ทางเสือผ่าน (ตอนที่ 29 )
ทางเสือผ่าน โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ ตอนที่ 29
ทวน ทองรุ่ง มาถึงบ้านกอไผ่เมื่อใกล้เที่ยง เขานั่งม้าเหยาะย่างเข้าไปเรื่อย ๆ
พี่ทวนมาแล้ว นั่นไง เสียงใครคนหนึ่งตะโกนขึ้นลั่นจากลานบ้านหลังหนึ่ง
ทวนวาดเท้าลงจากหลังม้า จูงเอาไปผูกไว้กับเสาหน้าโรงม้าใต้ถุนบ้าน เดินกลับออกมาด้วยท่าทางเร่งรีบจะก้าวขึ้นเรือน
ไปไหนมาวะ ทวน เสียงทักมาจากบนเรือนนั้นเป็นเสียงของเสือฝ้ายผู้พ่อ หายไปหลายวัน ไปไหนก็ไม่บอกกล่าว พ่อให้คนออกไปทั่วทิศก็ไม่พบ
ฉันไปธุระด่วนจ้ะ พ่อ ทวนตอบ ไม่ทันได้บอกใคร ต้องไปแต่เช้า เสร็จธุระแล้วก็รีบกลับมา ฉันมีอะไรจะพูดกับพ่อด้วย
ไปรับใครเขา เขาไม่ยอมมาด้วยหรือไง พี่ทวน เสียงแจ๋ว ๆ ของบัวดังมาจากระเบียงเรือนข้าง ๆ เสือผู้พ่อ ต้องมาคนเดียว หน้าตาหมองมาเชียว
ทวนเบนสายตาไปที่เจ้าของคำพูด หัวเราะชอบใจ
หน้าข้าหมองก็คงเพราะคอยแต่คิดถึงเอ็งทุกคืนทุกวันมั้ง หน้าตามันก็เลยหม่นหมอง กำนันที่ออกมายืนอยู่ข้าง ๆ ลูกสาว ส่งเสียงหัวเราะว่า
พบหน้ากันทีแรก มันก็ทะเลาะกันทันที ให้มันได้ยังงั้นซีวะ
บัวหันไปค้อนพ่อ
ก็ฟังเขาแดกดันฉันซีพ่อ หน้าตาหมองก็เพราะคิดถึงฉัน โอ๊ย ... บัวลากเสียงยาว ปลื้มอกปลื้มใจจัง โดนอีสาวบ้านโน้นมันหักอกมาน่ะซีไม่ว่า ไหนลุงฝ้ายว่า จะไปรับใครมาไงล่ะ รีบไปแต่มืดไม่ยอมบอกกล่าวใครเลย ไหนล่ะ ไปรับใครมาได้มั่ง ทวนหัวเราะร่า ไม่เอาใจใส่กับถ้อยคำแดกดันนั้น หันไปพูดกับเสือผู้พ่อ
พ่อลงมานี่หน่อย ฉันมีอะไรจะพูดด้วย "
ลงไปเร็ว ๆ ซีลุง บัวหันไปทางเสือฝ้าย จะยกกันไปฉุดให้ได้ก็เอาซี พี่ทวนเขาคงจะหารือเรื่องนี้แหละ
เสือฝ้ายหัวเราะหึ เดินลงบันไดไปหาลูกชาย
ทวนจูงมือพ่อเข้าไปใต้ถุนบ้าน นั่งลงบนม้ายาว
เอ็งไปไหนมา ยังไม่ได้บอกพ่อ เสือตั้งคำถามทันทีที่นั่ง
ฉันไปที่บ้านหนองตากลับจริง ๆ แหละ พ่อ ทวนกระซิบเบา ๆ
เอ็งไปรับอีเด็กคนนั้นมันจริง ๆ หรือนี่ แล้วยังไงถึงกลับมาคนเดียว เสือถาม
ฉันไม่ได้ไปรับใครที่นั่นหรอก พ่อ ทวนพูดเบา ๆ ฉันไปที่นั่นเพราะสัญญากับชาวบ้านที่นั่นไว้ว่าขอกลับไปช่วยเขา พวกเขาได้ช่วยชีวิตฉันไว้คราวนั้น ก่อนที่พ่อจะตามไปช่วยฉันออกมา พ่อก็เห็นไม่ใช่หรือว่าไอ้ช้วยมันทำกับพวกนั้นไว้ยังไง ไม่มีอะไรเหลือติดบ้านเลย ฉันไปเพื่อจะเอาข้าวของไปแจกเขา ตอบแทนบุญคุณเขา
