เหล็กละลาย (ตอนที่ 1)
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 1
ท้าวความต่อจาก ๑๓ ปี กับบุรุษเหล็กแห่งเอเชีย ปลายปี ๒๔๙๙ ผมจำได้ว่า มันเป็นวันก่อนวันคริสต์มาสสักสอง-สามวัน ที่จำได้เพราะผมเพิ่งจะกลับมาจากฮ่องกง ไปควานหาตัวการทำแบ็งค์ร้อยของไทยปลอม ร่วมมือกับตำรวจฮ่องกง และไปร่วมชึ้แจงถึงงานสืบสวนของผมที่นั่น ให้เขาทราบตามคำสั่งของเจ้านาย
ผมหนีเขากลับมา เมื่อพูดจากันไม่ค่อยจะเข้าใจกัน ระหว่างผมกับนายตำรวจชั้นผู้กำกับของเขา ดังที่ได้เล่าไว้แล้วในตอน ๑๓ ปี กับบุรุษเหล็กแห่งเอเชีย ความจริงเป็นความตั้งใจของผมเองที่จะหนีเขา เพราะผมมีงานเร่งรัดที่จะต้องทำอยู่ทางเมืองไทย และเวลาของผมหดสั้นลงทุกวัน คือผมได้สัญญากับเจ้านายและหนังสือพิมพ์ไว้ ถึงเรื่องที่จะเอาตัว พล ฯ สนั่น ใจเผื่อแผ่ มาให้ได้ก่อนวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๐๐ เมื่อเขาเปิดโอกาสให้ผมด้วยการพูดจายะโส และออกปากให้ผมกลับได้ ผมก็เลยถือโอกาสนั้นหนีเขากลับเมืองไทย เพื่อเร่งทำงานเรื่องของผม
พอเท้าเหยียบแผ่นดินไทยได้ไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง ผมก็ต้องจับเครื่องบินแต่เช้าตรู่ขึ้นเชียงราย โดยแวะที่ลำปางพักหนึ่ง เพื่อพบปะกับเจ้าหน้าที่ของผม ที่ผมวางงานสำหรับเรื่อง พล ฯ สนั่น นี้ไว้แล้ว ก่อนที่จะต้องไปฮ่องกงด้วยเรื่องธนบัตรปลอมนั้น แล้วก็รีบเผ่นขึ้นชียงรายในวันนั้น
ผมมีเวลาอีกเจ็ดวันพอดี ๆ เมื่อผมถึงเชียงราย
มันไม่สำเร็จ เพราะผมไม่ใช่เทวดา การที่จะบุกบั่นข้ามประเทศไปเอาตัวเขามาได้ ภายในเจ็ดวันนั้น มันเป็นไปไม่ได้ สนั่น ไม่ยอมมาพบผมตามที่ผมคาดเอาไว้ ผมจะต้องไปเอง เวลาในการเดินทางนั้น ทั้งไปและกลับ มันก็ต้องครึ่งเดือนเข้าให้แล้ว แต่ยังไงผมก็ต้องลงมือ และทำงานสำเร็จเกินเวลาไปสองอาทิตย์ แล้วก็ถูกเจ้านายด่าเอาตามระเบียบ เพราะรักษาคำมั่นไว้ไม่ได้
ผมท้าวความถึงเรื่องนี้ก็เพื่อให้คุณ ๆ ได้ทราบที่มาของเรื่องเท่านั้นเอง
ตอนที่ผมแวะที่ลำปางก่อนเดินทางต่อขึ้นเชียงราย ผมพบหมอดูคนหนึ่ง อันที่จริง จะเรียกเขาว่าหมอดูแท้ ๆ มันก็ไม่ถูกนัก เพราะเขามีงานทำเป็นเรื่องเป็นราว ในโรงงานน้ำตาลลำปาง เรื่องหมอดูนี้เป็นแต่เพียงศาสตร์อันหนึ่งที่เขาศึกษามาต่างหาก และเกิดแตกฉานขึ้นมา ดูใครต่อใครแม่น หลาย ๆ คนก็เลยนับถือ มาให้ดูโชคชะตากันมาก เขาก็ดูให้โดยไม่ได้สตางค์ และผู้คนเรียกเขาว่า อาจารย์
ผมก็เลยเรียกเขาว่า อาจารย์ ตามไปด้วย ผมจะไม่เอ่ยชื่อของอาจารย์คนนั้น เพราะเกรงว่า จะมีคนตามขึ้นไปกวนใจแกมากขึ้น
