู กัณหานั่นเอง หล่อนเดินขึ้นมาช้า ๆ

“ เร็วจริงคุณ ” ผมร้องทักออกไป มองดูนาฬิกายี่ห้อเก่า ๆ ที่มีอยู่ที่ข้อมือ “ ไม่ถึงห้านาที คุณทานอาหารยังงี้ทุกวันน่ะหรือ ”

“ ฉันยังไม่ได้รับประทาน ” หล่อนตอบเมื่อเดินเข้ามานั่งที่เก้าอี้ของหล่อน

“ อ้าว ! ” ผมอุทานออกมาด้วยความแปลกใจ

“ อีตาผู้การคนนั้นจะให้ฉันขับรถไปส่งที่กองให้ได้ ฉันต้องบอกว่ารถเสีย เลยไม่ได้ไปทานที่ไหน คุณอย่าเล่นยังงี้บ่อย ๆ นะ ”

“ ผมเล่นอะไร ? ” ผมเลิกคิ้ว

“ ตอนที่คุณรีบร้อนลงบันไดไปนั่น ฉันชะโงกหน้าออกไปดูที่หน้าต่าง ฉันเห็นตอนที่คุณส่งเงินให้คนขับรถของผู้การ แล้วเขาก็ขับรถออกไป ฉันนั่งอยู่ที่นี่ ไม่เคยได้ยินว่าผู้การสั่งอะไรคุณถึงคนรถของแก ระวังคุณพี่รู้เข้าจะเกิดเรื่อง ”

หล่อนทำตาขึง แต่ผมรู้ว่า ในใจหล่อนไม่ได้คิดอย่างสายตาที่แกล้งทำ

ผมนิ่ง ไม่พูด

“ ฉันเลยไปไหนไม่ได้ ต้องสั่งให้ร้านข้าง ๆ นี่เขาเอาอาหารขึ้นมาส่ง ” หล่อนพูดต่อไป

หล่อนพูดขาดคำก็มีคนเดินขึ้นบันได ถือถาดใส่อาหารขึ้นมาด้วย ในถาดมีชามก๋วยเตี๋ยวทั้งแห้งและน้ำวางอยู่สี่ชาม และมีถ้วยน้ำแข็งสองถ้วย ผมมองดูหล่อน

กัณหาพูดออกมาด้วยเสียงค่อนข้างจะตื่นเต้นว่า

“ ตายจริง เอามาเสียใหญ่ ฉันจะกินยังไงเข้าไปหมด ”

“ ผมน่ะถามไอ้มามันแล้ว ” ชายคนที่ยกอาหารขึ้นมาพูด “ ว่าอย่างละสองหรือ มันบอกว่า คุณสั่งมันที่หนึ่ง สั่งผมอีกที่หนึ่ง ก็ต้องเอามาอย่างนี้ งั้นผมเอากลับไปเสียที่หนึ่งนะครับ ”

กัณหามองมาทางผม หล่อนพูดว่า

“ ไม่ต้องหรอก นายทา ทิ้งไว้นั่นแหละ คุณดนัย ทานก๋วยเตี๋ยวได้ไหมคะ ” ประโยคหลัง หล่อนพูดกับผม

“ ผมยังไม่หิว ” ผมพูดออกมาทันที

“ ถ้ายังงั้น นายทาลงบัญชีของฉันไว้ทั้งสองที่แล้วกัน ” หล่อนพูดเสียงผิดปกติ ผมมองเห็นรอยยิ้มของหล่อน “ แล้วนายทาเอาไปกินเสียเองเถอะ เดี๋ยวเถ้าแก่จะว่าเอา บัญชีของฉันคงไม่ค่อยเท่าไรกระมังเดือนนี้ ”

