พริกขี้หนูเผ็ด (ตอนที่ 11)
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 11
บทที่ ๖
เขาลุกขึ้นหายออกไปจากห้อง กลับเข้ามาใหม่ ในมือถือซองจดหมายขนาดบรรจุธนบัตรได้พอดีมาด้วย เขาวางมันตรงหน้าผม แล้วว่า สองพันบาท สำหรับคำแนะนำอันนี้ คงไม่ถูกเกินไปนะครับ คุณดนัย ผมมองซองจดหมายที่มีธนบัตรบรรจุอยู่นั้น ไม่เอื้อมมือไปจับ แล้วพูดว่า มันไม่ถูกเกินไป แต่ความมุ่งหมายของผมที่มาหาคุณวันนี้ ไม่ได้อยู่ที่สองพันบาทนี่
ถ้ายังงั้น อะไร เขาถาม มองดูตาผม
เมื่อกี้ ผมถามคุณว่า คดีนี้ คนสามล้อคนนั้นเป็นพยานปากเดียวหรือเปล่า คุณยังไม่ได้ตอบผม
ตามสำนวน ก็มีพยานที่เห็นเหตุการณ์ชัดเจนตอนที่แม่คนนั้นขับรถชนหลานผม แล้วพาครูดไปกับพื้นถนน ก็มีเขาคนเดียว นอกนั้นเป็นแต่พยานประกอบ
คนสามล้อคนนี้ มีใครรู้จักมาก่อนหรือเปล่า ผมหมายความว่า เขามาเป็นพยานเอง หรือว่าตำรวจไปคว้าตัวมาได้จากการสอบสวน
เขามาเป็นพยานเอง เขาว่า เขาหมั่นไส้แม่คนขับรถคนนั้น ที่ทำท่าสำรวย ไม่ยอมเอาเด็กขึ้นรถไปโรงพยาบาล เพราะกลัวรถเปื้อนเลือด
คุณสันติรู้จักเขา หรือเคยพบกันบ้างไหม
ผมไม่เคยรู้จักเขามาก่อน แต่ตอนที่ผมรู้ว่าเขาเป็นพยานปากเอกเดียวของคดีนี้ ผมก็ได้ให้คนไปติดต่อกับเขา
ติดต่อเรื่องอะไร
เขาหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงพูดว่า
ก็ให้เงินให้ทองใช้บ้าง เพื่อเป็นสินน้ำใจ ไม่ให้เขากลับคำ
เขามารับเงินเอง หรือคุณสันติเอาไปให้เขา
ผมเคยเชิญเขามาพบครั้งหนึ่ง เพื่อคุยกัน แล้วก็ให้เงินเขาไป คราวหลัง ๆ ผมก็ให้คนขับรถเอาไปให้ครั้งคราว
ทราบไหมครับ ว่าบ้านของเขาอยู่ที่ไหน
เขาทำท่านึกอยู่นานแล้วว่า
อยู่แถว ๆ สวนหลวงในซอยจุฬา คนรถผมมันรู้จัก
ถามให้ผมหน่อยได้ไหมครับ
เขาเดินไปกดกริ่งเรียกคนใช้เข้ามา แล้วสั่งให้ไปเรียนคนรถมาพบ
คุณสันติรู้จักแม่ยุพดีคนนี้มาก่อนบ้างไหม ผมถามเมื่อเขากลับมานั่ง
ทีแรกผมก็รู้จักหรอก ตอนที่เกิดเรื่องแล้วนี่ ผมจึงได้สืบ ๆ ดู ก็พอจะรู้ว่า เขาเคยเป็นนักร้องอยู่ที่ไนท์คลับที่มีชื่อ สตาร์ดัส แถว ๆ ราชประสงค์ ก่อนเป็นนักร้อง เคยเข้าประกวดนางงามได้รอบสุดท้าย แล้วก็ตกไป ไอ้นายเชิดไปคว้าเอามาจากไนท์คลับ เอามาเก็บไว้
รู้จักบ้านเดิมของแม่คนนี้ไหมครับ
อันนี้ผมไม่ทราบ เขาพูดช้า ๆ ส่ายหัวไปมา ไม่ได้สืบสาวไปถึงขนาดนั้น
คนรถของเขาที่ถูกใช้ให้คนไปเรียกเข้ามาพอดี
ลื้อรู้จักบ้านคนสามล้อที่เป็นพยานเรื่องรถชนคนนั้นไม่ใช่หรือ เขาหันไปถาม
คนที่ถูกฆ่าเมื่อคืนนี้ ใช่ไหมครับ
เออ นั่นแหละ ที่อั๊วเคยให้ลื้อเอาเงินไปให้ ลื้อไปที่บ้านเขาใช่ไหมล่ะ
ครับ
บ้านเขาอยู่ที่ไหน
ในซอยจุฬา ตรงทางเข้าสนามกีฬาจารุเสถียร ซอยตรงหน้านั่นแหละครับ แถวนั้นมีพวกขายเหล็ก ขายเครื่องอะไหล่รถ ห้องของเขาอยู่ติด ๆ กับร้านขายเครื่องเหล็ก หาง่ายหรอกครับ ถามคนแถวนั้นก็รู้จัก
ขอบใจ ผมพูดกับเขา