อาจารย์กับผม คุ้นเคยกันมาตั้งแต่ผมยังเป็นร้อยตำรวจโท ตอนนั้นผมขึ้นไปสอบสวนคดีเรื่องหนึ่งที่ลำปาง ก็เคยคุยกัน และเคยให้ดูชะตาราศีของผมเล่น ๆ ผมเป็นพันตำรวจเอก แกก็ยังอยู่ที่นั่น แต่ออกจากงานแล้ว ผมก็ไปหาแกด้วยความเคารพ เมื่อผมขึ้นลำปางก่อนที่จะเชียงราย เพื่อตามตัว พล ฯ สนั่นคราวนี้ ตอนที่ผมไปหาอาจารย์นั้น ผมกำลังหัวหมุน เพราะแผนที่วางไว้นั้นล้มเหลว และหากผมไม่ได้ตัว พล ฯ สนั่น กลับกรุง .....อนาคตทางราชการของผมก็คงไม่สุกใสนัก
คุณอย่านึกว่า ผมเขียนส่งเดชเพราะผมเป็นคนสนิทของเจ้านาย ทำอะไรไม่ผิด เจ้านายผมไม่ค่อยจะปรานีผมนักหรอกเรื่องพรรค์นี้ และยิ่งตอนนั้น หนังสือพิมพ์กำลังประโคมกันใหญ่ว่า เราเล่นตลกเรื่องนี้ ถ้าผมไม่ได้ตัวมา มันก็กลายเป็นเรื่องสมจริงไปจริง ๆ ผมเคยถูกงดขั้นมาแล้ว เพราะเรื่องทำงานไม่เรียบร้อยเพียงนิดเดียว
ผมพบอาจารย์ ก็เลยให้อาจารย์ตรวจดูดวงเสียหน่อยว่า มันเป็นยังไง ไหน ๆ ก็มาถึงที่นี่ แกมีดวงของผมอยู่แล้ว เก็บรักษาไว้อย่างดีตั้งแต่รู้จักกันใหม่ ๆ อาจารย์อ่านดวงผมอยู่นานก็บอกว่า งานที่ผมขึ้นมาทำนี้จะสำเร็จ เพียงแต่พลาดชั่วขณะ แล้วก็จะได้ตัว แล้วอาจารย์ก็เลยอ่านดวงผมต่อไป เอ๊ะ คุณมีดวงเดินทางนี่ แกว่า ไปต่างประเทศเสียด้วย เมื่อไหร่ล่ะครับ ผมถาม เพราะตอนนั้นไม่มีวี่แววเลยว่า จะได้เดินทางไปไหนไกล ๆ กับเขา ผมเพิ่งจะเดินทางกลับมานะ อาจารย์
ไปใหม่อีก ไม่ใช่ที่เพิ่งกลับมานี่ อาจารย์ยืนยัน คราวนี้ไปโดยรู้ตัว
หนีเขาละซียังงั้น ผมว่าอย่างขัน ๆ
ไม่ใช่หนี ไปดี ไปเป็นตัวแทนรัฐบาลในต่างประเทศ
ผมยิ่งขันใหญ่
ไปนานไหมละครับ
นาน นานทีเดียว นานกว่าทุกคราวที่เคยไปมา
ผมก็เลยยิ่งขันหนัก เพราะไอ้การที่จะไปเป็นตัวแทนของรัฐบาลยังต่างประเทศนั้น ยังไม่เห็นทางว่าจะไปแทนเรื่องอะไร
ไปเมื่อไหร่ละครับ แกล้งถามมากกว่า ชักไม่เชื่อ
ใกล้ ๆ ปลายปีแหละ แกว่า ตอนนั้นเป็นตอนขึ้นปีใหม่ ๒๕๐๐ แล้ว
ผมยิ่งไม่เชื่อใหญ่ เพราะมันไม่มีวี่แววอะไรเลย ผมเลยไม่ได้ซักถามอะไรอีก แต่อาจารย์เมื่อเห็นผมหยุดถาม แกก็ยกมือไหว้ไปทางทิศตะวันออก แล้วพึมพำออกมาว่า
ขอให้พระธาตุหลวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งมวลคุ้มครองคุณด้วยเถิด
ทำยังกับว่า ผมจะมีอันเป็นอะไรไปยังงั้น ผมหัวเราะ
แล้วเราก็จากกัน
Create Date : 19 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 19 กรกฎาคม 2553 3:46:39 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1198 Pageviews. |
|
|
|
:)