“ คุณไม่ค่อยได้ทานที่ร้านเดือนนี้ คงไม่เท่าไหร่หรอกครับ ” นายทาพูด

“ อ้อ นายทา ” หล่อนพูด ขณะที่เขากำลังจะยกถาดใส่ก๋วยเตี๋ยวสองชามกลับคืนไป “ เรามีคนงานที่นี่เพิ่มขึ้นอีกคนแล้วนะ คุณดนัยที่นั่งอยู่นี่ ” หล่อนชี้มาทางผม “ บอกเถ้าแก่ด้วย บางทีคุณดนัยอาจไม่ไปกินที่อื่น บางวันก็คงจะลงบัญชีประจำเดือนอีกคนหนึ่งเหมือนกัน ”

“ ครับ ” นายทารับคำเหมือนเป็นเรื่องปกติ เมื่อเหลือบมาดูผมแว่บหนึ่ง แล้วทำท่าจะเดินลงบันไดไปพร้อมกับถาดใส่ก๋วยเตี๋ยวสองชามนั่น

“ เดี๋ยวก่อน ” ผมร้องออกไป

นายทาชะงัก หันมามองผม

“ ทิ้งก๋วยเตี๋ยวสองชามนั่นไว้ที่นี่ก็ได้ ไม่มีใครเอา ฉันเอาเอง ” ผมรีบพูด “ แล้วลงบัญชีของฉันไว้ ไม่ต้องลงบัญชีคุณกัณหา ”

นายทากลับมาวางถาดลงบนโต๊ะ แล้วพูดว่า

“ ดีเหมือนกันครับ ผมจะได้ไม่ต้องทนกระเดือกลงไปอีกสองชาม คุณชื่ออะไรนะครับ ผมฟังไม่ถนัดเมื่อกี้นี้ ผมจะได้จดชื่อถูก ”

ผมสะกดชื่อให้เขาฟัง

นายทาพยักหน้าหงึก ๆ อย่างเข้าใจ ก่อนที่จะลงบันไดไปมือเปล่า

ผมมองดูกัณหา แล้วพูดว่า

“ ขอบคุณมากที่ช่วยแก้ปัญหาให้ผมอีกครั้ง ”

กัณหามาพูด หล่อนก้มหน้าทำธุระกับก๋วยเตี๋ยวของหล่อน เหมือนไม่ได้ยินคำที่ผมพูด

“ ว่าแต่บัญชีที่ลงไว้นี่น่ะ เขาไปเก็บสิ้นเดือนจริงนะคุณ ” ผมพูดกับหล่อน “ ถ้าเก็บก่อนหน้านั้นก็เสร็จ ผมยังถังแตกอยู่อีกหลายวัน ยังชำระไม่ได้แน่ ”

หล่อนมองผม ไม่พูดตามเดิม แต่บนใบหน้าของหล่อนมีรอยยิ้ม

ผู้หญิงคนนี้พูดด้วยสายตาเก่งจริง ๆ

ก๋วยเตี๋ยวสองชามทำให้อะไร ๆ ค่อยแจ่มใสขึ้น ผมดื่มน้ำปิดท้ายกลั้วคอ แล้วควักบุหรี่ออกมาจุดสูบ ผมไม่ได้ส่งบุหรี่ให้หล่อน เพราะไม่ชอบเห็นผู้หญิงสูบบุหรี่ และดูหล่อนก็ไม่มีท่าทีที่จะสนใจกับบุหรี่ ถึงแม้ว่าจะอิ่มพร้อม ๆ กับผม หล่อนจัดแจงยกถาดที่ใส่ชามที่ใช้แล้วนั้น ไปวางไว้ตรงมุมห้อง รอคนมาเก็บ แล้วก็หายเข้าไปในห้องน้ำ คงจะไปตบแต่งใบหน้าตามธรรมดาของผู้หญิงทั้งหลาย เมื่อเสร็จจากอาหาร

