จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
19 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
เหล็กละลาย (ตอนที่ 1)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 1

ท้าวความต่อจาก “ ๑๓ ปี กับบุรุษเหล็กแห่งเอเชีย ”

ปลายปี ๒๔๙๙ ผมจำได้ว่า มันเป็นวันก่อนวันคริสต์มาสสักสอง-สามวัน ที่จำได้เพราะผมเพิ่งจะกลับมาจากฮ่องกง ไปควานหาตัวการทำแบ็งค์ร้อยของไทยปลอม ร่วมมือกับตำรวจฮ่องกง และไปร่วมชึ้แจงถึงงานสืบสวนของผมที่นั่น ให้เขาทราบตามคำสั่งของเจ้านาย

ผมหนีเขากลับมา เมื่อพูดจากันไม่ค่อยจะเข้าใจกัน ระหว่างผมกับนายตำรวจชั้นผู้กำกับของเขา ดังที่ได้เล่าไว้แล้วในตอน “ ๑๓ ปี กับบุรุษเหล็กแห่งเอเชีย ”

ความจริงเป็นความตั้งใจของผมเองที่จะหนีเขา เพราะผมมีงานเร่งรัดที่จะต้องทำอยู่ทางเมืองไทย และเวลาของผมหดสั้นลงทุกวัน คือผมได้สัญญากับเจ้านายและหนังสือพิมพ์ไว้ ถึงเรื่องที่จะเอาตัว พล ฯ สนั่น ใจเผื่อแผ่ มาให้ได้ก่อนวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๐๐

เมื่อเขาเปิดโอกาสให้ผมด้วยการพูดจายะโส และออกปากให้ผมกลับได้ ผมก็เลยถือโอกาสนั้นหนีเขากลับเมืองไทย เพื่อเร่งทำงานเรื่องของผม

พอเท้าเหยียบแผ่นดินไทยได้ไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง ผมก็ต้องจับเครื่องบินแต่เช้าตรู่ขึ้นเชียงราย โดยแวะที่ลำปางพักหนึ่ง เพื่อพบปะกับเจ้าหน้าที่ของผม ที่ผมวางงานสำหรับเรื่อง พล ฯ สนั่น นี้ไว้แล้ว ก่อนที่จะต้องไปฮ่องกงด้วยเรื่องธนบัตรปลอมนั้น แล้วก็รีบเผ่นขึ้นชียงรายในวันนั้น

ผมมีเวลาอีกเจ็ดวันพอดี ๆ เมื่อผมถึงเชียงราย

มันไม่สำเร็จ เพราะผมไม่ใช่เทวดา การที่จะบุกบั่นข้ามประเทศไปเอาตัวเขามาได้ ภายในเจ็ดวันนั้น มันเป็นไปไม่ได้ สนั่น ไม่ยอมมาพบผมตามที่ผมคาดเอาไว้ ผมจะต้องไปเอง เวลาในการเดินทางนั้น ทั้งไปและกลับ มันก็ต้องครึ่งเดือนเข้าให้แล้ว แต่ยังไงผมก็ต้องลงมือ และทำงานสำเร็จเกินเวลาไปสองอาทิตย์ แล้วก็ถูกเจ้านายด่าเอาตามระเบียบ เพราะรักษาคำมั่นไว้ไม่ได้

ผมท้าวความถึงเรื่องนี้ก็เพื่อให้คุณ ๆ ได้ทราบที่มาของเรื่องเท่านั้นเอง

ตอนที่ผมแวะที่ลำปางก่อนเดินทางต่อขึ้นเชียงราย ผมพบหมอดูคนหนึ่ง อันที่จริง จะเรียกเขาว่าหมอดูแท้ ๆ มันก็ไม่ถูกนัก เพราะเขามีงานทำเป็นเรื่องเป็นราว ในโรงงานน้ำตาลลำปาง เรื่องหมอดูนี้เป็นแต่เพียงศาสตร์อันหนึ่งที่เขาศึกษามาต่างหาก และเกิดแตกฉานขึ้นมา ดูใครต่อใครแม่น หลาย ๆ คนก็เลยนับถือ มาให้ดูโชคชะตากันมาก เขาก็ดูให้โดยไม่ได้สตางค์ และผู้คนเรียกเขาว่า อาจารย์

ผมก็เลยเรียกเขาว่า อาจารย์ ตามไปด้วย ผมจะไม่เอ่ยชื่อของอาจารย์คนนั้น เพราะเกรงว่า จะมีคนตามขึ้นไปกวนใจแกมากขึ้น

