จับปูดำ ขยำปูนา (บทที่ 8 ตอนที่ 2)
บ๋อยเปิดประตูรับ เดินนำหน้าเราเข้าไปที่มุมเดิมที่ผมเคยนั่ง ที่นั่นมันว่างเหมือนทุก ๆ คราวที่ผมเข้ามา มันจะว่างอย่างนี้ทุกวันหรือเปล่า หรือมีใครจองไว้โดยเฉพาะก็ไม่รู้ และโดยไม่ได้สั่งอะไร บ๋อยคนนั้นก็กลับไปเมื่อเรานั่งเรียบร้อยแล้ว
แม่ต๊อยกำลังร้องเพลงดัวยท่วงทีและลีลาของหล่อนบนเวที หล่อนยกมือกระดกนิ้วทักทายเรามาจากที่นั่นเมื่อมองเห็น ผมชำเลืองดูเสี่ยตั้งด้วยหางตา เขาไม่ได้มีท่าทางผิดแปลกอะไร เดินตามผมมาเข้าที่เงียบ ๆ
สักครู่ บ๋อยคนเดิมก็ยกถาดที่มีทั้งวิสกี้ชั้นดีเต็มขวด น้ำแข็งโซดา และขวดน้ำเย็นพร้อมถ้วยแก้วและเครื่องขบเคี้ยวเบา ๆ พอวางถาดลงจัดของเหล่านั้นเข้าที่แล้ว ก็เริ่มลงมือผสมเหล้าให้ ของเสี่ยตั้งผสมโซดา ผมให้บ๋อยผสมของผมด้วยน้ำ ผมติดใจรสวิสกี้ผสมน้ำเสียแล้ว มันเข้มข้นไม่เสียรสเหล้าชั้นดี
เรานั่งอยู่กับวิสกี้ได้คนละถ้วย แม่ต๊อยก็จบเพลงสุดท้ายของหล่อน เสียบไมค์เข้าที่แล้วหล่อนก็เดินลงเวที ทักทายกับแขกเหรื่อตามโต๊ะต่าง ๆ พอเป็นพิธี แล้วตรงมาที่มุมที่เรานั่งอยู่
หล่อนไม่ได้ทักทายเสี่ยตั้ง ทำเหมือนคนไม่เคยรู้จักกัน เข้ามานั่งแหมะลงที่ข้าง ๆ ผมตรงริมเบาะ ดันผมให้เขยิบเข้าไปข้างใน ให้หล่อนได้นั่งสบาย ๆ แล้วเริ่มเรื่องทันที
พาไอ้เก๋ไปส่งบ้านเรียบร้อยหรือเปล่า เมื่อกลางวันนี้ฮึ พี่
เรียบร้อย อวัยวะอยู่ครบถ้วน ผมตอบ ต๊อยโทร ฯ ไปหามันที่ทำงานเมื่อตอนค่ำ ทำไมมันไม่ไปทำงาน อ้าว ! พี่จะไปรู้ได้ยังไง มีหน้าที่ไปส่งที่บ้านอย่างเดียว ไม่ได้บอกให้คอยไปส่งที่ทำงานด้วยนี่ หล่อนหันมองหน้าผมนิ่ง นัยน์ตาคอยจับพิรุธ หน้าตาผมมันเคยมีพิรุธเสียเมื่อไหร่ ไม่เชื่อหรอก หล่อนพูด หลังจากค้นหาพิรุธไม่เจอแล้ว ต้องมีอะไรซักอย่าง ไอ้เก๋ไม่เคยขาดงาน มันกลัวถูกตัดเงินจะตายไป ฝากเนื้อไปกับเสือ แล้วตอนนั้นก็ทำเป็นฟังไม่รู้เรื่อง หาเรื่องที่จะไปส่งมันทีหลังต๊อย แผนการเยอะนักพี่นี่น่ะ โธ่ ! คนอย่างพี่นะหรือมีแผนการ ซื่อ ๆ ยังงี้ หล่อนมองค้อนผมด้วยหางตา แล้วว่า ระวังนะ ถ้าจับได้เมื่อไหร่ว่าไปยุ่งกับไอ้เก๋ จะตัดเสียให้หมด ตัดอะไร ผมทำหน้าซื่อถาม ตัดให้เป็ดกินอย่างที่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์นั่นแหละ