หล่อนพริ้มเพราออกมาจากห้องน้ำด้วยการแต่งหน้าทาปากเรียบร้อย ผมจึงพูดขึ้นว่า

“ ผมตั้งใจจะออกจากที่นี่เมื่อครบห้าวัน นี่เห็นจะต้องทนอยู่ต่อเสียแล้ว
หล่อนนั่งลงที่เก้าอี้ของหล่อน มองผม สายตานั้นตั้งคำถามอย่างเคย

“ อีตาผู้การนี่เป็นใครนะครับ ” ผมถาม

“ คุณพี่ไม่ได้บอกคุณแล้วหรอกหรือ ” หล่อนพูด

“ คุณพี่น่ะบอกแล้วว่า แกเป็นผู้บังคับการตำรวจท้องที่เรานี่ แต่ผมอยากรู้ว่า แกมีความสำคัญอย่างไรทางด้านคุณพี่ เป็นญาติอะไรกันหรือเปล่า ” ผมหยุดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อไปว่า “ ผมไม่อยากจะรู้เอาไปประดับสติปัญญาอะไรนักหรอก แต่ในฐานะที่ต้องทนอยู่ต่อไปอีก เจอแกบ่อย ๆ ก็ไม่ค่อยดีเหมือนกัน ”

“ คุณอยู่ ๆ ไปก็จะรู้เอง ” หล่อนพูด

“ คุณอยู่ที่นี่มานานเท่าไรแล้ว ” ผมถาม

“ ปีกว่า ๆ ได้กระมังคะ ”

“ ถ้างั้น คุณก็รู้จักอีตาผู้การคนนี้มานานแล้วซี ”

หล่อนพยักหน้าน้อย ๆ

“ แกคงไม่ใช่ญาติอะไรกับคุณพี่ ” ผมพูดต่อ เป็นคำถามไปด้วยในตัว

หล่อนยิ้ม ไม่ตอบ

“ คุณพี่มีพี่ชายหรือเปล่า ” ผมถาม

หล่อนหัวเราะคิกออกมาเบา ๆ “ สามีคุณพี่เป็นนายทหาร เสียชีวิตเมื่อสงครามโลกครั้งที่แล้วนี่เอง ทางเมืองเหนือ สามีคุณพี่เป็นนักเรียนนายร้อยรุ่นเดียวกับผู้การคนนี้ ”

“ ถ้างั้นผมรู้แล้ว นึกแล้วไม่ผิด ”

หล่อนมองผม ยิ้มอย่างไม่ต้องกาคำชี้แจงที่ว่า รู้แล้วนั้น รู้ว่ายังไง

“ แกมาติดคุณพี่อยู่นานแล้วหรือยังไง ” ผมสาวเรื่องต่อ

“ ตั้งแต่ฉันมาอยู่ที่นี่ ก็เห็นแกมาอยู่แล้วบ่อย ๆ ”

“ คุณน่ะ มีอะไรกับคุณพี่หรือเปล่า ”

“ ถ้าจะนับกันจริง ๆ ดิฉันก็เป็นหลานห่าง ๆ ”

“ แล้วทำไมคุณถึงไม่เรียก คุณน้า คุณป้า หรือคุณอา ”

“ คุณน้าชอบให้เรียก คุณพี่ ” หล่อนพูดยิ้ม ๆ

“ ผมชักจะหนักใจเสียแล้ว ”

หล่อนมองผมด้วยสายตามีเครื่องหมายคำถามอันนั้น

ผมพูดต่อไป “ ผมหมายถึงว่า จะอยู่ไม่ได้นานถึงห้าวัน ถ้าอีตาผู้การคนนี้แกมาที่นี่ทุก ๆ วัน ”

“ แกอาจจะมาอีกวันนี้ ” หล่อนพูด มองผม “ ไม่เคยมีใครกล้าแกล้งแกอย่างที่คุณทำเมื่อกี้นี้ ”

“ คุณหมายความว่า แกจะกลับมาเอาเรื่องกับผมงั้นหรือ ”