อาจารย์กับผม คุ้นเคยกันมาตั้งแต่ผมยังเป็นร้อยตำรวจโท ตอนนั้นผมขึ้นไปสอบสวนคดีเรื่องหนึ่งที่ลำปาง ก็เคยคุยกัน และเคยให้ดูชะตาราศีของผมเล่น ๆ ผมเป็นพันตำรวจเอก แกก็ยังอยู่ที่นั่น แต่ออกจากงานแล้ว ผมก็ไปหาแกด้วยความเคารพ เมื่อผมขึ้นลำปางก่อนที่จะเชียงราย เพื่อตามตัว พล ฯ สนั่นคราวนี้

ตอนที่ผมไปหาอาจารย์นั้น ผมกำลังหัวหมุน เพราะแผนที่วางไว้นั้นล้มเหลว และหากผมไม่ได้ตัว พล ฯ สนั่น กลับกรุง .....อนาคตทางราชการของผมก็คงไม่สุกใสนัก

คุณอย่านึกว่า ผมเขียนส่งเดชเพราะผมเป็นคนสนิทของเจ้านาย ทำอะไรไม่ผิด เจ้านายผมไม่ค่อยจะปรานีผมนักหรอกเรื่องพรรค์นี้ และยิ่งตอนนั้น หนังสือพิมพ์กำลังประโคมกันใหญ่ว่า เราเล่นตลกเรื่องนี้ ถ้าผมไม่ได้ตัวมา มันก็กลายเป็นเรื่องสมจริงไปจริง ๆ ผมเคยถูกงดขั้นมาแล้ว เพราะเรื่องทำงานไม่เรียบร้อยเพียงนิดเดียว

ผมพบอาจารย์ ก็เลยให้อาจารย์ตรวจดูดวงเสียหน่อยว่า มันเป็นยังไง ไหน ๆ ก็มาถึงที่นี่ แกมีดวงของผมอยู่แล้ว เก็บรักษาไว้อย่างดีตั้งแต่รู้จักกันใหม่ ๆ

อาจารย์อ่านดวงผมอยู่นานก็บอกว่า งานที่ผมขึ้นมาทำนี้จะสำเร็จ เพียงแต่พลาดชั่วขณะ แล้วก็จะได้ตัว แล้วอาจารย์ก็เลยอ่านดวงผมต่อไป

“ เอ๊ะ คุณมีดวงเดินทางนี่” แกว่า “ ไปต่างประเทศเสียด้วย ”

“ เมื่อไหร่ล่ะครับ ” ผมถาม เพราะตอนนั้นไม่มีวี่แววเลยว่า จะได้เดินทางไปไหนไกล ๆ กับเขา “ ผมเพิ่งจะเดินทางกลับมานะ อาจารย์ ”

“ ไปใหม่อีก ไม่ใช่ที่เพิ่งกลับมานี่ ” อาจารย์ยืนยัน “ คราวนี้ไปโดยรู้ตัว ”

“ หนีเขาละซียังงั้น ” ผมว่าอย่างขัน ๆ

“ ไม่ใช่หนี ไปดี ไปเป็นตัวแทนรัฐบาลในต่างประเทศ ”

ผมยิ่งขันใหญ่

“ ไปนานไหมละครับ ”

“ นาน นานทีเดียว นานกว่าทุกคราวที่เคยไปมา ”

ผมก็เลยยิ่งขันหนัก เพราะไอ้การที่จะไปเป็นตัวแทนของรัฐบาลยังต่างประเทศนั้น ยังไม่เห็นทางว่าจะไปแทนเรื่องอะไร

” ไปเมื่อไหร่ละครับ ” แกล้งถามมากกว่า ชักไม่เชื่อ

“ ใกล้ ๆ ปลายปีแหละ ” แกว่า ตอนนั้นเป็นตอนขึ้นปีใหม่ ๒๕๐๐ แล้ว

ผมยิ่งไม่เชื่อใหญ่ เพราะมันไม่มีวี่แววอะไรเลย ผมเลยไม่ได้ซักถามอะไรอีก แต่อาจารย์เมื่อเห็นผมหยุดถาม แกก็ยกมือไหว้ไปทางทิศตะวันออก แล้วพึมพำออกมาว่า

“ ขอให้พระธาตุหลวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งมวลคุ้มครองคุณด้วยเถิด ”

ทำยังกับว่า ผมจะมีอันเป็นอะไรไปยังงั้น ผมหัวเราะ

แล้วเราก็จากกัน




Create Date : 19 กรกฎาคม 2553
Last Update : 19 กรกฎาคม 2553 3:46:39 น. 3 comments
Counter : 1198 Pageviews.

 
D.....Ja

:)


โดย: Opey วันที่: 19 กรกฎาคม 2553 เวลา:7:10:07 น.  

 


โดย: ก้นกะลา วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:2:31:40 น.  

 
มาอ่านต่อจ้ะ


โดย: Opey วันที่: 25 กรกฎาคม 2553 เวลา:6:05:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.