นายสันติโบกมือให้คนของเขากลับไป แล้วหันมาพูดกับผม
คุณซักผมเหมือนกับมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทางใดทางหนึ่ง
เขาหยุดนิ่งไว้แค่นั้น
ผมยิ้ม มองดูเขา แล้วว่า
ผมก็หมั่นไส้แม่ยุพดีเหมือนนายสามล้อคนนั้น และหมั่นไส้นายเชิดเช่นเดียวกับคุณ
เขาหัวเราะ
คงจะไม่แค่นั้น คุณคงจะต้องทำอะไรสักอย่าง
ผมจะเขียนข่าวให้หนังสือพิมพ์ จึงต้องการรายละเอียดสักหน่อย ผมโกหกดุ่ย ๆ ออกไป
ถ้าจะเขียนละก้อ อย่าเขียนถึงเรื่องที่ผมให้เงินอีตาสามล้อนั่น เพราะมันจะไม่เหมาะกับรูปคดี เขาพูดอย่างมีกังวล
ผมจะไม่เขียนถึงตอนนี้
คุณยังไม่ได้บอกถึงวิธีที่จะให้รู้ได้โดยเร็วว่า แม่คนนี้หนีประกันหรือเปล่า เขาเตือน
คุณเป็นโจทก์ร่วมกับอัยการหรือเปล่า ในคดีรถชนนั่น
เขาผงกหัว เป็นครับ
คุณอาจจะยื่นคำร้องถึงศาล ขอให้ศาลเรียกนายประกันให้ส่งตัวจำเลยเร็วกว่ากำหนดเดิมได้ โดยอ้างเหตุผลว่า เป็นที่น่าสงสัยว่า จำเลยคนนี้อาจจะมีส่วนพัวพันกีบคดีฆาตกรรมสามล้อ.งเป็นพยานปากเอกของคดีรถชน เพราะปรากฏว่าจำเลยหายตัวไป และทางตำรวจไม่สามารถติดตามขำเลยในคดีฆาตกรรมนี้ได้ เมื่อศาลได้รับคำสั่งของคุณก็คงจะต้องสอบถามไปทางตำรวจ และเมื่อตรวจรายงานข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ไปให้ศาลทราบ ศาลก็อาจจะออกหมายเรียกให้นายประกันส่งตัวจำเลยเร็วกว่ากำหนดได้
ผมหยุดนิ่ง ให้เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงพูดต่อ
แล้วทีนี้ เราก็จะรู้กันละว่า แม่คนนี้หนีประกันหรือเปล่า
ระยะเวลาที่จะให้เร็วขึ้นนั้น มันจะเร็วได้สักเท่าใด เราเงยหน้าขึ้นมาถาม
อย่างช้าไม่เกินเจ็ดวัน อาจจะภายในสามวันก็ได้ สุดแล้วแต่ว่าทางตำรวจเขาสอบสวนได้ตัวผู้ที่ลงมือฆ่าสามล้อคนนั้นได้หรือยัง ถ้าได้ก็เร็วขึ้น เพราะมันเกี่ยวกับระยะเวลาการควบคุมผู้ต้องหา ถ้ายังก็อาจจะช้าไปได้บ้าง ทางนายประกันเขาอาจจะขอเวลาต่อศาลได้ตามความจำเป็นที่มีเหตุผล
เขาพยักหน้าช้า ๆ
ความจริงมันเป็นเรื่องง่าย ๆ ถ้าคุณไม่แนะนำ ผมก็คิดไม่ออก รับค่าป่วยการนี่ไว้เถอะ
เขาส่งซองเงินที่วางอยู่ตรงหน้านั้นให้ผม พลางมองดูผม แล้วยิ้ม
ขอบคุณ ผมรับซองนั้นมาถือไว้
ผมคิดว่าผมจะไม่รับ แต่ผมกำลังต้องการเงิน และผมอาจมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินในระหว่างนี้ และอีกประการหนึ่ง อาชีพทนายความของผม ความคิดของเราย่อมมีราคา
มาเป็นที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทผม ไม่ดีกว่าหรือ คุณดนัย ถ้ายังหางานไม่ได้ ผมเคยชมเชยฝีมือของคุณในด้านกฎหมายให้เพื่อนฝูงฟังมามากแต่ก่อน ยังไม่ลืม
ขอบคุณล่ะครับ ผมก้มศีรษะให้เขา ให้ผมคิดดูก่อน แล้วผมจะบอกให้ทราบ
แล้วผมก็ลาเขาออกมาจากที่นั่น
Create Date : 01 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 2 มิถุนายน 2553 5:07:12 น. |
|
1 comments
|
Counter : 608 Pageviews. |
|
|
|