จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
24 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
เหล็กละลาย (ตอนที่ 6)

โดย พ.ต.อ. พุฒ บูรณสมภพ

ตอนที่ 6

เพื่อนของผมพาคู่เต้นรำของเขากลับมาที่โต๊ะ แล้วก็แนะนำให้หล่อนรู้จักกับผม หล่อนชื่อโมนิค

“ ปองปองเต้นรำเก่งมาก ” แม่โมนิคว่า เมื่อนั่งลงเรียบร้อย “ ผู้ชายไทยนี่ชื่อเพราะนะ ” ประโยคหลังหล่อยหันไปพูดกับเวโรนิค

“ ใครชื่อ ปองปอง ” ผมถาม

หล่อนชี้ไปที่เพื่อนผม

ผมแทบสำลักเหล้า ไม่รู้มันไปสรรหาชื่อมาจากไหน

“ กูบอกมันว่าพันศักดิ์ ” ไอ้เพื่อนผมว่า “ มันฟังยังไงไม่รู้ ออกมาเป็นปองปอง กูเลยปล่อยเลยตามเลย ขี้เกียจแก้ไข ความจริงก็ฟังพิลึกดี ”

“ทำไม เขาไม่ได้ชื่อปองปองหรือ ? ” แม่โมนิคสงสัย

“ ชื่อเขาภาษาไทย คุณออกเสียงไม่ถูกหรอก ปองปองนั่นแหละ ใกล้เคียงที่สุดแล้ว ” ผมว่า “ เรียกเขาอย่างนั้นก็ใช้ได้ ”

“ ชื่อเขา ภาษาไทยว่ายังไง ” หล่อนยังอยากรู้

ผมบอกชื่อเขาออกไป

แม่นั่นทำเสียงจะให้ถูกอยู่หลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ

“ ปองปอง ก็ดีแล้ว ยังงั้น ” หล่อนว่า “ จำง่ายดี ”

“ ถ้ายังงั้น คุณก็ต้องปู๊ด ปู๊ด ซี ” แม่เวโรนิคพูดขึ้นมาบ้าง พลางชี้มาทางผม แล้วหัวเราะ

“ ไม่ต้องก็ได้ ” ผมว่า “ มันจะฟังไม่เป็นชื่อคนไป ”

“ แล้วเขาชื่ออะไรล่ะ ” โมนิคหันไปถามเพอื่น พลางชี้ที่ผม

“ เรียกเขาว่า ปิแอร์ ” เวโรนิคบอก “ เขาต้องการให้เรียกยังงั้น ”

“ แล้วทำไม ปู๊ดปู๊ด เป็นชื่อภาษาไทยของเขางั้นหรือ ” แม่โมนิคยังซักต่อ

“ ชื่อเขา ปู๊ดเดียวเท่านั้นแหละ ” เวโรนิคอธิบาย “ ฉันเติมเป็น ปู๊ด ปู๊ด เพื่อให้คล้องกับ ปองปองของเธอเท่านั้นเอง ” แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะชอบใจ

“ ชอบใจไปเถอะมึง ” ผมหันไปพูดกับพัรศักดิ์ “ เดี๋ยวกูจะปู๊ดปู๊ดให้มันหายขัน มึงเอาอีนี่ไปปองปองให้ได้ ให้มันหายขันเหมือนกัน ” แล้วเราก็หัวเราะ

เลยช่วยกันหัวเราะใหญ่ทั้งหมด แม่สองคนนั่นไม่รู้ว่า เราขันอะไร
ได้ยินเสียง ปู๊ดปู๊ด ปองปอง คงนึกว่าหัวเราะกันเรื่องชื่อ

เพลงยังขึ้นติดต่อกันโดยไม่หยุด เราดื่มและคุยกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง และผมกับเพื่อนต่างพาคู่ของตัวออกไปเต้นรำเป็นพัก ๆ นานหน่อยตอนถึงเพลงสโลว์ เพราะเป็นเพลงทำคะแนน
ลงเจ้าหล่อนซบ แล้วเราไซ้ละก็ เป็นใช้ได้

ใกล้จะตีสาม ผมก็ชวนกลับ เจ้าหล่อนทั้งสองกำลังมึน ๆ ได้ที่ ชักคุยสนุกขึ้นทุกที

“ ยังไม่เลิกเลย จะรีบกลับไปทำไม ” เวโรนิคท้วง

“ ไปหาที่กินเหล้าต่อ ” ผมว่า “ ไอ้ที่ไม่ค่อยจะมีคน เงียบ ๆ หน่อย ”

“ ที่บ้านฉันมีเหล้า และของกิน ” เวโรนิคแนะ “ ไป ไปบ้านฉันก็ดี มีใครยุ่ง ”