“ คุณไม่กลัวหรือ เล่นยังงั้นกับตำรวจ ” หล่อนถาม

“ แกจะมาทำอะไรผมได้ การกระทำของผมไม่ผิดกฎหมายอะไร ”

“ แกเป็นคนเอาแต่ใจอยู่ ฉันก็เดาไม่ออกเหมือนกันว่า แกจะมาทำอะไรกับคุณบ้าง ” เสียงของหล่อนแสดงความห่วงใยในที

“ เมื่อกี้คุณว่า ไม่เคยมีใครกล้าแกล้งแกอย่างที่ผมทำ หมายความว่า เคยมีคนเจอแกรวนเอาอย่างผมบ้างแล้ว ยังงั้นหรือ เขาไม่กล้าทำอะไรแก ”

“ คนที่ทำงานที่นี่ก่อนหน้าคุณ โดนแกล้อหนัก ๆ แทบทุกคน ทนไม่ไหว ลาออกไปก็มี ”

“ ถ้ายังงั้น ผมก็เห็นจะต้องอยู่ที่นี่ต่อไปให้นานที่สุดที่จะนานได้ ”

หล่อนถามผมด้วยสายตาคู่นั้นอีก

“ ผมชอบล้อเล่นกับคนอย่างนี้ ” ผมพูด “ ผมจะอยู่ดูแกว่า จะถึงขนาดไหน ”

“ ตอนนั้น ผมคิดว่าแกเป็นยังงี้กับผมคนเดียว ลงแกเล่นยังงี้กับทุกคนก็ไม่น่ากลัวอะไร ผมชอบ เพราะผมก็มีวิธีเล่นกับแกเหมือนกัน ”

“ คุณมีวิธีเล่นที่เสี่ยงอันตรายมากไปสักหน่อย เสียงของหล่อนบอกถึงการตำหนิ

“ ผมไม่เห็นว่ามันจะเสี่ยงตรงไหน แกเล่นกับผมได้ ผมก็เล่นกับแกได้ ตำรวจก็คนเหมือน ๆ เรา ไม่เห็นจะน่ากลัวตรงไหน ”

หล่อนเหลือบมองผมแว่บหนึ่ง ไม่พูดอะไร

ผมดูนาฬิกาที่ข้อมือ มันบอกเวลาบ่ายโมงกว่านิดหน่อย แล้วลุกขึ้นบิดขี้เกียจ มองดูคนรับใช้ประจำร้านอาหารขึ้นมาเก็บถาดกับชามที่ใช้แล้ว ผมคงจะพึ่งการลงบัญชีนี้ได้ต่อไปอีก สำหรับอาหารมื้อกลางวันอีกห้าวัน นึกเสียดายเงินยี่สิบบาทที่ส่งให้คนรถผู้การคนนั้นเหมือนกัน แต่เมื่อนึกถึงได้ทำอะไรที่สมใจแล้วก็ไม่น่าเสียดายเท่าใดนัก หันไปมองดูกัณหา

ผู้หญิงคนนี้ฉลาดเกินกว่าท่าทางเฉย ๆ ของหล่อนมากนัก ดูหล่อนออกจะรอบรู้อะไรมากไปสักหน่อย แต่ทำเป็นไม่เอาใจใส่อะไรเสียยังงั้น ผมชักจะชอบ โดยเฉพาะนัยน์ตาที่เป็นปริศนาคู่นั้น แล้วก็ต้องบอกตัวเองว่า อย่าคิดอะไรให้มันเกินไป อนาคตของเจ้ายังไม่แจ่มใสนัก





Create Date : 22 พฤษภาคม 2553
Last Update : 24 พฤษภาคม 2553 4:04:12 น. 1 comments
Counter : 840 Pageviews.

 
กำลังสนุกเลย..

รออ่านตอนต่อไป...ขอบคุณมาก..


โดย: ก้นกะลา วันที่: 25 พฤษภาคม 2553 เวลา:3:54:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.