จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
15 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
ทางเสือผ่าน (บทที่ 1 ตอนที่ 4)

ทางเสือผ่าน
บทที่ 1 ตอนที่ 4

ทวน ทองรุ่ง เอนกายลงนอนหงายกับพื้นเรือนด้วยความเหนื่อยอ่อน เขาลืมตาขึ้นเมื่อได้ยินเสียงกุกกักดังอยู่ข้าง ๆ ตัว พลิกหน้าไปมอง หญิงสาวคนเก่าที่ถูกกำนันดึงตัวกลับขณะที่จะเอาน้ำไปให้เขา เข้ามาคุกเข่าอยู่ข้าง ๆ หล่อนวางกะลาใส่น้ำไว้ครึ่งหนึ่งลงข้าง ๆ เขา แล้วนั่งคุกเข่ามองดูด้วยสายตาอันเปี่ยมไปด้วยความเวทนาสงสาร

ทวนยันกายขึ้น คว้ากะลาใบนั้นขึ้นมาดื่มน้ำอย่างกระหายรวดเดียวหมด วางกะลานั้นลงแล้วใช้มือปาดริมฝีปาก เขามองดูหน้าหญิงสาวคนนั้นอย่างขอบคุณ พึมพำออกมาด้วยเสียงแหบ ๆ

“ ขอบใจมาก ”

“ หิวข้าวไหมพี่ ” เสียงผู้หญิงคนนั้นถามขึ้นอีก

ทวนรีบพยักหน้า

ผู้หญิงคนนั้นผละออกไป คว้าเอากะลาเปล่าติดมือไปด้วย ทวนนั่งมองตามไป เขาเห็นหล่อนตรงไปที่มุมชานเรือนอีกด้านหนึ่งซึ่งมีเครื่องครัว ๒-๓ ชิ้นวางอยู่ หญิงสาวทรุดกายลงหยิบโน่นหยิบนี่สักพักหนึ่งก็เดินกลับตรงมาที่เขา ในมือของหล่อนถือชามข้างเก่า ๆ ใบหนึ่ง และอีกข้างหนึ่งถือกะลาใบเก่า เอามาวางตรงหน้าทวน ในชามใบนั้นมีข้าวพูนจานและเนื้อเค็ม ๒-๓ ชิ้น หล่อนพูดว่า

“ ตามมีตามเกิดนะพี่ ”

ทวนไม่ได้ตอบอะไร เขาคว้าชามข้างดึงเข้ามาใกล้ตัว ลงมือเปิบข้าวในชามนั้นด้วยมือข้างที่เป็นอิสระ ใส่เข้าปาดคำแล้วคำเล่าติดต่อกันไป

“ อีพลอย ” เสียงหนึ่งตวาดมาแต่ไกล และมีเสียงฝีเท้าวิ่งปัง ๆ เข้ามา

กำนันคู่ปรับของเขานั่นเอง เท้าข้างหนึ่งของกำนันเหวี่ยงป่ายไปที่ชามข้าวที่ทวนกำลังเปิบอยู่ มันลอยกระเด็นตกลงไปจากเรือน

“ กูบอกมึงแล้วว่า อย่ายุ่งกับมัน อีพลอย ” เท้าอีกข้างหนึ่งวาดกะลาใส่น้ำกระเด็นไป อีกมือของกำนันจิกผมของพลอยกระชากขึ้น มืออีกข้างหนึ่งเงื้อทำท่าจะฟาดลงไปบนใบหน้าของหญิงสาว

ทวนใช้มือข้างที่เปิบข้าวกระชากขาของกำนันเต็มแรง จนแกเสียหลักล้มลง มือหลุดออกจากศีรษะของพลอย เขาใช้ส้นเท้ากระแทกลงไปเต็มแรงที่ใบหน้าของกำนัน เกี่ยวดึงกลับมาด้วยปลายเท้าที่ต้นคอ ร่างของกำนันถลาเข้ามาใกล้ ทวนคว้าหมับเข้าที่คอหอยของแก ลากตัวเข้ามาหนีบไว้ด้วยข้อพับหัวเข่า เขาออกแรงทั้งหมดกดลงไป ... กดลงไป มือทั้งสองข้างของกำนันพยายามที่จะแหวกวงหนีบของมือและเข่า แต่เมื่อแรงหนีบของทวนหนักขึ้น นัยน์ตาของแกก็เหลือกปลิ้น มือทั้งสองข้างไขว่คว้าอากาศ

เสียงฝีเท้าวิ่งมาตามชานเรือนหนัก ๆ พายท้ายปืนของตำรวจคนหนึ่งเหวี่ยงมาที่กระโดงคางของทวนเต็มแรง เขาผงะหงายหลัง มือหลุดออกจากลำคอของกำนัน