เออ ก็ดี เสือพยักหน้าเห็นด้วย แต่ทำไมไปไม่บอกกล่าว ทำเอาวุ่นวายกันไปหมด พ่อต้องส่งคนออกตามหาเอ็งทั่วทุกทิศ ไม่ได้ข่าวอะไรเลย
ฉันไม่อยากให้พ่อต้องวุ่นวายเพราะฉัน ฉันจึงต้องแอบหนีไปคนเดียว ถ้าบอกพ่อ เดี๋ยวพ่อก็จะจัดคนไปกับฉันวุ่นวายเปล่า ๆ ฉันไปตัวคนเดียวมันสบายดี ไม่ต้องห่วงใคร
เออ เอ็งมันย้อนข้าได้เหมาะ แล้วเอ็งว่ามีอะไรจะพูดกับพ่อ
ฉันไปได้ข่าวมาไม่สู้ดี พ่อ ทวนพูดสีหน้าเคร่งเครียด ตำรวจเขามาตั้งหน่วยกำลังอยู่ที่เดิมบาง ฯ เขาเรียกว่าหน่วยเฉพาะกิจ เขาตั้งขั้นมาเพื่อจะปราบปรามพ่อโดยเฉพาะ และไอ้นายตำรวจหนุ่มคนนั้นมันก็เข้าสมทบกับหน่วยนี้ ยกกำลังออกมาแล้ว
ไอ้คนที่เอ็งให้พ่อปล่อยมันไปนั่นน่ะซี เสือตบเข่าฉาด พ่อว่าแล้ว ไอ้นี่มันจะเป็นหนามยอกอกข้า มันยกมาก็ดี ทีนี้เอ็งอย่ามาขอข้าอีก พ่อจะสอนให้มันรู้จักเสียมั่งว่า เสือฝ้ายคือใคร
เขายกกำลังมาครั้งนี้ใหญ่โตมากนะ พ่อ ทวนพูดอย่างมีกังวล มีกำลังคนและอาวุธมากมาย ฉันยังได้ข่าวมาอีกว่า กำลังส่วนใหญ่ที่เดิมบาง ฯ จะยกมาสมทบกระหนาบเราอีกด้วย
เสือฝ้ายนั่งนิ่ง คิ้วขมวด
ฉันว่า ฉันจะไปคนเดียว ขึ้นไปดักพบเขาแถว ๆ บ้านผู้ใหญ่เฟี้ยน ทวนพูดต่อ
แล้วเอ็งจะทำยังไง เสือซักอย่างมีกังวล
ฉันจะหาทางทำให้เขาต้องคิดหนัก บางทีอาจจะตัดกำลังเขาลงได้บ้างก่อนที่จะมาถึงตัวเรา
เสือนั่งมองหน้าผู้เป็นลูกนิ่งอยู่พักใหญ่ ก่อนที่จะพูดออกมา
มันไม่เสี่ยงไปหน่อยหรือ ไอ้ทวน ข้าว่าเรายกไปตะลุยมันก่อนไม่ดีกว่าหรือ ก่อนที่มันจะมาเหยียบถึงบ้านเราให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
กำลังของเราสู้กำลังตำรวจเขาไม่ได้หรอก พ่อ ถ้าทางกองใหญ่เขายกมาจากเดิมบาง ฯ มันจะเป็นศึกหนัก เราต้องผ่อนหนักเป็นเบาให้ได้ ดีกว่าจะสู้กันจนละลายไป
เลือดสู้ของเอ็งมันชักจะหดหายไปแล้วนะ ไอ้ทวน เสือพึมพำเบา ๆ
ทวนหัวเราะเบา ๆ
ไม่ใช่ยังงั้นหรอก พ่อ พ่อเคยพูดกับฉันว่า ก่อนที่จะเข้าสนามรบ ต้องหยั่งกำลังข้าศึก พ่อเอาความนี้มาใช้ตั้งแต่พ่อยังทำงานเป็นเสรีไทย พ่อว่ายังงั้นไม่ใช่หรือ "
