สู่ลาว ... ตอนที่ 20
สู่ลาว ... ราชอาณาจักรแห่งความไม่แน่นอน โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ประพันธ์ เมื่อปี พ.ศ. 2527
เหตุการณ์เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2507 2512
ตอนที่ 20
ความสงบเรียบร้อยของเวียงจันก็ดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนเหมือนกัน
รายนี้มาแปลก ไม่ได้มาลงทุนขายสินค้า ธรรมดา เขามาออกล็อตเตอรี่หรือสลากกินแบ่งนั่นแหละครับ เขาจะมาลงทุนออกสลากกินแบ่งในลาว
เขายกขบวนกันมาหาผมถึงร้านสีมาลา มีผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผมรู้จักดีมา 2-3 คน นำขบวนมาด้วย เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผมเคารพนับถือ ผมเรียกพี่มาตั้งแต่ยังอยู่เมืองไทย ผมอยากจะบอกชื่อท่านเหมือนกัน แต่จะเขียนไปเรื่อย ๆ ก่อน เอาไว้คิดอีกทีว่า ควรจะเขียนชื่อลงไปไหม
เฮ้ย พี่จะมาทำล็อตเตอรี่ที่เวียงจันนี่โว้ย เขาพูดกับผมทันที ที่ผมถามว่า มาถึงเวียงจันและมาหาผมถึงที่ด้วยเรื่องอะไร พอเขาบอกวัตถุประสงค์ที่อุตส่าห์ข้ามแม่น้ำโขงมาหาผมให้ฟัง ผมก็ต้องหัวเราะ
พี่ไม่มีทางหาเงินไปทิ้งอย่างอื่นแล้วหรือ ผมพูดไป หัวเราะไป ให้ผมไว้ใช้ยังมีบุญคุณกว่า
อั๊วจะให้ลื้อคุมกิจการทางนี้ ส่วนแบ่งก็ต้องเป็นของลื้อบ้างละวะ
พี่คิดยังไงถึงจะมาลงทุนออกสลากกินแบ่งในลาว ผมว่า ไปโดนใครเขาหลอกมา
หลอกยังไงวะ ไอ้สลากกินแบ่งนี้มันเสือนอนกิน อั๊วติดต่อกับผู้ใหญ่และทางตำรวจลาวเขาเรียบร้อยแล้ว เขาไม่ขัดข้อง โอกาสอย่างนี้หาได้ที่ไหน
ใช่ละครับ มันเป็นเสือนอนกิน แต่ถ้าพี่ขืนมาออกในลาว เสือมันจะกินพี่เอา หมดเปล่า เชื่อผมเหอะ มาลงทุนอย่างอื่นดีกว่า "
" มันจะหมดยังไง ลื้อลองอธิบายให้อั๊วฟังถี มีใครออกหวยแล้วเจ๊งบ้างวะ "
ออกที่อื่นนะไม่เจ๊งหรอกครับ แต่ออกที่นี่จะเจ๊ง พี่เอาทุนมาเป็นเจ้ามือเถื่อนที่นี่ซิ ผมเห็นด้วย
เจ้ามือเถื่อนที่นี่ทำได้ยังไง ถ้าเราออกสลากกินแบ่งที่นี่ซิ เรายังจะได้เป็นเจ้ามือเถื่อนด้วย
เจ้ามือหวยเถื่อนที่นี่น่ะ เขามีหลายเจ้าแล้วละครับ
เฮ้ย แล้วจะเอาอะไรเป็นหวยตัวออก เมื่อมันไม่มีหวยตัวจริงออกมา เขาไม่เชื่อ
ที่นี่ เขามีวิทยุฟังผลการออกสลากกินแบ่งของไทยทุกงวดครับพี่ แล้วเขาก็แทงหวยเถื่อนกัน โดยอาศัยสลากกินแบ่งไทยครับ เจ้ามือทางนี้เขาลดให้ 25% ด้วยนะครับ แทง 100 กีบ เขาเก็บเพียง 75 กีบเท่านั้น
