เหล็กละลาย (ตอนที่ 5)
โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ
ตอนที่ 5
ผมหันไปถามอาดอล์ฟว่า ทำไมขยิบตาห้ามเราเมื่อกี้นี้ ผมรู้จัก ทั้งสามคนเป็นกระหรี่อยู่ที่ บาร์ดอนจวน ทีละสามสิบเท่านั้น อย่าดีกว่า เขาว่า ถ้าคุณต้องการผู้หญิงไปนอนคืนนี้ ผมจะพาไปที่ดี ๆ กว่าแม่สามคนนั่น
แล้วจะหาใครมาเป็นเพื่อนเต้นรำกันล่ะ ผมชักเป็นห่วง
เดี๋ยวก็มีครับ รอให้ดึก ๆ ว่านี้สักหน่อย อาจจะมีหมูหลงมา พวกผู้หญิงดี ๆ ฟลุค ๆ คุณอาจจะได้นอนกับหล่อน แชมเปญก็ไม่ต้องเสีย
ดูนาฬิกา มันเพิ่งจะสี่ทุ่ม ไนต์คลับที่นี่ปิดตีสาม ยังหัวค่ำอยู่เลย เรานั่งฟังเพลง ผสมวิสกี้ ได้หลายเพลงและหลายถ้วย ก็ยังไม่เห็นใครถูกใจ เลยคุยกันไปเองพลาง ๆ ฆ่าเวลา เพลงของที่นี่เขาใช้ได้ และนักร้องก็รูปร่างน่ากิน
ผมถามอาดอล์ฟว่า เราจะเรียกนักร้องมาคุยด้วยได้ไหม
ไม่รู้ซีครับ ไอ้อย่างนี้ ผมก็ไม่เคย เขาว่า ลองให้หัวหน้าบ๋อยคนเมื่อกี้นี้ไปเชิญมาเอาไหม
ผมพยักหน้า
เขาหันไปหาหัวหน้าบ๋อย ยังไม่ทันเรียก อนงค์นางสองนางเดินนวยนาดเข้ามาอย่างแช่มช้า ท่าทางและลักษณะการแต่งกายของเจ้าหล่อนผิดกับแม่สามคนที่ถลาเข้ามาเมื่อกี้นี้ และข้อสำคัญ ใบหน้าเจ้าหล่อนคนหนึ่งละม้าย ริต้า เฮยเวิร์ธ ยังไงยังงั้น เลยทำให้เพื่อนของหล่อนอีกคนที่เดินมาด้วยกันนั้น ถึงจะน่าดู ก็ด้อยสวยลงไปหน่อย
ทั้งสองคนเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะข้างล่างริมฟลอร์ วางท่าไม่เอาใจใส่กับใคร สั่งเครื่องดื่มไปกับบ๋อยที่เข้ามาถาม แบบนี้คงไม่ใช่ผู้หญิงที่เคยมาหากินที่นี่
ผมเรียกอาดอล์ฟ เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่ง สองคนนั่นรู้จักไหม
เขาหันมา สองคนไหน
ผมชี้ให้เขาดู
เขาสั่นหน้า ไม่เคยเห็น คงจะเป็นคนมาเที่ยว แล้วเขาก็ยิ้ม นี่แหละครับ อาจเป็นหมูหลงอย่างว่า ถ้าคุณโชคดี
งั้นก็ไม่ต้องเรียกหัวหน้าบ๋อย นักร้องเอาไว้วันหลังก็ได้ เรายังจะได้พบที่นี่อีกทุกวัน แต่แม่สองคนนี่ พรุ่งนี้อาจไม่มา
ผมหันไปดูแม่สองคนนั่น หล่อนกำลังจิบมาร์ตีนี่อยู่ทั้งคู่
ผมกระดกนิ้วเรียกหัวหน้าบ๋อย ซึ่งกำลังมองดูเราอยู่ ตั้งแต่ตอนที่อาดอล์ฟกำลังหันหน้ามองเขา เขาก้าวเท้าอย่างรีบ ๆ เข้ามาหา
ช่วยไปกระซิบคุณผู้หญิงที่โต๊ะนั้นที ผมชี้ไปที่โต๊ะที่เจ้าหล่อนนั่งอยู่ ว่า ถ้าจะมีสุภาพบุรุษสักคนอยากสั่งแชมเปญให้สักขวด เขาจะยินดีไหม
เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่นี่นะครับ เขาว่า