อ๋อ ตัดยอดผักตบ เป็ดมันชอบกินผักตบ รู้แล้ว
ตัดยอดคุณยอดนี่แหละ อย่าถือว่าเป็นตำรวจแล้วไม่โดน
เดี๋ยวจะไปนอนให้พิสูจน์ก็ได้ที่บ้านต๊อย ผมวกเข้าเรื่อง
พูดอะไรก็ไม่รู้ เดี๋ยวเพื่อนพี่เขาได้ยินเข้า อายเขา หล่อนพยักพเยิดไปทางเสี่ยตั้งซึ่งนั่งนิ่งตลอดเวลาที่เราพูดกัน
อ้าว ! ลืมไป ผมเข้าบทของผม ยังไม่ได้แนะนำให้รู้จักกัน นี่คุณวรวิทย์ นี่นุจรี เรียกเขาว่าต๊อยก็ได้เสี่ย
แม่ต๊อยกระพุ่มมือไหว้ได้สวยเหมือนกัน
ต๊อยเคยพบที่ไหน นึกไม่ออก หล่อนพูด คลับคล้ายคลับคลา เคยมาเที่ยวที่นี่หรือเปล่าคะ
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมย่างเข้ามา เสี่ยตั้งพูดหน้าตาเฉย คุณยอดเขาชวนให้มา เขาจะพามารู้จักแฟนของเขาด้วย เป็นนักร้องอยู่ที่นี่ เห็นจะเป็นคุณนี่เอง เสียงเพราะดีนี่ครับ แล้วก็ร้องเพลงเก่ง
คืนนี้เขาสัญญาจะพาพี่ไปหาผู้หญิงที่อื่น แต่พี่คิดถึงต๊อย ก็ต้องให้มาที่นี่ ผมวางหมากลงไป
พี่ไปกับเขาเหอะ แม่ต๊อยพูดทันที แล้วกระซิบที่หูผมเบา ๆ ว่า วันนี้ต๊อยมีเมน
ไอ้เรื่องนี้เป็นทางออกที่สำคัญของผู้หญิงเมื่อหล่อนไม่ต้องการ จะจริงหรือไม่จริงก็พิสูจน์ไม่ได้ แม้แต่ผัวแท้ ๆ แล้วไอ้วิธีนับวันนี่ก็หาคนที่รู้เรื่องยาก มันคลาดเคลื่อนได้เสียด้วยแต่ละเดือน
แต่ถึงอย่างไรผมก็กำลังนึกสนุก สองคนนี่กำลังเล่นละครฉากใหญ่ให้ผมดูโดยเขาไม่รู้ว่าผมนั่งดูไปแล้วก็คิดจะเข้าร่วมเล่นด้วย แหวกบท
ผมเดาไม่ผิดว่า ต่อหน้าเสี่ยตั้ง แม่ต๊อยจะต้องวางบทอีกมาดหนึ่งต่อหน้าผม เขาทั้งคู่ไม่รู้ว่า ผมรู้อะไรที่เกี่ยวกับเขาไว้มากแล้ว ผมก็ต้องตีลูกเซ่อลูกเดียว
ถ้ายังงั้นพี่ไปละนะ เดี๋ยวจะดึก ผมเริ่มเล่นบทของผม แล้วผมก็เรียกบ๋อยให้มาคิดเงิน
ไม่ต้องหรอกครับ เสี่ยตั้งรีบพูด คืนนี้เป็นของผม ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว
ผมไม่ถามเขาว่าเขาแอบจัดการไปเมื่อไร เซ่อแล้วต้องโง่ด้วย
แม่ต๊อยยังแสดงบทจุ๊บผมที่แก้มเบา ๆ ก่อนที่ผมจะลุกขึ้น
โชคดีนะ พี่ หล่อนว่า
แน่นอน ผมจะต้องอาศัยโชคไม่ใช่น้อย ๆ แน่ คืนนี้