ผมไม่นึกว่า เรื่องมันจะเป็นไปได้ยังงั้น ความตั้งใจก็ว่า จะพาไปหาโรงแรมเงียบ ๆ มากกว่า ก่อนที่มันจะดึกเกินควร จะได้ปู๊ดปู๊ด ปองปอง กันให้รู้รส

“ ไปซี ถ้ายังงั้น ” ผมรีบพูด กลัวหล่อนจะเปลี่ยนใจ แล้วเรียกบ๋อยมาคิดเงิน

เราพากันออกมาจากที่นั่น โดยอาดอลฟ์ทำหน้าที่เป็นคนขับ ดูเขาเงียบ ๆ ไป เพราะไม่มีคู่

ทำไงได้ มีผู้หญิงเพียงสองคน แล้วเขาก็เป็นเพียงคนขับรถ

ผมไม่รู้ว่า ถนนที่แม่เวโรนิคมีนิวาสถานอยู่นั้น ชื่อว่าถนนอะไร เพราะตอนนั้นยังใหม่กับเจนีวามาก แต่อาดอลฟ์นั้นเขาชำนาญอยู่แล้ว พอแม่เวโรนิคบอกชื่อถนนและเลขบ้านให้ ก็พาไปถูกต้อง

ที่หล่อนเรียกว่าบ้านนั้น มันเป็นแฟลตห้าชั้น และหล่อนอยู่ชั้นที่ห้า
เราทั้งห้าคนขึ้นลิฟท์โดยเวโรนิคเป็นผู้นำ

ห้องชุดที่หล่อนอยู่ เป็นขนาดสามห้อง ไม่รวมห้องน้ำ คือมีห้องนอนหนึ่งห้อง ห้องรับแขกหนึ่งห้อง และห้องครัวเล็ก ๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งตู้เย็นขนาดย่อม ๆ ด้วย พร้อมทั้งเครื่องครัว

เครื่องเรือนและเฟอร์นิเจอร์อยู่ในขนาดแค่ค่าเช่าปานกลาง

หล่อนเชิญทุกคนนั่งในห้องรับแขก แล้วก็ไปหาเครื่องดื่มมาเลี้ยง มีวิสกี้และยีน อาดอลฟ์ถือวิสาสะไปเปิดตู้เย็น หยิบเอาของกินในนั้นออกมา ยังกับเป็นเจ้าของบ้าน เขาคงมึนได้ขนาดเหมือนกัน ชักจะทำอะไรตามสบาย

ผมต้องเดินออกไปห้าม ไม่ให้ยุ่งยากนัก

เวโรนิคเดินตามผมออกมา พูดว่า “ ไม่เป็นไรหรอก มีอะไรก็เอาออกมากินกัน ”

แล้วหล่อนก็หันไปที่ประตู ซึ่งเป็นประตูห้องนอน ยู่ใกล้ ๆ กับที่วางตู้เย็นนั้น ผมนึกว่าหล่อนจะเปิดประตูเข้าไป จึงหันตามไป

หล่อนไม่ตั้งใจจะเปิด แต่ผมเปิดเสียก่อนหล่อนด้วยความใจร้อน
พอประตูเปิดผลัวะออก

ท่ามกลางแสงไฟสว่างจ้า ผู้หญิงสาวคนหนึ่งผวาลึกขึ้นจากเตียง ร่างของหล่อนเปลือยเปล่าขาวโพลน หล่อนคงไม่ทันนึกว่า เวโรนิคจะมีแขก หล่อนจึงหันมาทางประตู

ท่อนบนของหล่อนหันมารับกับแสงไปเต็มที่ เครื่องประดับของหล่อนส่วนนั้น มันเป็นเครื่องประดับของสาววัยรุ่น ตึงเต่งอย่าบอกใคร ผมกลืนน้ำลายลงคอดังเอื๊อกใหญ่

พอเห็นว่า เวโรนิคไม่ได้อยู่คนเดียว หล่อนก็พลิกตัวกลับ คว้าเอาผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว แล้วก้มหน้าซุกหมอน ไม่ยอมลุกขึ้นมา

เวโรนิครีบกระชากประตูปิด

ผมได้ยินเสียงอาดอลฟ์ครางอะไรอยู่ในลำคอ เพราะเขาเห็นภาพนั้นเหมือนกัน เขาคงจะคิดว่า ผู้หญิงคนที่สามนี้น่าจะเป็นของเขา

ก็คงจะเพราะความคิดอันนี้เองที่ทำให้เกิดเรื่อง



Create Date : 24 กรกฎาคม 2553
Last Update : 24 กรกฎาคม 2553 5:16:04 น. 1 comments
Counter : 819 Pageviews.

 


โดย: ก้นกะลา วันที่: 24 กรกฎาคม 2553 เวลา:23:50:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.