ข้าเหนื่อยใจกับการเป็นโจรนี่เหลือเกินแล้ว เสือส่ายหน้าช้า ๆ ข้าอยากจะหยุดเรื่องนี้เสียที แต่มันก็มองไม่เห็นทาง คนของเรามันก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากเราอยู่อีก
เราหาทางช่วยเขาทางอื่นก็ได้นี่ พ่อ ทวนจับเข่าเสือพูด
ทางไหน - ข้ายังมองไม่เห็น นอกจากทางโจร เสือพูดจ้องหน้าทวน ตำรวจมันก็ยังจะต้องตามรังควานเราอยู่อย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด จนกว่ามันจะทำลายเราลงไปได้ หรือไม่มันก็สิ้นกำลังลงไปเอง ยังมีทาง พ่อ ทวนตบเข่าเสือ ปล่อยให้เป็นธุระของฉัน ฉันขึ้นไปคราวนี้ก็ว่าจะไปหาทางทำให้อะไร ๆ มันสงบ ความจริงพรรคพวกเราก็มีกินมีใช้กันพอแล้ว เราได้แจกข้าวของให้แล้วไงล่ะพ่อ มันก็น่าจะพอกันเสียที แล้วเวลานี้ทางการเขาก็ออกประกาศให้มีการมอบตัวกันอยู่ด้วย เรามันจะมอบตัวได้ยังไง เสือส่ายหน้าช้า ๆ ใคร ๆ ก็ต้องการกำจัดเสือฝ้าย ในหมู่พวกเรานี่เองก็อาจจะมี พ่อก็ไม่ได้ไว้ใจนัก เพียงแต่มันยังไม่มีโอกาสเพราะเราไม่เผลอ ที่จะเลิกเป็นโจรอย่างพ่อเห็นทีจะยาก ฉันเองพ่อ ฉันเอง ฉันจะทำให้ได้ ทวนพูด มองตาเสือยืนยันคำพูด พ่ออยู่สงบ ๆ ที่นี่ ฉันจะทำให้พ่อเอง ฉันมีหนทาง เสือฝ้ายนั่งมองหน้าลูกนิ่ง หัวเราะหึออกมาเบา ๆ ตามใจเอ็ง ทวนลุกขึ้นยกมือไหว้ ฉันไปละ พ่อ เออ บุญรักษาเถอะ เสือให้พร ระวังเนื้อ ระวังตัวให้ดี พ่อเป็นห่วง ทวนเดินออกมาจากนั่น แหงนหน้าขึ้นไปมองบนเรือน บัวออกมายืนอยู่ที่ระเบียงแล้ว ทวนโบกมือให้ ข้าไปละ บัว ไม่ได้ไปบ้านหนองตากลับหรอก คราวนี้
บ้า เสียงเด็กสาวลั่นออกมา พร้อมทั้งสะบัดหน้า
ทวนปลดม้าออกจากผูก โดดขึ้นหลัง บังคับม้าย่างเหยาะออกไปทางชายบ้าน ชักม้าควบตะบึงไปทางทิศตะวันตก
ทวน ทองรุ่ง มาถึงหมู่บ้านผู้ใหญ่เฟี้ยมเมื่อตะวันเกือบจะคล้อย เขาเพิ่งรู้สึกว่าความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ากำลังทำให้เขาอ่อนเพลีย ทวนนึกออกว่าเขายังไม่ได้มีอาหารกลางวันตกถึงท้อง เพราะความรีบร้อนที่จะออกเดินทาง เขาชักม้าแวะเข้าไปที่นั่น ตรงเข้าไปที่บ้านผู้ใหญ่ เขาผูกม้าไว้ที่เสาใต้ถุนบ้าน เดินขึ้นบ้านผู้ใหญ่ด้วยความคุ้นเคย ผู้ใหญ่เฟี้ยมนั่งเอกเขนกอยู่กับหมอนขวานที่ชานเรือน