นั่งรถเรียบร้อยแล้ว เขาก็ออกรถโดยไม่ได้ถามผมว่าจะไปที่ไหนดี เขาขับรถออกจากที่นั่นเรื่อย ๆ ไปทางสะพานพระปิ่นเกล้า ข้ามสะพานไปทางฝั่งธน ผมทำตัวเป็นผู้รับเชิญที่ดี ไม่ถามว่าเขาจะพาไปไหน เขาเปิดวิทยุเบา ๆ เสียงเพลงตอนดึกจากสถานีไหนผมก็ไม่มีความรู้ ดังมาแผ่ว ๆ ครึ้มอารมณ์ดี ผสมกับแอร์เย็น ๆ ชุ่มชื่นภายในรถ ผมก็เอนศีรษะพิงเบาะพนักที่นั่งปล่อยอารมณ์เต็มที่ แต่ผมอยู่ในท่าที่พร้อมที่จะชักปืนในทุกโอกาส
เขาขับรถมาเรื่อย ๆ โดยไม่พูดเหมือนกัน ผ่านถนนไปหลายสาย ผมไม่รู้จักว่าชื่อถนนอะไร ในที่สุดเขาก็หักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็ก ๆ ซอยหนึ่ง เข้าไปในซอยลึก แล้วก็หักรถเข้าหาประตูบ้านหลังหนึ่ง กดแตรเรียกเป็นจังหวะ
ประคูบ้านเปิดออกช้า ๆ ไม่เห็นตัวคนเปิด ผมรู้สึกว่ามันจะไม่ได้ถูกเปิดด้วยคน แต่ต้องเป็นเครื่องกลไกไฟฟ้าอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เปิดประตูนั้นโดยอัตโนมัติ
เสี่ยตั้งขับรถเข้าไปตามถนนโรยกรวดภายในบ้าน ผมไม่ได้หันไปดูว่าประตูมันจะปิดเองหรือเปล่า เพราะไม่ต้องหันไปดูก็พอจะเดาออก แล้วเขาก็หยุดรถตรงหน้าบันไดบ้านหลังหนึ่ง ลักษณะเป็นบังกาโลชั้นครึ่ง ข้างในไฟเปิดสว่าง มีแสงลอดออกมาจากทางหน้าต่างกระจก เสี่ยตั้งเปิดประตูรถ ก้าวออกไปพร้อมกับพูดว่า
เชิญครับ คุณยอด
ผมก้าวลงจากรถ หันไปมองรอบ ๆ บริเวณ มันมืดสนิท นอกจากแสงไฟจาง ๆ ที่ลอดออกมาจากหน้าต่างบ้านหลังนี้แล้ว ก็ไม่มีแสงสว่างจากที่อื่นอีกเลย เสี่ยตั้งยังยืนคอยผมอยู่ที่หน้าประตูที่เปิดอ้าอยู่ ผมเดินอ้อมรถไปหาเขา เสี่ยตั้งผายมือให้ผมเข้าก่อน แต่ผมโอบเอวเขาให้ก้าวเข้าไปพร้อม ๆ กัน
เสี่ยเก็บผู้หญิงพิเศษไว้ที่นี่หรือ ผมถามเขาไปด้วย ขณะก้าวเข้าประตูไปด้วยกัน
เสี่ยตั้งหัวเราะ ไม่พูด เขาหันมาปิดประตู เสียงประตูที่ปิดมันดังผิดปกติ นอกจากเสียงกริ๊กของลูกบิดแล้ว มันยังมีเสียงเหมือนกระดูกลั่นเบา ๆ ดังกร๊อบตามมาด้วย
ในห้องนั้นประดับประดาไว้สวย มีเก้าอี้รับแขกล้อมรอบโต๊ะสี่เหลี่ยมใหญ่ รูปภาพต่าง ๆ แขวนไว้รอบห้อง โคมไฟแก้วตรงกลางห้องเป็นโคมไฟระย้าส่องแสงสว่างไสว
ดื่มอะไรดี คุณยอด เสี่ยตั้งหันมาถามผม พร้อมกับเดินไปที่ตั้งของบาร์ขนาดย่อม มีขวดเหล้าต่าง ๆ วางอยู่เรียงราย
อะไรก็ได้ที่นุ่ม ๆ คอ ผมพูดขณะหย่อนก้นลงนั่งบนเบาะเก้าอี้นุ่ม ๆ ที่ล้อมรอบโต๊ะรับแขกนั้น ว่าแต่ไอ้อย่างว่า เอามานั่งเป็นเพื่อนกินเหล้าหน่อยซิ