เมื่อเป็นอิสระ กำนันก็รีบเผ่นออกห่าง ลุกขึ้นยืนสลัดปืนพกออกจากเอว เสียงปืนในมือของกำนันแผดขึ้นดังปัง แต่ไม่ก่อนที่นายตำรวจหนุ่มจะได้จับข้อมือแหงนขึ้นสู่ฟ้า เขาบิดมือจนปืนในมือของกำนันตกลงกับพื้น ผลักกำนันเซไปข้างหนึ่ง ใช้เท้าเขี่ยปืนไปทางพลตำรวจของเขาซึ่งก้มลงเก็บไว้

ผู้บังคับกองหนุ่มเดินมาที่ร่างของทวน

“ แผลงฤทธิ์เรื่องอะไรอีกล่ะ ”

ทวนไม่ตอบ เขาจ้องมองตากำนันเขม็ง

ผู้กองหันไปดูพลอยซึ่งยังคงคุกเข่าตัวลีบอยู่ในบริเวณนั้น และรอย กระจายของข้าว น้ำในกะลาที่เปรอะไปทั่ว เขาหันกลับไปมองกำนันแวบหนึ่ง แล้วหันไปทางพลอย ชี้มือไปที่รอยข้าวและน้ำ พูดว่า

“ ใครทำอะไรเปรอะเปื้อนนี่ ... พลอย ”

พลอยหันไปมองดูกำนัน หลบสายตาก้มหน้านิ่งอยู่

นายตำรวจหนุ่มหัวเราะหึ ๆ

“ พลอยมีอะไรเหลือกินอีกบ้างไหม ”

พลอยพยักหน้าโดยไม่พูด

“ ไปเอามาให้ใหม่ ”

พลอยรับวิ่งลงเรือนไปเก็บชามข้าวและกะลาที่กลิ้งอยู่บนพื้น กลับไปที่ชานเรือนซึ่งเป็นที่วางเครื่องครัว

ผู้กองหันไปทางกำนัน พูดว่า

“ ผมเห็นว่า กำนันไม่ควรพกปืนอีกในขณะที่อยู่ที่นี่ และอย่าเข้ามายุ่งกับผู้ต้องหาคนนี้อีกต่อไป ” เขาหัวเราะอีก “ กำนันต้องอยู่กับผมต่อไปนี้ เรามีเรื่องที่จะปรึกษากันอีกมาก ผมคิดว่า เราจะต้องมีงานทำร่วมกันอีกมากทีเดียว ไปเถอะกำนัน ” เขาจับข้อมือกำนันพาเดินออกไป

ทวน ทองรุ่ง รู้สึกตัวตื่นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้เอนกายหลับไปเพราะความอิ่มจากอาหารที่ได้มาจากความอารีของหญิงสาวที่ชื่อพลอย เขารู้สึกตัวด้วยความสดชื่นที่ดีกว่าเก่า ความอ่อนเปลี้ยค่อยหายไป แต่ความบอบช้ำยังมีริ้วรอยทิ้งความเมื่อยขบไว้ทั่วสรรพางค์กาย เขาลุกขึ้นนั่งชันเข่า เอนหลังพิงกับระเบียงเรือนที่เขาถูกพันธนาการอยู่ ขณะนั้นเป็นเวลาโพล้เพล้ พระอาทิตย์จวนจะตกดิน ทอแสงอ่อนทาบอยู่กับท้องฟ้า

ทวนหันไปมองรอบ ๆ ตัว ริ้วรอยของการถูกย่ำยียังมีอยู่ทั่ว ๆ ไป รอยควันกรุ่น ๆ จากซากของบ้านเพียงไม่กี่หลังของหมู่บ้านนี้ยังมีอยู่เป็นแห่ง ๆ ซากศพที่ทวนเห็นเกลื่อนอยู่เมื่อตอนกลางวัน บัดนี้หายไปหมด ทวนเดาเอาว่า คงเป็นเพราะนายตำรวจหนุ่มคนนั้นจัดการขนไปฝั่ง หรือไม่ก็ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้หายอุจาดนัยน์ตา เขาคงหลับไปนานโขอยู่ด้วยความอ่อนเพลีย ตำรวจยามนั่งพิงเสาเรือน ปืนพาดหนตักเฝ้าเขาอยู่ห่าง ๆ หันกลับมามองเขาแวบหนึ่ง แล้วก็ก้มลงทำธุระกับกล่องยาและใบจาก มวนยาของเขาต่อไป