อ้าว ถ้ายังงั้น เรามาออกสลากกินแบ่งที่เวียงจันเสียเลยไม่ดีกว่า เรอะ เขาไม่ต้องคอยฟังผลของสลากกินแบ่งไทย
มันไม่ยังงั้นหรอกครับพี่ ผมว่า ที่นี่เขาซื้อสลากกินแบ่งไทยกันทั้งนั้น แล้วก็ขายดีเสียด้วย หมดทุกงวด พี่ขอเป็นเอเย่นต์สลากกินแบ่งไทยในลาวจะดีกว่า ยังจะเข้าท่ากว่า
เอ ทำไมลื้อถึงคิดตื้น ๆ ยังงี้ไปได้ เคยเป็นคนหัวคิดดี เขาไม่เชื่อ แถมยังด่า
ผมเกือบจะสวนคำออกไปแล้วว่า พี่น่ะคิดตื้น ๆ แต่ขยักไว้ ผมกลับพูดออกไปว่า เอายังงี้ พี่คิดว่าจะขายใบละเท่าไร
ใบละ 100 กีบ
แล้วให้รางวัลที่หนึ่งเท่าไร
ก็ซักล้านกีบ แล้วรางวัลอื่น ๆ ก็ลดหลั่นกันลงไป
ร้อยกีบนะ 4 บาทนะครับ ล้านกับก็เท่ากับ 40,000 บาท ล๊อตเตอรี่ไทยขายใบละ 10 บาท รางวัลที่หนึ่งคือ หนึ่งล้านห้าแสนบาท แล้วก็มีรางวัลอื่น ๆ อีก เป็นรางวัลย่อย ๆ เป็นล้าน คนลาวซื้อสลากกินแบ่งไทยดีกว่า
เอ้า เราก็เพิ่มรางวัลที่หนึ่งเป็นสองล้านกีบ แล้วพิมพ์สลากสักล้านฉบับ ลื้อมองไม่เห็นตัวเลขหรือวะ
ไอ้ตัวเลขน่ะ มันมองเห็นครับ แต่มันจะอยู่ในอากาศ ไอ้ที่ตกถึงมือจริง ๆ มันจะไม่ถึงห้าแสนกีบเสียละมั๊ง
เขาหยุดนิ่งไป มองดูผมด้วยสายตาพิลึก คงนึกว่า ไอ้นี่ โง่ไปได้ยังไง ผมจึงพูดต่อ
เอาละครับ พื่คิดจะพิมพ์สลากสักห้าแสนฉบับ พี่จะส่งไปขายที่ไหน ในเวียงจันนี่ มีคนอยู่ซักไม่กี่หมื่นคนหรอกครับ พี่ลองให้เขาสำรวจสำมะโนครัวหรือยัง ผมอยู่ที่นี่มาร่วมสามปีกว่าแล้ว เห็นหน้าคนอยู่ไม่เท่าไร ซักห้าหมื่นคนก็เก่ง แล้วพี่จะขายสลากให้ใคร ในห้าหมื่นคนนี้ เป็นคนที่จะมีกำลังเงินมาใช้ทางเสี่ยงโชคนั้น ซักหนึ่งหมื่นคนก็ไม่ถึง แล้วถ้าจะซื้อ เขาก็ซื้อสลากกินแบ่งไทย เพิ่มเงินอีก 6 บาท รางวัลมันสูงกว่ากันแบบเทียบไม่ได้
ขายราคาถูกกว่า รางวัลมันก็น้อยกว่าซิวะ แล้วเรายังจะส่งไปขายเมืองต่าง ๆ ได้อีก หลวงพระบางยังงี้ สุวรรณเขตยังงี้ อั๊วศึกษามาแล้วน่า พลเมืองลาวมีทั้งหมดประมาณสามล้านคน ตัดเด็กกับคนแก่ไปเสียหนึ่งล้าน ก็ยังมีคนเหลือที่จะเป็นลูกค้าเราได้อีกตั้งสองล้าน ลื้อคิดยังไงของลื้อวะ ว่ามันจะเจ๊ง เขาเถียง
ไอ้ที่พี่ว่า เหลืออีกสองล้านนั้น มันไม่ถึงหรอกครับ มันอยู่ในป่าเสียร่วมล้านกว่า ๆ เข้าไปแล้ว พวกนั้นเป็นทหารป่า ไอ้ที่เหลืออีกไม่ถึงสามล้านนั้น ก็อยู่กันอย่างปากกัดตีนถีบเสียอีกกว่าครึ่ง แล้วไอ้ที่อยู่ทางหลวงพระบางบ้าง สวันเขตต์บ้างนั้น จะไปติดต่อกันที ก็ต้องไปทางเครื่องบิน เดินทางทางบกไม่ได้ แล้วพี่จะส่งสลากของพี่ไปขายเขาได้ยังไง ไอ้ขายนะลำบากอยู่แล้ว ทีนี้เก็บเงินคืนล่ะ เมื่อไรจะได้