เหอะน่า ผมรู้แล้ว
เขาผละจากผมตรงไปที่โต๊ะนั้น เขาก้มลงไปพูดอะไรกับแม่ ริต้า เฮย์เวิร์ธ คนนั้น แล้วก็หันมาทางผม แม่นั่นหันมามองตาม ผมยิ้ม หล่อนยิ้ม
เท่านั้นก็เป็นต่อแล้ว
หัวหน้าบ๋อยคนนั้นกลับมาที่ผม แล้วว่า
เธอให้ผมมาบอกคุณว่า ขอบคุณ
ก็เป็นอันว่าใช้ได้ ผมให้เขาไปเอาแชมเปญมาให้ที่โต๊ะนั้น
เจ้าหล่อนสองคนพูดอะไรกับเบา ๆ อยู่ แล้วชำเลืองมาทางโต๊ะเราเป็นพัก ๆ ยังไม่กล้าสบตา คงจะสงวนท่าทีไว้ก่อน
เสียงจุกแชมเปญระเบิดดัง โป๊ะ ที่โต๊ะนั้น
ผมหันไป
เจ้าหล่อนทั้งสอง ยกถ้วยแชมเปญที่บ๋อยรินให้แล้วนั้น ขึ้นชูมาทางพวกเรา เราก็ยกถ้วยวิสกี้ขึ้นรับและดื่มพร้อม ๆ กัน ริมฝีปากของหล่อนพึมพำจับได้ว่า แมร์ซี เมื่อวางถ้วยลง
แล้วหล่อนก็หันไปคุยกัน ทำเป็นไม่เอาใจใส่กับเรา ก็คงจะต้องรู้ว่า บทบาทของเจ้าหล่อนควรจะมีเพียงแค่นั้น ไอ้หนุ่มจะต้องเดินบทต่อไปเอง
ผมลุกขึ้นจากโต๊ะ สะกิดเพื่อนผมให้ตามมา
ผมนำไปที่โต๊ะนั้น ก้มลงโค้งศีรษะให้ ต้า เฮย์เวิร์ธ
เต้นรำกับผมหน่อยไหมครับ ผมส่งภาษาฝรั่งเศส
หล่อนลุกขึ้น นำออกไปที่ฟลอร์ แล้วก็เข้ามาในวงแขนของผมอย่างนิ่มนวล
ผมหันไปดูไอ้เพื่อนผม มันกำลังประคองเพื่อนของหล่อนตามหลังผมออกมาเหมือนกัน ใช้ได้ รู้บทบาทกันอย่างนี้ก็คงจะได้เรื่อง
คุณเป็นคนไทยใช่ไหมคะ หล่อนถามผม
เป็นคำถามที่น่าจะได้ยินจากปากคนต่างประเทศ เพราะเท่าที่ผมเคยเจอมา มักจะถามว่า เป็นญี่ปุ่น หรือไม่ พม่า อินโดเนเซีย ไปโน่น
ผมพยักหน้า
ทำไมคุณถึงรู้ว่า ผมเป็นคนไทย
ดิฉันมีเพื่อนที่เขามีสามีเป็นคนไทย เขาเคยแนะนำให้รู้จัก และเขาบอกว่าผู้ชายไทยเจ้าชู้ทุกคน หล่อนพูดแล้วมองผม คล้ายจะรอคำตอบโต้
ผมต้องยิ้ม นิ่งไปครู่ จึงหาคำพูดได้
เป็นผู้ชาย ถ้าไม่เจ้าชู้ ก็ไม่รู้จะเป็นไปทำไม ถ้าผู้ชายทั้งโลกเลิกเจ้าชู้หมด พวกคุณก็ต้องเกี้ยวพวกผมก่อนละทีนี้ ผมว่า ทุกชาติก็เหมือนกันหมด
หล่อนหัวเราะคิก
คุณลองทายซิว่า ฉันเป็นคนชาติอะไร
ฝรั่งเศส และเป็นปาริเซียนด้วย ผมว่า
หล่อนทำตาโต ทำไมคุณทายถูก
สำเนียงคุณมันปาริเซียนชัด ๆ ไม่มีคนเมืองไหนของฝรั่งเศสจะพูดสำเนียงได้ชัดเจนอย่างคนปารีเซียน
คุณคงเคยไปปารีสมาบ่อย
ผมเคยไปที่นั่นสองครั้ง และผมมีเพื่อนผู้หญิงอยู่ที่นั่นคนหนึ่ง
สำเนียงฝรั่งเศสของคุณก็แบบปารีเซียน
เพื่อนคนนั้นของผมเขาสอนให้ แต่ยังไงมันก็ไม่เหมือนชาวปารีเซียนจริง ๆ อย่างคุณ คุณมาเที่ยวเจนีวาหรือยังไง
ฉันมาทำงานอยู่ที่นี่
ที่ไหนล่ะ