ใจเย็น ๆ คุณยอด เดี๋ยวก็มา ผมสั่งไว้แล้วสองคน เขาพูดพลางรินเหล้าใส่ถ้วยแก้วสองใบ แล้วเดินถือมาวางไว้ตรงหน้าผมถ้วยหนึ่ง พลางพูด ผมจำได้ว่า คุณชอบผสมน้ำ ของผมมันโซดา
เขาหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้ตรงหน้าผม ยกถ้วยเหล้าของเขาขึ้นพลางพูด
เชิญครับ คุณยอด ดื่มให้มันครึ้มก่อนที่จะเข้าสนามรบ
ผมทำท่าเอื้อมมือจะไปจับแก้วตรงหน้า แต่ทำงุ่มง่ามปัดมันกลิ้งลงบนโต๊ะแตกดังเพล้ง เหล้าในถ้วยไหลนองบนโต๊ะ
ขอโทษ ทำไมมันรุ่มร่ามยังงี้ก็ไม่รู้ เปรอะหมด ผมรับลุกขึ้นสลัดเหล้าที่กระเซ็นมาเปียกกางเกง ส่ายหน้าทำปากจิ๊กจั๊ก ตำหนิตัวเอง
ไม่เป็นไร ช่างมันเถอะ เสี่ยตั้งพูด เดี๋ยวผมรินให้ใหม่ ไอ้นี่กวาดมันลงกระโถนไป
ว่าแล้วเขาก็วางถ้วยของเขาลงบนโต๊ะ เดินไปที่หลังบาร์ ผมมองไม่เห็นว่าเขาทำอะไรกับขวดเหล้า และถ้วยแก้วที่เขาหยิบแออกมาจากตู้หลังบาร์ เพราะขอบเชิงด้านหน้าของตัวบาร์บังอยู่ เขายุ่งอยู่กับการผสมเหล้าพักเดียวก็ถือแก้วใบใหม่ผสมเหล้าสีสองอร่าม เดินกลับมา เขาทรุดตัวลงนั่งพร้อมกับวางถ้วยเหล้าใบนั้นตรงหน้าผม ผมกำลังปัดเศษแก้วลงกระโถนอยู่ เขายกถ้วยของเขาดื่มไปจิบหนึ่ง แล้วชี้มาที่แก้วเหล้าตรงหน้าผมเป็นทำนองเชิญชวน
ผมยื่นมือไปคว้าถ้วยเหล้าของเขามายกดื่มแทนใบที่อยู่ตรงหน้า พลางว่า
ลองวิสกี้ผสมโซดาดูมั่ง รสชาติมันจะเป็นยังไง ผมจิบไปอีกอึกใหญ่ อร่อยดีเหมือนกันแฮะ
งั้นเดี๋ยวผมไปผสมให้ใหม่ เสี่ยตั้งพูด พลางขยับตัวจะลุกขึ้น
ผมเอาถ้วยนี้แหละ ผมว่า เสี่ยผสมของเสี่ยใหม่ก็แล้วกัน
เขามองผมแวบหนึ่งก่อนที่จะลุกเดินไปที่บาร์ ครู่เดียวก็กลับมาพร้อมกับถ้วยเหล้าใบใหม่ ฟองโซดาเดือดปุด ๆ ในถ้วย เขานั่งตรงที่เดิม ยกถ้วยขึ้นชูมาให้ผม ชวนดื่ม
ผมนั่งคิดแปลก ๆ อยู่ในใจ ทำไมบ้านหลังนี้จึงไม่มีคนรับใช้ที่คอยดูแลแขกเหรื่อที่เขาพามา มันเงียบผิดปกติ แต่ผมพร้อมแล้วที่จะเผชิญกับความแปลกประหลาด ไม่ว่าจะมาในรูปไหน ... แต่ที่ไหนได้ !
Create Date : 21 สิงหาคม 2552 |
Last Update : 21 สิงหาคม 2552 23:13:27 น. |
|
23 comments
|
Counter : 846 Pageviews. |
|
|
|
::::::: H A P P Y :: B I R T H D A Y :::::::
ขอให้มีความสุขมากๆและมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