เอาละวะ ยังไง ๆ อั๊วก้าวมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็จะลองทำดู เจรจากับผู้หลักผู้ใหญ่ทางนี้เขาไว้แล้ว ไม่ทำ เขาจะหาว่าพูดจาเชื่อไม่ได้ ท่านประธานสลากกินแบ่งไม่ยอมแพ้ แต่ยังไง ลื๊อก็ต้องดูแลให้อั๊วในเวียงจันนี่ รับปากไหมล่ะ ไม่ลองมันก็ไม่รู้
ผมดูแลให้พี่ได้ทางนี้ ไม่มีปัญหาเรื่องนั้น แต่ผมก็ยังไม่อยากให้พี่ทำอยู่ดี
แล้วขบวนของแมลงเม่าขบวนนั้นก็กลับไป ผมไม่รู้ว่าใครเป็นต้นคิด และใครเป็นนายทุนเรื่องนี้ และก็ไม่รู้อีกว่า มันเป็นเรื่องใครต้มใครหรือเปล่า
เขาตั้งสำนักงานสลากกินแบ่งลาวขึ้นจริง ๆ โดยเช่าตึกแถวสองชั้นสองคูหา ของใครก็ไม่รู้ ที่อยู่บนถนนแยกไปทางถนนเลียบแม่น้ำโขง อยู่ไม่ห่างจากร้านสีมาลาเท่าไรนัก พอเดินไปถึงสบาย ๆ
มีพิธีสงฆ์ในวันเปิดสำนักงาน เชิญพวกข้าราชการ ทั้งทหาร ตำรวจ และผู้ใหญ่ในเวียงจันมาร่วมพิธีกันใหญ่โตผมก็ช่วยเขาด้วยการให้หนังสือพิมพ์ของพรรคพวกฉบับนั้น ออกข่าวให้เป็นที่ครึกโครม ดึงเขามาไหว ก็ดันให้หมดเรื่องหมดราวไปเลย ในใจผมนั้นคิดว่า ออกได้สักสองสามงวดก็เก่งแล้ว
ทำบุญเลี้ยงพระในพิธีเปิดสำนักงานแล้ว พวกเขาก็ยกขบวนมาทอดกฐินที่วัดองตื้อ ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อมากวัดหนึ่งในเวียงจัน มีขบวนแห่ผ้ากฐินไปตามถนนหลวงพระบาง ถนนสายสำคัญที่ผ่านหน้าร้านผม นายทุนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นพ่อค้าที่มีชื่อของกรุงเทพ ฯ คนหนึ่ง เดินประคองผ้ากฐินนำขบวนผ่านไปอย่างยิ้มแย้ม ตลอดทางมีผู้คนมายืนดูสองฝั่งถนนมากพอดู
ผมก็ออกมาดูขบวนกับเขาด้วย เพราะไม่ต้องเดินไปไหน อยู่หน้าร้านก็เห็นชัดแล้ว คนนำขบวนเดินยิ้มแย้ม คงจะนึกครึ้มที่มีผู้คนออกมาดูมากสองฝั่งถนน แต่ผมนั้นมองดูก็ได้แต่เอาใจช่วย ขอให้บุญกุศลจากการทอดกฐินนี้ จงช่วยให้เขาประสบความสำเร็จ ถึงจะมองไม่เห็นทางที่จะสำเร็จได้อย่างไร อย่างที่ผมพูดให้เขาฟังแล้วนั้น
ในขบวนนั้น มีทั้งทหารและตำรวจร่วมขบวนอยู่ด้วย แสดงว่าฝีมือในทางติดต่อทางหน่วยราชการ ทั้งทหารและตำรวจของเขาใช้ได้