ทวนหันกลับไปมองทางด้านมุมเรือนอีกด้านหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นที่เขาได้ยินเรียกกันว่าพลอย ยังคงนั่งอยู่ในกลุ่มชาวบ้าน ๖-๗ คนที่เหลืออยู่นั้น ทวนมองดูคนกลุ่มนั้นอย่างพินิจพิเคราะห์ เขาก็พบว่า คนหนึ่งเป็นชายชราอายุค่อนข้าง มาก อีก ๒-๓ คนเป็นคนหนุ่ม มีเด็กหนุ่มอายุราว ๑๓-๑๔ ปีอยู่คนหนึ่ง และมีผู้หญิงอยู่คนเดียวคือพลอย ซึ่งเขาเพิ่งจะคะเนอายุได้เดี๋ยวนี้เองว่าไม่เกิน ๒๐ ปี พลอยเงยหน้าขึ้นสบตาเขาพอดี ทวนพยักหน้า และกวักมือเรียกหล่อนให้เข้ามาพบ

พลอยทำท่าลังเลอยู่สักครู่ หันไปมองคนในกลุ่มที่กำลังมองหล่อนเป็นตาเดียวกัน ครั้นแล้วก็ลุกขึ้นเดินมาที่ทวน โดยมีเด็กหนุ่มอายุ ๑๓-๑๔ ปีคนนั้นตามมาด้วย

พลอยกับเด็กหนุ่มนั่งลงตรงหน้าทวน หล่อนพูดว่า “ เราไม่มีอะไรจะให้กินอีกแล้วนะ พี่ ”

“ พี่พลอย ” เด็กหนุ่มคนนั้นพูดขึ้น “ ของข้ายัง ...”

พลอยกระตุกแขนเด็กคนนั้นให้หยุดพูด

ทวนสั่นศีรษะ

“ ข้ายังอิ่มอยู่ ข้าไม่ต้องการอะไรหรอก เอ็งชื่อพลอยหรือ ”

“ จ้ะ ” พลอยหันไปทางเด็กหนุ่ม “ นี่ ไอ้โทน น้องข้า ”

ทวนพยักหน้าแล้วยิ้ม

“ ข้าชื่อทวน ”

“ ข้ารู้แล้ว ข้าได้ยินลุงกำนันพูดกับผู้กอง เขาว่า พี่ทวนเป็นลูกน้องเสือฝ้าย จริงหรือ ”

“ เอ็งเชื่อเขาไหมล่ะ ” ทวนขมวดคิ้ว

“ ข้าไม่รู้ ลุงกำนันเขาว่าอย่างนั้น พวกเสือฝ้ายนี่แหละที่มันเข้ามาปล้นหมู่บ้านของเราทั้งหมู่บ้าน ตอนเช้ามืดนี้ ”

“ พวกเสือฝ้ายงั้นเรอะ ” ทวนพูด กรามขบเป็นสัน

“ พี่ทวนใช่พวกเสือฝ้ายหรือเปล่าล่ะ ” เด็กหนุ่มที่ชื่อโทนถามขึ้น

“ ไม่ใช่เรื่องที่เอ็งสองคนจะต้องรู้ ” ทวนพูดห้วน ๆ ด้วยน้ำเสียงดุ ๆ คนทั้งสองชะงัก

พลอยมองดูทวนอย่างหวาด ๆ ขณะที่เขาเอ่ยขึ้นอีกว่า

“ ข้าเรียกเอ็งมาเพื่อจะขอบใจในน้ำใจเมตตาของเอ็ง ไม่ใช่ให้เอ็งมาซักถามเรื่องที่ข้าไม่อยากจะพูด ” เขาหยุดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้นด้วยเสียงแผ่ว ๆ ว่า “ เออ ... ผู้กองคนนี้ แกชื่ออะไร เอ็งรู้ไหม ”

“ แกชื่อ เผชิญ ... เป็นนายร้อยเอก สามดาว มาจากกรุงเทพ ฯ ”

“ มาทำไม จากกรุงเทพ ฯ ”

“ พวกกองปราบ เขามาปราบเสือฝ้าย ข้าได้ยินเขาว่า เขามาตั้งกองกันอยู่ที่เดิมบางตั้งแยะ ”

“ ทำไมมากันเพียง ๗-๘ คนเท่านั้น ”

“ พวกนี้เขาแยกมาจากกองใหญ่ ลงเรือจากงิ้วรายมาขึ้นที่บางปลาม้า แล้วก็เดินมา เขาว่าเขาได้ยินเสียงปืน และเห็นแสงไฟโหมจับท้องฟ้าตอนรุ่งสาง เขาก็มุ่งมาที่นี่ กว่าจะหาทางมาได้ถูกก็ร่วมสาย บ้านข้าเรียบหมดแล้ว ”