เฮ้ย ทวน เอ็งมายังไงเงียบ ๆ ผู้ใหญ่เฟี้ยมชะโงกตัวขึ้นร้องทัก
มาขอข้าวสักมื้อเหอะ อาผู้ใหญ่ ทวนพูดพร้อมทรุดตัวลงนั่ง รีบมาจนลืมกินข้าวกลางวัน
ในครัวแน่ะ ผู้ใหญ่ชี้มือไปทางข้างตัว ไปหากินเอาเอง เด็ก ๆ มันหายไปไหนหมดก็ไม่รู้
ทวนลุกขึ้น ตรงไปที่มีเครื่องครัววางอยู่ระเกะระกะ ทางอีกด้านหนึ่งของชานเรือน เขาจัดการสำรวจข้าวปลาอาหารเอาเองตามใจชอบเท่าที่ยังมีเหลืออยู่ คดข้าวใส่จานนั่งกินอย่างหิวโหย
เอ็งจะรีบไปไหนของเอ็ง เสียงผู้ใหญ่เฟี้ยมถามมาจากที่เอกเขนกอยู่ จะรีบไปบ้านตาม้วน ทวนตอบไป เคี้ยวอาหารไป
ตำรวจเขายกกันมาที่นี่หลังจากที่พี่ฝ้ายกับเอ็งสวนทางไป ผู้ใหญ่เฟี้ยมชันตัวขึ้นพูด เขามากันขบวนใหญ่ ดีที่เอ็งหลบลงใต้ ไม่เจอกัน กำลังที่เขายกมามากมายนัก ถ้าเจอกันพวกเราจะแย่ แล้วนี่เอ็งจะไปบ้านตาม้วนอีกทำไม ฉันมีธุระที่นั่น
ก็ตำรวจมันอยู่ที่นั่น มันเพิ่งจะยกกันตามไป มันนึกว่าพี่ฝ้ายยังอยู่ที่บ้านตาม้วน ข้าหลอกมันไว้คราวนั้น มันไม่เจอ มันก็ต้องย้อนกลับมาอีก
นั่นแหละ ฉันถึงจะต้องไปที่นั่น ก่อนที่เขาจะย้อนกลับมา
เอ็งอาจจะสวนกับเขากลางทางก็ได้ ป่านนี้มันมิรู้แล้วหรือว่าอะไรเป็นอะไร
ก็ยิ่งดี ทวนพูดแค่นั้น
ผู้ใหญ่เฟี้ยมมองดูทวนนิ่งอยู่ ไม่เข้าใจในคำพูดสั้น ๆ นั้น
ทวนวางมือจากจานข้าวที่เขารู้สึกอิ่มพอดี ลุกขึ้นเดินไปล้างมือที่โอ่งน้ำข้างฝาครัว เช็ดปากเช็ดคอด้วยผ้าตะม้าที่เคียนพุงอยู่ เดินกลับมาที่ผู้ใหญ่เฟี้ยมซึ่งยังพิงหมอนดูเฉยอยู่ที่เดิม เขายกมือไหว้
ขอบใจอาผู้ใหญ่ ฉันไปละ
อ้าว มาถึงก็กินเอากินเอา แล้วก็จะไป มันรีบร้อนยังไงกันวะ ผู้ใหญ่เฟี้ยมชันกายขึ้นพูด
อิ่มแล้ว ฉันก็จะไปละ เดี๋ยวจะมืด ทวนก้าวเท้าออกเดิน จะลงบันได
ตะวันจะตกดินอยู่แล้ว เอ็งจะรีบไปไหนมืด ๆ พักที่นี่สักคืนก่อนไม่ดีกว่าหรือ ผู้ใหญ่ท้วง
ธุระมันรอไม่ได้ อาผู้ใหญ่ ทวนก้าวลงบันไดไป
ผู้ใหญ่เฟี้ยมส่ายหน้าช้า ๆ ไม่ทันพูด ร่างของทวนหายลงบันไดไปชั่วครู่ เสียงฝีเท้าม้าก็ควบออกไปจากที่นั่น
Create Date : 08 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 8 ธันวาคม 2552 0:21:43 น. |
|
0 comments
|
Counter : 710 Pageviews. |
|
|
|
| |