แล้วสลากกินแบ่งงวดแรกของลาวก็ออกมาปรากฏวางขายในท้องตลาด เป็นสลากที่พิมพ์ในโรงพิมพ์ประเทศไทย ผมไม่ทราบว่าพิมพ์ที่โรงพิมพ์ของใคร สีสันพอใช้ได้ ปลอมยาก วางขายในราคาใบละหนึ่งร้อยกีบ รางวัลที่หนึ่งสองล้านกีบ คิดเป็นเงินไทยก็แปดหมื่นบาท ทีแรกผมคิดว่าจะอุดหนุนเขาสักสิบใบ ยอมเสียสละเงินหนึ่งพันกีบ แต่คิดดูแล้วกลัวจะเสียเงินไปเปล่า ๆ เลยไม่ซื้อ
สลากกินแบ่งงวดแรกนี้ ปรากฏว่าไม่มีการออกรางวัล เจ้ามือพับฐานไปก่อนวันที่กำหนดไว้ว่าจะเป็นวันออกรางวัล สำนักงานปิดกะทันหัน บรรดาเจ้ามืออพยพกลับข้ามฟากกันไปหมด แล้วไม่ได้มาปรากฏตัวในเวียงจันอีกเลย
ก้อจะออกรางวัลได้ยังไง จวนจะถึงกำหนดวันออกรางวัลอีกเพียงสองวัน สลากเพิ่งจะขายไปได้ไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ พิมพ์ออกมาห้าแสนฉบับ ส่งไปขายตามเขตแคว้นทั้งเหนือและใต้ ใกล้วันออกรางวัลแล้วยังเก็บเงินไม่ได้ รวมยอดทั้งที่ส่งออกไปยังแคว้นต่าง ๆ และขายในเวียงจันแล้ว ได้เงินมาไม่ถึงห้าแสนกีบ ที่วางขายอยู่ในเวียงจันก็วางอยู่อย่างนั้น เหลือเบะ คนด่ากันทั้งเมือง เพราะบางคนซื้อเอาไว้ ก็กำเศษกระดาษไว้ ถึงกำหนดวันออกรางวัล ยังไม่รู้ว่าเจ้ามืออพยพไปแล้วคอยฟังผลอยู่ กว่าจะรู้เรื่องก็สายเสียแล้ว
ดีที่ว่าผมไม่มีชื่อเป็นกรรมการกับเขาด้วย เขามาเสนอที่จะใส่ชื่อผมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการเหมือนกัน แต่ผมปฏิเสธไป ไม่ยอมมีชื่อเกี่ยวข้องอะไรทั้งนั้น เพราะเห็นอนาคตอยู่แล้ว ไม่ยังงั้นคงยุ่ง ผมคงถูกพวกที่ซื้อ ๆ สลากงวดนี้ไปเล่นงานแย่
เงินที่เขาเก็บราว ๆ ห้าแสนกีบนั้น จะคุ้มค่าพิมพ์สลากหรือเปล่าก็ยังไม่ทราบ แล้วก็จะแลกกลับเป็นเงินไทยได้หรือเปล่าก็ไม่ทราบอีก
ในเมืองลาวนั้น เงินไทยใช้ได้ดีกว่าเงินกีบ แม้แต่คนลาวก็ยังนิยมเงินไทยมากกว่าเงินกีบ
พวกนายทหารพวกตำรวจลาวก็มาถามผมถึงเรื่องนี้ ถามหาเจ้ามือ ผมก็บอกเขาไปว่า ผมไม่รู้เรื่อง เป็นแต่เพียงคนรู้จักกัน และผมก็ได้ห้ามเขาไปแล้ว ผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วย เคราะห์ดีที่พวกนี้เขาเคารพนับถือและเชื่อคำผม ไม่ยังงั้นผมก็คงลำบาก
พวกเจ้ามือหวยครั้งนั้น ขณะนี้ (พ.ศ. 2527 ปีที่เขียนเรื่องนี้) ก็ยังมีตัวตนอยู่ในเมืองไทย ผมไม่บอกละครับ ว่าเป็นใครบ้าง
นี่แหละครับ จะมาเอาความแน่นอนอะไรกับอาณาจักรลาว
เรื่องความไม่แน่นอนยังมีอีก มันมาเกิดกับตัวผมอีก ไม่รู้ว่าครั้งที่เท่าไร
Create Date : 28 กันยายน 2554 |
Last Update : 28 กันยายน 2554 3:25:09 น. |
|
2 comments
|
Counter : 1466 Pageviews. |
|
|
|