ทวนส่ายหน้าอย่างปลง

“ แล้วพวกเอ็งเหลืออยู่ได้ยังไง ”

“ ก็หนีกันกระเจิงไปเวลามันเข้าปล้น พ่อแม่ข้าตายหมดเพราะสู้โจร พวกที่เหลือนี่ก็เพราะหนีทัน พวกที่สู้มันเอาตายหมด ” พลอยพูดเสียงสะอื้น “ ที่มีของกินอยู่ได้นี่ก็เหลือจากที่มันเก็บกวาดเอาไป ”

ทวนถอนหายใจ

“ แล้วพวกเอ็งจะทำยังไงกันต่อไป ”

“ เมื่อเช้า ก็คิดจะหนีกันไปอำเภอ ก็พอดีได้ยินเสียงปืนดังขึ้นอีก เลยมารวมกลุ่มกันบนนี้ นึกว่าโจรมันย้อนมา มันย้อนกลับมาก็ต้องตายกันหมด สักครู่จึงได้เห็นลุงกำนันแกลากพี่ถูลู่ถูกัง มาจากละเมาะชายหมู่บ้าน ถึงได้รู้ทีหลังว่า ลุงกำนันยิงสู้กับพวกพี่ เขามัดพี่ไว้กับเสาพังนั่น ประเดี๋ยวเดียวผู้กองแกก็มา เรายังไม่รู้ว่าจะทำยังไงกันเลยจ้ะพี่ ถ้าพี่เป็นพวกเสือฝ้าย ก็กรุณาพวกข้าด้วยเถิด ”

“ ข้าจะกรุณาเอ็งได้ยังไง ” ทวนพูดหัวเราะ เขย่ามือข้างที่ติดกุญแจอยู่

“ ข้าได้ยินเขาพูดกันว่า พี่เป็นลูกน้องคนสำคัญคนหนึ่งของเสือฝ้าย ”

ทวนหัวเราะหึ ๆ

“ ข้าก็กำลังจะตายอยู่เหมือนกัน กำนันเอาตัวข้าไปอำเภอเมื่อไร มันก็ต้องยิงข้าทิ้งกลางทาง ”

พลอยก้มหน้าครู่หนึ่ง แล้วกระเถิบเข้ามาใกล้ ๆ พูดเสียงกระซิบ

“ ข้าจะช่วยให้พี่หนี เอาไหม ”

ทวนชำเลืองตาไปที่ตำรวจยาม ซึ่งนั่งมองดูอยู่อย่างสงสัยแวบหนึ่ง แล้วหัวเราะ

“ เอ็งช่วยข้ามาพอแล้ว พลอย น้ำใจเอ็งผิดคนอื่น ปล่อยให้ข้าคิดช่วยตัวเองของข้าต่อไปดีกว่า ” เขาหยุดชะงักชั่วขณะ แล้วพูดต่อไปว่า “ เออ ... ตะกี้นี้เอ็งว่า พวกผู้กองเขามาขึ้นเรือที่บางปลาม้า แล้วเดินมาที่นี่งั้นเรอะ ”

พลอยพยักหน้า

ทวนก้มหน้า และส่ายหน้าช้า ๆ แล้วเงยหน้าขึ้น

“ เอ็งไปบอกผู้กองเขาว่า ให้รีบออกจากที่นี่เสียก่อนยามสอง ข้าได้กลิ่นอะไรไม่ค่อยดี ”

“ อะไรพี่ ”

“ เสือฝ้ายจะย้อนกลับมาเล่นงานพวกตำรวจ เพราะเส้นทางที่เขาเดินมานั้นผ่านสายตาของเสือทั้งนั้น และมันมักจะเล่นงานตอนค่อนรุ่ง ”

“ พี่รู้ได้ยังไง ”

ทวนมองตาพลอยนิ่งอยู่ จนพลอยต้องหลบสายตาอันกร้าวแข็งของเขา “ เอ็งไปบอกเขายังงั้นก็แล้วกัน ข้าจะนำทางออกไปเอง ”

“ พี่ ...”

“ ไปได้แล้ว พลอย ” ทวนพูดกร้าว ๆ

ทวนเอนร่างลงพิงลูกกรงเบื้องหลัง เขาหลับตาเมื่อพลอยถอยห่างออกไป




Create Date : 15 ตุลาคม 2552
Last Update : 15 ตุลาคม 2552 15:29:29 น. 0 comments
Counter : 730 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.