อย่าเพิ่งรู้เลย หล่อนว่า เรายังไม่รู้จักกันดีพอ
ผมก็ถามไปยังงั้นเอง ไม่อยากรู้จริงจังอะไรหรอก ว่าแต่ชื่อของคุณ คุณคงไม่หวง
หล่อนหัวเราะเบา ๆ ก่อนตอบว่า เวโรนิคค่ะ แล้วคุณล่ะ
เรียกผมว่า ปีแอร์ก็แล้วกัน เพื่อน ๆ ฝรั่งเศสเขาเรียกผมว่ายังงั้น ชื่อของผมภาษาไทยมันฟังไม่เพราะ เมื่อออกเสียงแบบภาษาฝรั่งเศส
ฉันอยากรู้ชื่อภาษาไทยของคุณ
ผมบอกชื่อจริงออกไป
หล่อนทำเสียงชื่อผมอยู่สอง-สามครั้ง แล้วว่า เหมือนเสียงท่อไอเสียรถดัง ดีแล้ว ฉันเรียกคุณว่า ปีแอร์ ด้วยก็แล้วกัน
ทุกคนเขาก็ว่าอย่างคุณ
คุณมาเที่ยวหรือคะ
ผมพยักหน้า
จะอยู่เจนีวาอีกนานไหม หล่อนถามต่อ
" ยังไม่รู้ ถ้ามีเพื่อนที่ถูกใจอย่างคุณ ก็อาจจะอยู่นานหน่อย
ช่างพูดนะคุณนี่ รู้หรือเปล่า
ไม่รู้หรอก มีแต่คนอื่นเขาบอกผมบ่อย ๆ
ก็คงเป็นผู้หญิงเสียส่วนใหญ่ ที่บอก ใช่ไหม
รู้สึกจะเป็นอย่างนั้น เพราะผมคุยกับผู้หญิงมากกว่าผุ้ชาย
หล่อนหัวเราะชอบใจ แล้วพูดว่า
คนพูดคล่อง ๆ อย่างนี้คงเจ้าชู้พิลึกละ แต่ผู้ชายเจ้าชู้น่ารักนะ
ผมคงไม่น่ารักเท่าไหร่ เพราะไม่เจ้าชู้
เจ้าชู้หรือไม่ ฉันก็ไม่รู้ แต่ไวไฟนะเห็นจะแน่ หล่อนเหลือบตาขึ้นมองผม ฉันเคยไปนั่งตามบาร์ และเรสโตรองหลายแห่งตามลำพังคนเดียวบ้าง กับเพื่อนผู้หญิงบ้าง ผู้ชายตามที่ต่าง ๆ เหล่านั้น ไม่เห็นจะไวไฟอย่างคุณ เขามาเอาใจใส่กับฉันด้วยซ้ำ
บางทีเขาอาจจะมากับเมีย หรือคู่รักของเขาก็ได้
ไม่ใช่หรอก บางทีก็มากันลำพังผู้ชายอย่างคุณนี่แหละ เพียงแต่เขาไม่กล้าอย่างคุณเท่านั้น คนอย่างคุณนี่แหละ ที่เขาเรียกว่า ไวไฟ ผู้ชายที่ไม่ไว ไม่กล้า ก็ไม่มีทางได้ผู้หญิง จริงไหม
ไม่ทราบซิ ผมว่ายิ้ม ๆ เพราะผมเองก็ยังไม่รู้ว่า ตัวเองจะได้หรือเปล่า คืนนี้
ก็คอยดูกันต่อไป หล่อนว่าแล้วหลบตาม แต่ยิ้มในที
เพลงไม่มีท่าทีจะจบง่าย ๆ ผมชวนหล่อนิกมาจากฟลอร์ ทั้งที่เพลงยังไม่จบ พลางพูดว่า
ไปนั่งคุยกันที่โต๊ะผมดีกว่า ดีกว่าจะนั่งกันอยู่กันตามลำพังผู้หญิงสองคน
หล่อนยืนลังเลอยู่ที่โต๊ะครู่หนึ่ง แล้วหันไปมองทางฟลอร์ ทำบุ้ยใบ้กับเพื่อนของหล่อนที่ยังคงอยู่ในวงแขนของเพื่อนของผมอยู่ที่นั่น แล้วชี้ไปทางโต๊ะที่พวกผมนั่งอยู่เดิม แม่คนนั้นพยักหน้ารับรู้
ผมหันไปสั่งบ๋อยให้ยกพวกเครื่องดื่มบนโต๊ะนั้น ตามไปที่โต๊ะผม
เท่านั้นเอง เราก็ได้เพื่อนผู้หญิงสำหรับคืนนั้น
Create Date : 20 กรกฎาคม 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 22 กรกฎาคม 2553 0:57:09 น. |
Counter : 970 Pageviews. |
|
|
|